ตอนที่ 6

2121 คำ
คริสไม่เคยรู้ถึงเหตุผลที่เราเลิกกัน เขาคิดว่าเธอโกรธทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่ เธอแค่เหนื่อย แค่ท้อกับการรักเขาแค่นั้นเอง ยอมรับว่ายิ่งเจ็บยิ่งรักเขามากขึ้น เลิกกันแล้วก็ไม่สามารถตัดใจได้เลย…สักนิดเดียวก็ไม่เลย ทำไมถึงมาบอกรักเธอ ทำไมถึงมาต้องการเธอ ทำไมต้องมาทำดีตอนที่เธอถอยออกมาแล้วด้วย “มีนอยากเลิกก็เชิญเลย แต่คริสไม่หยุดแค่นี้แน่นอน เราจะต้องรักกันเหมือนเดิม!” คริสยังคงกอดเมียแน่นมาก เขายอมรับว่าชีวิตที่ไม่มีเธอมันแสนว่างเปล่า ในทุกครั้งที่อยู่คอนโดภาพเธอยังคงอยู่เลย มันต้องมีใครมายุ่งกับมีนแน่แล้วก็แย่งเธอไปจากเขา มีนจะยังเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น เจ็ดปีที่ผ่านมามันนานเกินกว่าจะทำใจได้ ทุกครั้งที่เขาต้องการกำลังใจมีนจะคอยอยู่ด้วยเสมอ เธอให้ความสุข เธอปลอบใจ เธอเป็นทุกอย่างในชีวิตของเขา ไม่ว่าเวลาไหนทุกครั้งที่หันกลับมาจะยังมีเธออยู่เสมอ “เธอห้ามรักใครนอกจากฉัน ไม่อย่างนั้นมันตายแน่” “คริสหยุดบ้าสักที!!” เธอตะคอกกลับไปบ้างเพราะเขามันหน้ามืดจนมองไม่เห็นความจริงเลย “กูมันบ้านี่! ใครจะไปดีเหมือนคนอื่นละ!” เขาตะคอกกลับลุกขึ้นปล่อยเธอไว้ตรงนั้น แล้วพยายามจะไม่มองใบหน้าเธอ “ถ้าไม่รักกูแล้ว ขอร้องละอย่าพึ่งรักใคร!” เขากดเสียงต่ำรู้สึกร้อนผาวที่ขอบตาอย่างมาก เขาจับมือเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยต้องขอร้องใครแบบนี้เลยด้วยซ้ำ “กลับไป!” เธอสะบัดมือออกแล้วกลัวใจเขาจะทำอะไรโง่ๆ “ไม่! เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ?” เขาแค่นเสียงถามด้วยความเจ็บปวด กำมือแน่นมองหน้าเมียที่พร่าเบลอไปด้วยน้ำตาที่นองหน้า มีนเกลี่ยน้ำตาออกให้แล้วยังสบตาเขา “ฉันก็เจ็บนะ แต่เราไปกันไม่ได้จริงๆ” เธอเจ็บมากกว่าเขาด้วยซ้ำ เธอตัดสินใจทิ้งเขาเพื่อจะได้มีความสุขบ้าง เธอไม่สามารถอยู่เหมือนสิ่งของได้อีกแล้ว เมื่อก่อนคงจะดึงเขามากอดปลอบใจแต่ตอนนี้มันถึงเวลาต้องหยุดเพื่อกลับมารักตัวเองแล้ว “คริสกลับไปพักเถอะดึกแล้วนะ” เธอพูดเบาๆในขณะที่ยังคงลูบสันกรามเขาอยู่ “เรายังคุยกันได้ใช่ไหมมีน? คริสจะทำทุกอย่างเหมือนเดิม” เขาไม่ยอมแพ้หรอก ในแววตาคู่นี้ยังมองเขาด้วยความรักไม่เปลี่ยนไปเลย มีนจะต้องไม่เป็นของใครทั้งนั้น เขาผูกพันกับเธอเกินกว่าจะตัดทิ้งง่ายด้วยคำพูดแค่ไม่กี่คำ “มีนยังไม่พร้อมจะคุยกับคริสตอนนี้ กลับไปเถอะ” เธอจำเป็นต้องตัดให้ขาดถึงแม้จะเสียใจมากก็ตาม เสียงประตูปิดดังขึ้นเธอทรุดตัวลงที่นอนร้องไห้ออกมาอีกครั้งอย่างหนักทำไมมันทรมานแบบนี้ เมื่อไรเธอจะลืมเขาได้สักที หลังจากคืนนั้นคริสกลับมากินเหล้าอย่างหนักจนเพื่อนต่างพากันเป็นห่วง แต่เรื่องนี้ไม่มีใครสักคนคิดจะบอกแฟนเก่าเพื่อนเลยสักคน ก็รู้กันอยู่ว่าเลิกกันไปแล้วใครจะกล้ารบกวนละ “มึงพอแล้ว” ชินมาแย่งขวดเหล้าออกจากมือเพื่อน “กูคิดถึงมีนวะ” คริสมองไปที่รูปถ่ายอย่างเหม่อลอย “เอางี้ไหม? กูตามมีนมาให้แต่อยู่สองคนไม่ได้นะ” “ไม่! มีนจะเห็นกูสภาพนี้ไม่ได้” “แล้วมึงเอายังไงวะ ตอนนี้มึงแดกเหล้าให้ตายมีนก็ไม่กลับมาหรอก” โตแย่งแก้วเหล้าเพื่อนไปเททิ้ง “กูไม่รู้ แล้วกูก็อยู่ไม่ได้ด้วย มึงเข้าใจไหมห่ะ!?” คริสปรือตาถามเพื่อนด้วยความมึนเมาและน้ำตาเอ่อคลอเบ้า “มึงก็ไปง้อดิวะ” “กูง้อแล้ว” คริสหยิบบุหรี่เดินออกมานอกระเบียงแล้วสูบคนเดียวเงียบๆ นึกถึงเมียที่ใจแข็งมากจนไม่น่าเชื่อเลย มันเป็นไปได้ด้วยเหรอที่เลิกกันแล้วไม่มีใคร คริสมองควันลอยหายไปในสายลมเงียบๆ อยู่ดีๆน้ำตาก็ไหลออกมาเฉยเลยคิดถึงเมียอีกแล้วสินะ นี่กูต้องเมามากแล้วแน่ๆ ในขณะที่มีนมาจัดร้านเครื่องสำอางในสาขาใหม่ที่กำลังจะเปิดเร็วๆนี้ เธอมองความฝันของตัวเองที่อยากจะให้คริสมาอยู่ดูความสำเร็จของเธอด้วยกัน คริสคอยช่วยเหลือเธอในเรื่องนี้มาตลอดเวลาถึงแม้จะไม่มีเวลาขนาดไหนก็ตาม ที่นี่คริสเป็นคนติดต่อให้ เขาเป็นคนหาที่ทำเลให้ เขาเจียดเวลาจากปาร์ตี้มาช่วยเธอทั้งที่มีอาการเมาค้างเสมอเลย “คุณมีนครับคุณคริสไม่มาด้วยเหรอครับ” “ไม่มาค่ะ รบกวนพี่เต้ติดต่อช่างไฟด้วยนะคะ มีนอยากให้เป็นวอร์มไลท์” เนื่องจากว่าที่นี่จะเป็นร้านขายเครื่องสำอางเป็นหลักแสงไฟโทนนี้จะทำให้สีดูสวยขึ้นด้วย “ครับคุณมีน เอ่อ...แล้วเรื่องพนักงานละครับ?” “ก็ฝึกงานอยู่ค่ะ เดือนหน้าที่นี่ก็เปิดแล้ว มีนอยากเห็นจังเลย” เธออยากให้คริสมาอยู่ตรงนี้ด้วยจัง “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” “ค่ะ” มีนเดินสำรวจร้านเครื่องสำอางแห่งใหม่ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ที่นี่เธอออกแบบร่วมกับคริส เขาทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ เพียงแค่ยิ้มกว้างๆน้ำตาก็ไหลออกมาแล้ว “เช็ดซะมีน” คริสส่งผ้าเช็ดหน้าให้คนรัก “คริสมาได้ไง!? แล้วทำไม…หน้าโทรมจังละ” ขอบตาคล้ำมาก แล้วตัวยังผอมลงกว่าเดิมอีกด้วย คริสหายไปจากชีวิตเธอแค่อาทิตย์เดียวเอง ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้นะ “ไปกินข้าวด้วยกันนะ ฉันยังไม่กินอะไรมาเลย” คิดถึงเมียจังเลยวะ แค่เห็นก็อยากดึงเข้ามากอดแล้วจูบหนักๆสักหลายที “เอ่อ...คือว่าฉันมีงานต่อน่ะ” ยอมรับเลยว่าตัวเองใจร้ายแต่มันก็จำเป็น ไม่อย่างนั้นคงตัดใจจากเขาไม่ได้แน่ ทุกวันนี้เธอยังมีเขาอยู่ในทุกความทรงจำ ในบางวันที่เหน็ดเหนื่อยจนเผลอร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงแสนทรมาน “มีนไปกินข้าวด้วยกัน” คริสจับมือเธอพาเดินออกมานอกร้านที่เขาออกแบบเองกับมือ เขาเดาไม่ผิดว่าเธอต้องมาที่นี่แน่ เขารู้ว่าเธอต้องใช้เวลากับที่นี่นานถึงได้ตามมาดักรอแบบนี้ “คริสไม่ทำงานเหรอ?” “ทำสิ ไปกินข้าวกันเถอะ” คริสพาเธอมาร้านอาหารประจำที่เคยมาด้วยกันบ่อยๆ เขาอยากจะดึงเข้ามากอดแต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้ มีนยังใจแข็งมาก แต่เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้ง่ายๆหรอก แค่มันรู้สึกว่าอยู่ไม่ไหวจริงที่ไม่มีเธอในชีวิต ถ้าเขาเผลอใส่อารมณ์ตอนนี้ไปมีนต้องดื้อแล้วไม่พูดคุยดีๆด้วยแน่เลย อยากจะจูบแค่ไหนก็ทำได้แค่มอง มีนสั่งอาหารตามปรกติแล้วหันไปยิ้มให้กับเขา เธอก็คิดถึงคริสมากเลยทั้งที่เป็นคนเดินออกมาเองแท้ๆ ทุกคืนเธออยู่ได้ด้วยการไปแอบดูเขาผ่านอินสตาแกรม รูปเธอถ่ายคู่กับเขายังไม่ได้ลบไปเหมือนในอินสตาแกรมของเธอที่มีแต่เขาเต็มไปหมด “มีนพักบ้างนะคริสเป็นห่วง” เขามองอาหารที่เธอสั่งล้วนเป็นของโปรดเขาทั้งนั้น “คริสก็ดูแลตัวเองดีๆนะ อย่าเที่ยวเยอะมากละ ดูสิโทรมหมดแล้วเนี่ย” เธอยิ้มออกมาทั้งที่อยากจะร้องไห้ เธออยากจะกอดเขามาก แต่ต้องฝืนทนเอาไว้อย่าให้ใครได้รู้ “คิดถึงมีนนะ” อยากบอกให้รู้ถึงเธอจะไม่อยากฟังก็ตาม “เดือนหน้าวันที่ 9 เปิดร้านนะ มีนนิมนต์พระมาให้ความสิริมงคลด้วยนะ” เธอหลบตาเขาแล้วหันไปสนใจอาหารตรงหน้าแทน ของที่สั่งมีแต่ของโปรดคริสเลยเพราะมันคงเป็นความเคยชิน ต่อให้เราห่างหายกันนานขนาดไหนก็ยังชินอยู่ คงไม่มีใครรู้สึกแย่ขนาดนี้แล้ว ต้องมานั่งกินข้าวกับคนรักเก่า ต้องคอยห้ามใจไม่แสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นเพราะไม่อยากให้เป็นห่วงเกินไป เธอต้องฝืนยิ้มออกมาให้เขาเห็นว่าเธออยู่ไหว ภาพในวันวานไม่เคยลดหายไปจากเธอเลย ยังคงคิดถึงเขาอย่างมากจนรู้สึกทรมานเกินจะทนได้ไหว ความรักและความผูกพันตลอดเจ็ดปีจะให้หายวับไปภายในเดือนกว่าๆคงเป็นไปไม่ได้หรอก เธอก็ไม่รู้ว่าจะเข้มแข็งแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน คนบอกเลิกทั้งที่ยังรักนั้นเจ็บกว่าเสมอ แต่เขาคงไม่เข้าใจ “ถ้าคริสมามีนจะว่าอะไรไหม?” เขารู้สึกได้เลยว่าเธอเว้นระยะห่างมากจนน่าใจหาย จากที่เคยได้จับมือ เคยได้กอด เคยได้หอมแก้มทุกวัน ในตอนนี้กลับทำได้แค่นั่งมอง เขาต้องท่องในใจเป็นพันครั้งบอกตัวเองให้ใจเย็นๆทั้งที่มันโคตรยาก แล้วทุกคืนเขาบอกตัวเองนับล้านครั้งให้จำไว้ว่ามีนบอกเลิกแล้ว ถึงเขาไม่ยอมเลิกแต่เธอตั้งใจเลิกให้ได้ แล้วเขาจะทำอะไรได้ละ วันนี้เขามาเพื่อไขข้อข้องใจของตัวเองเรื่องเราเลิกกัน เขาตามเฝ้ามองเธอมาสามวันเต็มเพื่อจะดูหน้าแฟนใหม่ คนที่มันกล้าแย่งเธอไปจากเขา แต่ก็ไร้เงาใคร มีนยังใช้ชีวิตคนเดียว “ได้สิ ร้านคริสก็เป็นคนออกแบบนี่” “มีน…คริสมีเรื่องจะขอได้ไหม?” เขากลั้นใจรอฟังคำตอบ “อะไรเหรอถ้าทำได้มีนก็จะช่วย” “คือว่า…” คริสเอื้อมมือไปจับมือเธอไว้แน่รู้สึกกลัวคำตอบอย่างมาก “คริสปล่อยก่อนนี่มันกลางห้างนะ” เธอใจเต้นแรงเพียงแค่การกระทำของเขา แต่ต้องห้ามใจไม่ให้อ่อนแอ “อย่าพึ่งรักใครนะ อย่าเอาใครมาแทนที่คริส รอให้คริสทำใจได้สักนิดก่อน” นี่เป็นคำขอที่โง่มากที่สุด แต่ถ้ามันจะช่วยยื้อเธอไว้แล้วเพิ่มเวลาให้เขาง้อได้ถึงดูโง่ก็ยอมหมดทุกอย่าง “คริสฟังนะ ไม่มีใครแทนที่ใครได้หรอก เรื่องในอนาคตมีนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ถ้าวันหนึ่งคริสเจอคนที่รักที่เข้ากันได้ คริสรักไปเลยนะ มีนอยู่ได้ มีนไหว” เธอต้องใช้ความเข้มแข็งอย่างมากเลยที่จะพูดคำนี้ออกไป “มีน!” เขาไม่คิดว่าเธอจะพูดแบบนี้ออกมา แต่ที่มันสะเทือนใจตรงที่เธอยิ้มให้แล้วมีน้ำตาไหลออกมานี่แหละ ทำไมต้องทำให้ตัวเองเจ็บด้วยละ แค่กลับมารักกันเหมือนเดิมทุกอย่างจะดีขึ้น “มีนหวังดีกับคริสนะ” “คริสขอโทษที่แสนดีแบบมีนไม่ได้ มีนจะว่าคริสพาลก็ได้นะถ้าเกิดวันไหนคริสทำอะไรขาดสติไป” เขาไม่สามารถทำใจแบบเธอได้เลย ให้ตายเถอะ! ทำไมถึงต้องพูดแบบนี้ด้วย เขารักเธอแล้วจะไม่ยอมเสียเธอให้กับใคร แต่มีนกลับพร้อมจะยินดีเสมอถ้าเขารักกับคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ สิ่งที่เธอพูดและทำมันไปในทิศทางเดียวกันว่าต้องการจบเรื่องของเรา แต่แววตาคู่สวยนี้กลับเศร้ามาแถมยังมีน้ำตาเอ่อคลอเบ้าอีกต่างหาก เธอทำให้เขามีคำถามหนึ่งเกิดขึ้นในหัว มีนยังรักคริสอยู่ไหม? หลังกินอาหารเที่ยงเรียบร้อย มีนแยกตัวกลับไปทำงาน ส่วนคริสยังคงเดินวนเวียนภายในร้านที่กำลังจะเปิดในเวลาอีกแค่สองอาทิตย์กว่าๆ เขามีอยู่แค่คำถามเดียวที่ค้างคาคือถ้ามีนไม่มีใครแล้วทำไมไม่กลับมารักกันเหมือนเดิม รู้ไหมว่าบนโลกใบนี้มีนคงเหมาะสมกับใครหลายคน แต่บนโลกนี้มีแค่เธอที่เหมาะสมกับเขา “เฮ้อ…กูต้องทำอะไรอีกวะ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม