Chapter 10
รายการสุดสยองในคืนวันศุกร์... สยองสมชื่อรายการ หลังจากที่ยื้อแย่งกันอยู่ว่าจะดูรายการตลกหรือรายการผี คนที่มีกำลังมากกว่าได้ครอบครองรีโมตก็ดื้อดึงกดเปลี่ยนมันกลับมาอย่างไม่น่ารักเอาเสียเลย
ปรเมษฐ์กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะไปจับหนูในห้องน้ำให้ดี ๆ หรือปล่อยให้เธอกลัวอยู่เรื่อย ๆ
เมื่อเสียงโครมครามดังมาจากห้องน้ำอยู่หลายระลอก ตามด้วยแรงสะดุ้งที่ทำให้ตาคมต้องเหลือบมองเสื้อสีขาวสะอาดเปรอะเปื้อนน้ำส้มอยู่เป็นหยดหย่อม เรียวแขนทั้งสองกอดรัดลำแขนแกร่ง ถูไปถูมาแต่ละที! หนุ่มวัยสี่สิบสองปีผู้ถือศีลอดมานานได้แต่อดทน อดกลั้น...
ยุบหนอ พองหนอ... มันก็ยุบยวบ พองขึ้นตามระดับสายตาที่แอบลอบมองอยู่เรื่อย ๆ
จินตนาการไปถึงไหนต่อไหนว่าข้างในเรือนกายนุ่มนิ่มกลิ่นหอมจะมีอะไรแอบซ่อนอยู่ ผิวขาวละเอียดนุ่มติดมือเหมือนก้นเด็กน้อยนั้นปั่นป่วนประสาทได้แค่ไหน
ไม่น่าไหว... และก็ไม่น่าจะดีแน่ ๆ
“อืม... พี่ว่าพุดหายกลัว... ก็ไป... อาบน้ำได้แล้วนะ”
“พี่เปาบอกจะไปจับหนูในห้องน้ำให้พุดไง... ไปจับเลยนะ ถ้ามันมีหนูพุดจะอาบน้ำได้ยังไง” บ่นอุบอิบ ใบหน้าร้อนผ่าวยิ่งซุกซบวงแขนเป็นล่ำสัน และเธอก็คงจะไม่เลิกราเพราะชอบมันเป็นที่สุด ถึงจะยังกลัวอยู่...
“ต้องมี... ข้อแลกเปลี่ยนป่ะ?”
“อะไรอีกอ่ะ?”
ความคิดชั่วร้ายที่สุดผุดเข้ามาในหัวเป็นฉาก ๆ พอดีกับที่วงหน้าหวานเชยขึ้นมองด้วยสีหน้าสงสัย
“พี่เปายิ้มอะไร?”
“พี่แค่คิดว่าพุดตัวนุ่ม... หอมเหมือนเดิม...”
แก้มขาวนวลกลายเป็นสีแดงระเรื่อ เมื่อถ้อยคำสั้น ๆ ของเขาทลายกำแพงน้ำแข็งในใจให้เหลวละลาย เธอโกรธเพราะเขาทิ้งเธอแต่กลับหายโกรธเขาได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีเหตุผลอะไรมากมาย
“เดือนนี้พี่จะหยุดงานอยู่กับพุด จนกว่าพุดจะดีขึ้น พี่จะไม่ไปไหนแล้ว”
แววตาคู่คมเข้มประกายวาววับราวเหยี่ยวที่กางกรงเล็บคมไว้รอเหยื่อ...
ก็คือเธอนี่แหละ...
“พุดไม่ให้นอนด้วยดีกว่า เปลี่ยนใจละ ผีก็ผีเหอะ พุดว่าบนโลกนี้ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าพี่เปา หน้าตาแบบนี้หลอกสาวมากี่คนแล้วก็ไม่รู้” ว่าอย่างแสนงอน ก่อนที่เธอจะปล่อยลำแขนแกร่งอย่างนึกเสียดาย
วันสุดท้ายที่เขาจากไปกับสัมผัสแสนวาบหวามอันสลักลึกลงไปในห้วงใจ เธอลืมตาขึ้นมองเขาที่แอบมานอนกอดเธออยู่บ่อย ๆ สีหน้าผิดหวังในตอนนั้นเธอยังจำได้ดี
ไม่น่าเชื่อเลยว่าช่วงเวลาดี ๆ ของเธอกับพ่อเลี้ยงจะย้อนกลับมา ตอนนี้เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าเขากำลังคิดอะไร
“พุด... พี่คิดถึงพุดนะ... พี่สัญญาว่าจะไม่ไปไหนอีก มา... เกี่ยวก้อยกัน”
ปลายนิ้วก้อยยกขึ้นหาหญิงสาวที่ยังคงมีท่าทีดื้อรั้น “แล้วพี่เปาจะอยู่กับพุดในฐานะอะไร?”
“อะไรก็ได้... แค่พุดไม่ทิ้งพี่ กลับบ้านเรากันนะ...”
ปรเมษฐ์ไม่ชอบอ้อนวอนใคร ทุกคนในบ้านรู้ เขาแค่ไม่อยากเสียเธอให้ใคร แค่อยากอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆแบบนี้
แววตาคู่สวยวูบไหวสั่น ครุ่นคิดอยู่ครู่อย่างลังเลว่าจะยอมรับคำขอของเขาดีหรือไม่... แล้วก็ตัดสินใจ
“ก็ได้ค่ะ... แต่พุดไม่กลับบ้านนะ ที่นี่ใกล้มอกว่า เดินทางสะดวก”
ใบหน้าหล่อเหลาผุดยิ้มกว้างเต็มวงหน้า ปลายนิ้วเรียวยกขึ้นเกี่ยวกันไว้เบา ๆ ขณะที่การเกี่ยวก้อยในแบบฉบับของปรายลดามีสิ่งหนึ่งที่เขาและเธอจะต้องทำหลังจากนั้น
“เกี่ยวก้อยพอ ไม่จุ๊บนะ โตแล้ว...”
“คนโต ๆ เขาไม่จุ๊บกันหรอก พุทรา...” สิ้นคำเท่านั้น เขาโน้มใบหน้าลงตรึงท้ายทอยน้อยไว้ด้วยฝ่ามือที่รั้นกลีบปากบางเข้าหา ฝังริมฝีปากลงแนบแน่นทว่าแผ่วเบา
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างตกใจ ก่อนที่เธอจะพริ้มตาปิดลงรับสัมผัสแสนอ่อนหวานของริมฝีปากหนาที่ค่อย ๆ ขบเม้มปากบนอยู่พอประมาณ
นุ่มนวล เนิบนาบไปเรื่อย ๆ เหมือนคนอ้อยอิ่ง เป็นจังหวะของปากร้อน ๆ ที่ส่งผ่านทุกความรู้สึก หัวใจของหญิงสาวอ่อนระทวยอยู่ในที่ที่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นของบุรุษเพศ น้ำหอมหนักแน่นแอบแฝงความร้อนแรงจากเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มพาสัมปชัญญะพร่าเลือนลงเรื่อย ๆ
ปรายลดาไม่มีทางปฏิเสธเขาได้เลย ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่โหยหามาแสนนาน เธอปรารถนาในความรักของเขาที่มองเธอเป็นแค่ลูกเลี้ยง เป็นหลาน หรือเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง
หากว่าเขาไม่ผละออก... เธอคงจะได้ตายเพราะปาก!
“จะไปอาบน้ำ... หรือจะจูบกับพี่ต่อ? รอบหน้าจูบจริง พันลิ้นพันปาก ไม่ใช่จูบสัญญานะ” ในรอยยิ้มพึงพอใจ หน้าแดงก่ำของคนที่ลุกหนีเข้าห้องน้ำไป ออกมาหยิบโทรศัพท์มือถือ แล้วก็กลับเข้าไปใหม่ปิดประตูดังปัง!
ปรเมษฐ์หัวเราะออกมาเบา ๆ กับความไร้เดียงสาของหญิงสาว เขาคิดว่าเธอคงจะต่อสายตรงหาเพื่อนรักเพื่อปรึกษาเรื่องนี้แน่ ๆ
รสจูบแสนหวานยังคงติดอยู่บนริมฝีปาก แม้ยังไม่ใช่จูบจริง ๆ ตามแบบฉบับของเขาเลยด้วยซ้ำ! ปรายลดาอาบน้ำ แต่งตัวในชุดกระโปรงนอนลายหวานเรียบร้อยดี นั่งทำรายงานผ่านแท็บเล็ตอยู่บนที่นอนไม่ค่อยจะมีสมาธิ
เพราะไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร ในรอยยิ้มกรุ้มกริ่มกับท่าทางมีความสุข กระทั่งว่าเขาออกมาจากห้องน้ำ ก็ยังจับปากยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว
“ให้พี่ช่วยทำการบ้านนะ...” เขาหย่อนก้นนั่งลงบนเตียงที่โชยกลิ่นกรุ่นของแชมพูขวดเดียวกัน ขณะดวงตาคู่สวยหรี่เล็กลงในท่าทีว่าต้องการจับผิด...
“พี่เปากลับมารอบนี้ทำตัวไม่น่าไว้ใจ พุดว่าพุดทำเองได้ พี่ไปนั่งนู่น จะดีกว่า...” เธอยกมือขึ้นชี้ปลายนิ้ว “ไปเลยนะ โซฟาค่ะ”
ชายหนุ่มทำเป็นไม่ได้ยินไปเสีย เข้าไปนั่งใกล้ ๆ กันบนที่นอน “พี่ว่า... พี่ไม่เจอหนูในห้องน้ำสักตัวเลยนะ”
“พี่... อย่ามา... หลอกพุด”
“พี่ไม่ได้หลอก พี่ใช่คนขี้เล่นที่ไหน พุดนั่นแหละ เกี่ยวก้อยกันแล้วว่าจะไม่ให้พี่ไปไหน ทำไมพุดผิดสัญญา” เสียงเข้ม ๆ ทวงถาม ด้วยความตั้งใจแล้วว่าเขาจะรักษาทุกคำพูด! มันทำให้หญิงสาวยิ่งรู้สึกกลัว...
“พุด... หมายถึงไปที่ไกล ๆ”
“ตอนสัญญากัน ก็ไม่เห็นพุดจะพูดทวงถามอะไรพี่ พุดกลัวอะไร?”
เธอกัดริมฝีปากตัวเองแรง ๆ ตอนนี้ที่รู้สึกกลัวจับใจคือตัวเอง... เมื่อเรือนกายกำยำของชายที่สวมชุมนอนลายขวางทางยาวขยับเข้ามาใกล้ ๆ เรือนกายอุ่นที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอเคยได้เสพสุขกับการอิงแอบอยู่ในอ้อมกอดของเขา ดวงตาของเธอหยุดอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลาลงตัว ไม่ได้รู้ตัวว่าของในมือถูกคว้าไป
“ไหน... ดูซิ.. ออกแบบสินค้าแฮนด์เมดเอง ไม่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์” เขาอ่านทวนมันครั้งหนึ่ง ลายมือของปรายลดาเป็นตัวหนังสือตัวเล็ก ๆ น่ารัก เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปจากตอนสิบกว่าขวบ ในหนังสือเล่มหนึ่งเขาเคยเห็นมัน...
‘ฉันชอบพี่เปาอ่ะ... ปริม ทำยังไงดี?’ เขาคิดแล้วก็ยิ้มขึ้นมา ปรายลดาคงจะแอบเขียนข้อความคุยกับเพื่อนในห้องเรียน
“คนอะไร ยิ้มน่ากลัวชะมัด”
ได้ยินเสียงพึมพำ เปลวไฟเสน่หาลูกหนึ่งถูกจุดขึ้นมายามลอบมองริมฝีปากอิ่มงาม เขาค่อย ๆ ก้มหน้าลงข้าง ๆ หู กระซิบเสียงพร่า
“คืนนี้พุดต้องเลือกแล้วล่ะ... ว่าจะนอนกอดคนน่ากลัวอย่างพี่... หรือนอนกับผี”
“พี่เปา!” เสียงแหลมเล็กว่า ความร้อนพุ่งพวยขึ้นบนใบหน้าสดสวยที่กลายเป็นสีแดงขึ้นตามลำดับ เธอเกือบจะตีเขาเพราะอดรนทนไม่ไหวขึ้นมา แต่เพราะยังมีสำนึกอยู่ว่าไม่ควรทำ มือเรียวที่ค้างไว้บนอากาศ “นี่แน่ะ!” กลายเป็นสะกิดปรามเท่านั้น
“ไปไกล ๆ เลยนะ พุดจะนอนแล้ว พรุ่งนี้มีเรียน” แล้วเธอก็ทิ้งตัวลงนอน ไม่ลืมบอก “ไม่ต้องปิดไฟนะ”