‘5 นาทีต่อมา’
“มาแล้วค่ะลูกสาวน้ำเย็นๆกับผลไม้หวานๆ อ้าว..สองใต้ไปยืน ทำอะไรอยู่ตรงนั้นคะ”หลังจากที่เจ๊ซูซี่เดินเข้าไปเอาน้ำกับผลไม้ในครัวมาต้อนรับแขกหน้าหวาน แต่ทว่าพอเดินออกจากจากห้องครัวก็พบว่าดาราแฝดนั้นกำลังประกบข้างซ้ายขวาโดยมีแขกหน้าหวานยืนตัวแข็งอยู่ระหว่างกลาง
“อ้อ พวกผมมาแนะนำตัวกับว่าที่ผู้จัดการฝึกหัดคนใหม่น่ะครับ”ใต้สมุทรเอ่ยตอบเจ๊ซูซี่ด้วยสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใสทำเอาเจ๊ซูซี่ที่ได้ยินก็ถึงกับคลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ดาราแฝดนั้นเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือซึ่งแตกต่างจากเมื่อวาน
“มาจ๊ะลูกสาว มานั่งข้างๆเจ๊นี่มา”เจ๊ซูซี่วางจานผลไม้ลงที่โต๊ะแก้ว สุดหรู ตามด้วยแก้วน้ำเย็นก่อนจะกวักมือเรียกปันปันมานั่งด้วย
เมื่อได้ยินอย่างนั้นปันปันก็รีบสาวเท้าเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆเจ๊แกทันทีขืนเธอยังยืนอยู่ตรงนั้นมีหวังหัวใจดวงน้อยๆของเธอได้กระเด็นออกมาเต้นให้ดาราแฝดเห็นแน่ๆปกติเห็นในทีวีเห็นในโลกโซเชียลก็ว่าหล่อแล้ว แต่พอได้มาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้เธอเองก็แทบเก็บอาการเขินไม่อยู่
“งั้นเจ๊ของทดลองงานวันนี้เลยแล้วกัน ช่วง 10:30 สองใต้มีถ่ายซีรี่ย์ดังนั้นปันปันต้องไปเรียนรู้งานวันนี้เลยนะคะลูกสาว”ตอนแรกเจ๊แกก็กะว่าจะให้ปันปันทดลองงานในอาทิตย์หน้าแต่ทว่าพอดีวันนี้ดาราแฝดมีถ่ายซีรี่ย์ซึ่งเจ๊แกเองก็ต้องไปดูแลภีมเด็กในสังกัดอีกคนด้วยจึงเป็นโอกาสที่จะได้ทดลองงานปันปันไปด้วยเลย
“ได้ค่ะ”ปากสีสวยเอ่ยตกลงด้วยรอยยิ้มถึงจะแอบเกร็งและตื่นเต้นไปหน่อยก็เถอะแต่เธอก็จะทำมันออกมาให้ดีที่สุด
“โอเคค่ะ สองใต้ลูกไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ เดี๋ยวเจ๊จะบอกรายละเอียดปันปันรอ”เมื่อตกลงกับสาวน้อยเสร็จสรรพผู้จัดการมือทองก็หันใบหน้าสวยฉ่ำไปบอกเหล่าบรรดาลูกชายให้ไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปถ่ายซีรี่ย์ในอีกไม่กี่ชั่วโมงที่จะถึงทันที
“เอาละ มาคุยเรื่องของเราต่อดีกว่าการเป็นผู้จัดการดาราที่ดีเนี่ยปันปันรู้ใช่ไหมว่าต้องใส่ใจและดูแลทั้งเรื่องอาหารการกิน เสื้อผ้า และตารางงานอย่าให้พลาด”เมื่อดาราแฝดเดินไปจนพ้นสายตา เจ๊ซูซี่ก็เข้าโหมดจริงจังเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดการเป็นผู้จัดการทันทีกว่าเธอจะมาเป็นผู้จัดการดีเด่นในทุกวันนี้ได้เธอเองก็ทำตามเหมือนกับที่เธอพึ่งเอ่ยปากบอกปันปันไปเหมือนกัน
“รู้ค่ะ ปันปันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ”เรื่องพวกนี้เธอก็เคยศึกษามาบ้างแต่ทว่าก็ไม่ถึงขั้นเก่งแต่เธอก็จะพยายามเรียนรู้ต่อไป
“ต้องแบบนี้สิคะลูกสาว อร๊ายย!! เจ๊ละชอบเธอจริงๆ”ด้วยความตั้งใจและคำยืนยันอันหนักแน่นของปันปันทำให้เจ๊ซูซี่เห็นว่าปันปันนั้นต้องเป็นผู้จัดการที่ดีและปังได้แน่นอนในภายภาคหน้า
'09:50 นาที'
หลังจากที่เจ๊ซูซี่พูดคุยบอกรายละเอียดในการทำงานให้ปันปันเข้าใจฝั่งดาราแฝดก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จพอดี วันนี้ดาราแฝดก็มาในลุคเสื้อเชิ้ตขาวดำติดกระดุมไม่ครบ กางเกงสแล็คสีดำ ทำเอาปันปันที่เห็นก็ถึงกับเบิกตากว้างเพราะลุคนี้ทำให้ดาราแฝดดูดีมากๆ
“อร๊ายย!! ลูกชายมี้หล่อมาก วันนี้ไปกันค่ะ กว่าไปจะถึงกองถ่าย10:30 พอดีค่ะ”พูดจบเจ๊ซูซี่ก็หยัดกายลุกขึ้นพร้อมกับยื่นมือหนาไปกุมมือเรียวของปันปันแล้วเดินตรงไปยังรถตู้คันหรูที่จอดรออยู่หน้าบ้านพักแล้วทันที
“ที่ตรงนี้คือที่นั่งของใต้ธาราส่วนตรงนี้ของใต้สมุทรก่อนที่สองใต้จะขึ้นมานั่งให้ปันปันเคลียร์ของหรือจำพวกขวดน้ำและกล่องอาหารออกให้เรียบร้อยก่อนทุกครั้งนะคะ”เมื่อเดินออกมาถึงรถขั้นตอนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการจัดแจงที่นั่งของดาราแฝดซึ่งเจ๊แกก็แนะนำปันปันเป็นอย่างดี
“สวัสดีครับเจ๊”เสียงของอามคนขับรถเอ่ยสวัสดีเจ๊ซูซี่พร้อมกับยื่นมือหนาไปเปิดประตูรถให้
“สวัสดีจ้ะ”หลังจากทักทายกันเสร็จเจ๊ซูซี่ก็ขึ้นไปนั่งรอคู่กับเบาะคนขับทันที
“ขึ้นไปนั่งตรงกลางสิครับ”เสียงทุ้มของใต้ธาราเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังเมื่อเขาเห็นสาวน้อยยืนนิ่งไม่ยอมขึ้นรถสักที
“อะ...อ้อไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวปันปันนั่งหลังสุดก็ได้ค่ะ”
“นั่งหลังสุดจะเมารถเอานะครับ นั่งกับพวกเราก็ได้ครับ”พูดจบใต้สมุทรก็ขึ้นไปนั่งก่อนแล้วดึงร่างบางขึ้นไปนั่งติดกับเขาโดยที่ใต้ธาราเองก็เดินขึ้นไปนั่งประกบอีกข้างของเธอทำให้ตอนนี้ปันปันนั่งตัวลืบอยู่ตรงกลางโดยไม่สามารถปฏิเสธได้
เมื่อทุกคนนั่งเข้าที่เรียบร้อยอามก็ออกรถตรงไปยังกองถ่ายทันที โดยระหว่างทางที่นั่งรถอยู่นั้นปันปันก็ไม่เป็นตัวของตัวเองเลย เพราะเธอ ไม่เคยใกล้ชิดดาราดังมาก่อนนับได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดกับดาราดังแบบนี้แถมยังใกล้ชิดจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆเลยทีเดียว
“ไม่ต้องเกร็งครับ”เสียงของใต้ธาราเอ่ยขึ้น ก่อนจะยื่นมือหนาไปสอดประสานเข้ากับมือเรียวของปันปันโดยที่ใต้สมุทรก็ยื่นมือหนาไปสอดประสานเข้ากับมือเรียวของปันปันทำแบบนั้นเช่นกัน
“เอ่อ...ค่ะ...คุณใต้ธารา คุณใต้สมุทรคะ คือปล่อยมือปันปันก่อน ได้ไหมคะ”เสียงหวานกระซิบบอกดาราแฝดเบาๆเพราะกลัวว่าเจ๊ซูซี่กับอามที่กำลังนั่งอยู่ข้างหน้าจะได้ยิน
"ระหว่างจับมือกับจับ...."
"จับมือค่ะ"ใต้สมุทรพูดไม่ทันจบด้วยซ้ำ ปันปันก็รีบเอ่ยแทรกขึ้นมาทันที เพราะตอนนี้ความคิดของเธอนั้นเตลิดไปไกลมาก ซึ่งต่างจากดาราแฝดที่กำลังจะพูดคำว่าจับเบาะหน้าแต่ก็ถือว่าพวกเขาโชคดีของพวกไปที่ได้จับมือนุ่มๆของปันปันไปจนถึงถองถ่าย
ดาราแฝดแสยะยิ้มให้กันอย่างเจ้าเล่ห์ โดยที่ปันปันไม่เห็นเพราะมัวแต่ก้มหน้ามองมือทั้งสองข้างที่ถูกจับไว้
‘ณ กองถ่าย’
ตอนนี้รถตู้คันหรูก็แล่นเข้ามาจอดในบริเวณกองถ่ายเป็นที่เรียบร้อยทันมีที่รถจอดดวงตากลมโตก็ทอดสายตามองไปรอบๆเพราะเธอเคยเห็นแต่ในหนังไม่เคยเห็นกับตาจริงๆแบบนี้มาก่อน ทั้งการแต่งหน้าทำผมและการจัดฉากต่างๆ ช่างทำให้คนที่มีความใฝ่ฝันอยากมายืนอยู่จุดๆ นี้ตั้งแต่เด็กๆนั้นก็ตื่นเต้นจนออกหน้าออกตา
“ไปกันครับ”เสียงของดาราแฝดเอ่ยปากชวนผู้จัดการฝึกหัดลงจากรถเพื่อที่พวกเขาจะได้ไปเตรียมตัวเข้าฉากต่อไป
“สวัสดีค่ะเจ๊ซูซี่ เจอกันอีกแล้วนะคะ”เสียงของเจ๊ตุ๊กตาเอ่ยทักทายตามมารยาทของเธอ
“สวัสดีค่ะ ปันปันไปชงกาแฟตรงนู้นมาให้สองใต้ค่ะ เดี๋ยวเจ๊จะไปดูภีมสักหน่อยเดี๋ยวเจ๊มา”เจ๊ซูซี่ทักทายผู้จัดการดาราสาวสวยเพียงสั้นๆก่อนจะหันใบหน้าสวยฉ่ำมาสั่งงานปันปันสาวน้อยหน้าหวานผู้จัดการฝึกหัดของเธอ
“ได้ค่ะ”พูดจบปันปันก็เดินไปชงกาแฟที่อยู่อีกฝั่งทันทีโดยในระหว่างทางที่เธอเดินไปชงกาแฟนั้นคนทั้งกองถ่ายก็หันมาให้ความสนใจเธอเป็นตาเดียวแต่ทว่าใบหน้าสวยก็ยิ้มให้โดยไร้พิษภัยซึ่งแน่นอนว่ารอยยิ้มของเธอก็ทำให้ถูกใจใครต่อใครหลายคน
เมื่อเดินมาถึงโต๊ะชงเครื่องดื่มของเหล่าดาราปันปันก็ลงมือชงกาแฟอย่างเชี่ยวชาญทันที แต่ทว่า...
“อ๊ะ!!!”ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อมีร่างหนาของใครบางคนซ้อนเข้ามาทางด้านหลัง
“พอดีผมกินหวานน่ะครับ เลยมาเอาน้ำตาลเพิ่ม”เสียงของใต้สมุทรเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นมือหนาไปหยิบซองน้ำตาลเล็กๆที่วางอยู่ตรงหน้าของเธอ นั่นจึงทำให้ร่างหนากำยำของเขาเบียดเสียดสีกับแผ่นหลังเล็กๆของเธอแถมมือหนาของเขาก็เฉียดหน้าอกอวบอวบอิ่มของเธอไปเพียงเสี่ยวเดียว
“อ้อ...ค่ะ”ปันปันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักก่อนจะหาจังหวะลอดออกใต้หว่างแขนแกร่งของใต้สมุทรแต่ทว่า....
ตุบ!!!
“อ๊ะ!!!”หนีเสือปะจระเข้สินะ เมื่อลอดออกมา ใบหน้าสวยก็ปะทะเข้ากับอกแกร่งของใต้ธาราอย่างแรงจนกาแฟที่เธอพึ่งชงมาร้อนนั้นหกราดเต็มเสื้อของเขาเต็มไปหมด
“ขะ...ขอโทษค่ะ ร้อนไหมคะ ปันปันซุ่มซ่ามเอง ปันปันขอโทษจริงๆนะคะ”เธอรีบวางแก้วกาแฟลงแล้วรีบยื่นมือเรียวไปหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดเสื้อราคาเเพงให้ใต้ธาราด้วยสีหน้าท่าทางคล้ายคนจะร้องไห้ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่ายังไงคราบกาแฟก็ไม่มีทางออก แต่ก็ดีกว่าจะให้มันเลอะอยู่แบบนี้
“ฉันไม่เป็นไร”เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเธอแล้วใต้ธาราก็ถึงกับคลี่ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
เป็นการทดลองงานวันแรกที่ทำให้ดาราแฝดต้องเสียเสื้อราคาแพงไปอีกหนึ่งตัว ถึงแม้ว่าถ้าซักจริงๆคราบกาแฟก็ออกแต่ทว่าก็คงไม่มีดาราคนไหนอยากจะใส่ซ้ำหรอก