บทที่ 2

1224 คำ
แม้จะเป็นจริงดั่งที่ผู้พันฮาคิมเอ่ยออกมา แต่ผู้กองฟาดิสก็อดค้านออกมาไม่ได้ “ท่านชีคไม่อยากให้ผู้พันเป็นรายต่อไป จึงให้ถอนตัวจากภารกิจนี้ครับ” “เราไม่ยอมให้ถูกสอยร่วงหรอกน่า...” ผู้พันฮาคิมตอบเสียงเข้ม ไม่เคยความหวาดกลัวที่ต้องอยู่ในดินแดนของกองโจร ซ้ายก็โจร ขวาก็โจรใจอำมหิต เพราะเขาเตรียมตัวมาอย่างดี ไม่มีพลาดท่าให้นาฟซาง่ายๆ “แต่...” ผู้กองฟาดิสกำลังจะเอ่ยค้าน แต่ก็ถูกผู้พันฮาคิมยกมือห้ามปราบ แล้วบอกถึงเป้าหมายของภารกิจสำคัญในชีวิตของเขา “เราจะกลับก็ต่อเมื่อเด็ดหัวไอ้นาฟซาได้แล้ว บอกท่านพ่อว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรา...เราปลอดภัยดี เพราะมีนายคอยคุ้มกันอยู่ด้วย อีกอย่างเราสองคนก็ใช่ว่าจะเป็นคนเร่ร่อนไร้ฝีมือเหมือนที่ไอ้นาฟซามันคิด ยังไงๆ พวกเราก็รับมือไอ้นาฟซาและลูกน้องของพวกมันได้อยู่แล้ว” “ครับ ผมจะส่งข้อความตอบท่านชีคตามนี้ครับ” ผู้กองฟาดิสพยักหน้ารับคำสั่ง ไม่มีคัดค้านอีกต่อไป เพราะรู้ดีว่าผู้บังคับบัญชาของตนนั้นมีฝีมือฉกาจในระดับแนวหน้าของนักรบ แน่นอนว่าพันเอกฮาคิม เดอาร์ คาริม ไม่ใช่คนเร่ร่อน หรือเป็นแค่ทหารกระจอกไร้ฝีมือ แม้จะเป็นโอรสของท่านชีคมาคิม เจ้าผู้ปกครองประเทศคาลาส์ แต่ผู้พันฮาคิมก็ไม่เคยใช้เส้นสายของพระบิดา เพื่อให้ได้มาซึ่งยศที่ดูโก้หรู แต่ยศที่ประดับบนบ่า เกิดจากความสามารถของผู้พันล้วนๆ พันเอกฮาคิม มีเลือดผสมคาลาส์และรัสเซีย ผู้พันได้เข้าฝึกในหน่วยรบพิเศษที่ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุด นั่นก็คือหน่วย ‘สเปซนาซ’ ของรัสเซีย หน่วยสเปซนาซ ถูกฝึกมาเพื่อรับผิดชอบความมั่นคงภายใน ภัยก่อการร้าย ภัยจากการจับเป็นตัวประกัน และภัยจากอาชญากรรมต่าง ๆ รวมทั้งการควบคุมฝูงชน การปราบปรามจลาจล แน่นอนว่าผู้พันฮาคิมถูกฝึกอย่างหนักจวนเจียนเข้าใกล้ความตาย และผู้พันก็ได้คะแนนจากการฝึกเป็นอันดับสองในทีมด้วย โจรร้ายอย่างนาฟซา เคยเข้าฝึกในหน่อยซีลจนเกือบจบหลักสูตร เพราะฉะนั้นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับนาฟซาที่สุด ต้องเป็นพันเอกฮาคิม เดอาร์ คาริมเท่านั้น จะฆ่างูให้ตายก็ต้องเด็ดที่หัวงู หากจะทลายซ่องโจรแห่งนี้ให้ราบเป็นหน้ากลอง ถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินทะเลทราย ก็ต้องจัดการที่ไอ้นาฟซาซึ่งเป็นหัวหน้ากองโจร ผู้พันฮาคิมจึงต้องลงมือทำหน้าที่เป็นคนเด็ดหัวนาฟซาเอง “ผู้พันครับ” “ฟาดิส หยุดพูดก่อน ลูกน้องของไอ้นาฟซากำลังเดินตรงมาที่พวกเรา” ผู้พันฮาคิมรีบเอ่ยห้ามลูกน้องของตนเอง เมื่อมองข้ามไหล่ของผู้กองฟาดิสเห็นลูกน้องของนาฟซากำลังเดินตรงมา และเพื่อเป็นการกลบเกลื่อน ไม่ให้เป็นที่สงสัยมากเกินไป จึงทรุดตัวลงนั่งแล้วประกอบปืนที่ถอดออกเป็นชิ้นๆ เพื่อทำความสะอาดในก่อนหน้านี้กลับคืน จากนั้นก็จงใจยกปืนเล็งไปบนหน้าผากของลูกน้องคนสนิทของนาฟซา ให้มันได้ตกใจเล่นๆ แชะ! ผู้พันฮาคิมกระตุกยิ้มเยาะตรงมุมปาก ตอนเล็งปืนไปยังกลางหน้าผากแล้วกดไกปืนดังแชะ ให้อีกฝ่ายต้องสะดุ้งโหยง ตาเบิกโพล้งเพราะความตกใจ “ตกใจหรือ? ไอ้ชิยาด์ ปืนไม่มีลูก ต่อให้ยิงถูกยังไงๆ มึงก็ไม่ตาย” สิ้นเสียงเยาะหยันจากผู้พันฮาคิม ก็มีเสียงกัดฟันดังกรอด ตามด้วยแววตาที่จ้องมองอย่างเคียดแค้นจากชิยาด์ เขาคือลูกน้องคนสนิทที่อยู่กับนาฟซาตลอด 24 ชั่วโมง และเป็นคำรับคำสั่งจากหัวหน้ากองโจรให้มาบอกชายเร่ร่อนคนนี้ ซึ่งเขาทั้งเกลียดทั้งอยากฆ่าทิ้งในทันทีที่มีโอกาส ไม่มีใครล่วงรู้ถึงฐานะอันแท้จริงของผู้พันฮาคิมและผู้กองฟาดิส ทุกคนในกองโจรแห่งนี้คิดว่าผู้ชายที่ชื่อฮาคิมและฟาดิส เป็นชายเร่ร่อนที่เข้ามาอยู่ในกองโจรเพราะฝีมือการต่อสู้เข้าตานาฟซา และตอนนี้ฮาคิม กำลังจะได้เลื่อนขั้นเป็นคนสนิทของนาฟซาอีกคน ซึ่งทำให้ชิยาด์เกลียดฮาคิมเป็นอย่างมาก และต้องการกำจัดฮาคิมให้สิ้นชื่อ แต่ก็ไม่สบโอกาสที่จะทำเช่นนั้นสักที ‘อย่าให้ถึงทีของกูบ้างนะ ไอ้ฮาคิม กูจะลั่นลูกกระสุนใส่ตรงกลางหน้าผากของมึง’ ชิยาด์ประกาศศึกดังก้องอยู่ในใจ จ้องมองผู้พันฮาคิมเขม็งไม่กะพริบตา กัดฟันดังกรอดๆ ขณะเค้นเสียงบอกห้วนๆ “ถ้ามึงยิงกู มึงไม่ได้ตายดีแน่” “กูยอมตาย ถ้าได้กำจัด ‘สวะ’ อย่างพวกมึงทิ้ง” ผู้พันฮาคิมเค้นเสียงเยาะ มั่นใจว่าชิยาด์คงอยากฆ่าเขาเต็มทน แต่คนอย่างผู้พันฮาคิมไม่มีหวาดกลัว และไม่มีทางปล่อยให้ถูกฆ่าง่ายๆ อย่างแน่นอน “กูต่างหากที่จะเป็นฝ่ายกำจัดมึงทิ้ง” หากทำดั่งที่ปากพูดได้ ชิยาด์คงทำในทันที แต่เขาก็ไม่เคยทำสำเร็จ เพราะผู้พันฮาคิมไหวตัวทันในทุกที ที่เขาเข้าใกล้ “แล้วจะรอ” ผู้ฮาคิมท้าทายพร้อมกับแหงนหน้าหัวเราะร่วนเสียงดัง เพิ่มความโกรธแค้นในตัวของชิยาด์ให้พุ่งสูงมากกว่าเดิม จากนั้นก็หมดความสนใจในตัวชิยาด์ มือใหญ่เอื้อมไปหยิบปืนพกทรงประสิทธิภาพ แถมยังเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในวงการปืนมาถือไว้ในมือ ก่อนจะค่อยๆ บรรจุลูกกระสุนเต็มอัตราศึก แล้วแกล้งเล็งปลายกระบอกปืนไปยังชิยาด์ให้อีกฝ่ายได้สะดุ้งโหยงอีกรอบ “คราวนี้กระสุนเต็มแม็ก อยากลองกินลูกปืนสักนัดสองนัดไหม ไอ้ชิยาด์” คนที่ถูกถามถึงกับผงะถอยหลังหน้าซีดทันตาเห็น ทำเอาผู้พันฮาคิมกับผู้กองฟาดิสต่างก็หลุดเสียงหัวเราะร่วนออกมาในทันที “เป็นเป้านิ่งให้ฮาคิมเจิมปืนกระบอกใหม่สักนัด ก็ท่าจะดีเหมือนกัน” ผู้กองฟาดิสเยาะเย้ยบ้าง มั่นใจว่าชิยาด์กำลังโกรธจัดและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เห็นได้จากใบหน้าที่ขาวซีดไม่ต่างจากไก่ต้มค้างคืน “ท่านนาฟซาเรียกประชุมด่วนภายในสิบนาทีนี้” ชิยาด์เค้นบอกเสียงห้วน จ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววเคียดแค้น ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับผู้พันฮาคิมนานกว่านี้ เพราะไม่อยากทำให้อีกฝ่ายโกรธ และระบายความโกรธด้วยการลั่นลูกกระสุนใส่ร่างของเขา ปืนอยู่ในมือแถมยังมีลูกกระสุนเต็มแม็ก เขาจะถูกยิงเมื่อไรก็ได้ “แล้วจะรีบไปตามคำสั่งของนาฟซา” ผู้พันฮาคิมเอ่ยตอบแกมเหน็บแนมตามหลังชิยาด์ ซึ่งตอนนี้อีกฝ่ายเดินเผ่นหนีลูกปืนไปแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม