Episode 5 : เดี๋ยวจูบโชว์เพื่อนเลย

2872 คำ
พอพวกฉันกินอิ่มเรียบร้อยเลยเรียกเช็กบิล แต่พอเปิดกระเป๋าที่สะพายอยู่แล้วก็หากระเป๋าเงินของตัวเอง แต่หาแล้วมันก็ไม่มี ไปไหนวะ หรือตกหายที่ไหน แต่ภาพมันก็เด้งขึ้นมาว่ากระเป๋าอยู่กับให้คนตัวสูงหน้ายักษ์นี่หว่า อิญ่าเอ๊ย วันนี้มันวันอะไรวะ ฉันเลยหันมาบอกไอ้เปิ้ลที่นั่งอยู่ใกล้ๆ "สวย มึงจ่ายให้กูก่อนนะ กระเป๋าอยู่ในถุงขนมเมื่อกี้ว่ะ โทรศัพท์ก็อยู่ในรถกูไม่ได้เอามา เดี๋ยวกูโอนคืน” "ได้ๆ มึงไม่ต้องโอนคืนหรอกแค่นี้เอง หนูข้าวผัดกับบะหมี่ค่” พอนึกขึ้นได้ว่านายนั่นยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามนี่หว้า ฉันเลยรีบมองไปที่ฝั่งตรงข้าม แต่ตอนนี้คนตัวสูงที่ยืนอยู่หายไปแล้ว ตอนต้องการตัวนี่ก็หายตัวเก่งมาก แล้วจะไปตามนายนี่ได้จากไหนวะเนี่ย พอจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยพวกฉันก็พากันเดินมาที่ลานจอดรถในมอ "มึงงั้นกลับก่อนนะ" พอเดินมาถึงรถไอ้เปิ้ลเลยพูดขึ้นมา ฉันเลยหยักหน้าก่อนจะได้ยินเสียงของไอ้เมอร์ที่พูดขึ้นมา เพราะปกติมันจะติดรถกลับกับฉันตลอด เพราะเพื่อนฉันขับรถไม่แข็งแล้วใจมันไม่ค่อยกล้า ฉันก็ไม่อยากให้มันเกิดอุบัติเหตุเลยให้กลับด้วยกันเพราะอยู่คอนโดเดียวกันแต่เพียงแค่คนละห้อง "ญ่า งั้นวันนี้กูกลับพร้อมมึงเหมือนเดิมนะ" ฉันมองหน้าไอ้เมอร์ แต่ถ้าเพื่อนฉันมันกลับด้วยฉันจะไปเอากระเป๋าคืนจากนายนั่นยังไงวะ เดี๋ยวมันจะสงสัยอีกว่าทำไมกระเป๋าฉันถึงไปอยู่กับไอ้บ้านั่น เรื่องมันก็จะใหญ่โต แต่ก็ไม่อยากให้มันขึ้นรถกลับเอง แต่ไอ้สวยกับไอ้ปีมันก็น่าจะว่างนะ งั้นให้ไอ้เมอร์ไปกับไอ้สองคนนี้แล้วกัน ฉันเลยบอกเพื่อนออกไปด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดเล็กน้อย "วันนี้กูต้องไปหาเฮียกูที่บ้านว่ะมึง สวย งั้นวันนี้มึงไปส่งไอ้เมอร์หน่อยนะ” "ได้ๆ เดี๋ยวกูไปส่งไอ้เมอร์เอง” "เดี๋ยวนะ แล้วกะเทยมันหายไปไหนวะ เมื่อกี้ยังเดินมาด้วยกันอยู่เลยนะ" ฉันถามเพื่อนออกไปแบบงงๆ เพราะในหัวสมองก็พยายามคิดว่าจะไปเอากระเป๋าคืนได้ยังไง พอรู้ตัวอีกทีเพื่อนสาวฉันนางหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ "โอ๊ย นางไปกับผู้ค่ะแล้วแม่" "มันเร็วมากนะ งั้นขับรถกลับกันดีๆ นะมึง เจอกันพรุ่งนี้นะ" “เครๆ” ฉันบ๊ายบายเพื่อนแล้วพอเพื่อนฉันขับรถออกไปฉันก็เลยตัดสินใจเดินมาที่คณะวิศวกรรมที่ไอ้คนตัวสูงอยู่ แล้วตอนนี้ไอ้บ้านั่นจะกลับไปหรือยังก็ไม่รู้เพราะตอนนี้พวกเขาปล่อยรุ่นน้องกลับหมดแล้ว ถามว่ารู้ได้ไง ก็เพิ่งเดินสวนกับเด็กคณะวิศวะมานี้แหละ พอนึกขึ้นได้เลยยิ้มขึ้นมาหลังจากพบทางสว่าง "งั้นเดินผ่านลานจอดรถตรงที่นายนั่นจอดก่อนดีกว่า ถ้ารถอยู่แสดงว่ายังอยู่" ฉันเดินมาลานจอดรถก็เห็นว่ารถเขายังอยู่เลยเดินตรงไปหาที่ตึก เพราะพวกไอ้ห้องฐานลับฉันรู้มาจากเฮียปริ้นซ์นั่นแหละ "จะไม่มาเลยจริงๆ นะ ถ้าในนั้นไม่มีบัตรสำคัญหลายใบอะ มาสู้รบปรบมือกับนายนี่ยังดีกว่าเสียเวลาไปทำใหม่ เฮ้อ ญ่า วันนี้มึงใส่ชั้นในสีแดงมา สีนี้แม่งไม่เป็นมงคลปะวะ” Vayo Talk ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในห้องกระจกที่ประจำสำหรับพวกผมเองแหละพอเดินเข้ามาแม่งก็เห็นเชี้ยปริ้นซ์ยิ้มอยู่ พวกไอ้ศาเลยกวนตีนใส่มัน ส่วนผมก็เดินไปนั่งข้างๆ มัน "อ่ะๆ ไอ้วินมึงดูเพื่อนมึงดิ๊ มันนั่งยิ้มอะไรวะ” "มึงก็ล้อเพื่อนไอ้องศา ทำไมวะ มือมึงมีอะไรพิเศษเหรอวะ มึงมองมันแล้วยิ้มทำไม" ไอ้ซัตเตอร์เสริมอีกพอพูดเสร็จมันก็เดินมาดึงมือก่อนจะเอาไปดูและพูดเสียงดัง "กูว่ามือมันไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอก แต่ไอ้พิเศษน้าจะเป็นคนที่ฝากรอยเอาไว้มากกว่าว่ะ” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ หลังได้ยินไอ้เพื่อนชั่วพูดขึ้นมา เพราะร้อยวันพันปีกลุ่มผมแม่งไม่ชอบให้ใครทำรอยไว้อยู่แล้ว แต่วันนี้ไอ้นี่เขาดูอารมณ์ดีแปลกๆ แล้วจะอารมณ์ดีเรื่องอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องผู้หญิงรุ่นน้องคนเมื่อเช้า "เออว่ะ แต่มึงต้องใจเย็นๆ นะเว้ย น้องเขายังเด็ก น้องเลยยังไม่รู้ว่าควรฝากรอยไว้ตรงไหน" "ฮึ พวกมึงนี่เหมือนอยากจะได้ตีนกูนะ" "เอาแล้วไงเพื่อนกูทำไมสนใจเหรอวะ" "แล้วพวกมึงถามกูเพื่อ ยังกูเนี้ยนะจะสนใจยัยนั่นอ่ะแรงสัส" "แหม่ ไอ้เชี้ยยคุณปริ้นซ์ครับ ทุกวันนี้คนที่มึงคั่วอยู่นี่เบาๆมั้ง" ไอ้เตอร์มันพูดพร้อมขำออกมา ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับไอ้เตอร์มากนะ เพราะพวกผมนี่แม่งโคตรสนิททำไมจะไม่รู้ว่าแม่งชอบสไตล์แบบน้องคนเมื่อเช้า แล้วถ้ามันไม่สนใจเขามันอาการมันจะหนักขนาดนี้เหรอวะ "อ่ะๆ ไม่สนก็ไม่สน งั้นกูจองนะ” ผมยิ้มที่มุมปากก่อนจะมองที่ไอ้ปริ้นซ์ แล้วตอนนี้หน้ามันก็อยากจะฆ่าไอ้เพื่อนชั่วพวกนี้สุดๆ อะ "จองตีนกูเหรอ มึงจะเอาข้างไหนดี" "แหม่ ไอ้สัส สนใจเค้าแต่วางฟอร์ม พวกกูอะพูดเล่น เพราะคนที่มึงสนใจไม่ใช่สเป็คแบบที่พวกกูชอบ แต่มึงระวังหมาคาบไปรับประทานนะครับ” ไอ้องศาพูดก่อนจะจุดบุหรี่สูบพร้อมส่งซองมาให้ผม ผมกูรับมาแล้วก็ส่งไปให้ไอ้ปริ้นซ์จากนั้นก็กันจุดบุหรี่สูบ คือกลุ่มผมเป็นกลุ่มที่สูบบุหรี่จัดมากนะ ไม่มีใครห้ามใครหรอก มีแต่ชวนกันสูบ "เออ ช่างเรื่องของยัยนี่ ก่อนวันนี้พวกมึงจะไปตี้ป่ะ วันนี้ที่ผับกู พอดีมีเจ้ามือเลี้ยงว่ะ ทั้งเหล้าทั้งเด็กสั่งได้ไม่งั้น" พอไอ้ปริ้นซ์พูดขึ้นมาพวกผมที่เหลืออยู่ก็มองหน้าแล้วก็ยักคิ้วส่งให้กัน คือไม่ต้องพูดก็รู้ใจอะ โต๊ะใหญ่ขนาดนี้แม่งต้องตอบสนองละปะวะ "มึงก็ถามเหมือนไม่รู้จักพวกกู" "เออ เจอกันสักสามสี่ทุ่ม กูว่าจะไปสนามแข่งรถสักหน่อย ถ้าถึงเวลาพวกมึงก็ไปที่ผับเลย เดี๋ยวกูตามไป" "มึงไหนนะ ไปสนามหรือว่าไปหารอยเพิ่มกะน้องเค้านะ กูได้ยินไม่ค่อยชัดว่ะ” ไอ้องศาถามพร้อมยักคิ้วแบบกวนๆ ผมเลยมองไอ้ปริ้นซ์แบบรู้กัน ว่าตอนนี้อยากจัดไอ้ศาสักที พอไอ้ปริ้นซ์พูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเดินออกไปพวกผมก็พากันหัวเราะออกมา “สัสศา” “ว่า มีไรวะ” "เสือกกกก" “ครับ” “ฮ่าๆ” พอไอ้ปริ้นซ์มันเดินออกไปสมองผมก็ขึ้นถึงยัยบ้านั่นอีกเห็นนั่งกินข้าวอยู่ร้านข้าวหน้ามอกระโปรงทรงเอพอนั่งหน่อยแม่งก็ร่นขึ้นมาละปะวะ คิดว่าขาแม่งน่ามองขนาดนั้นหรือไง ถ้าอยู่ใกล้จะเตะแม่งให้ขาขาด "สัสโยเป็นส้นตีนไรวะหน้าแม่งบบอกบุญไม่รับ แล้วมึงแม่งเงียบมานานแล้วนะเว้ย เด็กคนไหนทำอะไรมึงวะ” พอได้ไอ้เตอร์ถามขึ้นมาเพื่อนผมที่เหลืออยู่ก็พากันพยักหน้าแบบเห็นด้วย ผมมองไอ้ศาที่เดินมาหาก่อนจะใช้มือตีลงมาที่หน้าอก แล้วแม่งก็เป็นข้างเดียวกับที่ยัยปอมๆ นั่นกัดอีก "เชี้ยศา มึงจะตีหน้าอกกูเพื่อ” “เออ ไอ้โยมันเจ็บหน้าอก เป็นแผลมั้ง ตอนเที่ยงกูก็เผลอตีมันไป” "หื้ม โทษที กูตีแรงขนาดนั้นเลยเหรอวะไหนดูดิ" "ไอ้สัสศา ไม่ต้องดู” มันพูดยังไม่ทันจบก็โดนมันเลิกปลายเสื้อยืดขึ้น แล้วมันไม่รู้ว่ามันแค่จะดูหรือมันจะถอดเสื้อ แม่งเปิดขึ้นมาจนสุด แล้วแน่นอนว่าสูงขนาดนี้ก็เห็นหมดแหละ ตอนแรกผมก็จะจับแขนมันเพื่อห้าม แต่มันไม่ทัน "เชี้ยยยยยโย!” “สัสโย!” “เชี้ยโย!” อืม พวกมันสามคนอุทานขึ้นมาพร้อมกันหลังจากเห็นรอยบริเวณหน้าอก ผมเลยรีบกระชากเสื้อลงมาปิดไว้เหมือนเดิม แล้วจากนั้นพวกไอ้เพื่อนชั่วก็รัวคำถามเหมือนยิงปืนอะ "ไอ้โย ใครทำรอยไว้ที่มึขนาดนี้วะ แดงฉิบหาย รอยฟันก็โคตรชัด” "หึหึ เออว่ะ กูชักอยากจะเห็นผู้หญิงใจกล้าคนนั้นสักหน่อยกล้าทำรอยไว้กับพี่โยกูได้ยังไง ที่ผ่านมาพี่โยกูเขาไม่เคยปล่อยตัวขนาดนี้นะ ปกติใครทำรอยนิดหน่อยก็บีบคอเขาจะตายละ" “เออ รอยเท่าแมวข่วนแม่งก็แทบจะฆ่าเขา คนนี้พิเศษเหรอวะเพื่อนชั่ว” “พิเศษไม่พิเศษก็ดูที่รอยบนตัวของพี่โยเอานะครับผม รุนแรงนะมึงอะ ไหน เขาเป็นใคร ไม่ใช่แค่คู่นอนแน่ๆ กูมั่นใจ” “อยากเห็นคนพิเศษของพี่โยจังเลยครับผม” “ง้วววววว” "พิเศษเชี้ยไรละ พวกมึงเพ้อเจ้อ" ผมตอบพวกมันกลับไปโดยที่พวกมันก็พากันยิ้มล้อๆ ทำหน้ากวนๆ นั่นแหละ แต่ถ้ายิ่งปฏิเสธพวกมันก็ยิ่งล้อ ไอ้ศามันเลยหัวเราะแบบชอบใจแล้วก็ถามเรื่องอื่น ถุงจะหมั่นไส้มันแต่อย่างน้อยมันก็ยังช่วย "หึหึ มึงนี่นะ แล้วปีนี้มึงจะจัดงานแข่งรถไหมวะไอ้โย” "นั่นดิ ปีนี้พวกกูแม่งอยากลงแข่งว่ะ รู้สึกอยากได้เงินพี่โยจังเลยครับผม” "ฮึ พวกมึงมันเพื่อนชั่ว คบไม่ได้ ตอนนี้อยากจะแข่ง พอจัดขึ้นมาตามตัวไปเจอหายหัวไปปิดจ็อบพริตตี้ในงานกู” ผมเขี่ยบุหรี่แล้วก็อัดเข้าปอดแรงๆ ก่อนจะปล่อยควันสีขาวออกมา แล้วก็ฟังไอ้พวกนี้ไปด้วย "เฮ้ย แต่ปีนี้พวกกูลงแข่งด้วยจริงๆ" “เออ ปีนี้พวกกูจริงจัง มึงจัดที่เดิมใช่ปะ” "อืม ตอนนี้กูก็ต้องไปดูสนามเชี้ยปริ้นซ์ว่าสนามแม่งมีอะไรต้องแก้ไขหรือเปล่า ถ้ามีก็บอกมัน ถ้าไม่มีกูก็จะให้ลูกน้องเริ่มทำตามแพลนที่วางเอาไว้” "แล้วมึงจะไปสนามของไอ้ปริ้นซ์วันไหนวะ" "กูว่าจะไปพรุ่งนี้ มีเรียนแค่ตอนเช้าเสร็จแล้วเดี๋ยวบอกเชี้ยปริ้นซ์ว่าจะเข้าไปลองสนาม” "เออๆ ยังไงเดี๋ยวคุยกันอีกทีที่ผับ ถ้ามึงไปลองสนามเดี๋ยวพวกกูไปด้วย อยากเร่งเครื่องว่ะ” “เออ คันตีนฉิบหาย” ผมพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจแล้วก็ก่อนจะได้ยินไอ้ศาพูดขึ้นมาและมันก็มองออกไปด้านนอก เพราะที่ผมนั่งคุยกันมันเป็นกระจกทั้งหมดมองเห็นข้างนอกชัดเจน แต่คนข้างนอกมองมาไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด พวกผมขออาจารย์เค้าไว้นั่นแหละ เอาไว้เก็บพวกของที่ใช้ทำกิจกรรมอะไรต่างๆ "อ้าว ไอ้ญ่านี่หว่า มาทำไรวะ" ผมตวัดสายตาไปมองคนที่กำลังเดินตรงมายังห้องนี้อย่างรีบร้อน แล้วประเด็นนอกจากกระโปรงจะสั้นแล้วเสื้อนักศึกษาแม่งตัวจะใหญ่กว่านี้ไม่ได้หรือไงวะ รัดฉิบหาย นมแม่งจะล้นออกมาอยู่ข้างนอกเสื้ออยู่ละ ปั้ง! “หื้อ ไอ้ศา ไอ้ญ่าแม่งองค์ลงแล้วมั้ง มาเหมือนจะมาฆ่าใคร” ไอ้วินพูดยังไม่ทันจบเลยไอ้คนตัวเล็กที่เดินมาแม่งเปิดประตูแล้วก็ปิดแรงๆ แม่งเอาแรงมาจากไหนวะ ตัวเท่าลูกหมา ผมส่งเลยส่งสายตาดุดุไปมองก่อนจะปล่อยควันบุหรี่ออกมา แค่เห็นการแต่งตัวของยัยตัวสั้นตรงหน้าก็หัวจะปวดละ ใส่ชุดเหมือนร้านวัดไซส์ให้ผิด มันจะพอดีตัวอะไรขนาดนั้นวะ "อ้าวญ่า เรามานี่มีอะไรหรือเปล่า" “อืม หรือใครทำอะไรเราบอกพวกเฮียได้นะ” ฉันส่งยิ้มให้พี่ๆ เขาแบบเป็นมิตร คือทุกคนดูเป็นมิตรกับฉันหมดนะ ยกเว้นไอ้เปรตนี่แหละ มองฉันทีไรก็เหมือนจะฆ่าฉันทุกทีไป แล้วตอนนี้ไอ้บ้านี่เขานั่งสูบบุหรี่อย่างสบายใจ ฉันเลยถอนหายใจออกมาเบาๆ เรียกพลังเอาไว้รบกับไอ้บ้านี่นั่นแหละ พอฉันตอบพวกพี่ศาไปฉันก็เดินตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ตอนนี้พวกพี่เขาก็เล่นเกมกันแล้วท่าทีก็เหมือนว่าไม่ได้สนใจฉันกับเขาเท่าไหร่ ฉันเลยพูดกับเขาออกไปเบาๆ "นี่ นาย ฉันมีธุระจะคุยด้วย" "ฮึ เธอมีธุระอะไร" "เอออ… ก็ลุกออกไปคุยข้างนอกดิ" ฉันพูดพร้อมกับมองไปที่เขายังนั่งสบายใจเอามือพาดไปตามความยาวของโซฟา แล้วจากนั้นไอ้บ้านี่ไม่รู้ว่ามันโดนตัวไหน แม่งพูดออกมาซะเสียงดัง เหมือนฉันไปเหยียบหางอย่างงั้นแหละ พูดเบาๆ คือจะตายมั้ง "ไม่ มีไรก็พูดตรงนี้ ถ้าไม่พูดก็ออกไป!” ตอนนี้พวกพี่เขามองฉันกับไอ้คนตัวสูงนี่เป็นตาเดียว ถ้าพูดตรงนี้เดี๋ยวพวกพี่เขาก็เข้าใจผิดดิ แค่นี้ฉันก็อยากจะระเบิดตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดอยู่ละ "นี่ นายออกไปคุยกับฉันแป๊บเดียวจะตายหรือไง" "ไม่ ข้างนอกมันร้อน สรุปเธอจะพูดไม่พูด!! ไม่พูดก็นู่น ประตู!!" ฉันเม้มปากลดมือลงก่อนจะกำมือเข้าหากัน อยากจะกระชากหัวนายนี่แล้วก็ตบลงไปหลายๆ ทีจังเลยว่ะ ฉันเลยตัดสินใจพูดออกไป เพราะเขาก็คงจะไม่ลุกออกไป พูดให้มันจบๆ จะได้ไปจากที่นี่สักที "กระเป๋าฉันอยู่กับนายหรือเปล่า ถ้าอยู่ก็เอาคืนมา" ผมมองยัยตัวเล็กข้างหน้าก่อนจะสูบบุหรี่ครั้งสุดท้ายแล้ววางมันลงในที่เขี่ยบุหรี่ แล้วยัยนี่กล้ากว่าที่คิดเเฮะ ตอนแรกนึกว่าจะไม่กล้าพูด ผมเลยมองยัยนี่นิ่งๆ ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก ดูสิว่ารอบนี้ผมกับยัยตัวสั้นตรงหน้าใครจะชนะ “ฮึ” "นี่ เอาคืนฉันมาฉันจะกลับแล้ว ฉันไม่มีเวลาให้นายมากวนประสาทหรอกนะ" "เดี๋ยวนะไอ้โย” เพื่อนเขาทำท่าจะถามหลังจากได้ยินฉันถามหากระเป๋าแต่ไอ้คนตัวสูงดักไว้ก่อน พี่ๆ เขาก็เลยไม่ได้ถามต่อ "พวกมึงอย่าเพิ่งถาม กูขอเคลียร์กับยัยนี่ก่อน" ผมพูดกับเพื่อนจบก็มองไปที่ยัยปอมๆ ตัวสั้นจากนั้นก็บอกให้ยัยนี่เดินมาเข้ามาหา "เธออะ เดินมานี่ดิ๊!" "ไม่! เอากระเป๋าคืนมา!" "จะเอาก็เดินมา ไม่งั้นก็ยืนอยู่ตรงนั้นแหละ" "เออ แป๊บหนึ่ง" พรึ่บบบบ!!!!! ฉันเดินมาหยุดตรงหน้าของเขาแล้วอยู่ๆ ไอ้คนตัวสูงข้างหน้าก็ดึงแขนฉันแรงๆ ก่อนฉันจะเซไปนั่งอยู่บนตักของไอ้บ้านี่ ฉันเลยดิ้นพร้อมกับเอามือทุบไหล่ของเขาพร้อมกับโวยวายออกมา "นี่ นายยะดึงฉันลงมาทำไมห๊ะ ปล่อยฉันเลยนะ” "หึหึ ผู้หญิงบ้าไรตัวหนักฉิบหาย ลดลงบ้างนะขนมที่ซื้อกินอะ ตัวเธอบวมไปหมดละ" "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด" "เงียบ!! ถ้าไม่เงียบเดี๋ยวฉันจูบโชว์เพื่อนเลย" "แหม่ ไอ้สัสโย พวกกูยังนั่งอยู่ตรงนี้ได้ใช่ไหมวะ” "เออนั่นดิ จะยังไงก็บอกนะ พวกกูจะได้ออกไปข้างนอก กูกลัวเป็นตากุ้งยิงว่ะ" "เออ มึงอยากให้น้องเขานั่งตักก็พูดดีๆ เดี๋ยวน้องเขาก็ตกใจกันพอดี” "พวกพี่อะ ช่วยญ่าหน่อย บอกเพื่อนพี่ให้ปล่อยญ่าหน่อย ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ” "นั่งนิ่งๆ!!! คนอย่างฉันพูดจริงทำจริงนะบอกไว้ก่อน!!!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม