'18:45นาที'
ตอนนี้ปันปันก็เดินทางมาถึงบ้านแล้ว หลังจากที่เธอไปยืนรอคิวซื้อหมูกระทะมาฉลองกับน้าของเธอเลยทำให้เธอนั้นกลับมาถึงบ้านในตอนที่ ฟ้ากำลังมืดเลย
“น้าคะ ปันปันกลับมาแล้ว”ปันปันวิ่งเข้ามาภายในบ้านสองชั้นสไตล์โมเดล พร้อมกับหอบหิ้วถุงหมูกระทะมาพะรุงพะรังจนทำให้เอมอรที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่นั้นต้องรีบหยัดกายลุกขึ้นจากโซฟาแล้วปรี่เข้ามาช่วยเธอถือของทันที
“รีบร้อนอะไรขนาดนั้นปันปัน แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลย”เอมอรเอ่ยถามหลานสาวสุดที่รักของเธอเมื่อรับถุงพลาสติกสีใสที่เต็มไปด้วยผักและของกินเพียบ
“ปันปันซื้อหมูกระทะมาฉลองกับน้าค่ะ”ปันปันเอ่ยบอกเอมอรน้าของเธอด้วยรอยยิ้มแสนจะมีความสุข ทำเอาเอมอรที่เห็นรอยยิ้มของเธอก็พลอยยิ้มตามไปด้วย
“ฉลองอะไรกันละหื้ม เจ้าตัวแสบ”เอมอรเอ่ยถามปันปันพร้อมกับยกมือเรียวขึ้นไปขยี้ที่เส้นผมนุ่มของปันปันเบาๆ
“น้าคะ ปันปันได้งานแล้วนะคะต่อไปนี้ปันปันจะมีเงินเก็บมาให้น้าเปิดร้านอาหารเหมือนกับที่น้าเคยพูดกับปันปันแล้วนะคะ”เธอพุ่งเข้าสวมกอดผู้เป็นน้าพร้อมกับเล่าให้น้าของเธอฟัง ว่าเธอนั้นได้งานแล้วและจะเก็บเงินทำร้านเล็กๆ ให้น้าของเธอ
“น้าดีใจด้วยนะปันปัน ขอบคุณนะที่คอยเป็นความสุขให้น้า น้ารักปันปันมากนะลูก”มือเรียวยกขึ้นมาโอบกอดหลานที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะแน่นตลอดเวลาที่เธอเลี้ยงเด็กคนนี้มา เธอไม่ได้หวังผลตอบแทนหรือหวังบุญคุณอะไรจากเด็กคนนี้เลยสิ่งเดียวที่เธอต้องการก็แค่ให้เด็กคนนี้เป็นคนดีมีจิตใจที่ดีงามก็แค่นั้น
“ปันปันก็รักน้าค่ะ ปันปันขอบคุณน้ามากๆ เลยนะคะที่ไม่ทิ้งปันปันและเลี้ยงดูปันปันมาเป็นอย่างดี”เธอรู้ว่าพ่อแม่คือคนที่มีพระคุณที่สุดแต่ทว่า ณ เวลานี้คนที่มีพระคุณกับเธอมากที่สุดก็คือเอมอร อัญมณี น้าของเธอเพียงคนเดียว
“จ๊ะ งั้นเรามาฉลองกันเถอะหลานสาวสุดที่รักของน้า”พูดจบเอมอรก็ผละกอดออกพร้อมกับเอ่ยปากชวนปันปันหลานสาวของเธอมาเริ่มฉลองกันในทันที
ทันทีที่เอมอรเอ่ยปากชวนปันปันก็รีบไปเตรียมจานช้อนและก่อไฟเพื่อตั้งเตาหมูกระทะในค่ำคืนนี้อย่างมีความสุข
‘เช้าวันต่อมา’
ค่ำคืนแสนมีความสุขก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเช้าวันนี้ก็เป็นเช้าที่สดใสและเป็นเช้าที่ปันปันนั้นต้องไปแนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับเจ๊ซูซี่ผู้ที่เอ็นดูเธอและรับเธอเข้าทำงานด้วย
เมื่อคืนนี้หลังจากฉลองที่ได้งานใหม่ด้วยหมูกระทะแล้วปันปันก็แอดไลน์ไปหาเจ๊ซูซี่และตกลงกันเรื่องงานโดยเจ๊ซูซี่จะให้เธอเป็นผู้จัดการฝึกหัดไปก่อนและวันนี้เจ๊แกให้เธอไปพบที่กันที่บ้านพักของดาราแฝดที่เธอนั้นได้ปักที่อยู่ไว้ให้
“ปันปัน น้าห่อข้าวใส่กล่องให้แล้วนะจ๊ะ"เสียงของเอมอรตะโกนบอกหลานสาวตั้งแต่เช้า หลังจากทำอาหารใส่กล่องให้หลานสาวเสร็จ
“ขอบคุณมากๆนะคะน้า” เสียงหวานเอ่ยขอบคุณผู้เป็นน้าในขณะที่เธอกำลังสาวเท้าเดินลงมาจากชั้นบน
“ว้าวๆ วันนี้หลานสาวน้าแต่งตัวน่ารักจัง”ทันทีที่เห็นลุคการแต่งตัวของหลานสาวผู้เป็นน้าก็เอ่ยปากชมทันที
“เขินจังเลยค่ะ ปันปันสายแล้วค่ะน้ากว่าปันปันจะเดินทางไปถึงในเมือง ปันปันไปแล้วนะคะน้า จุ๊บ” เมื่อมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ มันก็ทำให้สาวน้อยรีบวิ่งเข้าไปจุ๊บลงที่แก้มนวลของผู้เป็นน้าพร้อมกับคว้ากล่องข้าวแล้ววิ่งไปรอรถประจำทางทันที
“หลานคนนี้นี่” เอมอรเอ่ยตามหลัง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
‘ฝั่งเจ๊ซูซี่’
ในเมื่อวันนี้มีนัดเจ๊แกก็รีบขับรถสปอร์ตสีหวานออกจากคอนโดหรูตั้งแต่เช้าเพื่อเดินทางมาหาดาราแฝดที่บ้านพักราคาแพงทันที
“มอนิ่งค่ะลูกชายของมี้”ทันทีที่ขับรถมาถึง เจ๊ซูซี่ก็เดินเข้ามาภายในบ้านพักของดาราแฝดด้วยความเคยชินพร้อมกับเอ่ยบอกมอนิ่งใต้ธารากับใต้สมุทรที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องรับแขกทันที
“ไหนล่ะ ครับเด็กฝึกหัดของเจ๊”เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานเจ๊ซูซี่บอกว่าจะมีเด็กฝึกหัดมาแนะนำแต่ทว่าก็เห็นเจ๊แกมาเพียงคนเดียวใต้สมุทรจึงเลิกคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะเอ่ยถามออกไป
“เดี๋ยวก็มาค่ะ ใจร้อนจริงลูกชายคนนี้”เจ๊ซูซี่เอ่ยบอกลูกชายทั้งสองของเธอด้วยน้ำเสียงปกติก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือราคาแพงขึ้นมาเพื่อทักหาปันปันว่าเธอนั้นว่าถึงไหนแล้ว
‘ปันปันใกล้ถึงแล้วค่ะเจ๊’ทันทีที่เจ๊แกทักไป สาวน้อยก็พิมพ์ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วทันใจ
“อีกไม่นานเกินรอ รอชมใบหน้าผู้จัดการฝึกหัดของเจ๊ได้เลย”พูดจบเจ๊ซูซี่ก็นั่งไขว่ห้างเล่นโทรศัพท์มือถือรอสาวน้อยหน้าสวยอย่างสบายใจ
‘15นาทีต่อมา’
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!
เสียงเคาะประตูบานใหญ่ดังขึ้นจากทางด้านนอก ทำเอาดาราแฝดที่นั่งตั้งหน้าตั้งตารออยู่ภายในบ้านนั้นก็รับรู้ได้ทันทีว่าผู้จัดการฝึกหัดของเจ๊ซูซี่เดินทางมาถึงแล้ว
“เดี๋ยวเจ๊ไปเปิดประตูเอง”พูดจบเจ๊แกก็หยัดกายลุกขึ้นจากโซฟาหรูแล้วเดินตรงไปเปิดประตูทันที
“สวัสดีค่ะเจ๊”ทันทีที่เจ๊ซูซี่เปิดประตูปันปันที่ยืนรออยู่หน้าประตูก็รีบยกมือเรียวขึ้นไหว้อย่างมีสัมมาคารวะทันที
“ว้ายยยย!!! สวยมากลูกสาว”เจ๊ซูซี่ยกมือขึ้นมารับไหว้แต่ทว่าก็ละสายตาออกจากลุคการแต่งตัวของปันปันไม่ได้เลย กระโปรงสั้นๆเข้าคู่สีฟ้าโบใหญ่สีชมพูอยู่กลางหน้าอกมันก็ยิ่งทำให้ปันปันดูน่ารักน่าดึงดูดไปหมด
“มาๆ เข้ามาข้างในก่อนค่ะลูกสาว”เมื่อเห็นท่าทางตื่นตกใจของปันปันเจ๊ซูซี่ก็ถึงกับลอบขำเบาๆบางทีเธออาจจะวี๊ดว้ายเสียงดังไปหน่อย
เมื่อเจ๊แกเอ่ยปากชวนเข้าไปภายในบ้านพัก ปันปันก็ถอดรองเท้ารัดส้นน่ารักๆออกแล้วสาวเท้าเดินตามเจ๊แกเข้าไปยังห้องรับแขกทันที
เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องรับแขกดวงตากลมโตก็เหลือบไปเห็นดาราแฝดที่เธอเองก็ติดตามพวกเขาผ่านโลกโซเชียลอยู่นั้นกำลังนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ตรงหน้า
“ฮะแฮ่ม..”เสียงของเจ๊ซูซี่กระแอมขึ้นเบาๆ ทำเอาแฝดที่กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่นั้นต่างพากันเงยหน้าขึ้นแล้วส่งสายตามองมาที่ปันปันเป็นตาเดียวกัน
“นี่ปันปัน ผู้จัดการฝึกหัดของเจ๊เอง”ทันทีที่สองแฝดหันมาให้ความสนใจเจ๊ซูซี่ก็รีบเอ่ยแนะนำปันปันให้ใต้ธารากับใต้สมุทรได้รู้จักทันที
“อะ...เอ่อสวัสดีค่ะ ฉันณิญาริน อัญมณี หรือปันปันอายุ 22 ปี ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”เมื่อเจ๊แกเปิดทางให้แล้วปันปันก็รีบเอ่ยแนะนำตัวอย่างเป็นทางการให้ดาราแฝดได้รู้จักเธอทันที
“สวัสดีครับปัน”
“สวัสดีครับปัน”
สองพี่น้องฝาแฝดเอ่ยทักทายสาวน้อยหน้าหวานโดยเรียกชื่อเธอคนละประโยค ก่อนที่ทั้งสองจะหันใบหน้าหล่อไปมองกันแล้วแสยะยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย ใครจะไปคิดว่าสาวสวยที่พวกเขานั้นเคยอ่านกินเมื่อสองวันก่อนจะมาเป็นผู้จัดการฝึกหัดของเจ๊ซูซี่ หึๆ แบบนี้มันก็เท่ากับว่าเหยื่ออันโอชะเข้ามาติดกับง่ายๆโดยที่พวกเขานั้นไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อยเลยสินะ
“งั้นทำความรู้จักกันไปก่อนนะ เดี๋ยวเจ๊ไปเอาน้ำกับผลไม้มาให้ค่ะ”พูดจบเจ๊ซูซี่ก็เดินตรงไปยังห้องครัวทันที โดยปล่อยให้ปันปันนั้นอยู่กับดาราแฝดเพียงลำพัง
ฟึ่บ!!!
เมื่อเจ๊ซูซี่เดินไปจนพ้นห้องรับแขกดาราแฝดก็พากันหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วสาวเท้าหนาเดินเข้ามาหาปันปันที่ยืนอยู่หลังโซฟาทันที
“ชื่อใต้ธารานะครับ อายุ 25 ปี”
“ชื่อใต้สมุทรนะครับ อายุ 25 เหมือนกัน”
ดาราแฝดเดินเข้ามาประกบข้างร่างบางทั้งซ้ายและขวาพร้อมกับโน้มใบหน้าหล่อลงไปกระซิบลงข้างใบหูขาวสะอาดของปันปันด้วยน้ำเสียงแหบพร่าจนทำเอาปันปันที่ไม่เคยใกล้ชิดชายใดมาก่อน ก็ถึงกับหน้าแดงผ่าวเนื้อตัวสั่นเทาและเอาแต่ก้มหน้าลงมองเท้าตัวเอง
‘อะไรกันนี่ทำไมหัวใจของเราถึงเต้นแรงแบบนี้’ปันปันได้แต่คิดในใจพร้อมกับเอามือจิกลงที่โซฟาตรงหน้าแน่นขึ้น