"ถ้าฉันบอกคุณไปแล้วคุณจะเชื่อไหมล่ะ" คำพูดของแต่ละคนน้ำหนักไม่เท่ากัน ถึงแม้เธอพูดจนปากฉีกคนมันจะไม่เชื่อก็ไม่เชื่ออยู่ดี
"ก็ลองพูดมา"
"ฉันเพิ่งเคยเจอไอ้เสี่ยนั่นครั้งแรก พอเจอฉันก็หนีมานี่แหละ"
"ทำไม"
"ก็แม่น่ะสิ" อยากจะพูดให้ใครสักคนรับรู้สิ่งที่มันอัดแน่นอยู่ในใจ แต่ถ้าพูดไปเหมือนจะเป็นการสาวไส้ออกมาให้คนดู
"คุณนายสมร?"
"คุณรู้จัก?" ว่าจะถามเขารู้จักแม่เธอด้วยเหรอ แต่คิดดูอีกทีมันก็ไม่แปลก เพราะเขาคงรู้มาจากพ่อเลี้ยงถ้าไม่งั้นเขาคงไม่แอบอ้างว่าตัวเองเป็นพ่อเลี้ยงหรอก
ก๊อก ก๊อก
"พี่เวทครับเปิดประตูหน่อย"
"เธอพร้อมที่จะให้ฉันช่วยไหมล่ะ" ก่อนที่จะไปเปิดประตูเขาต้องถามความคิดเห็นจากเธอก่อน
มีนาพยักหน้าตอบ เธอไม่รู้จะทำยังไงแล้วนี่ ไอ้เสี่ยนั่นคงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ แน่
ก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูเวทมนต์ได้แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ตัวเองใส่อยู่ออกจนเกือบจะหมดทุกเม็ด
มีนาก็แอบแปลกใจอยู่ว่าเขาทำอะไร แต่เธอก็ได้แค่มองเพราะยอมให้เขาช่วยแล้วนี่
ชายหนุ่มเปิดประตูออกแล้วก็ ค่อยๆ ใส่กระดุมเม็ดที่เขาเพิ่งแกะออกกลับคืนทีละเม็ด
"มีอะไรนักหนาวะ"
"พะ? พี่เวททำอะไรอยู่ครับ" ลูกน้องที่มาตามอดมองเข้าไปด้านในไม่ได้
"มึงทำอะไรเด็กเสี่ยกู" ด้านหลังก็คือลูกน้องของเสี่ยวิเศษ
"ใครเด็กเสี่ยมึง"
"ก็ผู้หญิงคนนั้นไง" พอประตูเปิดออกให้กว้างมองเข้าไปก็เห็นว่ามีนายืนอยู่ในนั้น
"นั่นเมียกู จะเป็นเด็กเสี่ยมึงได้ยังไง"
"ห๊าา?" พนักงานและลูกน้องของเสี่ยวิเศษได้ยินชัดเลย รวมไปถึงมีนาที่อยู่ในห้องนั้นด้วย
ได้ยินแบบนั้นใครจะกล้าอยู่ต่อล่ะ ลูกน้องของเสี่ยวิเศษต้องถอยออกมาตั้งหลักก่อน
"ขอบคุณมากนะคะที่ช่วย" หลังจากที่ทุกอย่างสงบลงแล้ว เธอก็ได้กล่าวคำขอบคุณเขา จากใจจริง เพราะเขาช่วยเธอถึงสองครั้ง จะเรียกว่าในเวลาเดียวกันเลยก็ได้ พอขอบคุณเสร็จเธอก็หันไปทางประตู
"จะไปไหน"
"กลับไงคะ"
"คิดว่าจะกลับได้ง่ายๆ เหรอ"
"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวรีบก้าวถอยหลังออกไปเพราะอีกฝ่ายก้าวเข้ามาหา
"เธอไม่ได้ยินที่ฉันพูดกับไอ้พวกนั้นเหรอ"
"ได้ยิน..แล้วทำไม"
"ฉันบอกว่าเธอเป็นเมีย"
"นั่นมันเป็นแค่.."
"ก่อนที่เธอจะพูดอะไรฉันขอพูดก่อนได้ไหม"
"ก็พูดมาสิคะ"
"ที่นี่มีกฎอยู่อย่างหนึ่ง"
"กฎ?"
"ใช่มีกฎเดียวเท่านั้นคือคนที่ทำงานที่นี่ห้ามมีครอบครัวแม้แต่ความรัก"
"กฎบ้าอะไร แล้วทำไมฉันต้องรู้"
"ทำไมเธอต้องรู้ก็ลองคิดดูสิ"
"อย่าบอกนะว่า.."
"อืม"
"แต่คงยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ คุณก็เรียกลูกน้องของคุณคนนั้นเข้ามาบอกความจริงสิ"
"เธอคิดว่าตอนนี้จะทันเหรอ"
"แล้วจะทำยังไง เอาแบบนี้ไหมล่ะ"
"แบบไหน"
"บอกว่าพวกเราเลิกกันแล้ว"
"แล้วแม่เธอก็จับเธอไปใส่ตะกร้าล้างน้ำให้ไอ้เสี่ยนั่นอีก"
"......." หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออก เพราะมันต้องเป็นแบบที่เขาพูดนั่นแหละ
ก๊อก ก๊อก
แอดดด.. คนที่อยู่ด้านนอกแค่เคาะส่งสัญญาณแล้วก็เปิดประตูเข้ามา
เวทมนต์หันกลับไปมองก็รู้ได้ในทันที เพราะถ้าเป็นพวกพนักงานคนอื่นก็จะรอให้เขาอนุญาตก่อนที่จะเปิดประตู
"เป็นแบบที่เขาพูดกันจริงๆ ด้วย ผู้หญิงคนนี้เหรอ"
มีนาค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้เวทมนต์เพื่อบังสายตาผู้ชายอีกคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่
"ถามทำไม..อาการเผือกอยากทำงานเลยเหรอ" ไม่ใช่แค่เธอขยับเข้ามาเขาก็ขยับตัวไปบังร่างของเธอไว้เพราะคนที่เข้ามาใหม่เอาแต่จ้อง
"เปล่าา อย่าลืมนะว่าพ่อเลี้ยงมีกฎอะไร" ว่าแล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินไปที่โต๊ะทำงานอีกตัวแล้วก็เลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง นั่นหมายถึงผู้ชายคนนี้ใช้ห้องทำงานร่วมกับเวทมนต์และสิงหา "แต่สวยขนาดนี้คุ้มค่าในการลงทุนอยู่นะ"
เวทมนต์เห็นสายตาอีกฝ่ายมองเธอแบบไม่ลดละ เขาก็รีบเดินไปเอาเสื้อคลุมของตัวเองมาคลุมตัวให้กับเธอไว้
"วันนี้ต้องดูบ่อนไม่ใช่เหรอ"
"ทำไม ดูบ่อนแล้วจะมาดูบาร์ไม่ได้หรือไง" เขาคนนี้มีชื่อว่าชัชชน ถ้าเทียบกับหน้าที่การงานก็คงอยู่ในตำแหน่งเดียวกับสิงหา และชัชชนก็ทำงานมานานกว่าทุกคน เพราะทำงานตั้งแต่สมัยพ่อเลี้ยงปุรเชษฐ์ แต่พอกิจการทุกอย่างตกมาเป็นของลูกชาย พ่อเลี้ยงภูตะวันเลยหาคนของตัวเองเข้ามาทำงาน เพราะจะใช้คนของพ่อเยอะไม่ได้กลัวว่าเรื่องที่ตัวเองทำจะเล็ดลอดไปถึงหูพ่อ แต่ชัชชนก็ถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่สูงรองจากผู้จัดการแล้ว
ครืนนน ครืนนนน
เพียงไม่นานโทรศัพท์ของเวทมนต์ก็มีสายโทรเข้ามา
>>{"ฮัลโหลครับพ่อเลี้ยง"} ขณะที่รับสายนั้นเวทมนต์ก็อดมองไปดูอีกคนที่ใช้ห้องทำงานร่วมกับเขาไม่ได้
{"ที่บาร์เกิดเรื่องอะไรวะ"}
และมันก็เป็นแบบที่เวทมนต์คิดไว้ นี่ขนาดพ่อเลี้ยงอยู่ในช่วงฮันนีมูนกับภรรยา ยังมีคนเอาเรื่องแบบนี้ไปฟ้องได้
>>{"ก็เป็นเหมือนที่คนเขาโทรไปฟ้องพ่อเลี้ยงนั่นแหละครับ"}
มีนาได้แต่นั่งฟังและอดตำหนิตัวเองไม่ได้ เรื่องทั้งหมดคงเกิดจากเธอแน่เลย
{"จบจากฮันนีมูนเดี๋ยวเราค่อยคุยกัน"}
>>{"ไม่ต้องหรอกครับพ่อเลี้ยงมีอะไรจะคุยก็คุยมาตอนนี้เลย"}
{"มึงจะทำอะไรทำไมไม่ทำให้เงียบๆ วะ ก็รู้อยู่ว่าที่นั่นมีกฎ"} ก่อนจะพูดคำนี้ออกมาภูตะวันต้องถือโทรศัพท์ไปพูดที่อื่น เพราะจะให้พลอยไพลินได้ยินด้วยไม่ได้ ขานั้นยิ่งไม่ชอบอยู่บอกให้ยกเลิกกฎนี้ไป เพราะลูกน้องก็มีหัวใจเหมือนกัน แต่เหมือนที่เขาว่าไว้ถ้ายกเลิกมีหวังวุ่นวายแน่
>>{"พ่อเลี้ยงจะให้ผมออกใช่ไหมครับ"}
{"ใจเย็นก่อนสิวะ กูคิดว่ามึงต้องมีเหตุผลเล่ามาให้กูฟัง"}
>>{"เหตุผลคือตอนนี้ผมมีเมียแล้ว"} จากตอนแรกที่มองชัชชนอยู่สายตาเขาก็ตวัดมองไปที่เธอ
{"ไอ้เวท!"}
>>{"เอาเป็นว่าผมจะจัดการกับตัวเองแล้วกัน ไม่อยากให้ถึงมือพ่อเลี้ยง แค่นี้นะครับ"}
>>{"เดี๋ยวก่อนสิวะไอ้เวท!"}
"มีอะไรคะ" เห็นว่าเขาวางสายแล้วเธอถึงได้ถาม
"ไม่มีอะไร เราออกไปกัน" เวทมนต์เปิดลิ้นชักหยิบเอาของส่วนตัวของตัวเองก่อนที่จะจูงแขนเธอเดินออกมาจากห้องนั้น
"หึหึ ฮ่าาา" ก่อนที่ประตูจะปิดลงก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังตามหลังออกมา ..ไม่คิดว่าจะตายน้ำตื้นแบบนี้ ยังเหลืออีกสองสินะ ชัชชนหมายถึงซอโซ่และสิงหา เพราะถ้าจัดการไอ้พวกนี้ได้ ตัวเองต้องขยับขึ้นมาเป็นมือขวาของพ่อเลี้ยงได้แน่
"เดี๋ยวก่อนสิคุณ" มีนาพยายามแกะมือเขาออก เรื่องมันชักไปกันใหญ่แล้ว เธอแค่จะเข้ามาขอยืมเงินค่าแท็กซี่
"ตามมาที่รถก่อน"
"คุณจะพาฉันไปไหน"
"ไปถึงแล้วเดี๋ยวรู้เอง"