ตอนที่ 5 เจ้าของคาสิโน

2121 คำ
ตอนที่ 5 เจ้าของคาสิโน ร่างผู้ทรงอำนาจออกมาจากที่ซ่อนตัวหลังจากที่พายหลับไปแล้วเพียงเพราะฤทธิ์ของยานอนหลับที่อยู่ในแก้วน้ำนั่น คนที่สั่งก็คือเขานั่นเอง เทลหนึ่งในกลุ่ม MISCREANT ผู้ชายที่รูปร่างสูงขาว ใบหน้าเรียวยาวเหมาะกับผมสีดำ เขามีรอยสักอยู่ที่หน้าอกข้างขวาเลยยาวไปจรดที่ต้นแขนขวาเพราะวันนี้สวมเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงยีนขาดๆ สีขาวจึงเผยให้เห็นได้ชัดเจนประกอบกับการสวมแว่นตาสีดำจึงสามารถดึงดูดคนรอบๆ กายให้หันมามองได้แบบไม่ต้องทำอะไรเลย “ทำได้ดีมากลุง อ้าวนี่ค่าเหนื่อย” “ขอบคุณครับคุณเทล” ธนบัตรปึกใหญ่ถูกส่งให้ลุงคนหนึ่งทันทีเมื่อแผนการที่วางไว้ถูกดำเนินการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใช่เหตุการณ์ทั้งหมดมันเป็นแผนของผมเอง มันไม่น่าสงสารสักนิดเมื่อเธอเลือกที่จะเดินมาทางนี้แล้วเลือกมาเสือกเองเธอคิดได้ง่ายมากคิดได้ยังไงว่าผมจะรับคนงานเข้าทำงานที่นี่แบบสุ่มๆ หรอ คนที่จะเข้ามาทำงานที่นี่ได้ต้องผ่านการตรวจตราจากไอ้เวฟส่วนคนที่รับเป็นลูกน้องจะต้องผ่านการฝึกการต่อสู้จากไอ้พีญถึงจะผ่านเข้าทำงานได้ คนงานผู้หญิงทุกๆ คนต้องพูดได้หลายภาษาทุกๆ คนจะมีประวัติส่งมาให้ผมเป็นคนดูและอ่านผ่านก่อนถึงจะเป็นพนักงานของที่นี่ได้ผู้ชายคนนั้นที่ผมจ้างมาแน่นอนว่าไม่ใช่พนักงานของที่นี่ก็แค่คนเดินเรือแถวๆ นี่ที่อยากได้เงินก้อนแบบด่วนๆ เท่านั้นเอง คาสิโนของผมไม่ใช่จะเป็นที่สวนสาธารณะให้ใครๆ ได้เข้าออกตามใจวะมีลูกน้องดูแลตรวจตราอยู่ทุกจุดและก็มีกล้องวงจรปิดทุกๆ ตำแหน่งสามารถดูเหตุการณ์ภายในได้ถ้าอยากดูและอยากเห็น ส่วนมากไอ้เวฟจะเป็นคนจัดการทั้งหมดสำหรับคนที่ก่อเรื่องในคาสิโน คนที่จะมาเจอผมได้ก็คือคนที่ไอ้พวกนั้นเอาไม่อยู่เท่านั้นซึ่งมันไม่ค่อยมีนอกจากสองผัวเมียคู่นั้น! อีกอย่างจะไม่มีการปล่อยกู้ใดๆ ทั้งสิ้นสำหรับคนที่แพ้หมดก็คือหมดเตรียมเงินมาน้อยเองและก็ไม่มีบริการส่งถึงที่ด้วยต้องเหลือเงินกลับบ้านเองด้วยนะครับ “ไปได้แล้วลุง” เสียงของมือซ้ายของเทลดังขึ้นเพราะสั่งลุงคนนั้นให้ออกไปทันทีหลังจากได้รับเงินค่าจ้างแล้ว “จัดการยังไงต่อดีครับเฮียเทล?” เสียงของไอ้เวฟลูกน้องคู่ใจมือซ้ายของผมถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้นอนหลับอยู่บนเก้าอี้อย่างไม่รู้สึกตัวทำไมมันง่ายแบบนี้วะเหมือนปอกกล้วยเข้าปากจริงๆ “แกไปรอเฮียที่ห้องใต้ดินเดี๋ยวที่นี่เฮียจัดการเอง” “ครับเฮีย” หลังจากที่ไอ้เวฟออกจากที่นี่แล้วพร้อมกับกระเป๋าของผู้หญิงคนนี้ ผมก็ก้มดูร่างที่นอนไร้สติตรงเก้าอี้ ยอมรับเธอเป็นคนสวยคนหนึ่งใบหน้าขาวเรียวเล็กๆ ปากนิดจมูกหน่อยมันช่างรับกับแก้มสีชมพูระเรื่อและริมฝีปากสีเชอรี่สุกเสียจริงๆ ร่างบางนอนหลับแบบไม่รู้สึกตัวเมื่อผมอุ้มเธอขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดตัวช่างเบาหวิวเหมือนกับเด็กๆ ทั้งที่มีอายุถึงยี่สิบสองแล้วผมอุ้มเธอแล้วพามุ่งหน้าไปยังห้องใต้ดินทันทีเพราะมันเป็นที่ลงโทษสำหรับคนเสือกอย่างเธอพาย แค่ก ๆ แค่กๆ ฉันสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาแบบมึนๆ งงๆ ก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้นและก็โฟกัสสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวก็พบว่าตัวเองอยู่บนเตียงใหญ่ที่แสนโทรมผุพังเพราะคงใช้จนมันหมดสภาพแล้วเมื่อมองไปรอบๆ ก็เจอกับสภาพห้องเก่าๆ ที่แสนรกมีทั้งฝุ่นหนาทึบและใยแมงมุมอยู่ทั่วเพดานห้องรวมสภาพแล้วเหมือนห้องร้างในบ้านผีสิงไม่มีผิด นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี้ยเพราะก่อนหน้าที่จะมาอยู่ที่นี่ฉันยังนั่งรอลุงคนหนึ่งเพื่อที่จะสมัครงานอยู่นี่นาแล้วจากนั้นก็ดื่มน้ำนั้นไปจนเกือบหมดแก้ว “หรือว่าในน้ำนั่นมี...” “ในน้ำมียานอนหลับไง” มีเสียงของผู้ชายดังขึ้นมาแทรกก่อนที่ฉันจะพูดให้จบประโยคเขาเป็นชายวันรุ่นที่มีรูปร่างสูงใหญ่ใส่เสื้อกล้ามสีดำและใส่กางเกงยีนขาดๆ สีขาวพร้อมกับสวมแว่นตาดำค่อยๆ เดินเข้ามาทีละนิดๆ จนมาหยุดที่ปลายเตียงแล้วจากนั้นก็ถอดแว่นออกเผยให้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจนพูดได้คำเดียวว่าหล่อ หล่อมาก ใบหน้าที่เรียวยาวจมูกที่แสนโด่งสื่อถึงความดื้อรั้นบวกกับความขาวออร่าแบบทั้งตัวและทรงผมสีดำที่ตัดรับเข้ากับใบหน้า “นะ นายเป็นใคร จับฉันมาที่นี่ทำไม?” คำถามอยู่ในหัวของฉันเมื่อตะกี้แต่ตอนนี้ปากมันโผล่พูดขึ้นออกไปแล้ว เขาเป็นใครจับฉันมาทำไมจับมาเพื่ออะไรทั้งๆ ที่ฉันมั่นใจได้เลยว่าไม่เคยรู้จักกับเขาเลยทั้งหน้าตาก็ไม่เคยเจอกันมาก่อนด้วย “ยังมีหน้ามาถามอีกเธอมาที่นี่ทำไมใครสั่ง?” ประโยดที่เขาพูดกลับมานั่นมันแทบทำให้ฉันเบี่ยงหลบจากสายตาที่เขามองมาทันที นี่อย่าบอกนะว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดแล้วเป็นไปไม่ได้ เป็นไม่ได้อย่างยิ่งเลยแหละที่ตัวเขาจะรู้เรื่องราวได้รวดเร็วขนาดนี้ เหอะ! เมื่อผู้หญิงคนนั้นฟื้นก็เห็นผมแล้วตั้งคำถามยิงมาเพื่อให้ผมตอบสะยกใหญ่จะลองดูหน่อยสิว่าถ้าผมเล่นสงครามประสาทกับเธอสักตั้งโดยการถามกลับไปบ้าง เธอจะยังมีหน้าแถไปไหนอีก “ฉันก็มาสมัครงานที่นี่ไง อะไรใครส่งนายพูดเรื่องอะไรฉันไม่เข้าใจ?” ฉันเริ่มเถียงคนข้างหน้าขึ้นมาอย่างข้างๆ คูๆ ถูๆ ไถๆ ไปบ้างเพื่อไม่ให้เกิดความน่าสงสัยให้แกเขา เพราะถ้าเกิดไม่เถียงขึ้นเลยอาจเป็นสิ่งที่น่าสงสัยได้ “ถุย! ปัญญาอ่อนวะสมัครงานนั้นหรออย่ามาโกหก!” “ก็ฉันไม่ได้โกหกก็บอกแล้วไงว่าฉันมาสมัครงานหูมีปัญญาหรือไง!” ฉันตะโกนใส่เขาบ้าง ใครจะยอมให้คนอื่นที่ไม่รู้จักมายืนตะโกนใส่ตัวเองล่ะ ฉันก็ไม่ใช่คนที่จะยอมง่ายๆ เหมือนกันถ้าได้โกรธขึ้นมาไม่ว่าจะด่าใครฉันก็ไม่สนใจทั้งนั้น “เธอคิดว่าที่นี่รับพนักงานง่ายขนาดนั้นเลยหรอ ถ้าไม่เปิดรับสมัครก็ไม่มีการรับพนักงานเข้ามาแบบสุ่มๆ แบบนี้ชั้นไม่ได้โง่ขนาดดูไม่ออกว่าเธอเข้ามาทำอะไรแล้วอีกอย่างสิ่งที่เธอเห็นเมื่อกี้มันคือแผนวะพาลดา อุปภาพร” ฉันอึ้งทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดขึ้นนั่นมันชื่อจริงของฉันพร้อมกับนามสกุลอย่างบอกนะว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว รู้ว่าฉันเข้ามาที่นี่เพราะเหตุใดและดูเหมือนว่าชายคนนี้จะรู้จักที่นี่ดียิ่งกว่าอะไรดีเสียอีกถึงตัวฉันจะคิดปลอบใจตัวเองไปต่างๆ นานาแต่ความจริงที่ได้ยินมันก็คงจะหนีไม่พ้น “นายรู้ชื่อฉันได้ยังไงหะ ใครเป็นคนบอกนายอย่ามาพูดอะไรสุ่มๆ แบบนี้” ฉันขยับตัวเข้าชิดที่หัวเตียงเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างเขาและตัวฉัน เพราะมันเริ่มที่จะไม่ชอบมาพากลแล้วแบบนี้ ดูๆ เขาจะต้องรู้อะไรบ้างอย่างเกี่ยวกับตัวฉันแน่ เผลอๆ จะรู้อะไรมากกว่าชื่อของฉันอีก “ทำไมชั้นจะไม่รู้หะชั้นรู้มากกว่านี้อีกนะพาย… รู้แม้กระทั้งที่อยู่ ประวัติการศึกษา ครอบครัว และที่สำคัญรู้ว่าเธอเข้ามาเสือกเรื่องของชั้นเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวให้ป้าของเธอไง อีแกมุกดากับผัวเด็กชาติชายใช่ไหมวะ” การเป็นใบรับประทานไปชั่วขณะมันรู้สึกแบบนี้นี้เองเหมือนกับที่ฉันเป็นตอนนี้ ฉันอึ้งกับคำพูดของเขา ทะ ทำไมเขาถึงรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวฉันรวมไปถึงครอบครัวของฉันอีกด้วยคนที่นี่ทานอะไรเป็นอาหารทำไมถึงได้ฉลาดเป็นกรดแบบนี้ รับรู้ทุกความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ดีเยี่ยม “เลือกเอา บนบกหรือกลางทะเลไว้เป็นที่ทิ้งศพสำหรับคนเสือกอย่างเธอ!” ผมถามผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตัวเองยอมรับว่าผมมันเลวเลวกว่าไอ้คิวพีเป็นไหนๆ เลวที่อยู่ในระดับสิบเลยล่ะอยู่ห่างๆ ไว้ก็ดีอย่ากล้ามาลองเสือกเพราะถ้ากล้าเสือกมันก็เหมือนเลือกปลิดชีวิตตัวเอง! “…” ตาของฉันเบิกกว้างขึ้นเมื่อได้ยินคำที่ออกจากปากของเขาให้ฉันเลือกที่สำหรับไว้ทิ้งศพของตัวเองเนี้ยนะ ฉันรู้แล้วว่ารูปร่างหน้าตาที่ชายคนนี้ได้มามันเป็นเพียงแค่เปลือกนอกที่สวยงามเท่านั้นแต่จิตใจของเขามันช่างเลวทรามแบบหาที่ติดไม่ได้จริงๆ “นายเป็นใครกันแน่?” ฉันกดเสียงต่ำเป็นเชิงเค้น ถามเขาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ถ้ารวมจากข่าวที่คนอื่นๆ บอกว่าเจ้าของที่นี่เป็นวัยรุ่นอยู่อายุยี่สิบสามปีเท่านั่นมันก็ราวๆ ที่จะเหมือนกับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันเองเพราะชายคนนี้ดูแล้วยังเป็นวัยรุ่นอยู่ด้วยซ้ำแต่ทำไมถึงได้เลือกเดินมาทางที่เสี่ยงตายแบบนี้ เพราะโลกใบนี้ที่แท้จริงมีแต่สีขาวกับสีดำเท่านั้นแล้วแต่ทางที่คนเราจะเลือกเดินว่าจะให้ชีวิตไปในทิศทางไหนแล้วชายที่อยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เลือกสีดำ ซึ่งเปรียบเสมือนกับความชั่วร้ายความเลวทั้งหลาย “ชั้นหรอจะบอกให้เอาบุญว่าชั้นชื่ออะไร ชื่อเทล เป็นเจ้าของTEL MISCREANT CASINO ซึ่งก็คือที่นี่ที่ๆ เธอคิดจะมาลองเสือกไงล่ะแต่ทว่าที่นี่ไม่ใช่ที่หมูๆ ที่เธอจะเข้ามาสืบอะไรได้ง่ายๆ คนทำธุรกิจแบบนี้ก็ต้องฉลาดเป็นธรรมดาอยู่แล้วไม่ได้โง่เหมือนป้าเธอ” “...” สิ่งที่ได้ยินมันทำให้ตาของฉันขยายม่านตาให้ใหญ่ขึ้นโดยอัตโนมัติแล้วมองไปยังที่ผู้ชายที่ชื่อว่าเทลอีกครั้งหนึ่งเป็นเขาจริงๆ ด้วย เมื่อชาติที่แล้วฉันคงจะทำบุญมาน้อยเกินไปใช่ไหมชาตินี้ถึงต้องมาเจอะเจออะไรแบบนี้ต้องมาตายทั้งๆ ที่ตัวเองอายุเพียงแค่ยี่สิบสองเรียนก็ยังไม่จบด้วยซ้ำ กรรมของแกจริงๆ ยัยพาย “ถึงกับพูดไม่ออกเลยหรอวะหะ?” ผมตะโกนเสียงถามผู้หญิงที่ชื่อว่าพายที่ตอนนี้ไม่พูดอะไรคอยแต่หลบสายตาของผมที่จ้องมองเธออยู่บนเตียงใหญ่กลางห้อง เธอคงจะอึ้งกับคำตอบของผมล่ะมั้งที่จับคนอย่างเธอได้ “…” อย่าว่าแต่พูดเลยตอนนี้ตัวของฉันมันแทบจะไม่กระดิกซะด้วยซ้ำ ทำไม ฉันถึงต้องซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้นะต้องมาถูกจับได้ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มงานซะด้วยซ้ำ ยิ่งคนที่จับได้ก็คือเจ้าของคาสิโนคู่แข่งของป้ามุกดาอีกด้วยแล้วฉันจะทำยังไงต่อไปดี “ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยนายเห็นหรือยังล่ะว่าฉันทำอะไรหลักฐานก็ไม่มีสักอย่างอย่ามากล่าวหากันลอยๆ แบบนี้สิมันไม่ยุติธรรมสำหรับฉันคนที่ดูมีการศึกษาอย่างนายควรจะรู้ด้วยซ้ำไม่ต้องให้คนอย่างฉันมาสอนหรอก” “ฉลาดดีวะ คิดเอาตัวรอดด้วยวิธีตื้นๆ แบบนี้หรอวะ ใช่คนอย่างชั้นมีการศึกษาพอวะไม่ต้องให้คนอย่างเธอมาเสนอหน้าสั่งสอนบอกไว้เลยเอาตัวให้รอดก่อนเถอะวะ เอ้า! หลักฐาน” ปึก!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม