ตอนที่ 3 เริ่มจัดการ
TEL MISCREANT CASINO
ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูสองจังหวะดังขึ้นจากประตูห้องทำงานในคาสิโนทำให้เจ้าของห้องที่กำลังทำงานอยู่ผละใบหน้าหล่อที่ก้มอ่านตัวหนังสือให้เงยหน้าหันสายตาแกร่งและเด็ดเดี่ยวมองไปยังประตูทันที
เผยให้เห็นชายคนหนึ่งตัวสูงใหญ่ใบหน้าคล้ายหนุ่มเกาหลีผสมกับสีผมเทาอ่อนๆ ประกอบกับการใส่เสื้อผ้าดำทั้งชุดคือเสื้อสีดำทั้งนอกและเสื้อแจ๊สเก๊ตส่วนกางเกงเป็นกางเกงยีนขาดๆ สีดำเหมือนกันทำให้ผิวที่ขาวออร่ากระจ่างใสอยู่แล้วกับกลายให้ขาวขึ้นอีก ซึ่งนั้นก็คือไอ้เวฟลูกน้องมือซ้ายของผมเอง
“เฮียเทลได้เรื่องแล้วครับ”
“ว่า?”
ผมถามไอ้เวฟขึ้นอย่างใจร้อนเมื่อผมใช้ให้มันกับไอ้พีญไปสืบเรื่องหนึ่งซึ่งมันสำคัญกับผมมากที่สุดและผมก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
“ไอ้พีญมันรายงานว่าทางนั้นมันจะส่งผู้หญิงคนหนึ่งมาเสือกครับ”
“ผู้หญิงมันช่างกล้าเสือกเรื่องของกูจริงๆ วะไม่เบื่อหรือไงวะที่ส่งคนมาเมื่อไหร่ก็โดนกูจัดการส่งกลับไปอย่างไม่เหลือซาก”
ผมพูดขึ้นมาอย่างเบื่อหน่ายกับเรื่องคู่แข่งของผม ไม่ใช่สิ! อ่อนอย่างนั้นคงไม่ใช่คู่แข่งของผมหรอก คาสิโนกระจอกแบบนั้นจะสู้ของผมได้ยังไงจะคาสิโนของใครได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่ของไอ้ชาติชายกับนังป้าแกมุกดา
ผมรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวไม่ว่าพวกมันจะสุ่มหัวคิดแผนอะไรกัน รู้ทุกอย่าง พวกมันถึงทำไม่สำเร็จสักครั้งก็เพราะว่าผมส่งมือขวาของตัวเองคือไอ้พีญไปสอดแนมพวกมันเหมือนกัน พวกนั้นคงคิดไม่ถึงสำหรับผมทำมายังไงก็ทำกลับไปอย่างนั้นและการโต้กลับของผมอาจจะร้ายแรงมากเสียด้วย
ไอ้พีญเข้าไปโดยการเป็นลูกน้องของพวกนั้นซะด้วยมันเป็นคนเก่งการปลอมตัวและการต่อสู้ทุกรูปแบบที่สำคัญไว้ใจได้ถึงได้เป็นมือขวาผมส่วนไอ้เวฟเก่งการใช้สมองบริหารงานการสังเกตคนเลยอยู่ในคาสิโนกับผมที่นี่
“นี่เป็นประวัติทั้งหมดครับ”
ถุงกระดาษสีน้ำตาลใบเล็กถูกส่งมาให้ผมตรงหน้ามันทำให้ผมสนใจไม่น้อยสำหรับของที่อยู่ตรงหน้าผมมือใหญ่รีบเปิดถุงกระดาษใบนั้นทันที เมื่อนำมือสอดเข้าไปใบถุงถือกระดาษสีขาวสองสามแผ่นออกมาทำให้เห็นประวัติทั้งหมดของผู้หญิงคนนั้นรวมถึงรูปถ่ายใบเล็กๆ ที่เผยให้เห็นใบหน้าที่หวานใสรอยยิ้มที่น่าสะกดใจของชายหลายคนรวมถึงคนที่กำลังดูอยู่
“พาลดา อุปภาพรแล้วเราจะได้เจอกัน”
มือซ้ายอย่างเวฟเห็นเจ้านายตัวเองยืนขึ้นพร้อมกับฟาดประวัติทั้งหมดของสาวคนนั้นลงบนโต๊ะด้วยแรงโทสะ
หญิงคนนั้นคงจะโชคร้ายมากที่เลือกผิดเข้ามาสอดแนมในคาสิโนของเจ้านายเขาซึ่งเฮียเทลเป็นคนที่เด็ดขาดพูดคำไหนคำนั้น เมื่อเฮียโกรธสามารถฆ่าทุกๆ คนที่ขวางหน้าเขาได้ทันที เวฟรู้เพราะทำงานกับเฮียมานานและรู้จักกับกลุ่ม MISCREANT ว่าโหดร้ายมากแค่ไหน
“ถ้าผู้หญิงคนนี้มาถึงคาสิโน ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหนปล่อยเข้ามาแค่จับตาเธอห่างๆ ไว้ก็พอที่เหลือชั้นจัดการเองแล้วจะได้รู้ว่าเลือกมาเสือกผิดที่!”
“ครับเฮียเทล”
บทบรรยายพิเศษ: พาย
มาถึงอีกวันที่ฉันเดินไปทำงานหลังจากที่ช่วยแม่ขนข้าวของไปบ้านน้าอรเสร็จแล้ว น้าอรดูมีความสุขมากที่แม่เข้ามาอยู่ด้วยกันน้าอรบอกว่าจะได้มีเพื่อนช่วยทำขนมขายเห็นแบบนี้แล้วฉันรู้สึกโล่งใจมากเลยแหละและวันนี้ฉันต้องลาออกจากงานที่ทำในร้านขนมเค้กเพื่อไปทำตามเงื่อนไขของป้ามุกดา
“มาแล้วคะ”
“มาเช้าจังเลยนะจ๊ะพาย”
เสียงของผู้จัดการร้านเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เห็นหน้าฉันเข้าไปในร้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาทำงานหน้าร้าน
“คะ พอได้ตื่นเช้าแล้วสดชื่นจัง”
ฉันตอบผู้จัดการพรางเอาแจกันดอกไม้ออกมาประดับไว้แต่ละโต๊ะเพื่อให้เกิดสีสันแก่ร้านและเป็นการเพิ่มบรรยากาศอีกอย่างหนึ่งเพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านด้วย
“มาฉันช่วย”
ฉันมองตามต้นเสียงก็พบว่าเป็นก้องชายหนุ่มที่เป็นพนักงานของร้านเหมือนกันกับฉัน ก้องเข้ามาคว้าแจกันแล้วไปตั้งตามโต๊ะต่างๆ แทนฉันอย่างรีบเร่ง เขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีที่สุดของฉันอีกคนหนึ่งเพราะเขาเป็นคนที่มีน้ำใจชอบช่วยเหลือคนอื่นๆ
“ขอบใจนะที่ช่วย”
“ขอบจงขอบใจอะไรกันเป็นพนักงานเหมือนกันก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว”
ละแล้วเวลาก็เดินมาถึงในตอนบ่ายคล้อย ซึ่งประจำเวลานี้ร้านจะไม่ค่อยมีลูกค้ามากซะเท่าไหร่เพราะลูกค้าจะเข้าร้านภายในช่วงเช้าและตอนเย็นๆ ทุกคนทานอาหารกันเสร็จแล้วก็จะมานั่งพูดเล่นหรือเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กันฟังที่เคาน์เตอร์กันเป็นประจำ
ฉันว่าเหมาะเลยแหละที่จะใช้โอกาสนี้บอกผู้จัดการในเรื่องของการลาออก นี่คงต้องโกหกอีกสินะว่าแล้วจึงเดินเข้าไปหาผู้จัดการทันที
“ผู้จัดการคะ”
“หื้ม มีเรื่องอะไรหรือป่าวพาย?”
เมื่อทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ยินเสียงของฉันที่พูดกับผู้จัดการก็มองหน้ากันทันที จากนั้นก็มองมาทางฉันและผู้จัดการและก็เงียบฟังกันอย่างตั้งใจไม่พูดอะไรกันอีกเลย
“คะ คือว่า พาย เอ่อ... พายจะขอลาออกค่ะ”
“หะ!”
เสียงทุกๆ คนพูดขึ้นพร้อมๆ กันด้วยความตกใจทั้งผู้จัดการแล้วก็พนักงานในร้านที่ทำงานร่วมกับฉันมาตั้งหลายปีก็ต่างมองหน้าฉันด้วยความตกตะลึงไม่ต่างกันแม้แต่คนเดียว
“มีอะไรหรือป่าวพาย?”
ไม่ใช่เสียงผู้จัดการหรอกแต่เป็นเสียงของก้องที่ดูเหมือนจะได้สติก่อนเพื่อนๆ จึงรีบถามฉันขึ้นมา
“ไม่มีอะไรหรอกก้องคือว่า .. คือว่าพายต้องไปอยู่ต่างจังหวัดน่ะ”
“พายจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดงั้นเหรอแบบนี้มีอะไรหรือป่าวพายหรือว่าเกิดเรื่องร้ายแรงอะไร?”
คราวนี้เป็นเสียงของผู้จัดการร้านบ้างที่เหมือนจะตั้งสติได้แล้วเมื่อได้ยินที่ฉันพูดก็รีบถามทันที
“ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรหรอกคะผู้จัดการ” ฉันหันไปสบตาผู้จัดการ “อีกอย่างมันเป็นการตัดสินใจที่รวดเร็วไปหน่อยพายต้องขอโทษด้วยนะคะ”
“พายมานี่ก้องมีเรื่องจะพูดกับพาย!”
ก้องพูดขึ้นพรางใช้มือจับแขนฉันแล้วลากขึ้นมาพูดกันบนดาดฟ้าของตึกสามชั้นของร้านขายขนมเค้ก หน้าตาของก้องนั้นดูจริงจังมากกับเรื่องนี้เขาจ้องตาฉันเขม็งอย่างแข็งก้าวร้าวอยากจะหาความจริงอะไรบ้างอย่างจากฉัน
“มีอะไรหรือป่าวก้องทำไมถึงลากเรามาที่นี่ล่ะ?”
“ที่พายพูดเรื่องโกหกใช่ไหม? ทำไมพายต้องโกหกเราด้วย พายก็รู้ว่าเราคิดยังไงกับพายเราบอกพายไปแล้วใช่ไหมไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเราจะอยู่เคียงข้างพาย”
ใช่อย่างที่ทุกคนคิดนั้นแหละก้องเคยสารภาพว่ารักฉันแต่ฉันปฏิเสธเขาไปเพราะว่าฉันคิดกับเขาแค่เพื่อนคนหนึ่งจริงๆ ไม่ใช่แบบคนรัก
ฉันถึงบอกไปตั้งแต่แรกไงล่ะแล้วถ้าเป็นแบบนี้อีกฉันจะทำยังไงให้เขาตัดใจ ไม่ใช่ว่าฉันรังเกลียดก้องเพราะว่าเขาไม่รวยหรอกนะ เขาเป็นถึงลูกครูทั้งพ่อและแม่เป็นครูทั้งสองถึงจะฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากก็เถอะแต่ก้องเขาเป็นคนดีมากแต่ฉันไม่ได้รักเขานี่คือประเด็น
“พายไม่ได้โกหกก้องและอีกอย่างหนึ่งที่พายเคยบอกว่าพายคิดกับก้องแค่เพื่อนที่ดีคนหนึ่งเท่านั่นไม่เคยคิดเกินเพื่อนเลย”