บทที่ ๕ หม้ายขันหมาก

1106 คำ
บทที่ ๕ หม้ายขันหมาก เฒ่าแก่ทาบทาม[1] ถึงสองคราวมาเจรจาสู่ขอบุตรสาวบ้านนี้ หนักใจอยู่เหลือประมาณ คุณพระประสิทธิ์มาขอความช่วยเหลือจากท่านเพราะรู้จักกันมานานหลายปีจากโรงเรียนนายเรือ ตั้งแต่คุณหลวงเพิ่งย้ายมาประจำการใหม่ ๆ หากไม่ใช่เจ้าคุณขนอม คุณหลวงจันไม่สนิทใจให้ผู้ใดมาเป็นผู้ใหญ่ และถึงแม้ว่าญาติทางฝั่งเจ้าบ่าวเดิมที่รู้จักท่านเช่นกันอาจเสียหน้าอยู่ไม่น้อย ท่านก็ยอมเป็นธุระไปพูดจาให้ฝ่ายหญิงรับคำสู่ขอในทันที เมื่องานมงคลสิ้นสุดลงด้วยดี ท่านเจ้าคุณขนอมในชุดราชปะแตนเต็มยศเดินทางมาแต่เช้ามืด เพื่อแสดงความยินดีกับเจ้าของเรือน ก่อนขออนุญาตลงไปในครัวเพื่อพบปะบิดามารดาของทางฝั่งเจ้าสาวที่หน้าตาระรื่นมีความสุข เว้นแต่ตัวผู้ออกเรือนเองกลับมีสีหน้าปั้นยิ้ม “ขอบคุณท่านเจ้าคุณขอรับ อุตส่าห์มาเป็นธุรจัดการให้บ้านกระผม ซาบซึ้งในพระคุณท่านยิ่งนัก” “ไม่เป็นไร ๆ เอาเถิด ขอให้ครองคู่กันนาน ๆ ถือไม่เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร คุณหลวงจันท่านเป็นผู้ดี ไม่เล่นเบี้ยกินเหล้าเมาฝ**นกัญชา ท่านเอาการเอางาน ไม่ค่อยจะเที่ยวเตร็ดเตร่ในยามวิกาลอีก นับเป็นบุญของหล่อนแล้วแม่แก้ว ฉันมาแสดงความยินดีอีกครั้ง” เป็นบุญล้นพ้น! แก้วตาถูกมารดาต่อว่าเรื่องนี้มาหลายวัน หล่อนน่ะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แม้เป็นลูกสาวเศรษฐีโรงฝ**นแต่การข้องเกี่ยวฝ**นกัญชา ต่อให้ไม่ได้สูบ ก็ยังไม่ใช่เรื่องดี ไหนจะชื่อเสีย ๆ ของอดีตเจ้าแม่ตำหนักร่างทรง แถมซวยซ้ำซวยซ้อน มีผู้ดีมาสู่ขอก็ชิงตายเสียก่อนงานมงคล หล่อนจึงถูกตราหน้าเป็น ‘หม้ายขันหมาก’ ที่ขายไม่ออกไปตลอดชีวิตเป็นแน่แท้ “เรื่องบ่าวคนก่อนนั้นฉันเสียใจด้วย ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นกระไรถึงเสีย?” “ท่านขุนป่วย...” ไม่ขาดคำดีก็ถูกแทรก คุณนายศรีสมรส่งสายตาไม่ให้บุตรสาวพูด ยกมือประนมไหว้เสียยกใหญ่ “ดิฉันต้องขอบพระคุณท่านเจ้าคุณ ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดี ขืนไม่ได้รับน้ำใจจากท่านเจ้าคุณ ชาตินี้ทั้งชาติบุตรสาวดิฉันคงไม่ได้ออกเรือนดอกกระมัง” “ลูกก็มิได้อยากมีผัวเสียหน่อย อาม้าอาเตี่ยคลุมถุงชนลูก แต่อย่างไรก็ขอบพระคุณเจ้าค่ะคุณท่าน” แก้วตายกมือประนมไหว้งามทว่ากิริยาเหล่านั้นไม่เข้าตามารดา ต่อมโทสะนางศรีสมรจึงทำงานประหนึ่งถูกราดด้วยไฟร้อน ปากบอกขอตัวสักครู่เถิด มือกระชากใบหูขาว ๆ เดินลากตามกันออกจากห้องครัวไป “โอ๊ย ๆ อาม้า ๆ ปล่อย ๆ อั๊วเจ็บนะ” บุตรสาวร้องเจ็บแสบบิดตัวไปมาตามมือพิฆาต บริเวณทางเล็กแคบติดรั้วสีขาวหลังบ้าน ชุดกี่เพ้าสีแดงของหล่อนยับเยินแม้แต่ทรงผมที่ถูกจิกทึ้ง “หน็อยแน่! นางนี่ ไม่สำเหนียกเจียมตนเลยนะมึง! อีลูกเนรคุณ บุญท่วมหัวเท่าใดมีผู้มาสู่ขอมึงประเสริฐเท่านี้ พูดจาก้ำเกินท่านเจ้าคุณได้อย่างไร อีเกือก อีร่าน มึงอยากได้ผัวเป็นหมอผีอย่างอ้ายมิ่งมันรึอยากเป็นผีตายโหงอยู่หลังป่าช้า ถึงได้ไปสำนักหมอผีเช้าเย็นน่ะ อย่าคิดว่ากูไม่รู้!” “ปล่อยลูกอั๊วนะ อีสมร!” “กูต้องสั่งสอนลูกกู อ้ายเ**กอี้! มึงเป็นผัวที่จะต้องอยู่ในโอวาทเมียอย่างกู ถอยไป!” ไม่วายโดนมารดาตีก้นหยิกหูจนเขียวไปหมด ทว่าหล่อนยังยอมยืนนิ่งให้มารดาสั่งสอน โดยมีบิดายืนน้ำตาคลออ้อนขอเมียอย่าตีบุตรสาว แต่เ**กอี้ยังเกรงใจเชื่อฟังเมียหากถูกเมียตวาดว่าเข้า สุดท้ายก็โดนดึงหูทั้งพ่อลูก กว่าคุณนายจะปล่อย “อย่าได้อ้าปากสวนกูนะมึง จะโดนดี แหละห้าม! เปิดเผยสันดานต่ำช้าในบ้านนี้เป็นเด็ดขาด หากคุณหลวงระอาใจกับมึงเมื่อใด มีปัญหากับกูแน่” “จ้ะ ม้า... ฉันไม่กล้า” ตอบเสียงอ่อน ใบหน้าสดสวยสลดเศร้ายืนซุกกอดบิดา แก้วตาถึงจะดื้อด้านไร้กาลเทศะในบางครั้งอย่างไร กลับประหวั่นพรั่นกลัวเจ้าแม่ศรีสมรเป็นที่สุด แต่ที่หล่อนกลายเป็นคนอย่างนี้จะให้โทษใคร “โอ๋ ๆ ลูกแก้ว... ไม่เจ็บร้อนนะลูกนะ อาม้าอีหยิกหูเท่านี้ ประเดี๋ยวเตี่ยจะให้บ่าวไปเอาหยูกยามาให้” “เตี่ย... ทำไมอาม้าใจร้าย” อ้อมแขนของบิดาเป็นที่พักพิงเพียงหนึ่งเดียว พอมารดากระแทกเท้าออกไปขอโทขอโพยท่านเจ้าคุณที่เสียมารยาท โดยมีคนคอยปลอบ จัดแจงทรงผมอาหมวยให้เข้าที่เข้าทางก็ว่า “สองสามวันมานี้อีไม่ได้ดมกลิ่นก***ายาฝ**นกระมัง มัวแต่ยุ่งกับงานตบแต่งลูก นั่งนับเงินอัฐเงินเฟื้อง ทองอีกตั้งเท่าไร” “เอาอีกละ เตี่ย ลืมได้ยังไง กลับบ้านไปรอบนี้เอาให้ดมเยอะ ๆ โดยเฉพาะกัญชา เอาให้หัวร่อจนหัวทิ่มเทียว” บิดาหัวเราะเจื่อน มัวแต่กอดปลอบบุตรสาวนอกไส้ ที่รักดั่งแก้วตาดวงใจ โดยไม่รู้ตัวว่าคุณนายชะโงกหน้ามาอีกรอบ แต่พอเหลือบไปเห็นเข้าพอดีก็กอดบุตรสาวแน่นโดนว่า “เออดี... ตามใจลูกจนได้ดีไหมล่ะ!” เป็นเรื่องน่าเหนื่อยหน่ายกับงานประเพณีมากมายยังกับบ้านเมืองยังอยู่ในสมัยอยุธยาตอนต้น ทั้งที่เข้าสู่รัชสมัยรัตนโกสินทรศก ๑๓๑ แล้ว ความศิวิไลซ์แผ่อิทธิพลจนเข้าสู่สังคมเมือง วัฒนธรรมโบราณหลายอย่างค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา คุณหลวงจันเกิดระอาใจถึงขั้นว่าอยากจำแลงกายเป็นกุมภิลคาบเจ้าสาวคนงามลงถ้ำบาดาลไปเสียให้สิ้นเรื่อง หากไม่เป็นเพราะลืมตาตื่นมาสบตาใสแป๋วในอ้อมแขนเปียกปอนที่หยาดน้ำตาแห้งเหือดไปเพราะการเอาใจจากผัวทำให้อารมณ์ดีขึ้น หล่อนตกใจลุกจากอ้อมกอดของเขาไปแต่งตัวด้วยชุดกี่เพ้าสีแดงสดอย่างเคอะเขิน พอเผลอตัวเผลอใจไปกับการกอดจูบประสาหนุ่มสาว ซึ่งกินเวลาเนิ่นนานนับชั่วโมงจนปากระบมเสียหมดกว่าจะได้นอนเอาแรง [1] เฒ่าแก่ทาบทาม เป็นผู้หลักผู้ใหญ่จากทางฝ่ายชายตั้งขึ้นเป็นผู้แทนไปสู่ขอฝ่ายหญิง อาจเป็นผู้ใหญ่ที่มีคนเคารถนับถือมากไปช่วยเจรจา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม