บทนำ
ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบภายในห้องทำงานใหญ่ ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ต่างอะไรไปจาก ‘ลานประหัตประหาร’ สำหรับคนที่เอาแต่ก้มหน้านิ่งเลยสักนิด ทุกอย่างรอบกายพร้อมใจกันตกอยู่ท่ามกลางความเงียบทันทีที่ ‘เธอ’ ตัดสินใจเอ่ยบางสิ่งออกไป…
“คุณกำลังจะบอกผม ว่าตัวคุณมีค่าถึงสามล้านบาทอย่างนั้นใช่ไหม!” น้ำเสียงอันทรงพลังที่ดังขึ้นภายในห้องทำงานหรูบนชั้นยี่สิบสี่ทำเอาร่างบอบบางของพนักงานต้อนรับสาวเริ่มสั่นเทาอย่างหนัก แต่ก็เป็นเช่นนั้นได้เพียงไม่นาน ดวงตากลมใสรับกับใบหน้ารูปไข่ถึงได้ค่อยๆ เงยขึ้น
หญิงสาวสบตาคู่ดุดันของผู้ซึ่งเป็นเจ้านายก่อนจะตอบรับไปด้วยน้ำเสียงติดกังวลกับข้อเสนอที่เธอเพิ่งจะหยิบยื่นให้อีกฝ่ายได้พิจารณาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าข้อเสนอที่แม้แต่ตัวของเธอเองยังตกใจที่เผลอเอ่ยออกไปด้วยกลัวว่าเขาจะทำอันตรายใครอีกคน ใครบางคนที่มีความสำคัญมากเสียจนเธอไม่สามารถนิ่งนอนใจ ปล่อยให้ภัยอันตรายตามเขาคนนั้นไปได้
“ถะ…ถ้าคุณคินจะกรุณา ฉันจะยอมทำอะไรก็ได้ที่คุณสั่งค่ะ ขอแค่อย่างเดียว คุณอย่าทำร้ายพี่ชายของฉันเลยนะคะ…” อาทิตย์ บุญกอบเกื้อ คือพี่ชายซึ่งตอนนี้หอบเอาเงินที่แอบยักยอกจากบริษัท ไททัน แกรนต์ บริษัทส่งออกน้ำหอมชั้นดีหนีไปพร้อมกับอรสุมาแฟนสาว โดยทิ้งให้เธอ ซึ่งเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวให้ต้องอยู่รับผิดชอบความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ซึ่งแม้ว่าตอนแรกเธอปฏิเสธที่จะไม่เชื่อในทุกคำกล่าวหาที่ ‘เขา’ บอกให้ได้รู้ แต่แล้วเมื่อเจอเข้ากับหลักฐานไม่ว่าจะเป็นจากกล้องวงจรปิด หรือแม้แต่ยอดเงินจำนวนสามล้านบาทที่ถูกโอนเข้าบัญชีพี่ชายเธอ หญิงสาวจึงหมดคำพูด เพราะรู้ดีว่าพี่ชายซึ่งทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินของบริษัท คงไม่มีทางหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาได้ง่ายๆ แน่เมื่อเทียบกับเงินเดือนหลักหมื่นที่เขานั้นได้รับในแต่ละเดือน
สุดท้ายเธอก็จำนนเข้ากับหลักฐานที่มัดตัวพี่ชายของเธอไว้อย่างแน่นหนา จำเป็นต้องยอมรับว่าพี่ชายของเธอทำเรื่องบ้าๆ นั้นลงไปจริงๆ และที่เหมือนจะเลวร้ายกว่านั้นคือเจ้าของเงินยังเป็นเขา คนที่กำลังทวงคืนถึงความชอบธรรมจากเธอ ซึ่งเป็นน้องสาวของคนทรยศต่อเขา ต่อบริษัท!
“คุณยอมทำทุกอย่าง แม้กระทั่งติดคุกแทนมันด้วยใช่ไหม!” อนาคิน สุขศรีปราโมท เอ่ยถามอย่างลองใจหญิงสาวตรงหน้า เมื่อได้เห็นใบหน้าอ่อนหวานเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา แต่แทนที่จะรู้สึกสงสารเขากลับรู้สึกสมเพชเวทนาหล่อนมากกว่า นี่คงจะเป็นมารยาที่หล่อนได้รับมาจากพี่ชาย คนที่เขาทั้งรักและไว้ใจมันมากกว่าใคร แต่มันกลับทรยศกันด้วยการกระทำที่ยากจะให้อภัยได้ คนอย่างเขาฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ฉะนั้นใครทำอะไรก็ควรได้รับบทเรียนที่สาสม!
จริงอยู่ที่ว่าเงินสามล้านไม่ใช่เงินมากเลยสำหรับคนอย่างเขา แต่มูลค่าของความรู้สึกที่เขาต้องสูญเสียไปเพราะคนที่สู้อุตส่าห์ให้โอกาส ซ้ำยังรักมันเหมือนพี่ชายคนหนึ่งหักหลัง นั่นต่างหากที่ต้องเอาคืนให้สาสม
“ถ้านั่นมันเป็นสิ่งที่คุณต้องการ ดิฉันก็ไม่ขัดข้องค่ะ” คนที่กำลังถูกต้อนให้จนมุมใช้เวลาคิดไม่นานก็ให้คำตอบ ในเมื่อเธอเสนอตัวมาให้เขาทั้งที่แต่เขากลับไม่สนใจ ก็คงต้องเหลือแค่ทางเลือกสุดท้ายแล้วตอนนี้ ทางเลือกที่จำต้องชดใช้แทนพี่ชายที่ตอนนี้ได้หอบเงินของเขาหลบหนีไปไหนก็ไม่อาจทราบได้ พี่ที่เป็นดั่งญาติคนสุดท้ายในชีวิตคนที่คอยปกป้องดูแลเธอมาตลอดตั้งแต่จำความได้พี่ชายที่แสนจะจิตใจดีและไม่เคยเลยสักครั้งที่อาทิตย์ที่กล้าทำเรื่องที่ผิดกฎหมายแบบนี้
แต่ตอนนี้เขากลับกล้าทำมัน ซ้ำยังทิ้งให้เธอต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมอันโหดร้ายเพียงลำพัง โชคชะตาที่เธอไม่อยากจะรับมันเอาไว้แต่ก็ต้องรับเพราะไม่มีทางอื่นใดให้ได้เลือก
“ดี!” อนาคินเค้นตอบเสียงแข็ง
นึกอยากจะลุกเข้าไปกระชากแม่คนอวดดีตรงหน้ามาสั่งสอนเสียให้ราบจำ หล่อนจะได้ไม่ทำตัวหยิ่งผยองกับเขาอีก ชายหนุ่มล้วงไปหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาใครบางคน ก่อนจะกดวางสายเมื่อเอ่ยถึงความต้องการของตัวเองกับอีกฝ่ายเสร็จสิ้น ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับอมร มือขวาคนสนิทที่ปรากฏตัวขึ้นตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย
“ครับนาย” อีกฝ่ายเอ่ยเพื่อรอรับคำสั่งจากนาย สายตาดุดันจ้องมองหญิงสาวอีกคนซึ่งสวมชุดพนักงานต้อนรับด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่อาจเอ่ยถามอะไร
“พาผู้หญิงคนนี้ลงไปเก็บข้าวของที่ชั้นล่าง แล้วพาเธอไปส่งที่…” อนาคินเว้นระยะคำพูดเอาไว้ชั่วครู่ก่อนที่เขาจะเอ่ยขึ้นต่อไป..
”คอนโดฉัน” ซึ่งคำตอบของเขาที่ดังขึ้นมันสร้างความตกใจทั้งคนสนิทและหญิงสาวอีกคนเมื่อได้ยิน!
จันทริกาได้แต่เดินไปมาเดินอยู่ในห้องอย่างคนคิดไม่ตกนับตั้งแต่ถูกจับมาขังไว้ในห้องนี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าของห้องต้องการอะไร เขาถึงยังไม่ยอมจับเธอส่งตำรวจแต่เลือกที่จะขังเธอเอาไว้แบบนี้
เสียงเปิดประตูห้องที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวสะดุ้งขึ้นอย่างตกใจ เธอจ้องมองร่างสูงใหญ่ของอนาคินที่เดินเข้ามาใกล้ ท่ามกลางความรู้สึกหวาดหวั่น แค่เพียงได้เห็นแววตาของเขาใจทั้งดวงก็สั่นวูบอย่างรุนแรงแต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรออกไปอีกฝ่ายกลับเอ่ยถามขึ้นมาเสียก่อน ราวกับว่าเขาจะไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้เอ่ย หรือพูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว