“สะใภ้รองของท่านมีความสามารถ ไม่นึกว่าจะเป็นเพียงบุตรสาวพ่อค้าธรรมดา แต่งเข้ามาก็ถือว่าไม่แย่อะไร ดูแล้วนางน่าจะเป็นคนมีความรู้ความสามารถไม่น้อย ไม่เหมือนลูกสะใภ้บ้านโจว นางเป็นบุตรพ่อค้าเหมือนกัน หากนางนั้นกลับไม่ได้ความอะไร หนังสือสักตัวยังอ่านไม่ออก ทำแต่เรื่องโง่เขลา โจวฮูหยินมักมาบ่นให้ข้าฟังอยู่บ่อย ๆ” สวีฮูหยินยิ้มรับคำชมลูกสะใภ้จากฮูหยินบ้านอื่น ยอมรับในใจรู้สึกดีไม่น้อย อย่างมากสะใภ้คนรองก็ไม่ได้ทำให้นางต้องอับอายขายหน้ามากกว่านี้ “นางใช่คนมีความรู้มากอะไร หากไม่ได้ป๋อหย่าคอยสอนสั่ง” “จะว่าไปแล้ว สวีฮูหยินก็ถือเป็นแม่ยายที่ดี เมตตาลูกสะใภ้ที่มาจากครอบครัวค้าขาย ไม่ตั้งแง่รังเกียจ คนเป็นแม่อย่างพวกเรา ขอแค่ลูกรักใครและมีความสุขก็พอ ท่านว่าจริงหรือไม่” สวีฮูหยินได้ยินเช่นนั้นก็เงียบไปอึดใจ ก่อนพยักหน้าและส่งยิ้มเจื่อน ๆ กลับไป “ท่านแม่ ข้าขอตัวสักครู่” เหวินโหรวรู้สึกอึดอัด นา