ตอนที่ 2 ขุนศึก (3)

1088 คำ
มีช่วงหนึ่งเป็นจังหวะที่เธอเดินตามหลังคู่กับขุนศึก จ้าวจันทร์เลยหันไปยิ้มให้เขาแล้วเอ่ย “คินกินลูกอมมั้ยคะ เค้ามีฮอลล์นะ” พูดจบก็แบมือที่มีลูกอมฮอลล์สีฟ้าวางอยู่ให้พร้อมรอยยิ้ม ขุนศึกหรี่ตามองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปหยิบลูกอมบนมือน้อยแล้วเอ่ยตอบ “ขอบใจนะ...จั่นเจา” จั่นเจาเหรอ? จ้าวจันทร์ได้แต่ทวนชื่อใหม่ที่ได้มาอยู่ในใจ “โอ๊ย กูปวดหลัง” จักรดุลย์เป็นคนแรกที่โอดครวญหลังจากอาจารย์สอนเสร็จและเดินออกนอกประตูไปแล้ว เสร็จสิ้นการเรียนในคาบบ่ายที่แสนง่วง “เบสต์...” จักรดุลย์หันไปเรียกเพื่อนสนิทที่กำลังเก็บสัมภาระลงในกระเป๋า แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สนใจเขาก็เอ่ยเรียกซ้ำ “เบสต์...” เสียงเข้มขึ้นมาหนึ่งระดับ “อะไร เก็บของอยู่” “ปวดหลัง” “ปวดหลังก็นั่งก่อน” “ปวดหลัง!” จักรดุลย์เอ่ยเสียงเข้ม หน้าตาก็บึ้งตึงขึ้นทันควันเหมือนเด็กนิสัยไม่ดี ฝนทิพย์หันมามองหน้าบูด ก่อนจะยัดหนังสือเล่มสุดท้ายลงในกระเป๋าแล้วขยับมาใกล้คนเอาแต่ใจ จากนั้นก็ตำหนิแล้วออกคำสั่ง “ทำไมนายชอบเอาแต่ใจจังวะเวย์” “......” “นั่งตัวตรงดีๆ” ชายหนุ่มทำตามอย่างว่าง่าย ใบหน้าที่เคยบึ้งตึงก็เผยรอยยิ้มสดใสโดยไว จากนั้นก็หลับตาพริ้มอย่างมีความสุขเมื่อมือน้อยบีบนวดไหล่และไล่ทุบไปตามแผ่นหลังอย่างได้จังหวะ ราวๆ ห้านาทีที่ฝนทิพย์นวดๆ ทุบๆ ให้ ก่อนจะหยุดเมื่อรู้สึกเมื่อยมือแล้วเหมือนกัน หันไปมองเพื่อนๆ คนอื่นก็เห็นว่าขุนศึกกับอธิปัตย์กำลังนั่งคุยกัน ส่วนจ้าวจันทร์นั้นนั่งจ้องเธอกับจักรดุลย์ตาแป๋ว “มองไรจ้าว” จักรดุลย์ถามอย่างสงสัย “เปล่าจ้า” จ้าวจันทร์ยิ้มอายๆ แล้วก้มหน้าหลบ “ไปยัง” อธิปัตย์หันมาถามแก๊งสามช่าสามคน เมื่อเขาและขุนศึกนั่งคุยกันจนหมดเรื่องพูดแล้วสามคนนี้ก็ยังไม่ลุกเสียที “ไปๆ อคินไปด้วยไหมเนี่ย” ฝนทิพย์ถามยิ้มๆ ด้วยว่าวันนี้เธอและจักรดุลย์จะไปกินข้าวเย็นที่คอนโดของอธิปัตย์ซึ่งอีกฝ่ายเพิ่งย้ายข้าวของมาจากกาญจนบุรีเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้ยังจัดไม่เสร็จเรียบร้อยดี เลยว่าจะไปชมคอนโดใหม่เสียหน่อย ซึ่งเรื่องนี้สามเพื่อนซี้พูดคุยกันไว้ตั้งแต่ก่อนเปิดเทอมแล้ว “ไม่ไป” ขุนศึกส่ายหน้า ไม่ใช่ว่ามีปัญหาอะไร แต่เขาไม่สะดวกเลยไม่อยากไปไหน วันนี้อยากกลับบ้านไปนอน “โอเค” “ไปเที่ยวไหนกันคะ” จ้าวจันทร์ถามขึ้นขณะลุกขึ้นยืนตามเพื่อนๆ ทั้งสี่เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน “ไปดูห้องไอ้พอร์ช เลยว่าจะไปกินข้าวเย็นที่นั่น ชวนอคินแล้วอคินไม่ยอมไป ตัวไปด้วยกันมั้ย สะดวกเปล่า” “ไม่เป็นไรจ้า” จ้าวจันทร์ส่ายหน้าพัลวัน จากนั้นสามหนุ่มและสองสาวก็พากันเดินออกจากห้องเรียน ก่อนจะแยกย้ายฝนทิพย์ก็เป็นฝ่ายเรียกรั้งทุกคนไว้ก่อน “ทุกคน เราไปนั่งตรงม้าหินอ่อนกันสักแป๊บเถอะ” แม้ว่าอีกสี่คนที่เหลือจะไม่เข้าใจว่าสาวซ่าจะทำอะไร แต่ก็ยอมเดินตามไปนั่งกันโดยดี “เราทำไลน์กลุ่มกันไว้มั้ย มีอะไรจะได้ติดต่อกันได้ง่ายๆ” เมื่อทุกคนเออออ ฝนทิพย์เลยจัดการสร้างไลน์กลุ่มชื่อว่า ห้าแสบ แล้วเพิ่มทุกคนเข้าไป เธอและสองหนุ่มพอร์ชกับเวย์มีไลน์กันอยู่แล้ว ตอนนี้มีเพื่อนใหม่เลยเพิ่มไลน์ของขุนศึกและจ้าวจันทร์ลงไปด้วย และดูเหมือนรูปโพรไฟล์ในไลน์ของขุนศึกจะหล่อเกินหน้าเกินตา ฝนทิพย์เลยกระเซ้า “หล่อทะลุไลน์เลยนะ” ว่าจบก็ส่งค้อนให้อย่างหมั่นไส้ ส่วนคนถูกหมั่นไส้ก็ได้แต่ยักคิ้วให้เหมือนประมาณว่า ก็แน่สิ อะไรประมาณนั้น ฝ่ายจ้าวจันทร์ก็ไล่ดูรูปสมาชิกในไลน์ของแต่ละคน ก่อนจะมาสะดุดที่ชื่อไลน์ของขุนศึกที่สะกิดใจเธออย่างยิ่ง ก็เพิ่งเรียนด้วยกันวันสองวันเองนี่นะ ยังไม่รู้ชื่อจริงกันครบทุกคนเลย “ขุนศึกเหรอ…ทำไมชื่อเท่จัง” “เท่ตรงไหน เชยจะตาย ชื่อโหล” “ไม่โหลหรอก จ้าวไม่เคยเห็นใครชื่อนี้เลย” จ้าวจันทร์พูดพร้อมส่ายหน้า “เออ กูก็ไม่เคย…เคยได้ยินแต่ชื่อขุนพล” จักรดุลย์เสริม “ขุนพลพ่อกูครับไอ้สัตว์!” จบคำของขุนศึกทั้งโต๊ะก็หัวเราะกันลั่น เพิ่งรู้ชื่อพ่อของเพื่อนก็วันนี้เอง ไม่ได้ตั้งใจล้อชื่อพ่อเพื่อนเลยเด้อ! “โทษๆ ไม่รู้นี่หว่า” จักรดุลย์โบกไม้โบกมือพัลวันพร้อมกับกลั้นหัวเราะเต็มที่ ขุนศึกได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ เขาเข้าใจเจตนาของเพื่อนดีว่าไม่ได้ตั้งใจหมิ่นชื่อพ่อล้อชื่อแม่อะไรแบบนั้น ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก “งั้นก็แยกกันตรงนี้เลยนะ จ้าวกลับไง” ฝนทิพย์หันไปถามเพื่อนสาวที่ตัวจิ๋วที่สุดในกลุ่ม วันนี้เธอกับจักรดุลย์จะไปพร้อมกับอธิปัตย์ ซึ่งอีกฝ่ายบอกว่าขากลับจากกินข้าวเสร็จจะแวะไปส่งถึงบ้าน “รถเมล์จ้า” “กลับดีๆ นะ” จ้าวจันทร์พยักหน้าและยิ้มให้กับความห่วงใยของเพื่อน และเมื่อทั้งสามคนเดินห่างออกไปแล้วก็เหลือแค่เธอกับขุนศึกแหละ “เอ่อ...” “ไปขึ้นรถเมล์ตรงไหน” ขุนศึกถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเธออ้ำอึ้ง ก็เพิ่งจะได้คุยกันจริงจังวันนี้ล่ะมั้งเนี่ย “ข้างหน้า ม. ค่ะ” จ้าวจันทร์ตอบเขาเสียงเบา อันที่จริงเธอสามารถขึ้นรถไฟฟ้ากลับได้ แต่รถเมล์ก็สะดวกสบายสายเดียวถึงหน้าอะพาร์ตเมนต์เลย “งั้นเดี๋ยวไปส่งหน้าป้ายรถเมล์” พูดจบขุนศึกก็เดินนำออกไป จ้าวจันทร์ที่ทักท้วงไม่ทันก็ได้แต่อ้าปากค้างเพราะนึกไม่ถึง แต่เมื่อเขาหันกลับมามองพร้อมกับเลิกคิ้วอย่างสงสัยว่าทำไมเธอไม่เดินตามมา จ้าวจันทร์ก็รีบก้าวขาเพื่อเดินตามไปให้ทันเขาทันที...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม