ในสายตาคามินเขาคงเห็นเธอเป็นยัยเฟอะฟะ ซุ่มซ่าม แต่ไม่รู้เขาคิดยังไงถึงมาจ้างเธอทำงาน สงสัยเห็นว่ารักเด็ก นี่ถ้าเขาไม่ต้องการใช้เธอทำงานล่ะก็ เขาไม่มีทางชายตาแลเธอด้วยซ้ำ และเธอก็เช่นกัน ถ้าเขาเงินไม่ถึงมีหรือ ที่เธอจะยืนทนฟังเขาวิจารณ์เธอในเชิงลบ คงได้ชกปากเสียๆ กลับไปบ้าง
แวบหนึ่งนัทมนไม่เข้าใจตัวเองว่า ทำไมถึงรู้สึกหน่วงๆ ในอก หรือเพราะถูกคนหล่อแซวว่าอ้วนเลยเสียเซล์ฟ เธอให้คำตอบตัวเองว่าผู้หญิงทุกคนต้องการได้รับการให้เกียรติจากผู้ชาย ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน แต่อีตาบ้าคามิน
เป็นพวกเลือกปฏิบัติ ให้เกียรติเฉพาะบางคน แต่บังเอิญว่าคนนั้นไม่ใช่เธอ
นัทมนเดินกลับมาถึงที่นั่งเดิมขอเธอ มองเห็นจาคอปนั่งดูการ์ตูนอยู่ เด็กน้อยที่ขาดแม่ มีแต่พ่อที่ไม่มีเวลาให้ ก็เลยทำให้มีนิสัยก้าวร้าวไปบ้าง นัทมนพยายามทำความเข้าใจจาคอป จะว่าไปก็ดูพ่อของเขาสิ ตัวคามินเองก็ไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่ เมื่อแม่จากเขาไป ตัวเขาก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวท่ามกลางทรัพย์สินเงินทองของทั้งพ่อและของแม่ แต่เขาขาดสิ่งที่เด็กควรจะมีคือ เวลาและความรัก
สิ่งที่หนูน้อยจาคอปทำต่อเธอเมื่อครู่ก่อน มันคือการแสดงออกถึงความต่อต้านไม่เชื่อฟัง เพราะเธอเชื่อเหลือเกินว่า คามินผู้ชายที่เอาแต่ทำงานและตามจีบญาติผู้พี่ของเธอ คงไม่มีเวลามานั่งคุยรับฟัง เล่นหยอกล้อกับลูกชาย จนทำให้จาคอปมีนิสัยแข็งกร้าวจากการที่ไม่มีใครสั่งสอน เธอไม่อยากใช้คำพูดรุนแรง แต่มันเป็นเรื่องจริง
นัทมนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนเดินตรงไปย่อตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ที่เด็กน้อยนั่งดูการ์ตูนอยู่ เธอเชื่อว่าเด็กน้อยรับรู้ถึงการมาแต่แสร้งไม่ใส่ใจ
“เฮ้ หมาป่าน้อย ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอนะ เรามาเป็นเพื่อนกันไหม” นัทมนยื่นนิ้วก้อยออกไปรอ
“ผมไม่อยากมีเพื่อน แต่อยากมีแฟน”
นัทมนอึ้ง ชักมือกลับ ขมวดคิ้วจนแทบจะผูกเป็นโบ “เธออายุเท่าไหร่หมาป่าน้อย ถึงอยากจะมีแฟน”
“หกขวบ” หนุ่มน้อยตอบลอยๆ ดวงตายังคงมองที่หน้าจอโทรทัศน์
“เด็กเล็กติดไอแพด ติดโทรทัศน์มาก จะทำให้เป็นโรคสมาธิสั้นนะ”
ตอนที่เธอพูดอยู่นั้น เดมอนก็ยืนเอามือประสานกันอยู่ใกล้ๆ เดมอนมีสีหน้าราวกับถูกขึงไว้จนตึง ไม่ต่างจากบอดี้การ์ดคนอื่นของคามิน เธอจึงไม่สนใจหากเขาจะยืนฟัง
“เรามาเล่นเกมกันไหมจ๊ะ” นัทมนยื่นข้อเสนอ
จาคอปหันมาขมวดคิ้วมุ่น “ผมกำลังดูการ์ตูนอยู่นะครับ ยังไม่ต้องการเพื่อนตอนนี้ ไว้ต้องการเมื่อไหร่จะบอก”
หน้ายิ้มๆ ของนัทมนเปลี่ยนเป็นเจื่อนลงเล็กน้อย ความหมายของจาคอปคือ ไปให้ไกลๆ ยังไม่อยากมีเพื่อน
“อ้อ หรือจ๊ะ งั้นฉันต้องขอโทษด้วย แต่รู้อะไรไหมว่าฉันมีขนมช็อกโกแลตอร่อยๆ มาฝากเธอด้วยนะ มันไม่ใช่ช็อกโกแลตแบบที่เธอเคยกินมาก่อน ฉันรับรองได้”
“มีช็อกโกแลตที่ผมไม่เคยกินด้วยเหรอ ขนมแพงแค่ไหน แด๊ดก็ซื้อให้ผมกินได้อยู่แล้ว” ถึงเด็กน้อยจะตอบออกมาแบบนั้น แต่ก็เหล่ตามามองขนมในมือนัทมน ว่ามีอะไรบ้างที่เขายังไม่เคยกิน กระนั้นก็ยังไว้เชิงอยู่
“ช็อกโกแลต แพงหรือเปล่า ไม่แพงไม่กิน”
‘บ้าจริง ไม่แพงกินไม่ได้หรือไง ต้องจัดการซะใหม่แล้ว พ่อเขาเลี้ยงลูกยังไง สงสัยเลี้ยงด้วยเงินอย่างเดียว’
“ของอร่อย ไม่จำเป็นต้องแพงก็ได้” นัทมนปะเหลาะ
“ผมชอบกินแต่ของหรูๆ แพงๆ ” คำพูดชวนหมั่นไส้ไร้ความน่ารักขัดกับดวงตากลมโต จมูกโด่ง ผิวขาว ริมฝีปากสีชมพูเสียเหลือเกิน
เธอเชื่อว่าเด็กชายคนนี้ โตขึ้นไปจะต้องหล่อเหลาประดุจเจ้าชาย แต่ทำไมนิสัยถึงได้ไม่น่ารักเอามากๆ เอาเถอะใจร่มๆ เด็กก็คือผ้าขาว นัทมนพยายามอดทนอดกลั้น
“สนใจไหม ฉันว่าเธอไม่เคยกินช็อกโกแลตแบบนี้ ถ้าได้กินแล้วจะต้องขออีกชิ้น ขออีกชิ้นต่อไปเรื่อยๆ แน่นอน”
คราวนี้หนุ่มน้อยนิ่งเงียบและหันไปใส่ใจกับการ์ตูน หรือว่าจาคอปกำลังหยั่งเชิง นัทมนก็ไม่รู้
“ไม่เป็นไร ถ้าเธอไม่สนใจ งั้นฉันเก็บไว้กินเองดีกว่า”
“ตะกละ เดี๋ยวก็อ้วนเป็นหมูหรอก” เสียงเด็กตอบกลับมาลอยๆ อีกครั้ง
‘ปากจัดเหมือนพ่อไม่มีผิด’ ถ้าไม่ใช่เด็ก เธอคงมองค้อนไปแล้ว แต่นี่จาคอปเป็นเด็กแล้วยังเป็นเด็กที่น่าสงสาร จาคอปน่าจะวัยไล่เลี่ยกับหนุ่มน้อยแทนไทยเพื่อนรุ่นพี่ของไข่มุก หลานสาวตนโตของเธอ ไข่มุกแม้เกิดมาในช่วงแรกไม่มีพ่อ แต่พี่สาวของเธอก็ดูแล อบรมสั่งสอนไข่มุกเป็นอย่างดี หนูน้อยเป็นเด็กที่น่ารัก อาจจะแก่นแก้วไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยพูดจาก้าวร้าว แต่จาคอปโตมากับพี่เลี้ยงที่เปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ถึงได้เป็นแบบนี้
“นั่นสิ ถ้ากินคนเดียวคงอ้วนแน่เลย แล้วเธอก็จะไม่มีพี่เลี้ยงสาวสวย ถ้าฉันอ้วนเป็นหมู ไหนแด๊ดดี้เธอบอกว่าเธอชอบคนสวย อยากมีพี่เลี้ยงสวยๆ งั้นช่วยฉันกินหน่อยสิ”
จาคอปละสายตาจากการ์ตูนหันมาตอบ “ใครบอกว่าผมชอบพี่เลี้ยงสาวสวย แด๊ดดี้ต่างหากที่ชอบ ถูกแด๊ดหลอกแล้วล่ะ”
‘นั่น ว่าแล้วเชียว’ นัทมนแอบค่อนแคะนายจ้างของเธออยู่ในใจ
“ฉันก็คิดเหมือนเธอ” นัทมนนึกขุ่นเคืองนายจ้างขึ้นมา
อันที่จริงเธอก็เตรียมตัวสำหรับการมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กไว้บ้างแล้ว เด็กก็ต้องมีทั้งดื้อ ซน แสบ ถ้าโชคดีก็เจอเด็กน่ารัก เรียบร้อยแต่ก็เป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อย จาคอปก็ยังถือว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ เธอจึงพอรับมือไหว
นัทมนเตรียมจะเก็บช็อกโกแลตที่นำมาด้วยลงกระเป๋า แต่ถูกจาคอปยื้อเอาไว้แล้วถาม
“ทำอะไรน่ะ”
“ก็จะเก็บแล้วไง ไม่มีใครกินนี่นา”
“ผมอยากกินช็อกโกแลตครับ” จาคอปยื้อช็อกโกแลตไปถือไว้คนเดียวแต่นัทมนมือไวกว่าดึงกลับมาทัน
“แน้ จะแย่งไปแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าอยากกินก็ต้องขอกันดีก่อนๆ ”
เด็กน้อยทำหน้างอ แต่เพราะอยากกินเลยพยักหน้าช้าๆ “ผมขอกินช็อกโกแลตหน่อยได้ไหมครับ”
“อืม ดีมาก แต่ต้องเรียกชื่อพี่นัทด้วย ไหนพูดใหม่สิ พี่นัทครับผมขอกินช็อกโกแลตหน่อยครับ”
เด็กน้อยทำปากยื่นอย่างไม่สบอารมณ์
“จะอะไรนักหนาก็ไม่รู้”
นัทมนส่ายหน้าแต่ก็ยังพยายามสอนต่อ “มารยาทที่ดีจะทำให้คนชื่นชมนะครับ จาคอป พูดขออีกครั้ง เอาแบบน่ารักๆ ”
นัทมนเห็นว่าจาคอปไม่ยอมทำตาม เอาแต่นั่งกอดอก เลยหยิบช็อกโกแลตที่เตรียมสำรองมาอีกอัน แกะกินโชว์ให้เด็กน้อยดูต่อหน้า
“มันอร่อยมาก ฟินสุดๆ ” ท่ากินของเธอ ทำให้เด็กน้อยมองช็อกโกแลตชิ้นโต แล้วเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แต่เด็กน้อยยังไม่พูดอีก นัทมนจึงกินต่อไปด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข คงทำให้จาคอปอยากกินมากขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่เคยกินอะไรอร่อยขนาดนี้เลย”