ครอบครัวของป้าช้อยยากจนมา ตอนที่ยังเป็นวันรุ่น ด้วยความไร้เดียงสาประกอบกับความเร่งเร้าของวัยสาว ทำให้แกเอาตัวลงไปเกลือกกลั้ว ริลองเรื่องเพศรสมาอย่างโชกโชน เพราะความหลงผิด
ในทัศนะของป้าช้อย ตอนนั้นแกคิดเพียงว่าชีวิตมนุษย์นั้นแสนสั้น ในความจริงแล้วพรหมจารีย์อาจมีไว้ให้ ‘ทำลาย’ ไม่ใช่เพื่อเก็บรักษาเอาไว้ให้เหี่ยวตายไปพร้อมๆ กับความเข้าใจผิดของผู้หญิงหลายๆ คน
เหตุนี้เอง… ที่ทำให้ป้าช้อยตกหลุมพรางที่ชีวิตได้ขุดล่อเอาไว้ แกเคยแม้กระทั่งติดยา ทำตัวเละเทะจนกลายเป็นผู้หญิงใจแตกไปในที่สุด ก่อนจะตัดขาดตัวเองออกมาจากครอบครัวที่เต็มไปด้วยปัญหา ด้วยการหนีออกจากบ้าน และถลำลึกเข้าไปในวังวนของตลาดค้ากามในที่สุด เพราะโดนแมงดาที่แกหลงรักจนหัวปักหัวปำหลอกไปขายซ่อง
‘บุษาราตรี’ ริเริ่มโดยแม่เล้าคนหนึ่ง เป็นการขายบริการทางเพศที่แอบทำกันลับๆ ไม่มีสถานที่ตั้งชัดเจน เพราะเน้นการให้บริการนอกสถานที่
ตอนนั้นป้าช้อยคิดสั้นๆ ว่า ไหนๆ แกก็ผ่านชีวิต ‘โสเภณี’ มาโชกโชน ผ่านผู้ชายมาจนนับไม่ถ้วน
ป้าช้อยเคยเปลี่ยนใจว่าจะเลิกอาชีพขายบริการ แต่ตอนนั้นเงินทองที่หาได้ก็ถูกแมงดารีดไถเอาไปจนหมด ทำให้แกต้องยึดอาชีพค้าของเก่าต่อมาอีกหลายปี ก่อนตัดสินใจเข้ามาเป็นสมาชิกของ ‘บุษบาราตรี’ ซึ่งจะได้เงินส่วนแบ่งจากการขายบริการเป็นกอบเป็นกำ ได้มากกว่าอยู่ในซ่องโทรมๆ เพราะค่าตัวจากการรับแขกแต่ละครั้งต้องแบ่งให้ทั้งแม่เล้าและแมงดาจนเหลือมาถึงมือแกเพียงไม่กี่บาท
บุษบาราตรีมีกฎข้อสำคัญว่า ‘ห้ามเปิดเผยฐานะของหญิงผู้ให้บริการ’ เช่นเดียวกับที่ห้ามเปิดเผยฐานะของ ‘ผู้ซื้อบริการ’ เด็ดขาด และจะให้บริการลูกค้าเฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น
“ผู้หญิงของบุษบาราตรีจะไม่ขายตัวมั่วซั่ว”
ป้าช้อยเน้นย้ำ เพื่อจะให้เห็นความแตกต่างกับหญิงขายบริการที่อื่นๆ
แกเล่าต่อไป
“แต่จะเลือกเฉพาะลูกค้าที่มีฐานะดี มีตั้งแต่นักธุรกิจ นักการเมือง ไปจนถึงข้าราชการระดับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีรสนิยมชมชอบหญิงงามในแบบที่บุษบาราตรีมีไว้บริการ และจรรยาบรรณในการปกปิดข้อมูลของลูกค้าเอาไว้เป็นความลับสุดยอดนี่เอง ที่ทำให้มีลูกค้าติดต่อเข้ามาขอใช้บริการมากมาย จนบางวันก็รับลูกค้ากันแทบไม่ไหว…”
ป้าช้อยแอบยึดอาชีพนั้นอยู่นานหลายปี กระทั่งมีโอกาส ได้เจอกับลุงเข้มเข้าโดยบังเอิญ หลังจากแกติดต่อขอใช้บริการในคืนวันหนึ่ง
จากนั้นลุงเข้มก็ลุ่มหลงป้าช้อยหัวปักหัวปำ จนกลายเป็นขาประจำในเวลาต่อมา ไม่นานก็เกิดเป็นความรัก กลายเป็นความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ลุงเข้มตัดสินใจขอให้ป้าช้อยเลิกทำอาชีพ ‘บุษบาราตรี’ จากนั้นทั้งคู่ก็ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกันมาจนถึงวันนี้
จำปานิ่งฟัง…
จากเรื่องราวรันทดที่ได้ยิน แวบแรกก็รู้สึกสงสารป้าช้อยขึ้นมาจับใจ เพราะสังเกตเห็นว่าขณะเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองอยู่นั้น แววตาของป้าช้อยดูหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด ที่ต้องมานั่งขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตอันแปดเปื้อนของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง… ทั้งที่พยายามจะลืม และอยากจะกลบฝังเอาไว้ในอดีต
จำปาเอื้อมมือไปกุมมือสตรีผู้สูงวัยกว่า หล่อนบีบหลังมือป้าช้อยเบาๆ ด้วยความสงสารและเห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกัน เมื่อรู้ว่าในอดีตที่ผ่านมา… ชีวิตแกเคยพบเจออะไรมาบ้าง?
“เอ็งสนใจมั้ย…” ป้าช้อยวกกลับมาที่เรื่องงาน
“ฉันอยากได้งานทำก็จริงนะป้า แต่…”
ครั้นแล้วจำปาก็ส่ายหน้า
“แต่อะไร…” ป้าช้อยเงยหน้าขึ้นถาม
“แต่ฉันคงทำไม่ได้อย่างป้า… ฉันไม่กล้า ทำไม่เป็น แค่คิดว่าจะต้องหลับนอนกับผู้ชายที่ไม่ใช่ผัว… โอ้ย บอกตรงๆ ว่าขยะแขยง ให้ฉันตายเสียดีกว่า”
หล่อนพูดเหมือนลืมไปว่าประโยคนั้นได้ทำให้คนที่มีผัวมาเป็นร้อยเป็นพันอย่างป้าช้อยถึงกับสะอึก
“แต่ก่อนข้าก็คิดอย่างเอ็ง… เหมือนกันแบบนี้เปี๊ยบไม่มีผิด แต่ถ้าเอ็งลองได้ก้าวข้ามความขยะแขยง ยอมรับต่อความกระดากอายในครั้งแรกให้ได้ จากนั้นเอ็งก็จะเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา…”
“เรื่องแบบนี้ฉันทำไม่ได้…”
คนถูกโน้มน้าวส่ายหน้า รู้ดีว่ามันยากเกินไปสำหรับหล่อนที่จะทำใจได้
“เอ็งก็มีผัวแล้ว เคยมาแล้ว ของแบบนี้มันสอนกันได้ ไม่มีอะไรยาก ไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่เอ็งวิตก”
แกนึกในใจว่า ‘ไม่แน่เอ็งอาจจะติดใจ’ หากก็ไม่ได้เอ่ยออกมาในตอนนั้น เพราะรู้ว่าอาจทำให้จำปาอาย
“แต่…”
จำปานิ่งอยู่ในอาการชั่งใจ ท่าทางเหมือนคนกำลังใช้ความคิดหนัก
“เอาน่ะ… ข้าจะเลือกลูกค้าให้เอ็ง เอาแต่พวกสะอาดสะอ้านและเงินหนา ลูกค้าแต่ละคนล้วนเป็นพวกผู้ดีมีอันจะกินทั้งนั้น รูปร่างหน้าตาอย่างเอ็งจะเลือกเฉพาะพวกผู้ใหญ่ที่มีหน้ามีตาในสังคมก็ยังได้”
“ไม่ดีกว่า…” หล่อนส่ายหน้าอีก
“รับประกันว่าเรื่องพวกนี้เป็นความลับ ดูอย่างข้าสิ… ถ้าไม่เล่าให้ฟัง เอ็งจะรู้รึว่าชีวิตข้าผ่านอะไรมาบ้าง ”
“…..”
คราวนี้จำปาคิดหนัก
เห็นดังนั้น ป้าช้อยไม่เสียเวลา แกรีบชักแม่น้ำทั้งห้า ขยับปากโน้มน้าวต่อในทันที
“มันก็เหมือนกับตอนที่เอ็งเอากับผัวอยู่ทุกคืนน่ะแหละ… เพียงแต่ว่า…” แกหยุดคิดนิดนึง
“เพียงแต่ว่าอะไรหรือป้า…”
คิ้วโค้งราวคันเคียวของจำปาขมวดเข้าหากันด้วยความอยากรู้
“เพียงแต่ว่ามันจะแตกต่างออกไป… และมากมายหลากหลายจนเอ็งนับไม่ถ้วนก็เท่านั้นเอง”
แกกล่าวอย่างคนที่รู้ดี เพราะเคยสัมผัสชีวิตในด้านมืดนี้มาก่อน
“ไม่อะ…” จำปาส่ายหน้า
“อะไรของเอ็งอีกล่ะอีห่านี่… เล่นตัวจังโว้ย ไหนๆ ผัวเอ็งก็ตายไปแล้ว”