ตอนที่ 3 (1)

1444 คำ
3 นอกจากจะเป็นคนขับรถแล้วภีมพลยังต้องผันตัวมาเป็นช่างกล้องมือสมัครเล่นคอยถ่ายรูปสองสาวในสถานที่ต่างๆ ทั้งสองน่ารักสมวัยทั้งคู่แต่ในสายตาเขานั้นไม่มีใครสวยเทียบเท่าอารยาได้ ในรีสอร์ทของฟ้าใสมีเครื่องเล่นมากมายสำหรับคนชอบลุยเสียแต่ไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยนจึงหมดสิทธิ์เล่นคอยยืนมองคนอื่นแทน อีกหนึ่งเหตุผลก็คือความร้อนของสภาพอากาศ ไม่ไหว ขืนดื้อเล่นสาวๆ ต้องมีผิวคล้ำเสียแน่นอน “น้ำมะเขือเทศปั่นเย็นๆ ครับ” หาเครื่องดื่มมาบำรุงผิวพรรณเมียหน่อย สำหรับของเขาเป็นน้ำเปล่าเย็นชื่นใจส่งให้อารยาจิบด้วย สำหรับเขาถือเป็นเรื่องปกติที่กินอะไรร่วมกับหล่อนแต่ดูเหมือนจะแปลกใหม่สำหรับฟ้าใส ภีมพลตีสีหน้าเคร่งขรึมวางมาดเป็นผู้ใหญ่หน้าดุแทบไม่ทัน “ฟ้าเองก็อยากดื่มน้ำเปล่าจังเลยค่ะ” “ขวดนี้ดื่มจะหมดแล้ว เดี๋ยวอาไปซื้อใหม่ให้” “ขอบคุณค่ะ” นางมารตัวน้อยยิ้มมีเลศนัยทันทีที่ภีมพลลุกจากโต๊ะฟ้าใสก็เค้นเอาความจริงจากปากเพื่อนสาวทันที “อายกับอาภีมคบกันเหรอ อะไร ยังไง เล่ามาให้หมดเลยนะอายฟ้าอยากรู้จริงๆ” “เปล่านี่จ๊ะไม่ได้คบ แต่ที่สนิทกันเพราะอายรู้จักอาภีมมานานแล้วแถมอายยังติดหนี้อาภีมตั้งหลายล้าน ชาตินี้จะมีปัญญาจ่ายหมดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฟ้าน่ะคิดมาก” ฟ้าใสพยักหน้ารับยอมเออออตามไปด้วยไม่สงสัยอะไรไปมากกว่านั้นทำให้อารยาพลอยหายใจหายคอง่ายมากขึ้น เรื่องลับระหว่างหล่อนกับเขายังไม่มีคนนอกล่วงรู้ซึ่งถ้ารู้เข้าหล่อนคงแย่ แม้จะสาบานได้ว่าไม่ได้นอนกับเขาแลกเงินหรือล้างหนี้แต่จะมีสักกี่คนเล่าที่ยอมเชื่อ ผู้หญิงจนตรอกอย่างหล่อนใครเขาก็คอยปักหลักดูถูก ใช้ปลายหลอดคนเกล็ดน้ำแข็งในแก้วเล่นไปมา “จะว่าไปแล้ว... อายชอบอาภีมชอบมานานแล้วด้วยแต่อาภีมเกลียดพ่อของอาย” “อายออกจะน่ารักขนาดนี้ทำไมอาภีมจะไม่ชอบล่ะ” ฟ้าใสหวังดี ความหวังดีนั้นอารยาน้อมรับไว้แต่ก็ไม่ได้ดีใจเท่าไหร่นัก ที่รู้ก็เพราะว่าหล่อนใจง่ายไง เขาได้ไปจนหมดแล้วจะเหลือเสี้ยวใจอะไรก้มหน้าลงมามอง อยากตอบออกไปอย่างนั้นทว่าอารยาก็ไม่กล้าเปิดเผยความลับ “ความน่ารักไม่ได้ช่วยเปลี่ยนความรู้สึกของใครสักหน่อย อาภีมเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาไม่สนเด็กกะโปโลแบบอายน่ะถูกต้องแล้ว” “งั้นเรามาลองดูกันสักตั้งไหมว่าอาภีมชอบอายสักนิดหรือเปล่า มีเวลาตั้งเกือบเดือนก่อนเปิดเทอมถ้าได้วางแผนดีๆ รับรองฉลุย” จอมวางแผนหัวเราะหึๆ ในลำคอโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้กระซิบบอกแผนหนึ่ง ราวกับสวรรค์เป็นใจพี่ชายสุดหล่อของหล่อนผ่านมาทางนี้พอดี “พี่เมฆคะ มาทางนี้หน่อยค่ะ ยู้ฮู!” “มีอะไรยัยฟ้าพี่ต้องรีบเข้าฟาร์มน้านทกำลังรอ” “เข้ามาเถอะน่าฟ้าไม่ชอบตะโกนคุย” ฟ้าใสเอาแต่ใจ ลายเมฆส่ายหน้าไปมารีบก็รีบแต่ก็ไม่อยากเฉยชาใส่น้องสาวที่ชาติหนึ่งถึงได้เจอกันทีจึงเดินเข้ามาหายังโต๊ะสีชมพูใต้ร่มไม้ขนาดใหญ่ กำลังจะอ้าปากถามว่าน้องเรียกมาทำไมแต่ใบหน้าหวานของสาวสวยอีกคนกลับทำให้เขาพูดไม่ออก เวรเถอะ วันนี้มึงแปรงฟันหวีผมหรือยังวะไอ้เมฆ “นั่งก่อนสิคะฟ้าอยากแนะนำอายให้พี่เมฆรู้จัก เมื่อตอนบ่ายอายไปบ้านเราแต่พี่เมฆไม่อยู่ก็เลยไม่ได้เจอกัน” คราวนี้ไม่จำเป็นต้องชวนรอบสองพี่ชายสุดหล่อก็นั่งลงและแนะนำตัวให้อารยารู้จักในทันที “พี่ชื่อเมฆครับ” “อายค่ะ เรียนสาขาเดียวกับฟ้าใส” “ได้ยินยัยฟ้าพูดถึงน้องอายบ่อยมากตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกนะครับ” ชมเสียงอ่อนเสียงหวานทว่ากลับมีขวดน้ำวางลงกลางโต๊ะเสียงดัง ทั้งสามต่างพร้อมใจสะดุ้งเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของขวดน้ำหน้ายักษ์ “คุยอะไรกับสาวๆ อยู่เหรอท่าทางน่าสนุกดีนะ” นั่งลงเก้าอี้ว่างข้างอารยาใช้สายตาคมเข้มจ้องมองลายเมฆ เขาไม่ค่อยสนิทกับหนุ่มคนนี้มันจึงไม่แคร์เขาเท่าไหร่นักยักไหล่ชิวๆ ไม่ได้ตอบคำตอบของเขา “ฟ้าแค่แนะนำพี่เมฆกับอายให้รู้จักกันน่ะค่ะ พี่เมฆก็เลยชมว่าอายน่ารัก นี่ถ้าฟ้าไม่นั่งอยู่ตรงนี้อายคงโดนพี่เมฆจีบไปแล้วแน่ๆ” “ฟ้าใส...” อารยาปรามเพื่อนไม่ให้พูดต่อ “ก็มันจริงนี่นามีเหรอฟ้าจะไม่รู้จักนิสัยพี่ชายตัวเอง เห็นไหมอาย ดูสิ พี่เมฆยิ้มกว้างเชียวไม่ปฏิเสธเลยสักคำ” คนน้องมีความสุขในการพูดส่วนคนพี่มีความสุขในการยิ้ม อารยาหัวเราะแห้งๆ เขินอายทั้งสอง หากทุกคนเงียบลงและตั้งใจฟังเสียงรอบโต๊ะสักนิดจะได้ยินเสียงฟันกระทบกันกึกๆ ในปากของภีมพล กัดฟันกรอดหมั่นไส้ไอ้เมฆที่จีบเมียตัวเอง! ฟ้าใสต้องวางแผนให้ลายเมฆจีบอารยาแน่นอนมองปราดเดียวก็รู้แล้ว เห็นทีเขาต้องวางแผนสกัดดาวรุ่งให้รีบร่วง หึหึ รู้แล้วต้องจัดการยังไง “ทั้งสามคนคุยกันตามสบายเลยนะ อาขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” “อายก็อยากไปเข้าห้องน้ำจังเลย” กระซิบบอกแต่ฟ้าใสรั้งไว้บอกว่านี่คือส่วนหนึ่งของแผนการทดสอบความรู้สึกในใจของภีมพลอารยาถึงยอมอดทนทั้งที่ใจร้อนรุ่มๆ กลัวภีมพลจะโกรธที่หล่อนคุยกับผู้ชายอื่น “น้องอายจะอยู่เที่ยวโคราชถึงวันไหนเหรอครับ” “จนถึงปีใหม่ค่ะ คงกลับกรุงเทพก่อนเปิดเทอมสักวันสองวัน” “ดีเลยครับเรามาเคาร์ดาวน์ด้วยกันนะ พี่ได้บัตรคอนเสิร์ตมาหลายใบว่าจะชวนเพื่อนๆ ไป ถ้าน้องอายอยากไปพี่จะยกให้” เขาหยิบจากในกระเป๋าถุงผ้าเก็บเอกสารมาส่งให้ค่อนข้างยับยู่ยี่ อารยารับมาดูรายชื่อศิลปินฟ้าใสเองก็ก้มลงมองด้วยก่อนสาวๆ จะกรี๊ดวงเดอะด้อง “กรี๊ดดดดดดดดด พี่โอมวงเดอะด้อง ไปค่ะไป เราไปกันนะอาย ฟ้าชอบพี่โอมมากเลยอยากไปกรี๊ดให้กำลังใจถึงขอบเวทีคอนเสิร์ต” “ขอบคุณพี่เมฆนะคะสำหรับบัตรคอนเสิร์ต อายไม่พลาดแน่นอนค่ะ” อารยาเองก็กรี๊ดพี่โอมไม่ต่างกันเจอกันวันนั้นเสียดายไม่มีโอกาสได้ขอถ่ายรูป เฮอะ โทรศัพท์หล่อนมีกล้องซะที่ไหนล่ะยัยอาย “ขอฟ้าบ้างสิคะ” กะพริบตาปริบแบมือขอ ลายเมฆส่งให้ไปหนึ่งใบตอบแทนความน่ารักของน้องสาวที่ทำให้เขาได้เจอนางฟ้าเมืองกรุง “เหลือเวลาอีกหลายวันซ้อมร้องเพลงไว้ได้เลยนะรับรองสนุกแน่ พี่คงอยู่คุยด้วยได้แค่นี้นะน้านทกำลังรอ ไปแล้วนะครับน้องอาย” “บ๊ายบายค่ะพี่เมฆ” บอกลาลายเมฆไม่นานภีมพลก็กลับมาพร้อมพาสองสาวไปกินข้าวเย็นนอกบ้านร้านอาหารใกล้ๆ ฟ้าใสกำลังเขี่ยจอโทรศัพท์เช็ดความเป็นมาเป็นไปของเพื่อนในเฟซบุ๊กอยู่ดีๆ ภาคภูมิก็ปรากฏตัวขึ้นในร้านเข้ามานั่งลงเก้าอี้ว่างข้างกายบอบบาง เจ้าหล่อนตกใจมากถึงกับสะดุ้งเบือนใบหน้าไปสบตากับภีมพลเพื่อถาม “ไม่เห็นอาภีมบอกก่อนเลยว่าคุณภูมิก็จะมากินข้าวกับเราด้วย” ถ้ารู้ว่าเขามาหล่อนคงไม่มาหรอกผู้ชายอะไรไม่รู้ชอบแกล้งชอบตื้อ “พี่ภีมเลี้ยงทั้งทีพี่ก็ต้องมากินฟรีเป็นเรื่องธรรมดาสิ มีปัญหามากเหรอยัยเด็กเมืองกรุง” เหน็บเข้าให้หนึ่งหน ฟ้าใสกัดฟันกรอดสะบัดปลายคางใส่กลับมาสนใจโทรศัพท์เหมือนเดิม อารยามองดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นรู้จากสายตาได้ทันทีว่าภาคภูมิคิดอะไรเกินเลยกับฟ้าใส
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม