ตอนที่1 รับจ้าง
ตอนที่1 รับจ้าง
“เอกสารส่วนตัวทั้งหมดของเธออยู่ในซองนั่นแล้ว จำไว้ว่าเธอห้ามปริปากบอกว่าใครเป็นคนจ้างเธอเด็ดขาด ถึงแม้ว่าเธอจะรอดจากพวกนั้นมาได้เธอก็ไม่มีทางรอดจากพวกเราอยู่ดี ค่าจ้างของเธอถูกโอนเข้าบัญชีเธอเรียบร้อย 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเธอต้องทำงานให้เสร็จตามข้อตกลงก่อน ใช้ความสาวความสวยของตัวเองให้เป็นประโยชน์ เมกะไม่กล้าฆ่าเธออย่างแน่นอนเพราะเธอมีหน้าตาเหมือนผู้หญิงคนก่อนของมัน อย่ากลัวที่จะเข้าหามัน” ซองสีน้ำตาลถูกยื่นมาตรงหน้าเด็กสาววัย 18 ปี มือเล็กรับมาและตรวจดูเอกสารด้านใน บัตรประชาชนอันใหม่ที่ระบุวันเดือนปีเกิดใหม่ทั้งหมด ตอนนี้ในบัตรระบุว่าเธอมีอายุครบ 20 บริบูรณ์ รวมทั้งสำเนาทะเบียนบ้านที่ถูกปลอมแปลงขึ้นใหม่ทั้งหมด
“ขอบคุณค่ะ” ศีรษะทุยเล็กก้มให้หญิงวัยสามสิบปลาย ๆ ในมือกำซองเอกสารแน่น
“ไปทำงานของเธอได้”
ร่างบางหันหลังเดินออกจากห้องอาหารภายในโรงแรมหรู บางคนคิดว่าเธอโชคดีที่มีโอกาสได้ทานอาหารหรู ๆ ราคาแพง แต่ใครจะรู้ว่าลิ้นของเธอไม่ได้สัมผัสรสชาติอาหารเหล่านั้นแม้แต่คำเดียว เธอมาที่นี่เพื่อคุยงานสำคัญเท่านั้น
“เฮ้อ! เธอรับเงินเขามาแล้วอิงฟ้ารีบทำงานให้เสร็จ อย่างน้อยเธอก็มีหน้าตาที่พอจะช่วยชีวิตเธอได้” หลังจากยืนตั้งสติอยู่ด้านหน้าสักพักก็ตัดสินใจเดินไปโบกแท็กซี่เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางนั่นคือผับหรูใจกลางกรุงเทพฯ
“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า บวกกับสีหน้าที่เป็นกังวลตลอดเวลา จนคนขับแท็กซี่อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“เป็นอะไรแม่หนู มีเรื่องที่ต้องคิดหนักขนาดนั้นเลยเหรอ ลุงเห็นหนูถอนหายใจตั้งแต่ขึ้นรถมาแล้ว ไม่ว่าหนูจะเจอปัญหาอะไรก็อย่าคิดสั้นเด็ดขาด จงจำไว้ว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ แค่หนูตั้งสติและใจเย็นค่อย ๆ แก้ไขไปทีละอย่างเดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง”
“นิดหน่อยค่ะคุณลุง ขอบคุณมากนะคะ”
ผับ MEGA
ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นคอนกรีตเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าผับตรงป้ายประกาศรับสมัครงาน ดวงตากลมโตกวาดสายตาอ่านรายละเอียดอีกครั้งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายตามเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้บนกระดาษ
ตู้ด…ตู้ด…ตู้ด…
‘สวัสดีครับผับ MEGA ครับ’ เสียงเข้มตอบรับดังมาในสาย
‘สวัสดีค่ะ พอดีว่าหนูมาสมัครงานค่ะ ตอนนี้อยู่ด้านหน้าผับค่ะ’ เสียงหวานออกอาการสั่นเล็กน้อยแจ้งความประสงค์ของตัวเองกลับไป
‘รอสักครู่นะครับ’
‘ค่ะ ขอบคุณค่ะ’
ตึก ตึก ตึก
ร่างกำยำสวมเสื้อยืดสีดำกางเกงวอร์มสีดำในชุดออกกำลังกายสบาย ๆ กำลังเดินลงบันไดมาพอดี
“พี่ภัทรครับ พอดีว่ามีคนมาสมัครงาน และตอนนี้เธอยืนรออยู่ด้านหน้าผับครับ จะให้เธอเข้ามาด้านในเลยไหมครับ”
“เด็กชงเหล้าหรือเด็กเสิร์ฟ”
“เด็กชงเหล้าที่พี่ให้ผมประกาศรับสมัครเพิ่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้วครับ”
“ให้เธอเข้ามา ฉันจะสัมภาษณ์เอง”
“ครับ รอสักครู่ครับ”
ด้านในผับถูกตกแต่งโทนสีดำเทาดูโมเดิร์นทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็เงียบอึมครึมน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก คนตัวเล็กในชุดเดรสรัดรูปโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งของเอวคอดและสะโพกกลมมนดูสวยสะพรั่งเกินวัย เดินมาหยุดยืนต่อหน้าภัทรด้วยอาการประหม่าเล็กน้อย
“เชิญนั่งก่อน” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาว
“ขอบคุณค่ะ” สะโพกกลมมนหย่อนลงนั่งโซฟาอย่างมีจริตจะก้าน มือสองข้างกุมเข้าหากัน วางบนหน้าตักดูเรียบร้อย
“ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่แล้ว แล้วเคยทำงานในผับมาก่อนหรือเปล่า” เสียงเรียบเริ่มเอ่ยคำถาม
“ชื่ออิงฟ้าค่ะ อายุ 20 ปี ไม่เคยทำงานในผับแบบนี้แต่เคยทำงานร้านอาหารกึ่งบาร์มาค่ะ เสิร์ฟอาหารได้ และชงเหล้าเป็นค่ะ” โชคดีที่อิงฟ้าทำงานเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่อายุ 13 ปี เธอเคยทำงานมาแทบทุกอย่างขอแค่มีคนจ้าง และงานที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กจะสามารถทำได้นั่นคืองานเสิร์ฟ พอเริ่มโตเป็นสาวขึ้นมาหน่อยเธอก็มีโอกาสได้เป็นเด็กชงเหล้าเพราะรูปร่างหน้าตาของเธอนั้นดูโตเป็นสาวเกินวัย เพียงแต่งหน้าแต่งตาแค่นิดหน่อยก็สามารถเปลี่ยนจากเด็กน้อยวัยสิบปีต้น ๆ กลายเป็นสาวน้อยวัยสวยสะพรั่ง
“เขียนใบสมัครและยื่นเอกสารไว้ แล้วพร้อมเริ่มงานเมื่อไหร่” ภัทรดูเอกสารส่วนตัวของอิงฟ้าพอผ่าน ๆ ตา เมื่อเห็นว่าวันเดือนปีเกิดที่ระบุในสำเนาบัตรประชาชนนั้นบ่งบอกว่าเธออายุครบ 20 ปีแล้ว บวกกับหน้าตาที่ดูโตสมวัยจึงรับเธอเข้าทำงาน
“คืนนี้เลยค่ะ”
“ผับเปิด 2 ทุ่ม ให้มาก่อนเวลา 1 ชั่วโมง พนักงานทุกคนจะมีบัตรสแกนเพื่อเปิดประตูด้านหลัง ส่วนกฎระเบียบต่าง ๆ ให้ผู้จัดการอธิบายให้ฟัง” ภัทรตัดสินใจรับหญิงสาวเข้าทำงานทั้งที่รู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ก็ตาม
“ขอบคุณค่ะ”
“เดย์ ให้เธอกรอกใบสมัครและแจ้งกฎระเบียบให้เธอทราบ” ใบหน้าคมหันไปบอกผู้จัดการร้านหนุ่มที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องสวัสดิการและเงินเดือนของพนักงานที่นี่ที่ยืนอยู่ไม่ไกล ร่างกำยำลุกขึ้นเต็มความสูงเปิดประตูออกจากห้องไป ลงไปยังชั้นใต้ดินปีกทางด้านซ้ายซึ่งเป็นยิมสำหรับการ์ดและพนักงานของที่นี่ ถ้าวันไหนภัทรนอนค้างที่นี่ก็จะไปออกกำลังกายที่นี่ในช่วงสายหลังตื่นนอน
ริมฝีปากอวบอิ่มเผยรอยยิ้มมุมปากสีหน้าคลายกังวลเมื่อทุกอย่างเริ่มต้นไปได้ด้วยดี ถึงแม้จะเป็นงานที่เสี่ยงแต่ค่าจ้างก็มากพอที่เธอยอมเสี่ยงเพราะเงินก้อนนั้นสามารถเลี้ยงดูเธอไม่ให้ลำบากได้หลายสิบปีถ้าเธอไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนเกินตัว
บ้านไม้หลังเล็กที่ถูกตกแต่งใหม่ให้ดูทันสมัยและสวยงาม
“อิง..ดูซิว่าวันนี้พี่ซื้ออะไรมา” เสียงหวานตะโกนดังมาตั้งแต่ประตูรั้วหน้าบ้าน ในมือถือของพะรุงพะรังเต็มสองไม้สองมือ เดินยิ้มกว้างมาแต่ไกล
“โอ้โห! พี่ฟ้าซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ พี่ฟ้าถูกหวยเหรอคะถึงได้ซื้อของกินมาเยอะแยะขนาดนี้” เด็กสาวตัวเล็กวัยไล่เลี่ยกันเดินมาจากในครัวท่าทางตื่นเต้นเมื่อเห็นของกินในมือคนเป็นพี่
“ยิ่งกว่าถูกหวย วันนี้พี่ไปสมัครงานมา และพี่ก็ได้งานทำแล้วด้วย รายได้ดีมากเลยนะพี่เลยซื้อของกินมาฉลอง” พูดไปยิ้มไปฉายแววความสุขบนใบหน้าจนคนเป็นน้องอดที่จะดีใจและยิ้มตามไม่ได้
“พี่ฟ้าได้งานใหม่แล้วเหรอ อิงดีใจด้วยนะ แต่งานที่ว่างานอะไรเหรอคะ คงไม่ใช่..” รอยยิ้มบนใบหน้าหุบลงทันทีเมื่อนึกถึงคำพูดของพี่สาวก่อนหน้านั้นที่มาปรึกษาเธอเกี่ยวกับเรื่องอยากหาคนเลี้ยง เพราะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะไปทำงานพาร์ตไทม์เหมือนอย่างแต่ก่อน และเธออยากโฟกัสการเรียนให้มากเพราะเกียรตินิยมก็สามารถเป็นใบเบิกทางให้เธอมีงานดี ๆ ทำได้
“ไม่ใช่..พี่ไม่คิดจะทำแบบนั้นแล้ว พี่ได้งานที่ผับน่ะเป็นผับค่อนข้างหรูเขาเลยจ่ายค่าแรงค่อนข้างแพง” ดวงตาประกายแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงงานที่พึ่งรับมา แต่เพียงชั่วครู่ก็ปรับให้กลับมาเป็นปกติ
“เฮ้อ! ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าพี่ฟ้าจะทำแบบที่พูดวันนั้นซะอีก เอ้อ! แล้วพี่ฟ้าเข้าไปทำงานที่ผับได้ยังไงพี่ฟ้าอายุยังไม่ถึง 20 ปีเลย”
“พี่ปลอมเอกสารน่ะ”
“พี่ฟ้าทำไมพี่ทำแบบนี้คะ พี่รู้ไหมว่ามันผิดกฎหมาย” ดวงตากลมโตเบิกโพลงเมื่อได้ยินแบบนั้น
“พี่รู้ แต่พี่แค่ปลอมอายุ อีกอย่างพี่แค่สมัครเป็นเด็กชงเหล้าเอง”
“แต่ทำแบบนั้นมันก็ไม่ดีเหมือนกันนี่คะ และงานแบบนั้นก็อันตรายมากด้วย ยิ่งเป็นผับหรูลูกค้ารวย ๆ ยิ่งชอบลวนลามพนักงานอยู่ด้วย อิงไม่อยากให้พี่ฟ้าไปทำเลย” แววตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความห่วงใยที่น้องสาวมีให้พี่สาวถูกแสดงออกโดยไม่ปิดบังทั้งที่ไม่ใช่พี่น้องสายเลือดเดียวกัน ความผูกพันที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กผูกสองคนเข้าด้วยกันแน่นแฟ้นยิ่งกว่าสายเลือด
“พี่รู้ พี่สามารถเอาตัวรอดของพี่ได้ อิงไม่ต้องเป็นห่วงหรอก และที่นั่นเขามีการ์ดคอยดูแลตลอดเวลา และพี่ผู้จัดการก็บอกว่าถ้าโดนลูกค้าแสดงกิริยาไม่ดีใส่ให้แจ้งการ์ดได้เลยเดี๋ยวการ์ดจะเข้าไปจัดการ และที่นั่นไม่มีเรื่องขายบริการ อิงไม่ต้องห่วงนะ” อิงฟ้าพยายามอธิบายให้น้องสาวฟังอย่างละเอียด เพื่อที่จะได้คลายกังวล
“ถ้าอย่างนั้นอิงก็สบายใจค่ะ แล้วนี่พี่ฟ้าซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ อิงหิวมากเลยค่ะตอนนี้” ฝ่ามือเล็กลูบตรงหน้าท้องแบนราบมองถุงอาหารหลายใบที่วางอยู่บนโต๊ะ สายตาแวววาวเมื่อเห็นอาหารหลายอย่างที่เป็นเมนูโปรดของเธอ
“เปลี่ยนไวจริงนะ เมื่อกี้ยังทำท่าจะร้องไห้อยู่เลย”
“แฮะแฮะเป็นข่าวดีสำหรับพี่ฟ้าอิงก็ต้องดีใจสิคะ ใครจะร้องไห้กัน”
ก่อนหน้านั้น
“อิง พี่มีเรื่องจะปรึกษา” เสียงหวานดังขึ้นในความมืดหลังจากไฟหัวเตียงดับลงเกือบ 5 นาที ร่างบางที่นอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมาหันไปหาน้องสาวที่นอนอยู่ข้าง ๆ
“พี่ฟ้ามีอะไรว่ามาเลยค่ะ”
“งานที่พี่ทำอยู่เงินไม่พอสำหรับจ่ายค่าเทอมและค่าใช้จ่ายอื่น พี่อาจจะต้องหางานทำเพิ่ม”
“แต่ที่พี่ฟ้าทำอยู่ทุกวันนี้ก็แทบไม่มีเวลานอนแล้วนะคะ แล้วตอนนี้พี่ฟ้าก็จะเข้ามหาลัยแล้วเรียนหนักกว่าตอนมัธยมอีก จะเอาเวลาที่ไหนไปทำงานเพิ่มคะ”
“พี่ก็คิดว่าพี่อาจจะทำไม่ไหว แต่ยังไงก็ต้องหาเงินเพิ่มพี่ไม่อยากขอแม่เพราะยังไงแม่พี่ก็ไม่มีทางให้พี่แน่นอน มีแต่จะบอกให้พี่ไม่ต้องเรียน”
“แล้วพี่ฟ้าจะทำยังไงต่อไปคะ”
“พี่หาคนเลี้ยงดีไหม คิดซะว่าเรามีแฟน ดีกว่าไปขายตัวให้ผู้ชายไม่ซ้ำหน้าในแต่ละคืน”
“พี่ฟ้า! หยุดความคิดนั้นเลยนะคะ” อิงดาวตะโกนขึ้นเสียงดัง ร่างอรชรดีดตัวลุกขึ้นนั่งจ้องหน้าพี่สาวผ่านความมืดที่มีแสงไฟรางๆ ส่องทะลุผ้าม่านผ่านเข้ามา
“พี่แค่คิดเฉย ๆ ยังไม่ได้จะทำจริง ๆ สักหน่อย”
“หนูว่าพี่ฟ้าลองหางานอย่างอื่นทำที่มันได้เงินมากกว่างานเดิมจะดีกว่าค่ะ อาจจะรับติวหนังสือให้เด็กมัธยมหรือเด็กประถมก็ได้นะคะ ชั่วโมงละตั้งหลายร้อย”
“พี่จะลองหางานใหม่ดูแล้วกัน พรุ่งนี้พี่จะซื้อของมาไหว้ศาลหน้าบ้านขอให้พี่ได้งานใหม่ที่เงินดี ๆ หรือไม่ก็ช่วยส่งผู้ชายหล่อ ๆ รวย ๆ มาให้แทนก็ได้”