“ไอ้นาฟซามันฉลาด และใส่หน้ากากปกปิดใบหน้าตลอดเวลาเลยนะครับ”
ผู้กองฟาดิสเอ่ยพูดเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่เพียงสองคน สายตายังคงจับจ้องมองไปยังหัวหน้ากองโจร ที่ออกมายืนอยู่ตรงระเบียงด้านหน้าบ้านพักของมันแล้ว
ผู้พันฮาคิมพยักหน้ารับคำ “ใช่! มันฉลาดและระวังตัวที่สุด ใส่หน้ากากแบบเต็มหน้าปิดมาถึงคอของมัน ไม่เปิดโอกาสให้ใครเห็นแม้กระทั่งสีผมของมัน”
ดวงตาคมกริบของผู้พันฮาคิมจับจ้องมองไปยังนาฟซาไม่กะพริบตาเช่นเดียวกัน นาทีนี้อยากรู้ว่านาฟซาเรียกประชุมด้วยเรื่องอะไร แต่ดูเหมือนจะเป็นงานใหญ่อยู่ไม่น้อยที่มันจะให้บรรดาลูกน้องไปทำชั่ว ไม่เช่นนั้นคงไม่เรียกประชุมทั้งกองโจร
นาฟซากวาดดวงตาอันเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมมองลูกน้องชั่วของตน บ้างก็กำลังกระดกบรั่นดี บ้างก็กำลังฟัดนัวเนียอยู่กับโสเภณีอย่างเมามันส์ ก็แสยะยิ้มบนใบหน้าที่อยู่ภายใต้หน้ากากสีทองอันใหญ่ คนชั่วเหล่านี้เป็นเดนมนุษย์ มีคดีติดตัวมากมาย ทั้งฆ่า จี้ปล้น ข่มขืน ไม่มีเลือดดีอยู่ในตัวแม้แต่หยดเดียว และนั่นทำให้สามารถจูงจมูกได้ด้วยเงินและผู้หญิงที่เขาหามาปรนเปรอให้ไม่มีขาดสาย
“อิ่มหนำสำราญกันพอหรือยัง ถึงเวลาที่พวกมึงต้องขยับก้นมาทำงาน หาเงินเข้ากระเป๋า สร้างความร่ำรวยกันแล้ว”
เสียงประกาศของนาฟซา ทำให้ลูกน้องหลายคนหยุดชะงักกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ พอคำว่าร่ำรวยแล่นมากระทบโสตประสาท ทุกคนก็หันไปมองให้ความสนใจหัวหน้ากองโจรในทันที
“ท่านนาฟซาจะให้พวกเราทำอะไร”
“จะให้พวกเราไปปล้นที่ไหน บอกมาเลย พวกเราพร้อมแล้ว”
นาฟซาแหวนหน้าหัวเราะก้องเพราะความถูกใจ หลังจากได้ยินคำตะโกนถามของบรรดาลูกน้องชั่ว ที่อยู่ใต้อาณัติของเขา
“พวกมันกำลังกระหายเลือด อยากทำสงครามที่สุด”
“ใช่แล้วครับ ท่านนาฟซา”
ชิยาด์แสยะยิ้มรับคำ เพ่งสายตามองไปยังคนที่ตนเองจงเกลียดจงชังและอยากให้โดนฆ่าตายโดยเร็ว ก็บอกกับหัวหน้าตัวเองว่า
“ดูเหมือนว่าไอ้ฮาคิมมันมีฝีมือกว่าคนอื่น ให้มันรับไปทำคนเดียวดีไหมครับ”
เอ่ยบอกไปแล้ว ชิยาด์ก็ลุ้นรอคำตอบ แน่นอนว่างานชิ้นโบว์แดงที่นาฟซากำลังจะให้ลูกน้องไปปล้นสะดมในครั้งนี้ มีการรักษาความปลอดภัยจากรัฐบาลคาลาส์อย่างแน่นหนา และที่เขาอยากให้ฮาคิมไปทำเพียงคนเดียว เพราะอยากเห็นอีกฝ่ายถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยจากรัฐบาลคาลาส์ฆ่าตายต่างหาก
ความต้องการของชิยาด์ไม่เป็นผล ในขณะเขาอยากให้ผู้พันฮาคิมถูกฆ่าตาย แต่...นาฟซาไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เพราะนาฟซาถูกใจในฝีมือเก่งกาจของผู้พันฮาคิม คนที่เขาคิดว่าเป็นแค่เพียงชายเร่ร่อน และจะให้ชายเร่ร่อนคนนี้ก้าวขึ้นมาเป็นลูกน้องคนสนิทของเขา หลังจากได้ทำงานชิ้นโบว์แดงในครั้งนี้สำเร็จแล้ว
“ให้ไอ้ฮาคิมไปแสดงผลงานคนเดียวก็ไม่สนุกสิ” นาฟซาหัวเราะร่วนอยู่ในลำคอ แล้วเค้นเสียงบอกต่อ “ต้องให้ทุกคนได้แสดงฝีมือ ใครแข็งแกร่งและเก่งกาจก็กลับบ้านพร้อมกับชัยชนะ ส่วนใครที่ไร้ฝีมือ ก็จงอยู่เป็นผีเฝ้าทะเลทรายอันเวิ้งว้าง”
“ท่านนาฟซาจะให้ไปปล้นใคร”
เมื่อหัวหน้ากองโจรไม่ปริปากพูดสักที เหล่าลูกน้องชั่วก็ตะโกนถามเสียงดังเซ็งแซ่จนจับไม่ได้ศัพท์ รวมทั้งผู้พันฮาคิมที่เค้นเสียงสบถเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคนกับผู้กองฟาดิสว่า
“หลุดปากมาสักทีสิว่ะ ว่าเหยื่อคือใคร”
“ผมรู้สึกสังหรณ์ใจว่าเหยื่อของไอ้นาฟซาจะเป็นคนใกล้ตัวของพวกเรานะครับ” ผู้กองฟาดิสเอ่ยบอกเสียงเคร่งเครียด
และผู้พันฮาคิมก็รู้สึกไม่ต่างกันสักเท่าไร เขารู้สึกราวกับว่ามัจจุราชกำลังตามไล่ล่าใครบางคนที่เขารู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“เราก็รู้สึกเหมือนกันกับนาย ไอ้นาฟซามันกำลังทำการใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และคนที่มันกำลังจะให้ไปปล้น ก็ต้องเป็นคนที่เรารู้จักด้วย”
“หรือว่ามันจะให้ไปปล้น ลอบทำร้ายท่านชีค”
คำคาดเดาของผู้กองฟาดิส ทำเอาสีหน้าของผู้พันฮาคิมเต็มไปด้วยริ้วรอยของความเครียดและหวาดกลัว เพราะเป็นไปได้ที่นาฟซาจะทำเช่นนั้น
และก่อนทั้งสองจะได้ปรึกษากันไปมากกว่านี้ นาฟซาก็ประกาศถึงงานใหญ่ งานชิ้นโบว์แดงที่จะนำมาซึ่งเงินจำนวนมหาศาลให้กับกองโจรแห่งนี้
“งานชิ้นสำคัญที่กูจะให้พวกมึงไปทำ แน่นอนว่างานชิ้นนี้จะทำให้กับพวกมึงรวยจนล้นฟ้า รวยจนใช้เงินไม่ต่างจากเศษกระดาษก็คือ...การไปจับตัวเจ้าหญิง...”
ในขณะรอฟังชื่อของผู้ที่กำลังตกเป็นเหยื่อ ซึ่งมีฐานันดรศักดิ์สูงส่ง ผู้พันฮาคิมก็เกิดอาการราวกับหายใจไม่ออก ขนลุกซู่ ไม่ต่างจากมียมทูตมายืนรออยู่ตรงหน้าแล้ว
‘อย่าให้เป็นเธอ...’
ผู้พันฮาคิมเฝ้าขอร้องอยู่ในใจ ซ่อนความหวาดกลัวไว้แทบไม่มิด ไม่อยากให้ใครบางคนต้องตกเป็นเหยื่อของคนชั่วเหล่านี้ และดูเหมือนว่าผู้กองฟาดิสจะเข้าใจถึงความหวาดกลัวที่เกาะกุมอยู่ทั่วตัวของเขา จึงหันมามองพร้อมกับเอ่ยถามเบาๆ ว่า
“ผู้พันรู้ใช่ไหมครับว่าใครกำลังจะตกเป็นเหยื่อของไอ้นาฟซา”
ใบหน้าคมเข้มของผู้พันหนุ่มพยักรับช้าๆ พร้อมกับเอ่ยตอบแทบไม่พ้นลำคอ “เรารู้ว่าเป็นใคร แต่...เราภาวนาว่าอย่าเป็นเธอเลย”
ดูเหมือนคำภาวนาของผู้พันฮาคิมไม่เป็นผลเอาซะเลย เมื่อนาฟซาตะโกนประกาศก้องในนาทีต่อมาว่า ‘ใคร’ คือเหยื่อที่จะทำเงินให้กับพวกมันได้อย่างมหาศาล
“เจ้าหญิงไลอาด์ มาดา ราฟาห์ คือคนที่กูต้องการให้พวกมึงไปจับตัวมา”
สิ้นเสียงประกาศของนาฟซา ก็มีเสียงของบรรดาโจรชั่วทั้งหลาย แข่งกันตะโกนเฮดังลั่น ถูกใจกับการลักพาตัวครั้งยิ่งใหญ่ มีเหยื่อเป็นถึงเจ้าหญิงแสนสวยจากแคว้นราฟาห์ ซึ่งเป็นแคว้นเล็กๆ อยู่ทางตอนใต้มีพรมแดนติดกับประเทศคาลาส์นั่นเอง
แน่นอนว่า...ใครๆ ก็รู้จักเจ้าหญิงไลอาด์ มาดา ราฟาห์ เพราะเป็นที่เลื่องลือว่า เจ้าหญิงพระองค์นี้มีสิริโฉมงดงาม และชาญฉลาดยิ่งนัก