เรียวขาสวยถูกจับแยกออกจากกันอย่างรุนแรงก่อนอนาคินจะกระแทกตัวตนเข้าหาช่องหลืบหวานฉ่ำพรวดเดียวจนสุดทาง ไม่สนเลยว่ามันจะทำให้อีกคนต้องปวดร้าวกับการการกระทำของเขาสักแค่ไหน นาทีนี้เขาสนแค่ว่าเธอจะสำนึกได้หรือเปล่าเท่านั้น ว่าไม่ว่าจะเป็นตัวหรือแม้แต่ลมหายใจแผ่วๆ ของเธอตอนนี้ มันเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาคนเดียวเท่านั้น!
“ฮึก! ฉันเกลียดคุณ ได้ยินไหมว่าฉันเกลียด! โอ้ย!!” จันทริกากรีดร้องเสียงสั่นก่อนมันจะกลายเป็นเสียงร้องเมื่อคนใจร้ายเริ่มต้นขยับสะโพกอย่างรุนแรง เน้นย้ำทุกสัมผัสการขยับโยกราวกับจะทำให้เธอเจ็บปวด ทุกๆ การกระทำของเขาทำให้หญิงสาวได้แต่ร่ำไห้อยู่ในอก เกลียดเขาว่าหนักมากแล้วแต่เธอกลับเกลียดตัวเองมากกว่าที่ดันรู้สึกดีกับสัมผัสอันหยาบกระด้างไร้ความนุ่มนวลของเขาจนเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับมัน
“อ่าส์…ขนาดถูกผมกระแทกทุกวันคุณยังแน่นขนาดนี้ ผมล่ะอยากจะรู้จริงๆ ว่าไอ้อาทิตย์มันจะรู้สึกยังไงถ้าได้รู้ว่าตอนนี้น้องสาวที่มันหวงนักหวงหนาไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องอีกแล้ว อื้ม...” อนาคินเอ่ยขึ้นพร้อมขยับโยกรัวเร็วเมื่อสัมผัสได้ว่าคนตัวเล็กใต้ร่างใกล้จะถึงฝั่งฝัน ไม่ช้าเสียงหวีดร้องของคนใต้ร่างก็ดังขึ้นนั่นทำให้เขาแสยะยิ้ม เมื่อส่งเธอถึงสวรรค์ได้สำเร็จ
“ยังเสร็จเร็วไม่เปลี่ยนเหมือนเคย ทีนี้ตาผมบ้าง”
“อ๊ะ! คุณคิน” อนาคินกระชับเรียวขาให้อ้ากว้างขึ้นอีกนิดก่อนที่เขาจะกระแทกกระทั้นอยู่หลายครั้ง ชายหนุ่มขบกรามแน่นก่อนจะครางต่ำ เมื่อความปรารถนาของตนเองทะยานถึงขีดสุด สายธารรักขาวขุ่นค่อยๆ ไหลเข้าสู่เรือนร่างเย้าอารมณ์เต็มกำลังจนล้นทะลัก
ไร้ซึ่งเครื่องป้องกันเหมือนทุกครั้ง
จันทริกาถึงกลับไข้ขึ้นในเช้าวันใหม่ หญิงสาวรู้สึกปวดร้าวไปทั่วตัวเมื่อตื่นขึ้น ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับคนใจร้ายที่ตอนนี้กำลังยืนแต่งตัวด้วยชุดทำงานเหมือนทุกวัน ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเขารังแกเธอจนไม่ให้มีเวลาหยุดพัก แต่เขากลับยังคงความปกติไว้ทุกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่างจากเธอ ที่รู้สึกเหมือนคนใกล้จะหมดลมหายใจ
“วันนี้ไม่ต้องไปทำงาน! เดี๋ยวผมจะให้คนเอาข้าวมาส่งให้” เสียงเข้มหันกลับมาบอกคนที่เอาแต่นอนนิ่งไม่ยอมพูดยอมจา สายตาของเขาจ้องสำรวจไปทั่วไหล่เปล่าเปลือย แม้จะรู้สึกผิดที่เผลอพลั้งมือทำให้ผิวขาวสะอาดสะอ้านมีรอยบอบช้ำเพิ่ม แต่ก็ไม่คิดที่จะเอ่ยคำขอโทษใดๆ ออกมาเพราะไม่อยากให้อีกคนต้องเคยตัว
“ผมพูดด้วยไม่ได้ยินรึไง!!” แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่มีทีท่าว่าอีกคนจะตอบรับ นั่นเลยทำให้เขาที่อารมณ์ดีขึ้นเริ่มชักจะหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบจนต้องตวาดถาม ก่อนจะเดินเข้ามากระชากร่างบอบบางให้ลุกขึ้นจากเตียง
“ค่ะ”
“แล้วก็จัดการกับสารรูปตัวเองให้พร้อมใช้งานสำหรับคืนนี้ด้วย! ค่าตัวของคุณมันสูงใช่เล่น ผมต้องใช้มันให้คุ้มค่าทุกวินาที!” จันทริกาไม่ได้ตอบโต้อะไรนอกจากจ้องมองคนใจร้ายที่ผละตัวถอยห่างทันทีที่พูดจบด้วยสายตาเกลียดชังจับหัวใจ ไม่นานจึงได้เอ่ยกลับไป
“ฉันต้องทนอยู่ในสภาพแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนคะ”
“คุณว่าไงนะ” คนที่ทำท่าจะเดินออกไปจากห้องจำต้องหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยถามอย่างหงุดหงิด
“ฉันอยากรู้กำหนดเวลาที่แน่นอน คุณจะให้ฉันอยู่เป็นที่รองรับอารมณ์ของคุณไปอีกนานแค่ไหน กี่วัน กี่เดือน ฉันจะได้นับวันรอที่จะได้เป็นอิสระจากคนอย่างคุณ!”
“คิดว่าผมจะพิศวาสคุณนักรึไง ไม่ต้องห่วงไปหรอกจันทริกา ผมมันเป็นพวกเบื่อง่าย ถ้าผมรู้สึกว่าคุ้มค่าเมื่อไหร่เมื่อนั้นคุณจะรู้เป็นคนแรก แต่ตอนนี้ถ้าคุณยังอยู่ในกรรมสิทธิ์ของผมอยู่ ผมไม่อนุญาตให้คุณไปยุ่งวุ่นวายกับใครหน้าไหนทั้งนั้น เพราะถ้าคุณทำ…สัญญาระหว่างเราสองคนจะถือเป็นโมฆะทันที!” สิ้นคำตอบอนาคินก็เดินออกไปจากห้องพร้อมปิดประตูไล่ตามหลัง ทิ้งไว้แต่จันทริกาที่ปล่อยน้ำตาออกมาทันทีที่เขาจากไป
หญิงสาวใช้เวลาที่เหลือนอนพักเอาแรงก่อนจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงเย็นเมื่อเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
“พี่อาทิตย์” เมื่อเห็นว่าเป็นพี่ชายเธอก็ไม่รีรอที่จะรีบกดรับในทันที
“จันทร์เป็นยังไงบ้าง! พี่ขอโทษที่ต้องหนีมาแบบนี้” เสียงร้องบอกที่เต็มไปด้วยความกังวลของพี่ชายทำให้คนฟังต้องเสียน้ำตาอีกรอบ แม้จะรู้สึกโล่งอกที่อีกฝ่ายปลอดภัย แต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้ที่เขาทอดทิ้งให้เธอต้องอยู่เผชิญหน้ากับสิ่งที่เขาก่อขึ้น ก่อนที่ตัวเองจะหนีไปพร้อมคนรักแบบนี้
“พี่อาทิตย์ทำแบบนี้ทำไมคะ” หญิงสาวเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัวเลยว่าใครบางคนไขกุญแจเข้ามาในห้องซ้ำยังยืนนิ่งฟังทุกๆ คำที่เธอพูดคุยกับพี่ชายจากด้านหลังด้วยท่าทีเย็นชา
“คุณอรท้อง ตอนนี้พี่หนีมาอยู่ที่ต่างจังหวัดบ้านเกิดของเขา เราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน จันทร์เข้าใจพี่นะ ถ้าพี่ไม่ทำแบบนั้น พ่อกับแม่ของคุณอรเขาขู่ว่าจะให้คุณอรเอาเด็กออก” จันทริกาได้แต่รับฟังคำสารภาพทั้งหมดจากปากของพี่ชายทั้งน้ำตา เธอรู้ว่าพี่ชายคงไม่ได้ตั้งใจทำเรื่องแบบนี้ ที่เขาต้องตัดสินใจทำก็เพราะไม่มีทางอื่นให้ได้เลือกก็เท่านั้นเอง