Chapter 13
“เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว... พี่จะระวัง พุดกอดพี่แน่น ๆ” พูดเท่านั้น ร่องทางเปียกชุ่มที่ห่อหุ้มตัวตนของเขาเอาไว้เพียงเสี้ยวจำต้องเบิกออกกว้างจนฉีกออกตามแรงกดของสะโพกสอบ ร่างหนายัดเยียดตัวตนเข้าไปอย่างเร่าร้อน
“อ๊าย... พี่เปา...!” เสียงหวีดร้องดัง น้ำหยดใสก็ไหลลงอาบแก้ม เรียวขาสั่นเทาพยายามหนีบสะโพกสอบไว้อย่างไร้หนทางพึ่ง สองมือตะปบแผ่นหลังแกร่งหวังระบายความเจ็บปวดปานร่างจะฉีกขาดจากกัน
“เจ็บนิดเดียว... ที่รัก เด็กดีของพี่...” ในถ้อยคำปลอบ เขาพยายามอดทนจนถึงที่สุดเพราะสงสารคนตัวเล็กที่ควรจะต้องปรับตัวกับขนาดของแก่นกายใหญ่ยักษ์ ด้วยสรีระของลูกครึ่งอย่างเขา มันแผ่ขยายตัวเต็มที่ภายในช่องรัดร้อนตอดตุบ
“พุดรักพี่เปา...” คำรักแสนหวานปรากฏอยู่ทั้งใบหน้ากระทั่งในดวงตา เธอกำลังมีความสุขที่ได้เป็นของเขา...
“พี่รู้... พี่ก็รักพุด” มุมปากหนายกยิ้ม ซับหยาดน้ำตาที่ร่วงไหลด้วยจุมพิตแผ่วเบา ไล่เรียงบนใบหน้านวลจนรู้สึกถึงคนเจ็บเริ่มสงบ จากสองแขนเรียวที่กอดรัดรอบคอเขาแน่นค่อยผ่อนคลายลง ภายในช่องทางคับแคบก็ปรับรับไปตามขนาดของสิ่งแปลกปลอมตามธรรมชาติของมัน
มือหนาลูบต้นขาด้านในแล้วกดไว้เพื่อถอนตัวตนออก พลันฝากฝังความรักใคร่เท่าที่ตัวเขาจะสามารถกระทำ
“พี่เปา... อ๊า... อื้อ...!” เสียงคร่างระเส่า มันมีแค่ความเจ็บล้วนๆก่อนที่ความรู้สึกซ่านสยิวจะค่อยๆแผ่ซ่านสู่กายเหมือนยาเสพติดซึมเข้ากระแสเลือด
สะโพกหนั่นแน่นส่งแรงกระแทกมาอย่างไม่มีหยุดยั้ง ด้วยจังหวะเร่งเร้าที่พาสองมือเรียวเล็กปัดป่ายไปทั่วแผ่นหลังกว้าง จิกปลายเล็บลงไปในเนื้อ รอยข่วนเล็ก ๆ ทว่าแสบสันยิ่งปลุกความดิบเถื่อนในตัวเขาให้พุ่งทะยาน
“พุทรา... พุดของพี่โคตรฟิต... พี่จะขาดใจเพราะเราแล้วคนดี อา... พุด” บางครั้งเขาก็ส่งเสียงออกมาดังกว่าคนใต้ร่าง
ดวงตาสีฟ้าครามลุกวาวเจิดจ้าสบไปยังวงหน้าหวานยุ่งเหยิง หากในความรู้สึกกลัวว่าจะไปถึงจุดฝั่งฝันก่อนเพราะทนไม่ไหว เพราะความรุ่มร้อนปรารถนาอันแสนยาวนาน เขาจะคอยผละใบหน้าออกซุกหมอนไว้แล้วกอดร่างบางไว้แน่นๆ แนบชิดสนิทอย่างไม่มีช่องว่างระหว่างกัน
เสียงของเนื้อกระทบกันพร้อมร่างบางที่แอ่นกายรับความรักของเขาอย่างไม่มีบ่ายเบี่ยง ไม่มีคำว่าหยุด... หรือแม้แต่จะปราณีเหมือนเขาได้กลายเป็นคนขาดสติ
บ้าคลั่ง ป่าเถื่อน ตามอารมณ์ดิบ ๆ ที่ไม่รู้ว่าหากไม่ได้รับการปลดปล่อย เขาจะเป็นอย่างไรต่อไป แรงถี่ระรัว เร็วแรงของสะโพกสอบที่ส่งแรงกระแทกอย่างเต็มเหนี่ยว ราวม้าศึกชั้นดีควบทะยานท่ามกลางหนทางที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสี ภายใต้คิ้วเข้มหนาที่เรียบขนานกันผูกเป็นปมตรงหว่างคิ้ว
“พี่เปา... อ๊า! พุดเสียว...” เธอได้แต่เรียกชื่อเขาซ้ำไปซ้ำมา ส่งเสียงครางไม่ได้ศัพท์เพราะอารมณ์ประหลาด ความเจ็บปวดแสนหวานที่พ่อเลี้ยงมอบให้ปลุกตัวตนของเธอขึ้นมาให้กลายเป็นผู้หญิงอีกคน เหมือนคำบอกเล่าของเพื่อนสาวมากประสบการณ์บางคนว่าท่อนร้อน ๆ นี้สามารถสร้างความหฤหรรษ์ให้มากมากมายเท่าไร
เป็นเรื่องที่ปรายลดาจินตนาการไม่ออก... จนถึงวินาทีนี้ ที่ได้อยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น อ่อนโยน ความรุ่มร้อนแรงตัณหาเติมเต็มให้เธอเป็นสาวร่านรักอย่างสมบูรณ์แบบ เธอคงพลีกายให้เขาได้ชื่นชม ตักตวงความหวานทุกวัน หากรู้ว่ามันสุขสมอย่างไร้คำบรรยาย
“พี่ไม่ไหวแล้วพุด... โคตรฟิต พี่จะแตก... อื้ม...!” เสียงคำรามลั่นราวเสียงของสัตว์ป่า แสงสาดจ้าสะท้อนเข้านัยน์ตา เลือดร้อน ๆ ในเรือนกายวิ่งไปรวมในจุดจุดเดียว
“พี่เปา.. อ๊ายย!” เธอหวีดร้องลั่น เมื่อรับรู้ถึงกระแสธาราที่พรั่งพรูเข้ามาราวคลื่นน้ำลูกใหญ่ กระโจนกายกระตุกเกร็งขึ้นไปคว้าดาวพร่างพราวบนฟากฟ้ามาชื่นชม
ชายหนุ่มปลดปล่อยทุกหยาดหยดเข้าสู่ส่วนลึกสุดกายสาว ฝากฝังความรักและหวงแหนเต็มแรงกำหนัดสองสามครั้ง เจิ่งนองในช่องทางคับแคบที่ตอดรัดแน่นตุบเป็นจังหวะ มันมากล้นจนไหลทะลักออกทางเดิม
“คนสวยของพี่เสร็จแล้วใช่ไหม?” วงหน้าคร้ามคมโปรยยิ้มละมุน พอดวงหน้าแดงก่ำพยักหงึกหงัก โยนลมหายใจหอบสั่นทั้งที่ยังกอดคอแน่น เขาฝังจูบลงตรงขมับขาวเนียน กระซิบเสียงพร่า
“พุทราของพี่... เอามันขนาดนี้ คืนนี้พี่ไม่ให้นอนนะ”
ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงก่อนที่จะหรี่เล็กลงอีกครั้ง “อ๊ะ พี่เปา.. อื้อ... ไม่ไหวแล้วค่ะ”
สุ้มเสียงปฏิเสธเต็มไปด้วยความเสียวซ่าน เมื่อมังกรร้ายเริ่มผลุบเข้าผลุบออก สะโพกแข็งเกร็งขยับต่อด้วยความเร็วแรง ตักตวงความหอมหวานมาชิมชม ได้เสพความสุขสมครั้งหนึ่ง แล้วเขาคงไม่มีทางเลิกราง่าย ๆ!
เสียงนาฬิกาปลุกดังเตือนถี่หลายสิบนาที... ในอุณหภูมิห้องเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศที่ทำให้เรือนร่างงามต้องคลอเคลียแผงอกกว้างอยู่พอประมาณอย่างเกียจคร้าน ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ปรือเปลือกตาหนักอึ้งขึ้นมองเจ้าของท่อนแขนอุ่น พลิกตัวหันกลับไปมองนาฬิกาบนฝาผนัง
“สิบโมง!” โวยวายหน้าตื่นตะลึง ปรายลดาคว้าชุดกระโปรงนอนสีหวานที่กองอยู่บนพื้น ใช้เป็นที่กำบังกายพรวดพราดเข้าห้องน้ำไป แม้แต่ละย่างก้าวจะสะท้านสะเทือนจนต้องห่อริมฝีปากเพราะความเจ็บร้าวระบม ความเป็นคนขี้ลืมยังทำให้เธอวิ่งมาปิดเสียงหนวกหูน่ารำคาญก่อนแล้วเข้าไปใหม่
เธออาบน้ำอย่างรวดเร็วที่สุด อดไม่ได้ที่จะนึกโมโหหนุ่มวัยสี่สิบสองปีที่ทำตัวเป็นเด็กวัยรุ่น ความเร่าร้อนจัดจ้านของเขายังไม่ได้หยุดแค่เตียงนอน ห้องสี่เหลี่ยมที่จัดสรรสัดส่วนเป็นอย่างดีตอนนี้กลายเป็นว่าเล็กแคบลง จากทุกท่วงท่าอารมณ์หนักหน่วงครบถ้วนทุกกระบวนท่าบนเตียงร้อนลุกเป็นไฟ!
เสื้อผ้าในตู้ที่พับวางไว้เรียบร้อยถูกรื้อออกมากระจัดกระจาย หนังสือปากกาบนโต๊ะ บนชั้นวางของพ่อคุณก็กวาดลงพื้น เขาอุ้มเธอไปได้ทั่วทุกมุมห้องแม้แต่บนโต๊ะอาหาร คงจะขาดแค่ระเบียง... ที่ไม่ได้ไป
มันต้องมีรสนิยมทางเพศพิสดารขนาดไหน!
แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยดีเธอก็รีบหยิบของใส่กระเป๋า ขณะที่เสียงกุกกักหน้าโต๊ะเครื่องแป้งปลุกชายร่างกำยำให้ลุกโซเซไปกอดเธอเอาไว้จากข้างหลังอย่างเร่าร้อน ซุกจมูกลงสูดกลิ่นหอมอ่อนของเส้นผมสีดำขลับ
“พุด... ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกพี่?”
“พี่เปาไม่ค่อยได้นอนนี่คะ นอนไปเถอะ พุดนั่งมอเตอร์ไซค์ไปเรียนเองได้” เธอบอก มือหยิบแป้งหลายตลับปกปิดรอยจ้ำแดงตามหน้าอกและลำคอ พร้อมด้วยรองพื้นอย่างหนา
ในเสื้อแขนสั้นสีขาวตัวหลวม ๆ กระโปรงยาวถึงตาตุ่มดูเรียบร้อยดียังแฝงความน่ารักไว้ตรงเข็มขัดเหนือเอวเล็ก ๆ รับอกอวบอัด ผู้หญิงซ่อนรูปอย่างพุทราสามารถปลุกอารมณ์ชายผู้หิวโหยที่ไม่รู้จักคำว่าอิ่ม
“โดดเรียนสักวันไม่ได้เหรอ...?”
“ไม่ได้ค่ะ ถ้าพุดไม่จบเทอมหน้านี้นะ พุดจะโกรธพี่เปา”
“พุดโกรธพี่ พี่ยอม... ขอแค่ได้กินพุทราหวาน ๆ” ยกยิ้มอย่างออดอ้อน หลุบตามองผ้าปูที่นอนเปรอะเปื้อนเลือดสีแดงเป็นหยดหย่อม ความสุขล้นในใจก่อตัวขึ้นกับการเป็นผู้ชายคนแรกของปรายลดา... พอ ๆ กับความหวงแหนที่มีมากกว่าเดิม
เป็นโชคดีของเขากับแม่อนงค์ที่ดูแลเด็กสาวคนนี้มาเป็นอย่างดี
“พี่อาบน้ำแต่งตัวไม่นาน ไม่เกินสิบนาที พี่จะไปส่งเมียพี่... จะได้ไม่มีเห็บตัวไหนมาเกาะ” บอกแล้วก็รีบไปจัดการกับตัวเอง เพื่อที่จะพานักศึกษาไปส่งให้ทันเวลา ถึงมีคนมองค้อนวงโต เพราะไม่พอใจที่ถูกว่าเป็นหมา!
ไม่กี่นาที ชายหนุ่มก็ออกมาจากห้องน้ำ ในแผงอกเปลือยเปล่า หยดน้ำเกาะเป็นเม็ดเล็ก ๆ แซมอยู่ทั่วเรือนกายกำยำเป็นล่ำสันที่ถึงจะเห็นอยู่บ่อย ๆ เธอก็ยังไม่ชินสักที
กิจวัตรประจำวันของปรายลดาที่จะคอยจัดแจงซักรีดเสื้อผ้าไว้ให้พ่อเลี้ยง แล้วแต่ว่าวันไหนเขาอยากใส่สีอะไร วันนี้เขาแค่ให้เธอหยิบเสื้อให้เขาเอง
เธอก็คงจะต้องเลือกสีของท้องทะเล... สีเดียวกับนัยน์ตาคู่คมเข้มที่เธอหลงใหลเป็นที่สุด เสื้อเชิ้ตสีฟ้าครามอ่อน คนรับเสื้อสะอาดหอมไปสวมมัน โดยไม่ละวางตาจากวงหน้าหวานที่หลุบไปอีกทาง
“พี่ว่า... ถ้าพุดใส่เสื้อใส่กางเกงให้พี่ มันน่าจะเร็วกว่านี้” เขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร ยามใบหน้าเล็กคอยลอบมองหน้าท้องเกร็งเครียด กางเกงสแล็คสีดำมีมุมแหลม ๆ ของมันอยู่อย่างไม่ต้องบอกเลยว่าพร้อมเสมอ
“จะไม่ได้ไปเรียนน่ะสิ”
ปรเมษฐ์ลอบยิ้ม มือกระตุกเสื้อติดกระดุมทีละเม็ด โน้มตัวลงเอ่ยใกล้ ๆ แก้มแดงฉ่ำ “ไม่เสียเวลามากนักหรอก”
ปลายจมูกโด่งเป็นสันคมยังสูดดมกลิ่นหอมอ่อนตรงนั้นเพื่อรออะไรบางอย่าง กระทั่งคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นมองริมฝีปากหนาหยักได้รูปกระตุกหัวใจเธออีกครั้ง
“พี่รักพุดนะ..”