บทที่ ๖ หม้ายขันหมาก

1161 คำ
บทที่ ๖ หม้ายขันหมาก เรือนผมยาวสลวยถูกเกล้าไว้กลางศีรษะ ปักด้วยปิ่นปักผมจีน ขับใบหน้าหวานเกลี้ยงเกลาในเครื่องสำอางอ่อน ผิวขาวละเอียดบริเวณต้นคอเพรียวระหง ดวงตาเรียวรีทว่าสว่างใสราวลูกแก้วไม่ใช่สาวตาเล็กตี่อย่างอาหมวยทั่วไปดูอย่างไรก็งามอล่องฉ่อง[1] ไม่ว่าหล่อนจะทำกระไร คุณหลวงจันยังเอาแต่ลอบมอง ลุกไปอาบน้ำทีหลังค่อยหยิบเสื้อคอจีนสีเดียวกันมาสวมแล้วลงไปต้อนรับแขก ทั้งเพื่อนบ่าวสาวและญาติพี่น้องผู้มาร่วมงานบุญอีกรอบในช่วงพระฉันเพลสาย รวมถึงคุณนายศรีสมรที่ค่อนข้างจู้จี้จุกจิกจัดการคุมงานเรื่องอาหารในครัว ยังออกมาช่วยกำกับงานด้านหน้าบ้านพอถวายภัตตาหารเสร็จ “อย่าได้ลืมเทียวนะแม่อ่วม อาหารใส่บาตรช่วงนี้ห้ามไม่ให้มีต้มยำ ผัดเผ็ด แกงร้อน ให้มีกับข้าวเช่นถั่วงอก ชีวิตคู่จะได้เจริญงอกงาม ขนมจีนเป็นเส้นยาว อายุยืนนานยืดยาว ให้คู่บ่าวสาวรักกันนาน ๆ” “มีกระบองเพชรด้วยดีหรือไม่คะ? บ่าวสาวจะได้ถือไม้เท้ายอดทองกระบองเพชรยังไงคะคุณผู้หญิง” “กระบองเพชร! อุ๊ยตาย เอากระไรคิด มันจะไม่ขมปากพระท่านรึ!?” บ่าวหลายคนบนเสื่อได้หัวเราะเยาะความคิดพิสดารของแม่อ่วม ก่อนที่เจ้าสาวจะขอปลีกตัวไปด้านนอก มารดาก็ยังเดินตามมากำชับบุตรสาว มาถึงบริเวณหน้าห้องรับแขกเป็นทางโถงเดินยาว แก้วตารู้สึกว่ามือหล่อนแทบช้ำพอ ๆ กับปากเพราะเจ้าบ่าวจับเอา ๆ แทบไม่วางทัพพีมาตั้งแต่เช้าแล้วยังทำขยิบตาเจ้าเล่ห์ ไม่น่าไว้วางใจ “เวลาตักบาตรทำบุญให้นำข้าวระคนลงในขัน ข้าวของเจ้าสาวใส่ลงในฝาบาตร แลตักใส่บาตรคุณพระท่าน อย่าได้จับด้านบน เป็นหญิงจะถือเคล็ดให้ผัวกลัวเกรงตน จะไม่งาม ให้จับทัพพีไว้ด้วยกันจะได้รักกันนาน ๆ” “นี่แน่ะ อาม้า... ไม่ใช่ว่าเป่ามนตร์พ่นคาถาโอม... ผัวรักผัวหลงเชื่อฟังยำเกรงไปทุกสิ่งเลยหรือจ๊ะ? ลูกว่าดีน่ะ อาม้าทำออกจะบ่อยไป” “ปากสว่างจริงนะแก!” ในเสียงกระซิบว่า คุณนายเกือบจะหยิกต้นแขนบุตรสาวให้เขียวสักที แต่เพราะโดนหลังมือหนาเข้าแทน เมื่อคุณหลวงจันเลื่อนมือโอบคนตัวเล็กกระชับไว้ข้างกาย “เรื่องเท่านี้ทำกระไรฉันไม่ได้ดอก จะตักจะเทก็ตามสะดวก นานทีปีหนฉันจะทำบุญสักครั้ง ฉันไม่ถนัดงานบุญเท่าใด” พลันชายตามองดุ เมื่อช่วงเช้านี้เผอิญได้ยินเสียงเอ็ดตะโรจากทางข้างหลังบ้าน จึงถือเอาโอกาสพูดขึ้นเสียเลย “ยกลูกสาวให้ฉันแล้ว จะพ่อแม่หรือใคร ฉันไม่ใคร่พอใจหากมาหยิกตีเมียฉัน ฉันอนุญาตให้เพียงว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น แต่นั่นควรเป็นหน้าที่ผัวอยู่ดี” “แต่ฉันเป็นแม่มัน...” “ฉันก็ซื้อเมียมาด้วยสินสอดตามธรรมเนียมประเพณี มากโข... หม้ายขันหมากรึไม่มีทางได้ราคาเท่านี้ กี่หลายหมื่นบาท เวลานี้หล่อนเป็นของฉัน” “พ่อเจ้าประคุณ! เพิ่งตบแต่งได้ไม่กี่วันเท่านี้เอง เออดีนะ ผัวรักผัวหลงเจริญ ๆ คล้งเคล็ดกระไรก็ไม่ต้องถือกันละ ตามสะดวกใจเถอะ” แม่เฒ่ามากเรื่องทำเสียงแหลมเล็กแสนแสบแก้วหูประชดประชัน ก่อนสะบัดหน้าพรืดเดินกร่อม ๆ ไป จากนั้นคุณหลวงจันที่ว่าดีนักหนาก็เข้าหน้าใครไม่ติดสักคน ตะขิดตะขวงไปเสียรอบข้างด้วยความรำคาญใจอยากอยู่ตามลำพังกับเมียเต็มทน ทว่าอย่างน้อย ๆ ตอนถึงเวลาเลิกงานมงคล แขกเหรื่อทยอยกลับบ้านกันไปหมดแล้ว เขายังใจดีให้พ่อแม่ลูกได้บอกลากันหน้าบ้านสักประเดี๋ยวหนึ่ง ขณะเขี้ยวขาวคมตรงมุมปากหนาฉีกยิ้มกว้างหวานจนเห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ ไม่มีใครทันสังเกต เว้นเสียแต่คุณพระในชุดสูทฝรั่งเป็นทางการ ถือถาดอาหารกลางวันเข้าห้องมาวางบนโต๊ะไม้สักสลักมุกกลางห้องรับแขก “เอ้อ... เก็บเขี้ยวด้วยขอรับท่าน... เขี้ยวอ้ายเข้โผล่แพลมแหนะ” “อ้าว... อย่างนั้นรึ? ขอบใจคุณพระ” พูดพลางยกขาขึ้นไขว่ห้างถือไม้ตะพด เขี้ยวคมตรงมุมปากกลับมาสั้นเสมอฟันซี่อื่นบนใบหน้าหล่อเหลา เช่นบุรุษรูปงามมีเขี้ยวปรกติไม่ใช่อมนุษย์ “ยกขันหมากทองหมั้นไปก็แล้ว เฒ่าแก่ทาบทาม จัดเรือนหอ ตักบาตรเลี้ยงพระ ไหว้ผีไหว้เ**กไหว้บรรพบุรุษเจ๊ก ปูที่นอน ส่งตัวเจ้าสาวแล้วอะไรอีก? น่าเวียนหัว... ยังจะมีธุรกงการกระไรกันอีกไหม?” คุณพระถอนหายใจฮึดฮัด “อีกนิดหนึ่งนะขอรับ คู่บ่าวสาวจะได้รักกันยืนนาน เป็นเคล็ดเป็นสิริมงคลตามธรรมเนียมประเพณี กระผมว่าบ้านเราก็ดี มีระเบียบแบบแผน แค่สามสี่วันเท่านั้นแหละขอรับที่จะยุ่งวุ่นวาย” “แต่ฉันหน่ายกับงานเยอะแยะมากมายเต็มทน...” “นับว่าดีถมถืดนะขอรับ บางบ้านเจ้าบ่าวต้องนอนเฝ้าเรือหอเสียก่อนจะได้เมีย เป็นอาทิตย์ ๆ” “เป็นอาทิตย์เลยรึ!?” แค่คิดว่าจะต้องนอนลำพังเป็นอาทิตย์ทั้งที่ยกขันหมากไปแล้วนั่น ใบหน้าหล่อเหลาตะลึงงันอยู่พักใหญ่ ผลัดกันบ่นกับคุณพระ “ตบแต่งแล้วให้ผัวเมียได้อยู่กันเสียทีไม่ได้รึยังไง? เมื่อไรบ้านฉันจะเงียบสงบ พอเสียทีเถอะ ขอลาที” “หื่นกาม... ภาพพจน์ของคุณหลวงคงเป็นเช่นนั้นขอรับ” “ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะดัง พลันเคาะไม้ตะพดลงบนพื้นทีหนึ่ง เมื่อคุณหลวงหนุ่มรวบรวบสติกลับมาได้ นัยน์ตาสีดำสนิทกลายเป็นสีแดง ด้วยพลังอำนาจของกุมภิลที่อำพรางตน คุณหลวงหนุ่มเพียงทอดสายตามองไปข้างหน้าลมฟ้าอากาศ แต่สื่อสารกับบ่าวทางจิต ‘ที่ให้ไปสืบความมา ได้เรื่องว่ายังไง?’ ‘เจ้าบ่าวเสียชีวิตวันยกขันหมากพอดี ไม่ทันจะได้ตบแต่ง กระผมไม่แน่ใจว่าถูกยาสั่งหรือไม่ กระผมได้ยินมาว่าท่านขุนชมเป็นคนใหญ่คนโต มีปัญหาทางการเมืองกับนายพลชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งขอรับ’ ‘หล่อนรู้เห็นด้วยหรือไม่ล่ะ?’ ‘ไม่ทราบขอรับ’ ‘ไป... จัดการให้ทีหน้ะคุณพระ’ “ขอรับกระผม” ในน้ำเสียงเข้มเครียดตอบ คุณพระลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป สวนกับหญิงสาวที่เข้าบ้านมาด้วยนัยน์ตาเอ่อคลอหลังบอกลาบิดา แต่จู่ ๆ นั้นหล่อนกลับมีสีหน้าสงสัยคลางแคลงใจ มองสองหนุ่มสลับกันไปจนสบเข้ากับรอยยิ้มใจดีของเจ้าของบ้าน “มาสิหล่อน ฉันจะพาไปดูบ้านเสียหน่อย...” [1] อล่องฉ่อง [อะ-หล่อง-] ว. งามเด่นน่าชม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม