เวลาล่วงเลยผ่านไปถึงสองชั่วยาม
ม่านนีที่กำลังนั่งทอดอารมณ์หลากหลายหลังจากที่ได้อ่านบันทึกรักสีเทาของมารดาจนจบเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็มิทราบได้
นางเพียงนั่งนิ่งงันอยู่อย่างนั้นอีกอึดใจ ก่อนกล่าวคำเพียงบางเบาออกมาให้หลุมศพของมารดาได้รับฟัง
“ท่านแม่ ท่านไม่ควรด่วนจากข้าไป” หญิงสาวกล่าวคำพลางเอื้อมมือขึ้นลูบไล้แผ่วเบาบนป้ายหน้าหลุมศพของมารดา
“ไยท่านต้องตรอมใจตายไปอย่างเดียวดาย ในขณะที่คนพวกนั้นยังคงอยู่กันอย่างรื่นเริงคล้ายกับกำลังอยู่บนสรวงสรรค์”
ม่านนียังคงลูบคลำป้ายหน้าหลุมศพของมารดาพลางยกเหล้าขึ้นดื่มเพื่อนั่งเป็นเพื่อนร่ำสุรากับมารดาของนางอยู่อย่างนั้น พลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนหน้า
ในวันนั้นเป็นวันที่มีคณะเดินทางขององค์ฮ่องเต้นามว่า หยางจื้อเฉิง ได้ทำตามประเพณีประจำปีเกี่ยวกับการล่าสัตว์
ในปีก่อนๆ หน้านั้นพระองค์คงจัดทำพิธีการล่าสัตว์ที่อื่นมาจนหมดแล้วกระมัง ในปีนี้ พระองค์จึงเลือกหุบเขาใกล้ๆ กับหุบเขาที่นางอาศัยอยู่
เมื่อนางได้ข่าวว่าบิดาบังเกิดเกล้าของนางได้เดินทางเข้ามาใกล้กันถึงเพียงนี้ มีหรือนางจะอยู่เฉย นางจึงถือโอกาสไปสำรวจบิดาของนางเสียหน่อย
เมื่อนางไปถึงคณะล่าสัตว์ของบิดา นางมองเห็นคณะเดินทางอันยิ่งใหญ่อลังการ มีองค์ฮ่องเต้ผู้งามสง่า มีองค์ฮองเฮาผู้งดงามอยู่เคียงข้างไม่ห่างกาย มีทหารมากมายอารักขาหลายร้อยชีวิต มีองค์หญิง มีองค์ชาย มีนางกำนัลข้าทาสบริวารมากมายคอยติดตาม
ช่างเป็นภาพที่น่าประทับยิ่ง
น่าประทับใจจริงๆ
และในยามนั้น นางจึงได้ตัดสินใจ
นางตัดสินใจเข้าไปทักทายพวกเขาเสียหน่อย ด้วยการสร้างความวุ่นวายเล็กๆ น้อยๆ
นางแต่งกายด้วยอาภรณ์เก่าทรุดโทรมกลมกลืนกับสีเขียวทึบของผืนป่าที่นางอยู่มาตั้งแต่เกิด ใบหน้าของนางเพียงทาดินโคลนเอาไว้เพื่อกลบเกลื่อนรูปหน้าที่แท้จริง
และการเคลื่อนไหว การพรางตัว ก็ไม่เป็นเรื่องยากอันใด
นางแอบมองอยู่ไกลๆ แล้วยิงธนูเข้าใส่จนกลุ่มคณะแตกตื่นพากันกระจายตัวออกตามหาทิศทางของลูกธนูกันยกใหญ่ แต่ก็หาได้เจอนางไม่ ด้วยความคุ้นชินกับสถานที่ย่อมแตกต่าง
นางจับสัตว์มีพิษแอบเอาไปปล่อยเอาไว้ในกระโจมหรูหราสมฐานะองค์หญิง องค์ชาย พาให้พวกนั้นวุ่นวายไม่เป็นอันหลับอันนอน
จนในที่สุดนางจึงปล่อยไม้เด็ด
นางปล่อยงูพิษชนิดหนึ่งเข้าไปกัดองค์หญิงผู้หนึ่ง แล้วนางก็เข้าเสนอตัวช่วยเหลือพร้อมถอนพิษให้อย่างใจดี
แน่นอนว่านางย่อมได้รับความดีความชอบดังคาด
นางจึงไม่ขออะไรมาก
นางขอให้ได้มีโอกาสรับใช้ทุกคนในฐานะนางกำนัลชั้นต่ำก็ยังดี นางแค่ต้องการมีเบี้ยเลี้ยงเอาไว้เลี้ยงชีพของตน
นั่นคือเหตุผลที่นางกล่าวออกไป เมื่อถูกฮ่องเต้ถามว่าต้องการสิ่งใดตอบแทนหลังจากที่นางได้ช่วยเหลือธิดาสุดที่รักของพระองค์
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ม่านนีเพียงแสยะยิ้มตรงมุมปากได้รูปสีแดงสดอย่างเจ้าเล่ห์ร้ายกาจก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างสง่างามแล้วหมุนกายเดินเยื้องย่างไปเพียงนิดก่อนไปหยุดยืนอยู่นิ่งๆ ตรงปลายพื้นที่ยาวยื่นของหน้าผาสูงชันแห่งนี้ นางเพียงทอดสายตาเรียวสวยมองไปยังทิศทางพระราชวังแห่งแคว้นหยางเป่ย
นางเพียงกวาดสายตาของนางมองไปรอบๆ ตัวที่เต็มไปด้วยผืนป่าพนาไพร นางเพียงทอดอารมณ์มองออกไปตามทางเดินทอดยาวภายในป่าใหญ่หนาทึบแห่งนี้อย่างใจเย็น
ในป่าแห่งนี้เป็นที่ที่นางอาศัยและเติบโตมากับมารดาของนางอย่างยากลำบาก จนกระทั่งมารดาของนางได้ตรอมตรมจนถึงขีดสุดและได้ตายจากไปโดยที่ม่านนีอายุได้สิบสี่หนาว
ถึงแม้ว่าม่านนีจะเป็นเพียงสตรีตัวเล็กๆ รูปร่างบอบบางแต่ทว่านางอาศัยอยู่ในป่าที่แสนจะอันตรายมาตั้งแต่เกิด ทั้งยังได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้มาไม่มากไม่น้อย
ในยามนั้นนางได้พบเจอกับชาวยุทธ์สูงวัยท่านหนึ่งที่ได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วหล้าเพื่อฝึกฝนวิชาการต่อสู้แขนงต่างๆ
ชาวยุทธ์ท่านนั้นได้เดินทางมาจนถึงบ้านกลางป่าของม่านนี ได้รับการต้อนรับจากม่านนี ได้รับที่พักพิงชั่วคราวจากม่านนี ได้เห็นว่าม่านนีเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ภายในป่าใหญ่เพียงลำพัง ทั้งยังคุยกันถูกคอ จึงถือโอกาสรับม่านนีเป็นศิษย์และได้ฝึกฝนวิชาการต่อสู้ให้ม่านนีอยู่ถึงสองปีก่อนจะเดินทางจากไปตามความประสงค์ของเขาที่ตั้งใจก่อนหน้านี้ ก่อนจะจากกันเขาได้บอกความจริงกับม่านนีว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นนักฆ่าระดับตำนานที่กำลังถูกทางการไล่ล่ามีค่าหัว
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าเขาต้องเดินทางไปทั่วทั้งใต้หล้าอย่างไม่มีกำหนดว่าจะหยุดลงตรงที่ใด
ม่านนีไม่แปลกใจ
เพราะวิชาการต่อสู้ที่เขาได้พร่ำสอนม่านนีนั้น ถึงแม้ว่าจะยังไม่มากมาย แต่ทุกวิชาล้วนแล้วแต่เป็นวิชาการฆ่าคน หาได้เป็นเพียงการป้องกันตัวเองไม่
แต่ถึงกระนั้นม่านนีก็ยังมิเคยได้ฆ่าใคร
การตายจากกันไปมันไม่เร้าใจเลยซักนิด
การอยู่อย่างทรมานแบบตายทั้งเป็นต่างหากเล่า ที่น่าคิด
ม่านนีสะกิดใจของตนได้อย่างนั้น
ม่านนีได้ตัดสินใจแล้วที่จะเดินทางเข้าไปในพระราชวังแห่งนั้น โดยการปลอมตัวไปเป็นนางกำนัลชั้นล่างเพื่อหมายจะค่อยๆ แทรกซึมภายในวังหลวงแห่งนี้
นางเพียงต้องการไล่ล่าเหยื่อของนาง
เหยื่อของนาง...บุคคลทั้งหมดที่เป็นต้นเหตุของชีวิตอันแสนอัปยศของมารดา
การปลอมตัวเป็นเพียงสตรีตัวเล็กๆ ตำแหน่งไร้ตัวตนอย่างนั้นเป็นเรื่องที่พึงกระทำ
น้ำนิ่งๆ ย่อมต้องไหลอยู่ลึกๆ
หนอนตัวเล็กๆ ต้องค่อยๆ กัดกินสัตว์ตัวใหญ่อ้วนพีทีละเล็กทีละน้อย ทีละคำ ทีละคำ จนเจ้าสัตว์ใหญ่ตัวนั้นมันเน่าเฟะไปหมดทั้งตัว
ดูทีเถิดว่า สตรีตัวเล็กๆ ที่ถูกทิ้งขว้างอย่างไร้ค่าผู้นี้ จะทำอันใดได้บ้างกับพวกที่มีค่านักหนาทั้งหลายที่เป็นพี่น้องที่น่าชังของนาง...