“ยายผ้าป่าน ทำไมไม่ร้องเสียงดังๆ ล่ะ ร้องสิให้แม่เธอมาเรียกค่าเสียหายจากฉัน” เขาท้าทาย
“ไอ้... ไอ้บ้า!”
ลินินเอามือถูปากตัวเอง หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและอับอาย ขยับลุกขึ้นชี้หน้าด่าเขาทันที
“ไอ้ปอนด์ ไอ้หมาตลาด ฉันเกลียดแก!”
“หมาตลาด... หมาตลาดเหรอ ยายผ้าป่าน”
ปรัชญ์กระโดดเข้ามารวบตัวลินินไว้อีกหน ผลักจนหลังติดกำแพง แล้วระดมจูบเธอรุนแรงจนปากบวมเจ่อ เขาหอบหายใจแรงเมื่อปล่อยเธอ จ้องหน้าเธอด้วยแววตาวาววับ
“ถ้าด่าฉันว่าหมาตลาดอีก ฉันจะจูบปากเสียๆ ของเธอให้แตก ยายผ้าป่าน”
พูดจบเขาก็สะบัดหน้าเดินหนีไป ทิ้งร่างอ่อนแรงให้ทรุดฮวบกองบนพื้นด้วยความอดสู สิ่งที่เขากระทำต่อเธอกลายเป็นภาพจำที่ลินินไม่อาจลืมได้ หญิงสาวถอนความคิดออกจากภวังค์อดีต
“ไอ้หมาตลาด หึ ฉันเกลียดนาย เกลียด...”
หญิงสาวรำพึงออกมา ในคำว่าเกลียดกลับแทรกแซมด้วยความรู้สึกบางอย่าง ที่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ ปลายนิ้วแตะบนริมฝีปาก รอยประทับของเขาเหมือนยังติดอยู่ไม่ลบเลือนตามกาลเวลา ลินินรีบสลัดความคิดบ้าบอนี่ออกจากหัว เธอคือด็อกเตอร์ลินิน ไม่ใช่เด็กสาวอ่อนแอคนเดิม ไม่มีวันที่ไอ้หมาตลาดอย่างปรัชญ์จะมาทำอะไรเธอได้อีกแล้ว
ลินินอาจจะลืมไปแล้วว่า โลกใบนี้แสนกลม คนที่เธอไม่อยากพบเจอ อาจจะหมุนวนกลับมาพบเจอกันอีก...
อาทิตย์ต่อมาหลังจากได้คนงานมาดูแลมารดาแล้ว ลินินก็เดินทางไปเชียงใหม่ เธอได้ที่พักเป็นทาวน์เฮาส์หลังหนึ่ง หญิงสาวเลือกที่นี่แทนการพักในอพาร์ทเม้นท์ เพราะชอบความเป็นส่วนตัว วันรุ่งขึ้นลินินก็ไปรายงานตัวรับตำแหน่งอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย อธิการบดีให้การต้อนรับด้วยความยินดี และได้พาหญิงสาวไปแนะนำให้รู้จักกับอาจารย์คนอื่นในมหาวิทยาลัย
“ขอแนะนำให้รู้จักกับ ด็อกเตอร์ ลินิน ตระการแสง ผู้ช่วยอธิการบดีคนใหม่ของมหาวิทยาลัยของเรา”
ท่านอธิการบดี เอ่ยแนะนำอาจารย์คนใหม่ ให้อาจารย์และคณบดีของมหาวิทยาลัยรู้จัก ลินินถูกพามารู้จักกับอาจารย์แต่ละท่าน จนมาถึงอาจารย์หนุ่มคนหนึ่งของมหาวิทยาลัย ลินินถึงกับนิ่งงัน
“นี่คืออาจารย์ปรัชญ์ รัศมีปกรณ์ อาจารย์ครับนี่คือด็อกเตอร์ลินิน ผู้ช่วยอธิการบดีคนใหม่ครับ”
ปรัชญ์ในวันนี้แตกต่างจากห้าปีก่อน เขามีตำแหน่งเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย รูปลักษณ์ท่าทางดูทรงภูมิ ไม่เหมือนปรัชญ์ลูกแม่ค้าขายขนม ชายหนุ่มมองหน้าด็อกเตอร์สาวอาจารย์คนใหม่ของมหาวิทยาลัยด้วยแววตานิ่งสงบ ราวกับทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“ไม่รู้มาก่อนว่านายสอนที่นี่”
ลินินทักทาย แต่สายตาของเธอมองเมินใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่าย ข่มกลั้นไม่ให้เขารู้ว่า หัวใจของเธอเต้นแรงแค่ไหน ซ่อนความรู้สึกไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง เชิดหยิ่ง มือกำไว้แน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ เตือนตัวเองไม่ให้แสดงอาการอะไรออกมา
“ถ้ารู้ จะไม่มารับตำแหน่งที่นี่หรือครับ ด็อกเตอร์ลินิน”
ปรัชญ์เน้นเสียงเรียกชื่อพร้อมวุฒิฐานะของเธอ ชายหนุ่มแทบอยากจะลาออกเมื่อรู้ว่า ผู้ช่วยอธิการบดีคนใหม่ของมหาวิทยาลัยที่เขาสอนอยู่เป็นใคร ลินินในวันนี้กับห้าปีก่อน มีรูปลักษณ์ไม่แตกต่างกัน แต่ที่ยังคงเหมือนเดิมคือสายตาที่มองเขา มันมีรอยดูแคลนเหยียดหยามไม่เคยจาง ตามตำแหน่งงานเขาต้องเป็นลูกน้องของเธอ มันเป็นเรื่องแย่ที่สุดในชีวิตของเขา หากต้องอยู่ใต้คำสั่งของผู้หญิงคนนี้ ชายหนุ่มคิดอย่างหงุดหงิด
“ทำไมฉันต้องทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นด้วย”
ลินินเชิดหน้าใส่ ทั้งที่อยากลาออกเหมือนกัน แต่ทำไมเธอต้องทำแบบนั้นด้วย เมื่อตอนนี้ตามตำแหน่งแล้วเธอเหนือกว่าเขาทุกประการ เธอต้องทำให้ไอ้หมาตลาดตัวนี้ ยอมรับให้ได้ว่าเธอกับเขามันคนละระดับกัน
ปรัชญ์รู้สึกหงุดหงิดทั้งวัน เขาต้องอดทนให้ตัวเองสอนนักศึกษาจนหมดคาบ ก่อนจะขับรถไปรับหลานชายที่โรงเรียนอนุบาล รับร่างป้อมของเด็กมิ่งกมล แรซฟอร์ด หรือพี่ไม้ ลูกชายของมัสลินพากลับมาส่งที่บ้าน ระหว่างทางก็อดคิดถึงด็อกเตอร์สาวจอมยโสอย่างลินินไม่ได้ ในอดีตเมื่อห้าปีก่อนนางแพรพรรณและนายสมเกียรติ หลอกลวงมัสลินให้ไปแต่งงานกับลูกชายของเจ้าสัวโภคินแทนลินิน มัสลินต้องรับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ถูกโจรลักพาตัวไปและโดนข่มเหงจนตั้งท้อง อีกทั้งยังต้องสูญเสียคุณยายฝ้ายคำ มรดกถูกแพรพรรณใช้อุบายหลอกให้คุณยายฝ้ายคำเปลี่ยนพินัยกรรม จนโกงเอาทุกสิ่งไปจนหมด อีกทั้งยังขับไล่มัสลินออกจากบ้าน ขายตลาดทรัพย์เจริญที่พึ่งของชาวบ้านรวมทั้งตึกแถวที่เขากับมารดาเช่าเปิดร้านขนม แล้วขนเงินย้ายไปอยู่ต่างแดน ในยามนั้นทุกคนต่างเดือดร้อนไร้ที่ทำกินโดยไม่รับการชดเชย เขาต้องพามัสลินกับมารดา มาอยู่ที่เชียงใหม่เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ ในขณะที่ลินินกับครอบครัวพากันใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน
“ด็อกเตอร์ลินิน ตระการแสง หึ จบสูงถึงด็อกเตอร์ แต่นิสัยของเธอ มันยังไม่เคยเปลี่ยน ยายผ้าป่านจอมหยิ่ง”
ในอดีตเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอมาตลอด ผู้หญิงคนนี้เหยียดหยามเขา เรียกจิกเขาว่า ‘หมาตลาด’ คงเพราะเขาอาศัยอยู่กับมารดาที่ตึกแถวในตลาด แต่เธออยู่คฤหาสน์หลังใหญ่ จึงเหยียบเขาให้ต่ำลงด้วยฐานะทางการเงิน ตอนนี้เธอมีดีกรีเป็น
ด็อกเตอร์ ตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดีของมหาวิทยาลัย ฟ้าช่างเล่นตลกกับเขา พาผู้หญิงที่เขาเกลียดขี้หน้าคนนี้มาอยู่ในวงจรชีวิตของเขาจนได้
“ลุงปอนด์ พี่ไม้จะไปหาแม่จ๋า” เสียงเล็กของหลานชาย เรียกคนเป็นลุงให้หลุดจากภวังค์ความคิด
“วันนี้พี่ไม้เลิกเรียนเร็ว แม่เรายังไม่เลิกงาน ลุงจะพาไปส่งบ้านก่อนนะ” เขายื่นมือมาลูบศีรษะเล็กของหลานชาย ผ่อนคลายความตึงเครียดจากหัวใจ
“พี่ไม้อยากไปรับแม่จ๋า” เด็กชายทำหน้ามุ่ย
“เดี๋ยวเย็นๆ แม่จ๋าก็กลับ ไปหาขนมกินแล้วนอนรอแม่จ๋าที่บ้านก่อนนะ ส่งพี่ไม้เสร็จลุงต้องกลับมาทำงานต่อ”
ปรัชญ์ยังมีคาบสอนอีกหนึ่งคาบ และต้องประชุมช่วงเย็น จึงต้องกลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง เขาจึงไปส่งหลานชายก่อนจะกลับมาทำงานต่อ
“แม่ครับ ผมต้องไปทำงานต่อ เดี๋ยวตอนเย็นจะแวะไปรับมัสที่ทำงาน ฝากดูพี่ไม้ด้วยนะครับ”
ชายหนุ่มเอาหลานชายมาส่งที่บ้าน เปรมใจย้ายมาอยู่เชียงใหม่ ก็เปิดหน้าบ้านตกแต่งทำเป็นร้านกาแฟและเบเกอรี่ ชื่อร้านต้นไม้ คอฟฟี่แอนด์เบเกอรี่ ภายในร้านตกแต่งไว้อย่างน่ารักตามสไตล์วินเทจ มีโต๊ะให้นั่งดื่มกาแฟและขนม เปรมใจเปิดหน้าบ้านของตัวเองทำเป็นร้านกาแฟพร้อมกับทำขนมขายนักท่องเที่ยวที่ผ่านทาง ที่นี่มีจุดขายที่การตกแต่งและบรรยากาศ รวมถึงรสชาติของขนมและกาแฟทำให้มีคนแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ตามคำแนะนำปากต่อปากผ่านทางโลกโซเชียล ร้านต้นไม้คอฟฟี่แอนด์เบเกอรี่ จึงเป็นหนึ่งจุดให้นักท่องเที่ยวได้แวะก่อนขึ้นไปบนดอย
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวแม่ดูแลหลานให้ ช่วงนี้นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะ ไม่ยุ่งเท่าไหร่”
เปรมใจมารับหลานเข้าบ้านไป ปรัชญ์ขับรถกลับมาทำงานต่อ ช่วงใกล้เลิกงานมารดาโทรเข้ามาหา พร้อมกับบอกข่าวร้ายว่า หลานชายหายตัวไปจากบ้าน เขาต้องฝากอาจารย์คนอื่นช่วยสอนต่อ รีบกลับมาบ้าน และพบว่าเจ้าตัวน้อยถูกคนช่วยพามาส่งที่บ้านแล้ว
“พี่ไม้แอบขี่จักรยานไปหาแม่ที่รีสอร์ต โชคดีที่มีคนช่วยพามาส่ง มัสเพิ่งกลับขึ้นไปทำงานต่อเมื่อกี้”
เปรมใจบอกลูกชาย ขณะทำตาดุใส่หลานชายตัวแสบ ที่สร้างเรื่องยุ่งจนทุกคนวุ่นวายไปหมด
“ก็พี่ไม้อยากไปหาแม่จ๋านี่ ลุงปอนด์ กับยายเปรมไม่พาไป พี่ไม้เลยไปเองจิ” เด็กชายให้เหตุผลตามประสาแก
“ทำแบบนี้ไม่ได้นะพี่ไม้ ถ้าทำอีกลุงจะลงโทษ และไม่พาพี่ไม้ไปรับแม่จ๋าอีก เข้าใจไหม”
ปรัชญ์อบรมเจ้าตัวเล็ก เขารู้ข่าวรีบกลับมาด้วยความเป็นห่วง หัวใจร้อนรนกลัวว่าหลานจะเป็นอันตรายหรือถูกคนลักพาตัวไป
“คับ พี่ไม้ไม่ทำอีกแล้วคับ”
เด็กชายเข้ามากอดผู้เป็นลุง ใช้ลูกอ้อนให้ลุงใจอ่อน แน่ล่ะ มีหรือปรัชญ์จะไม่ใจอ่อน เขาขยี้หัวทุยสวยกอดร่างเล็กแนบอก หัวใจผ่อนคลายความตึงเครียดลง