ตอนที่ 6 เจ้าของคาสิโน 1

2381 คำ
ตอนที่ 6 เจ้าของคาสิโน 1 “ฉลาดดีวะ คิดเอาตัวรอดด้วยวิธีตื้นๆ แบบนี้หรอวะ ใช่คนอย่างชั้นมีการศึกษาพอวะไม่ต้องให้คนอย่างเธอมาเสนอหน้าสั่งสอนบอกไว้เลยเอาตัวให้รอดก่อนเถอะวะ เอ้า! หลักฐาน” ปึก! ซองเอกสารสีน้ำตาลเข้มถูกขว้างมายังบนเตียงที่ฉันนั่งอยู่มือของฉันก็ค่อยๆ คว้าเอาเอกสารซองนั้นออกมา สิ่งที่อยู่ในมือมันยิ่งทำให้เบิกตากว้างมันเป็นรูปถ่ายของฉันในตอนที่อยู่บ้านของป้ามุกดาเพื่อไปช่วยแม่และตกลงทำเรื่องเข้ามาที่นี่เพื่อสืบความลับให้ป้ามุกดา “ยังมีอีกวะมันจะได้ชัดๆ ไงหลักฐาน” ผมตะเบงเสียงบอกเธอยังครั้งเพื่อว่าแค่รูปถ่ายมันยังไม่ชัดพอ พอได้ยิงแบบนั้นฉันจึงนำมือเข้าไปในซองอีกและก็คว้าสิ่งหนึ่งออกมาคราวนี้เป็นคลิปวิดีโอที่มีภาพเคลื่อนไหวพร้อมกับเสียงอย่างชัดเจน “นี่มัน...อะไรกันทะ ทำไมถึงมีหลักฐานแบบนี้ออกมา?” “อย่าบอกอีกนะว่าผู้หญิงคนนั้นมันไม่ใช่เธอทั้งๆ ที่มีภาพและเสียงชัดเจนขนาดนี้นี่คงเป็นหลักฐานพอใช่ไหมวะ?” “ฉะ ฉัน...” ฉันพูดตะกุกตะกักในเมื่อหลักฐานมันชัดเจนขนาดนั้นจะทำยังไงอีก “รู้ไหม? ว่าคนที่ถูกป้ามุกดาของเธอส่งมามันเป็นยังไง เอ้าดูซะ!” รูปถ่ายจำนวนหลายสิบใบถูกส่งมาไว้ที่เตียงนอนอีกครั้ง พอฉันเห็นภาพของคนเหล่านั้นมันยิ่งทำให้ฉันกลัวคนตรงหน้ามากขึ้น คนในรูปที่ถูกยิงตายจนเลือดอาบบ้างถูกซ้อมจนใบหน้าบวมซ้ำเลือดเต็มหน้าบ้างและยิ่งไปกว่านั้นอวัยวะทุกคนไม่ครบถูกเฉือนนิ้วหายไปบ้างแขนหายบ้างนี้เขาทำได้ขนาดนี้เลยหรอ เขาทำเหมือนคนที่อยู่ในภาพไม่ใช่มนุษย์เพื่อนร่วมโลกกับเขาผู้ชายคนนี้ทำได้อย่างไร! “ใจร้ายนายทำกับพวกเขาแบบนี้ได้ยังไง คนอย่างนายมันสารเลวเลวจนไม่มีคำบรรยายชีวิตพวกเขาที่ถูกพวกนายฆ่าอย่างทารุณแบบนี้เขาจะเป็นอย่างไรบ้างจะรู้สึกเจ็บปวดเจียนตายสักแค่ไหน แล้วคนที่อยู่ข้างหลังพวกเขาล่ะ ลูกเมีย พ่อแม่เขาจะเป็นอย่างไรบ้างไอ้ฆาตกร!” ฉันตะโกนเสียงด่าผู้ชายตรงหน้าจนสุดเสียงอย่างกับที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยในชีวิตคนอะไรฆ่าคนอื่นได้เหมือนตัวเองเป็นเจ้าชีวิตของเขาอย่างนั้นความโกรธมันเป็นแรงผลักดันชั้นดีที่ทำให้ตัวของฉันพูดออกไปแบบนั้น โดยที่ไม่ทันคิดถึงตัวเองว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ไม่มีใครหน้าไหนเคยด่าผมว่าไอ้ฆาตกรมาก่อนในชีวิต ผู้หญิงที่ชื่อพายคนนี้เป็นคนแรกในชีวิตที่บังอาจกล้ามาด่ารวมถึงมาสั่งสอนผม ไฟแห่งความโกรธกำลังเล่นงานผมด้วยคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของเธอผมอยากจะฆ่าเธอซะตอนนี้ให้ได้เลยผมจึงเดินเข้าไปประชิดกับเตียงนอน “ออกไปไอ้ฆาตกร!” ฉันเอ่ยปากออกอีกครั้งเมื่อเห็นนายเทลเดินเข้ามาหาตัวเองจนประชิดกับขอบเตียงด้วยสายตาที่เป็นสีนิลเข้มใบหน้าบ่งบอกว่าเขาโกรธมากแค่ไหนจากคำพูดของตัวฉันเองสายตาที่จ้องมองมาไม่เหมือนกับเมื่อกี้สักนิดเดียวเมื่อเห็นสถานการณ์ ไม่ค่อยดีกับตัวเองฉันจึงขยับตัวคลานไปอีกฟากหนึ่งของเตียงนอนเพื่อให้ห่างจากตัวของเขามากที่สุด หมับ! “โอ้ย!” ฉันตะโกนแหกปากร้องดังซะลั่นห้องเมื่อข้อเท้าของตัวเองถูกมือใหญ่จับไปแล้วออกแรงบิดเพื่อให้ฉันได้หันหน้ามาเผชิญกับเขาจากนั้นนายเทลก็ออกแรงกดลงไปที่ข้อเท้าแรงที่กดลงไปนั้นมันทำให้น้ำตาของฉันไหลออกมาทันทีมันเหมือนกับข้อเท้าถูกทุบด้วยของแข็งเจ็บเหมือนกระดูกจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว “โอ้ย! ปล่อยนะไอ้ฆาตกร ปล่อยๆ ไอ้บ้า!” ผมเข้าไปประชิดที่เตียงนอนและรอจังหวะที่ผู้หญิงคนนั้นจะขยับออกห่างจากตัวผมและโอกาสก็มาถึงเมื่อผมเห็นเธอกำลังจะคลานไปอีกฟากของเตียงเป็นจังหวะที่ดีผมจึงคว้าจับที่ข้อเท้าของเธอทันที “อยากเห็นการแสดงของไอ้ฆาตกรคนนี้ไหมล่ะ?” ผมถามขึ้นพร้อมกับกระตุกแรงไปที่ข้อเท้าจากนั้นร่างของผู้หญิงที่ชื่อว่าพายก็ถูกลากเข้ามาใกล้ตัวของผมทันทีจากนั้นก็ปล่อยข้อเท้าพร้อมกับถือโอกาสค่อมร่างเล็กทันทีและใช้มือทั้งสองข้างของตัวเองพันธนาการจับข้อมือเล็กๆทันที ฉันตกใจมากเมื่อตอนนี้สภาพของตัวเองครึ่งตัวบนนอนอยู่บนเตียงส่วนตั้งแต่ขาไปห้อยอยู่ที่เตียง ปลายเท้าก็ได้สัมผัสกับพื้นที่เย็นเฉียบส่วนนายเทลนั้นก็ยืนและโน้มตัวลงคร่อมฉันอยู่พร้อมกับจัดการล็อคขาทั้งสองทั้งด้วยขาที่แข็งแกร่งของเขา ล็อคมือของฉันไว้ด้วยมือของเขาเหมือนกันสรุปตอนนี้ฉันเสียเปรียบมากๆ “จะทำอะไรปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” ฉันตะโกนใส่หน้าของผู้ชายที่ค่อมตัวอยู่ ใกล้ๆ กับใบหน้าของตัวเองในระยะไม่เกินห้านิ้ว “ถุย! อย่าทำเป็นมาสั่งคนอย่างชั้นเพราะเธอไม่มีสิทธิ ชั้นก็อยากให้เธอได้เห็นหน้าไอ้คนที่เธอว่าเป็นฆาตกรแบบชัดๆ ไงและก็อยากให้เธอเห็นการแสดงของไอ้ฆาตกรคนนี้แบบชัดๆ ด้วย” ผมพูดขึ้นมาหลังจากที่เธอสั่งให้ผมปล่อย เธอคงสำคัญตัวผิดไปแล้วที่มาสั่งคนอย่างผมเธอคิดผิดด้วยเพราะคนอย่างผมมันไม่ฟังคำสั่งจากใครจากนั้นผมก็หันหน้าไปทางประตูเข้ามาในห้องนี้แล้วก็สั่ง "เข้ามาได้” นายเทลลุกขึ้นจากการคร่อมตัวของฉันก่อนที่จะกระชากแขนของฉันลุกขึ้นตามเขาด้วยแรงจากการกระชากทำให้ทั้งตัวของฉันโผตัวเข้าไปชนกับแผงอกแกร่งที่ใหญ่เข้าอย่างจังทำให้หัวของฉันแนบชิดกับหน้าอกของเขาจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นประกอบกับการได้กลิ่นหอมของน้ำหอมอ่อนๆ ผสมกับกลิ่นกายของนายเทลโชยมาปะทะกับจมูกเป็นระลอบๆ มันยิ่งทำให้ตัวของฉันยิ่งรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก “มาแล้วครับเฮีย” เมื่อได้ยินเสียงคนกำลังลากอะไรบ้างอย่างเข้ามาในห้อง ฉันจึงรีบผลักตัวเองออกจากแผงอกนั่นทันทีแต่เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้มันก็ทำให้ตัวเองเบิกสายตาให้กว้างออกพร้อมกับการกระพริบตาถี่ๆ เพื่อความแน่ใจในสายตาของตัวเอง สิ่งที่ตัวเองเห็นนั้นก็คือมีชายสองคนรูปร่างดี ผิวพรรณดี ขาวผ่องลากผู้ชายที่มีลักษณะผิวสีแทนออกคล้ำมาสองคนเหมือนกันแบ่งกันคนละคนชายที่มีผิวสีแทนคล้ำทั้งสองคนนั้นต่างมีรอยซ้ำตามร่างกายทุกแห่งทั้งปากแก้มโหนกแก้มแขนขา เสื้อผ้าฉีกขาดนอกจากนั้นยังไม่พอยังมีรอยเท้าปะปนอยู่เต็มไปหมดทั้งเสื้อผ้า กางเกง “ดูซะให้เต็มสองตา ไอ้สวะสองคนนี้มันเป็นลูกน้องของป้าตัวดีของเธอที่เข้ามาเสือกในถิ่นของชั้น ครั้งล่าสุดก่อนหน้าเธอไม่กี่วันเองพวกมันยังมีชีวิตอยู่อีกวันนี้วันสุดท้าย!” ผมพูดขึ้นด้วยแรงโทสะก่อนจะชี้ไปที่ไอ้สวะพวกนั้นที่พวกมันเป็นแบบนั้นเพราะถูกลูกน้องผมเค้นเอาความจริงและซ้อมพวกมันจนเป็นแบบที่เห็นแต่มันยังน้อยเกินไปสำหรับคนอย่างผม ผมไม่เคยมีความปรานีให้กับใครหน้าไหนทั้งนั้นมีแต่จะหยิบยื่นด้วยการสงเคราะห์ให้ไปเกิดใหม่เท่านั้น “นี่นะ นายจะทำอะไรซ้อมเขายังไม่พองั้นหรอดูสภาพตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีทางต่อสู้พวกนายได้แล้วนะนายยังจะทำอะไรอีก!” ฉันมองดูพวกนั้นที่โดนซ้อมจนไม่มีชิ้นดีด้วยความสงสารเหลือเกินแต่ก็ไม่มาสารถช่วยอะไรพวกเขาได้เลยเพราะขนาดตัวฉันเองก็อาจจะโดนเหมือนพวกนั้นเหมือนกันเพราะฉะนั้นซะตากรรมของพวกเราก็คงไม่ต่างกันหรอก! “สงสารพวกนั้นหรอวะ ชั้นจะทำให้เธอได้รู้และจำไปจนตายว่าฆาตกรเขาทำกันอย่างไร!” กริ๊ก! หลังจากที่นายเทลพูดเสร็จเขาก็ใช้มือหนึ่งไปที่ตรงเอวของตัวเองก่อนที่เอาออกมาและมีอีกอย่างที่อยู่ในมือติดมาด้วยนั้นก็คือปืน เขายกขึ้นและเล็งทิศทางไปทางด้านผู้ชายสองคนที่มีผิวแทนออกคล้ำที่ถูกลูกน้องตัวเองจับอยู่ “พวกเขาทำผิดอะไรนักหนาหะทำไมนายต้องทำถึงขั้นต้องฆ่าต้องแกงกันเลยคนพวกนั้นเขาก็รักชีวิตตัวเองเหมือนกันนะ” “ทำผิดอะไรใช่ไหม? พวกมันทำผิดก็คือเอาความลับของทางคาสิโนชั้นไปบอกป้าแกกับผัวเด็กของมันไงล่ะ ทำให้พวกนั้นชิงตัดหน้าแย่งลูกค้าชั้นดีนะที่ลูกค้าเขามีหัวสมองพอที่จะไม่เชื่อหลงกลคำพูดของพวกมันถ้าไม่อย่างนั้นชั้นจะต้องสูญเสียไปอีกกี่ร้อยล้านบาทเนี้ยแหละความผิดของพวกมันและโทษก็มีสถานเดียวคือ..ตายเท่านั้นจุดจบของคนที่เห็นแก่เงินเพียงอย่างเดียวอยากได้เงินมากจนไม่สนใจในการกระทำของตัวเองว่าจะเดือดร้อนมากแค่ไหนเป็นอย่างไรก็ไม่สนใจและเธอก็คงเป็นเช่นนั้นพาย!” “อย่านะ! ฉะ ฉันขอโทษ ขอโทษที่ว่านายแบบนั้นขอโทษจริงๆอย่ายิงพวกนั้นเลยนะอย่ายิงนะ ” ฉันเข้าไปคว้าแขนใหญ่ของนายเทลที่ใช้ปืนเล็งชายพวกนั้นให้ลงมาแต่นายเทลกับใช้แขนอีกด้านหนึ่งกระชากมือฉันออกและบีบจนมันกลายเป็นสีแดงเถือก แรงบีบทำให้เจ็บปวดยิ่งนักและด้วยอาการพึ่งฟื้นจากยานอนหลับอาการก็เลยมึนๆ งงๆ ไม่ค่อยเต็มร้อนเท่าไรนักจะไปมีแรงสู้กับเขาได้ยังไง “ขอร้องเดี๋ยวไอ้ฆาตกรคนนี้จัดให้ครับ!” ปัง! ปัง! กรี๊ดดดดดดดด! ฉันหลับตาลงทันทีพร้อมกับหมุนตัวหันหลังเอาฝ่ามือทั้งสองปิดหูไว้แน่แล้วนั่งลงให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ข้างหลังตัวเอง เสียงปืนดังลั่นแล้วแน่หรอว่าชายทั้งสองคนนั้นจะไม่ตายเมื่อนายเทลยิงในระยะประชิดแบบใกล้ตัวขนาดนี้เกิดความเงียบขึ้นอย่างชัดเจน นี่คำขอร้องขอฉันมันไม่มีความหมายแต่มันเป็นดั่งเช่นสายลมที่พัดผ่านเข้าไปในหูของเขาแล้วก็ออกมาเท่านั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะสามารถปรับเปลี่ยนหัวใจของชายตรงหน้าได้เลย “มาดูสิว่า ผลงานของไอ้ฆาตกรที่เธอว่ามันเป็นยังไงลุกขึ้น!” ผมกระชากร่างของพายให้ยืนขึ้นแล้วหันตัวเองให้ดูภาพข้างหน้าที่เกิดขึ้นแต่เธอก็เอาแต่ปิดหูและหลับตาปี๋ไม่ยอมทำตามที่พูด “ลืมตาขึ้นเดี๋ยวนี้พายชั้นบอกให้ลืมตา!” ผมตะโกนใส่ร่างเล็กที่ตอนนี้เอาแต่ยืนแข็งเป็นค่อนไม้ “ไม่ลืม ชั้นไม่อยากเห็นหน้าไอ้ฆาตกรคนอย่างนายมันน่าจะไม่ต้องได้ผุดได้เกิด ถ้าเกิดขึ้นมาก็มีแต่คอยที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นไม่เว้นสายตาให้ฉันดูตัวเงินตัวทองยังดีกว่านายเสียด้วยซ้ำไอ้นรก!” ฉันตะคอกเสียงกลับใส่คนที่ยืนตรงหน้าด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กันอารมณ์ตอนนี้มันครุกกรุ่นยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิดเสียอีก “ปากดีนิไม่คิดว่าคนที่เงียบอย่างเธอจะด่าคนเป็นด่าได้แบบนี้ งั้นก็ลืมตามาดูผลงานไอ้นรกคนนี้สิชั้นบอกให้ลืมตา!” ผมเข้าไปกระชากตัวของพายแล้วก็ใช้มือหนาบีบที่ไหล่ของเธอทั้งสองข้างก่อนจะเริ่มเขย่าๆ ด้วยระดับที่รุนแรงเพิ่มขึ้นทีละน้อยๆ จนกระทั่งเห็นคนที่โดนการกระทำค่อยๆ เอามือลงจากการปิดหูและลืมตาขึ้นทีละนิดๆ ฉันทนต่อการกระทำอันป่าเถื่อนไม่ไหวเพราะร่างกายตอนนี้เวียนหัวไปหมดราวกับจะอาเจียนออกมา เมื่อลืมตาขึ้นก็ปะทะกับสายตาสีนิลอันคมเข้มเขายิ้มเยาะด้วยความสะใจที่เห็นฉันมีอาการยืนไม่ค่อยตรงและไม่อยู่กับที่ “นึกว่าตายไปล่ะวะ ยังไม่ได้ทรมานเลยเชิญดูผลงาน!” เมื่อฉันปรับโฟกัสสายตาและมองไปยังด้านหน้าประตูห้องก็พบกับร่างของชายสองคนนั้นที่ถูกจับมาถูกยิงตรงหัวใจด้านซ้ายทั้งสองคน เลือดในกายต่างไหลออกมาเลอะเปอะเปื้อนจนกลิ่นคาวคลุ้งเต็มห้องเท้าของฉันจึงวิ่งไปยังตรงร่างของทั้งสองทันทีก่อนที่จะเขย่าๆ ตัวของพวกนั้นแรงๆ “นิ ตื่นสิๆ ตื่นๆ” เขย่ากี่ทีก็ไม่มีการเคลื่อนไหวหรือสะทกสะท้านอะไรเลยแม้แต่คนเดียว “ฉันบอกให้ตื่นไง!” “เขย่าทั้งปีก็ไม่ตื่นหรอกวะพวกมันไปเฝ้ายมบาลหมดแล้ว” ตาย? พวกนั้นตายแล้วงั้นหรอ!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม