บทที่ ๔ สุดสิ้นงานมงคล
แก้วตาไม่รู้ตัวว่าชายร่างกำยำขยับเข้ามาใกล้ รดลมหายใจบนแก้มแผ่วเบา
“ถอดเสื้อให้ฉันหน่อย ร้อนหน้ะ”
เจ้าสาวคนสวยตกใจสะดุ้งโหยง สบตาคมกริบราวมีดที่พร้อมจะเฉือนเนื้อให้ขาดวิ่น
“เร็วเข้าซี ไหนลองปฏิบัติหน้าที่เมียน่ะ แค่ถอดเสื้อเท่านี้”
“ค่ะคุณหลวง”
ธรรมดาหล่อนไม่เคยอยู่สองต่อสองกับผู้ชายมาก่อน จึงแสดงกิริยาเคอะเขินไร้ความชำนาญ มือสั่นเทาเลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตฝรั่ง ที่คลุมทับด้วยสูทผ้าไหมซึ่งเขาถอดมันออกวางบนที่นอน
บนเตียงนอนไม้สักปูด้วยที่นอนสีขาวนุ่มนำเข้ามาจากเมืองฝรั่งใหม่ ๆ มุ้งใหญ่คลุมบนเสาทั้งสี่ข้าง คุณหลวงหนุ่มพลอยลอบถอนหายใจ ตาคมจรดมองร่างเล็กสั่นกลัว แต่ยังนั่งรอจนมือนุ่มนิ่มน่าทะนุถนอมจัดการงานเสร็จค่อยว่า
“ดูทำเข้า ราวว่าฉันเป็นยักษ์มาร ฉันยังไม่ได้ทำกระไรหล่อนสักอย่างเดียว ฉันไม่ใช่ผู้ชายวิปริตผิดมนุษ-มนา ถึงฉันจะไม่ใช่มนุษ...”
“หมายความอย่างไรคะ? ฉันไม่เข้าใจ”
เจ้าสาวคนงามขมวดคิ้วเรียวสวย ในสีหน้าอึดอัดหนักใจ สงสัย
“อยู่ไป ประเดี๋ยวหล่อนก็จะรู้เอง แหละเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ หากว่าหล่อนไม่สมัครใจ ฉันคงไม่ข่มขืนบังคับ ถอดเสื้อให้ฉันเรียบร้อยดีแล้ว ไปเปลี่ยนผ้าผ่อนมานอนเถอะแม่แก้ว...”
ปลายเสียงอ่อนโยนลง ด้วยความรู้สึกแสนสงสารแม่สาวน้อยไร้เดียงสา หากพอหล่อนหน้าตาตื่นตะลึงมองเรือนกายบุรุษใต้เสื้อที่พัดปลิวตามแรงลม เหมือนเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก พลันหลุบหน้าแดงก่ำลงมองหน้าตักตัวเอง คุณหลวงคงนึกตลกขบขันอยู่ในใจ
แก้วตาไม่สามารถข่มตานอนหลังผ่านพ้นงานมงคลสมรส หล่อนพลิกตัวไปมาในความมืดสลัวจากแสงจันทร์ทอดทอผ่านหน้าต่างเปิดอ้ากว้าง ข้างกายชายร่างกำยำผู้ได้ขึ้นชื่อว่าสามีหมาด ๆ บนเตียงนุ่มกว่าฟูกนอนที่บ้าน มีพัดลมให้ลมเย็น ๆ ส่ายไปมา
แปลกที่อุปกรณ์ไฟฟ้ายังไม่เป็นที่นิยมมากนัก จะมีตามสถานที่ราชการ บ้านคุณหญิงคุณนายและวัง ชนชั้นนำผู้ทำให้มันกลายเป็นของใช้ฟุ่มเฟือย เช่นบ้านคุณหลวงจันเองก็มี ไฟดวงสวยอร่ามประหลาดตา เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ นำเข้าจากเมืองนอกเสียทั้งนั้น บ้านท่านสะดวกสบายกว่าบ้านคนจีนที่ปลูกติดกับโรงฝ**นของบิดาหล่อน หรือแม้แต่บ้านซอมซ่อหลังเก่า สำนักร่างทรงของมารดา ตอนนี้ผันตัวมาเป็นคุณนายหลังแต่งงานกับเ**กอี้
หล่อนเปรียบเสมือนแก้วตาดวงตาดวงใจของบิดาชาวจีน ผู้พะเน้าพะนอเอาใจหล่อนมาเป็นอย่างดีกว่ามารดาแท้ ๆ เสียอีก จึงตัดสินใจยกบุตรสาวให้คู่ครองที่ดีที่สุดในสายตาของเตี่ย
แต่แก้วตาไม่ได้อยากมีเหย้ามีเรือน ยังอยากเที่ยวเตร็ดเตร่ทำงานของตนเอง แลที่นี่อย่างไรเสียก็ไม่ใช่บ้าน หล่อนคิดถึงเตี่ย...
ด้วยความคิดเท่านั้น หยาดน้ำตาพาลไหลลงอาบแก้ม ร่างบางในชุดนอนแพรไหมจีนขยับไปหลบตรงมุมเตียง แอบส่งเสียงกระซิกลำพัง
“รำคาญหู...” ปากว่าแต่กายขยับไปคว้าเอวคอดบางมากอด แม้หล่อนไม่ยอมหันมาให้ผัวได้ปลอบเสียหน่อย ยังส่งเสียงสะอึกสะอื้นจนหัวไหล่สั่น
“นอนเสียเถอะแม่แก้ว อีกเดี๋ยวเดียวก็เช้าแล้ว”
ห้ามคนไม่ให้ร้องไห้คงเหมือนห้ามฟ้าห้ามฝน แต่เพราะเขาพอเข้าใจว่าแม่แก้วตาเป็นแค่หญิงสาวอายุยี่สิบปี ถูกบังคับจิตใจให้จากบ้านมาอยู่กับคุณหลวงแปลกหน้าคงเหงาเป็นธรรมดา แต่คุณหลวงจันไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
“ขืนไม่หยุดร้อง ฉันจะทำหน้าที่ผัว บริการหล่อนให้ร้องดังลั่นบ้านทีเดียว หลับตานอนเสียนะแม่แก้ว”
หญิงสาวปิดตาลงในทันที ทว่าหยาดน้ำตายังไหลหล่นลงบนแก้มร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่ได้ นั่นทำให้สามียิ่งหงุดหงิดเสียอารมณ์ จึงพลิกกายขึ้นเท้าฝ่ามือทั้งสองล้อมใบหน้าหวานงาม เพ่งมองคนใต้ร่างด้วยดวงตาคมกล้า
“หน้าตาฉันเหมือนโจรป่าผู้ร้ายหรืออย่างไร ตอบฉันมาซิแม่”
“ไม่... ค่ะ”
“ฉันว่าบรรดาสาว ๆ ออกจะ ‘ฤศยา’ หล่อน ได้ตบแต่งกับคุณหลวงปอปูลาร์เท่าฉัน ขนาดหล่อนเป็นไทยเพียงครึ่ง ฉันไม่เคยดูถูกดูแคลนเ**กอย่างผู้อื่นเขากระทำ”
“ฉันเพียงแต่คิดถึงบ้าน ขอรับประทานโทษเถิดค่ะคุณหลวงท่าน”
เสียงแผ่วเบาสั่นเครือร้องขอทั้งหยาดน้ำตา ใบหน้าหล่อเหลาจึงเคลื่อนเข้าไปใกล้เรือนผมนุ่มหอม พรมจูบตรงขมับเนียน ตรงใดที่หยดน้ำรสชาติเค็มปะแล่มเคยไหลผ่าน เขากลืนกินมันทุกหยาดหยดไม่มีเหลือจนแก้วนวลเนียนเกลี้ยงเกลา
แก้วตาไม่เคยสัมผัสประสบการณ์เรื่องหนุ่มสาว แลด้วยความอ่อนโยนทะนุถนอมถึงเพียงนั้น คุณหลวงรูปงามคงไม่ทำให้หล่อนรังเกียจ เป็นตรงกันข้ามเสียอีก จิตใจดื้อรั้นโอนอ่อนตามการรุกราน แม้กระทั่งว่าเรียวปากหนาหยักได้รูปลากไล้จุมพิตไปตามใบหน้า กลับมาเฝ้าพะเน้าพะนอเอาใจริมฝีปากคู่งาม ที่เผยอออกตามการหลอกล่อของคนชำนาญงานกว่า ราวว่าเขาจะทำให้หล่อนลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจไปได้ชั่วขณะหนึ่ง
คุณหลวงจันยังเผลอส่งเสียงคำรามในลำคอ ปากประกบปิดหล่อนอย่างนั้น ด้วยความพึงพอใจในรสจูบไร้เดียงสา สมกับที่รีบร้อนยกขันหมากไปขอเป็นเมีย! เนิ่นนานกว่าที่เขาจะผละริมฝีปากออก มองหล่อนด้วยแววตาเปี่ยมประกายปรารถนา
“ฉันจะนอนแล้วค่ะ คุณหลวง...”
“ใครอนุญาตให้หล่อนนอน หล่อนเป็นคนปลุกฉัน” เอ่ยอย่างเอาแต่ใจ ก่อนที่เขาจะจับมือเล็กขึ้นกดกุมบนที่นอนข้างหมอนฟูนุ่ม พลันจู่โจมเรียวปากอิ่มงามด้วยจูบหวาน แต่ครานี้กลับสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากงาม กระหวัดเกี่ยวลิ้นน้อยออกมาพร้อมน้ำลายหวานหนืด กลืนกินมันทุกหยด และคอยสอนว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าจูบ
ความเศร้าหมองภายในจิตใจของแก้วตาจึงแปรเปลี่ยนไปเป็นสับสน อบอุ่นรุ่มร้อน เมื่อถูกคุณหลวงแปลกหน้ารุกรานถึงเพียงนั้น
คำเก่าเขียนแบบเก่า = คำปัจจุบัน
ฤศยา = ริษยา
มนุษ = มนุษย์
ปอปูลาร์ = ป็อปปูลาร์