ตอนที่ 2 (3) จบบท

1200 คำ
“ใช่จ้ะ ป้าเคยเป็นเชฟในโรงแรมของพ่อตาภีมมาก่อน” ท่านเล่าย้อนวัยกลับไปหลายสิบปีก่อนที่พบรักกับสามีเก่าในโรงแรมแห่งนั้น อารยายิ้มแห้งๆ คงจะรู้ตัวว่าเผลอถามเรื่องไม่เข้าท่าออกมา “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ป้าไม่ได้คิดอะไรมากเรื่องมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว หนูอายได้เจอพ่อตาภีมบ้างไหมเขายังสบายดียังจีบสาวรุ่นลูกอยู่หรือเปล่า” “เอ่อ อายเจอท่านเมื่อวานตอนอาภีมกลับบ้านไปเปลี่ยนรถค่ะ ท่านสบายดี” ...และมีนางแบบรุ่นลูกดาวรุ่งพุ่งแรงอยู่เคียงกาย “ป้าก็ถามไปงั้นแหละไม่ได้อาลัยอาวรณ์อะไรหรอก คนเจ้าชู้ยังไงก็เจ้าชู้วันยันค่ำ เรามาทำขนมต่อเถอะจ้ะ” แววตาคุณดุจตะวันเจ็บปวด คาดว่าท่านยังคงรักอดีตสามีแต่เพราะรักตัวเองมากกว่าจึงตัดสินใจเดินถอยหลังออกมา อารยาซ่อนแววตาเสียใจไว้ไม่ให้ใครเห็นรู้สึกกลัวว่าภีมพลจะถอดแบบนิสัยมาจากคุณกรเดชผู้เป็นบิดา ไม่รู้เลย... ลับหลังนอนกับหล่อนแล้วเขาไปนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกบ้างหรือเปล่า แต่ถึงรู้... ก็ห้ามเขาไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ “พรุ่งนี้เช้าป้าจะพาไปทำบุญหนูอายจะได้เห็นหมู่บ้านละแวกนี้ด้วย ตื่นเช้าแต่งตัวสวยๆ รอเลยนะจ๊ะ” จัดแจงขนมตาลใส่กล่องสีหวานเสร็จเรียบร้อยคุณดุจตะวันก็บอกเล่า อารยาดีใจเพราะไม่ได้เข้าวัดนานแล้ว ล่าสุดก็ไปทำบุญหาบิดามารดาคนเดียวที่วัดในกรุงเทพฯ “อายไม่มีชุดเรียบร้อยเลยค่ะคุณป้า เอามาไม่กี่ชุดเป็นกระโปรงกับกางเกงขาสั้นทั้งนั้นเลย” คิดว่ามาเที่ยวไร่เที่ยวฟาร์มใส่ชุดประมาณนี้จะสะดวกสบายมากกว่าดังนั้นอารยาจึงจัดมาแค่ไม่กี่ชุดเท่านั้น “ไม่เป็นไรจ้ะ ตอนเย็นแถวบ้านเรามีตลาดพอดีไว้ป้าจะให้ตาภีมพาไป หรือถ้าตาภีมเล่นตัวไม่ยอมพาไปป้าให้ตาภูมิไปแทนก็ได้” แฉลบหางตามองลูกชายคนโตยังนั่งหลับไม่กระดุกกระดิก จะดูซิว่าตาภีมจะเล่นตัวได้นานแค่ไหน ดูจากที่มันแกล้งงอนไม่ให้อารยาเข้าไร่กับตาภูมิก็พอจะเข้าใจได้ หวงเขา รักเขา แต่กลับทำเฉยเมยใส่เหมือนไม่สนใจไยดี “ไม่รบกวนอาภีมดีกว่าค่ะอายชวนฟ้าใสไปก็ได้” ไปเดินตลาดกับฟ้าใสน่าจะสนุกกว่าเดินกับคนหน้าขรึมเยอะเลย คนอะไรไม่รู้เย็นชาชะมัด ร้อนแค่เวลามีความต้องการเท่านั้นทำเหมือนหล่อนเป็นของตายอยากนอนอยากได้เมื่อไหร่มาหาก็ได้ตลอด พอรุ่งเช้าก็จากไปเหลือไว้แค่ไออุ่นเจือจาง อยากกอดแก้หนาวในช่วงเช้าตรู่ก็ไม่สามารถกอดเขาได้ คุณดุจตะวันยิ้มแกนๆ มองตาสาวสวยแว้บเดียวรู้ได้ทันทีว่ายังไม่หายงอนลูกชายตนเองเรื่องเมื่อเช้าที่ไม่ยอมให้ไปเที่ยวคอกม้าในไร่ “ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจจ้ะไปกับหนูฟ้าก็ดีเหมือนกันรายนั้นชอบเที่ยว” “อาย ป้าดุจ สวัสดีค่ะ” พูดถึงเจ้าตัวก็เดินตัวลอยเข้ามาในบ้านคุ้นเคยกับการเข้าออกบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี คุณดุจตะวันรับไหว้ “สวัสดีจ้ะ ไม่ได้เจอแป๊บเดียวสวยขึ้นเยอะเลยนะจ๊ะ” “แหม... ป้าดุจก็ชมเกินไปหน้าฟ้าก็เดิมๆ ไม่เห็นจะสวยขึ้นเลยสักนิดค่ะ” ว่าพลางใช้สองมือประคองใบหน้าบิดตัวซ้ายทีขวาที อารยาหัวเราะเสียงหล่อนปลุกภีมพลให้สะดุ้งตื่นจากการนั่งหลับมามอง “มาถึงก็ส่งเสียงดังเชียวนะยัยตัวแสบ” ยกมือลูบใบหน้าหล่อเหลาให้เลิกง่วงนอน สงสัยเมื่อคืนเขาจัดหนักจนนอนน้อยไปหน่อยแฮะ “อาภีมนอนหลับไปเลยค่ะฟ้าไม่พูดด้วยหรอก อาย... ไปเปลี่ยนชุดเร็วเข้าใส่เสื้อแขนยาวกับหมวกด้วยนะฟ้าจะพาไปเที่ยวรอบไร่อาภีมไว้ค่อยไปเล่นเครื่องเล่นในรีสอร์ทพ่อแม่ฟ้า รับรองว่าสนุกแน่นอนจ้ะ” “อาเองก็อยากไปสวัสดีพ่อแม่ฟ้าเหมือนกัน รอด้วย” สองสาวหันมองภีมพลเป็นตาเดียวส่วนคุณดุจตะวันยิ้มมุมปากชอบอกชอบใจ “มองอะไรเล่า ไปสวัสดีแป๊บเดียวก็กลับแล้ว รีบไปเปลี่ยนชุดสิอาย” “ค่ะๆ” อารยาขานรับ เดินตามหลังภีมพลขึ้นไปบนบ้านเปลี่ยนใส่ชุดทะมัดทะแมงกางเกงยีนขาสั้นเสื้อยืดสีขาวสวมทับด้วยแจ็คเก็ตตัวใหญ่ของภีมพล เขาชอบเอาเสื้อผ้ามาทิ้งไว้หอหล่อนแล้วไม่เอากลับไปหล่อนจึงชอบใส่เสื้อแขนยาวของเขาบ่อยๆ ตัวใหญ่แถมยังอุ่นอีกด้วย ภีมพลเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนตอนหล่อนแต่งตัวเสร็จพอดี “ข้างนอกแดดแรงจะตายอายไม่ได้เอากางเกงยีนมาด้วยเหรอ” “อายว่าจะชวนฟ้าใสไปเดินตลาดตอนเย็นถึงจะซื้อใหม่ค่ะ คุณป้าบอกพรุ่งนี้จะพาไปทำบุญที่วัด” นั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งหยิบแป้งฝุ่นมาเติมหน้าเล็กน้อยกับทาปากสีชมพูอ่อนบางๆ ไม่ให้หน้าซีดเกินไป เงาสะท้อนกระจกเห็นภีมพลกลอกตามองแรงแล้วเดินออกไปจากห้อง ตามลงมาข้างล่างเห็นภีมพลขับรถยนต์มาจอดเทียบหน้าบ้าน ฟ้าใสยกมือเรียก “อ้าว ตอนแรกอายนึกว่าเราจะไปด้วยรถของฟ้าซะอีก” “ตอนแรกก็ตั้งใจอย่างนั้นแหละแต่อาภีมบอกแดดร้อนก็เลยอาสาจะขับรถพาพวกเราเที่ยวแทน ช่างเถอะ ดีซะอีกไม่ต้องขับรถให้เมื่อยมือ เราขึ้นรถกันเถอะอาย” ฟ้าใสชวนเสียงสดใสอารยาพยักหน้ารับก่อนหันหลังกลับไปรับกล่องขนมตาลจากมือคุณดุจตะวันที่เดินออกมาส่ง “เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะหนูอายหนูฟ้า” ท่านโบกมือลากระทั่งรถลูกชายเคลื่อนออกพ้นประตูบ้านไม้กลางไร่องุ่นปากบ่นพึมพำตามหลัง “กะเทาะปากคนปากแข็งด้วยวิธีไหนถึงจะสำเร็จนะ ช่วยฉันคิดหน่อย” “ของแข็งต้องถูกของที่แข็งมากกว่ามาสู้ถึงจะสำเร็จค่ะคุณนาย” สาวใช้คนสนิทรีบรุดกายเข้ามาแสดงความคิดเห็นหัวเราะคิกคัก “เอ๊ะ แล้วอะไรล่ะแจ๋วที่แข็งมากกว่า” คุณนายเลิกคิ้วขึ้นสูงมองหน้าแจ๋ว แจ๋วยิ้มกว้างมาดมั่นราวกับมีแผนแต่กลับส่ายหน้าปฏิเสธ “แจ๋วก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” แจ๋วกะพริบตาปริบทีหนึ่ง “โธ่... ไอ้เราก็อุตส่าห์รอฟังนึกว่านานทีจะมีความคิดดีๆ” คุณนายดุจตะวันถอนหายใจเดินกลับเข้าไปในบ้านไม้หลังใหญ่ส่วนแจ๋วยังคงยิ้มร่าเริงตามคุณนายเข้าบ้านแยกตัวไปทำงานของตัวเองในห้องครัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม