บทที่ ๘ จระเข้หิวโซ
แก้วตาเกือบส่งเสียงกรีดร้องออกมาหากไม่ถูกปิดปากด้วยจุมพิตกระชากวิญญาณ เขาวางหล่อนลงบนเตียงอย่างนิ่มนวล สอดปลายนิ้วเข้าไปในเส้นผมที่สยายกระจายบนหมอน ประคองป้อนจูบอย่างไม่ลดละ กระทั่งความตกใจหางสีดำขนาดใหญ่ ขรุขระสวยงาม ถูกลืมไปชั่วขณะ กว่าผู้ชายตัวโตจะผละจูบออก มองหล่อนด้วยแววตาเร่าร้อนทรมาน
“คะ... คุณ... หลวงเป็น... พญาจระเข้?”
“และหล่อนเป็นเมียฉัน บ้านหล่อนยกลูกสาวให้ฉันแล้ว หล่อนจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น หาไม่... ฉันจะจับกินทั้งหล่อนและบ่าวกินเสีย ฉันอาจจับพ่อแม่หล่อนกินด้วยก็ได้”
เรียวปากงามสั่นระริก ใช่เพราะความหวาดกลัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ท่อนแข็งขึงที่กำลังถูไถบนหน้าขาทำให้หล่อนไม่เป็นตัวของตัวเอง นานแล้วที่หล่อนได้แลเห็นสองหนุ่มสาวกอดรัดกันโดยบังเอิญ เมื่อคราวไปเที่ยวเล่นแถวสำนักหมอผีของอ้ายมิ่ง ต่างคนมีสีหน้าประหลาดชอบกลแต่ก็ดูมีความสุข ยากจะหาคำมาอธิบาย ยังมีเรื่องหนึ่งจากในตำราผุดวาบเข้าในหัว
พญากุมภิลขึ้นบกมาไล่ล่าลิ้มรสเนื้อมนุษย์ จับตัวลูกสาวเศรษฐีเมืองพิจิตรไปเป็นเมีย... หรือทั้งหมดจะไม่ใช่เรื่องจริง เหตุใดเขาถึงมาอยู่ตรงหน้าหล่อน สู่ขอหล่อนตามธรรมเนียมประเพณีด้วยเงินทองไม่ใช่น้อย ๆ
“ฉัน... จะไปที่ตรงไหนได้ ชีวิตฉันจะเป็นยังไง ให้แล้วแต่ท่านเถอะ”
“ก็ดีแล้ว หากหล่อนรับปาก จะต้องอยู่กับฉันไปจนกว่าใครคนหนึ่งจะตาย”
ไม่ใช่คำขู่... แต่เขาจะทำมันโดยไม่สนใจเรื่องศีลธรรม นัยน์ตาคู่สีดำขลับเปล่งประกายสีแดง จ้องมองใบหน้าสดสวยนิ่งงัน สนใจเขี้ยวขาวคมตรงมุมปากยังเลื่อนมือมาจับมันด้วยแววตาใคร่รู้ แต่ถูกคว้าหมับเข้าข้อมือ กำมันเอาไว้แน่น
“ฉันกำลังหิวเทียว แม่สาวช่างซุกซน” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงอีกครั้ง ประกบปิดริมฝีปากอิ่มงามสีแดงชมพู มืออุ่นร้อนปัดป่ายบนกายสาวที่ไม่เคยยินยอมให้ชายใดแตะต้อง เว้นเสียแต่ในฐานะสามี คุณหลวงหนุ่มจึงเอาแต่ใจอยากจับตรงไหนก็จับ มือลูบไล้ผ่านหน้าท้องแบนราบของแม่สาวเอวอ้อนแอ้น ใจนึกอยากเลี้ยงดูหล่อนให้ดีกว่าพ่อแม่เสียอีก จะได้มีน้ำมีนวลกว่านี้
หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าเขาใช้เวทมนตร์อาคมอันใด แค่กอดจูบลูบคลำก็ทำให้หล่อนอ่อนระทวยไปทั้งร่าง ลิ้นหนากระหวัดเลียลิ้นเล็ก ๆ ไม่ประสีประสาออกไปพร่ำสอนให้อย่างใจดี นำพาเสียงน่าอายจากการกระทบกระทั่งกันของน้ำลายและริมฝีปาก ยามใบหน้าหล่อเหลาก้มลงพรมจูบไปทั่วใบหน้าลำคอ แตะปลายลิ้นลงบนสะดือสวย เลียชิมไปทั่วกระทั่งถึงยอดออกสีชมพูหวาน อย่างที่บอกว่าหิว หล่อนยังคงปิดตารับทุกสัมผัสเสน่หา
“อื้อ... คุณหลวง... ฉันร้อนเหลือเกินค่ะ อ๊ะ...” ดวงตาคู่สวยเปิดขึ้นอีกครา เมื่อเรียวปากหนาได้รูปเริ่มหยอกล้อกับยอดปทุมถันที่แข็งตึงตามจังหวะของปลายลิ้น เขาทรมานหล่อนด้วยรสชาติอันน่าประหลาดพิศวง
หล่อนยังคงส่งเสียงประหลาด ฟังไม่ได้ศัพท์แม้ว่าเขาไม่ได้ทำการอันใดมาก แค่ขยับปลายนิ้วลากผ่านกลีบดอกไม้งาม ชื่นชมความสวยเบื้องหลังแพรไหมสีดำขลับด้วยนัยน์ตาสีแดงเป็นประกาย ชิมชมดูดดื่มอย่างตะกละตะกลาม ประหนึ่งจระเข้ในวัยหนุ่มที่หากได้พบตัวเมียแล้วจะฟาดหัวฟาดหางเต็มที่เพื่อแย่งชิงมา เพื่อให้ได้ครอบครองเป็นเจ้าของอยู่ตัวเดียว
ร่างบางบิดเร่า มือจิกผ้าปูที่นอนสีขาวจนยับเยิน เมื่ออารมณ์หวามไหมเข้าจู่โจม ถึงจะต้องยอมรับว่ารู้สึกพึงพอใจกับปลายลิ้นอุ่นร้อนเป็นงานยามดูดเม้ม กระหวัดเลียกลางกายสาว จนหล่อนยกตัวขึ้นนั่งตัวขดงอ หวีดร้องขอให้เขาอย่าหยุด! แน่นอนว่าเขาคงไม่หยุด คุณหลวงหนุ่มพลันผลักหล่อนลงนอนอีกครั้ง มือเรียวพยายามจับคว้าเส้นผมของเขาไว้เป็นที่พึ่ง
หล่อนตกอยู่ในสภาพแสนทุลักทุเลเมื่อเขายอมปล่อยจากความหวานหอมเบื้องล่าง กระเถิบกายขึ้นแทรกหว่างกลาง สองขาสั่นระริกด้วยความต้องการบางอย่างแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“คุณหลวง... ฉันทรมานค่ะ... ได้โปรด อย่ารังแกฉัน...”
“เช่นนั้นฉันไม่เกรงใจนะแม่แก้ว...” พูดจบ เขาปลอบประโลมหล่อนด้วยจุมพิตเร่าร้อน มือสะกิดปลายยอดเกสรงามคอยปลุกเร้าแต่ไม่ปล่อยให้สุขสมอารมณ์หมาย
เป็นเรื่องสำคัญอย่างสุดซึ้ง สำหรับครั้งแรกของคนสองคนในร่างมนุษย์ คุณหลวงจันจึงใช้ความระมัดระวังตามที่รับปากเอาไว้ สัมผัสหล่อนอย่างเอาใจ ทว่ายังอดทนข่มความปรารถนามากล้นไม่ให้หล่อนนำเขาไปสวรรค์ ใช้ปลายนิ้วตรวจตราทางข้างหน้าก่อนส่งตัวเข้าไป
“อ๊ะ! มะ... มันเจ็บค่ะ”
“ผ่อนคลายเสียหน่อยนะแม่แก้ว อีกประเดี๋ยวหล่อนจะรู้สึกดี ฉันคงไม่กล้าจะทำร้ายเมียตัวเองหรอก”
น้ำตาหลายหยดรินไหลลงอาบแก้มเนียน หล่อนทั้งเจ็บทั้งอึดอัด แต่ก็แปลกที่ยังยอมเชื่อฟังสามี เมื่อเขาเริ่มขยับตัวเข้าออกถี่ระรัวไม่ปล่อยให้หล่อนได้หายใจหายคอ สองขาสั่นเทาก็คอยหนีบสะโพกสอบเอาไว้เพราะประสบเข้ากับความเจ็บปวดเหลือคณา เหมือนร่างถูกฉีกขาดจากการรุกรานของท่อนอุ่นร้อนหน้าตาประหลาดที่หล่อนเห็นครั้งหนึ่ง
ร่างกายหล่อนคงเป็นของเขาจริง ๆ สมกับที่เป็นเมียซึ่งเขาซื้อมาด้วยเงินกว่าห้าหมื่นบาท...