Episode 4 : เหมือนบังคับให้เมียเดินไปหา

2546 คำ
ฉันเดินกลับมาด้วยอารมณ์ทั้งฉุนเฉียวทั้งโมโหทั้งอยากจะฆ่าไอ้บ้านั่น อยากจะเอามือหยุมหัวแล้วก็กระชากหัวไอ้บ้านั่นแรงๆ จนผมมันหลุดติดมือมา ตอนนี้ไม่รู้จะเลือกอารมณ์ไหนก่อนดีอะ แม่งเอ๊ย เกิดมาไม่เคยมีใครทำให้โมโหเท่านายนี่มาก่อนเลยนะ เจอกันไม่เท่าไรก็เสียเปรียบไอ้บ้านั่นไปหลายครั้งละ "ฮึ้ย โมโหว่ะ แม่งเอ๊ย ไอ้บ้า ไอ้เปรต” ตุบ! ฉันกระแทกก้นลงบนเก้าอี้แล้วก็วางถุงหิ้วในมือที่มือของต่างๆ อยู่ในนั้นลงบนโต๊ะตามอารมณ์ของตัวเอง โดยที่มีไอ้สวยนั่งอยู่ตรงข้ามและมองมาที่ฉันด้วยตาปริบๆ ก่อนจะถามฉันขึ้นมา ฉันเลยพยายามปรับอารมณ์ของตัวเองให้มันดีขึ้น เพราะฉันเองก็ไม่ค่อยอยู่กับอารมณ์แบบนี้เท่าไหร่หรอก "มึงเป็นไรวะญ่า แล้วมึงไปนานจังวะ ใครทำอะไรมึงหรือเปล่า บอกกู เดี๋ยวกูไปกระชากหัวมันให้เอง” ฉันมองหน้าไอ้สวยที่ถามมา ก่อนจะมองไปที่นาฬิกาข้อมือของแบรนด์ดังที่ฉันใส่อยู่ เออ นานจริงว่ะ ดีนะที่ตรงนี้มีลมพัดมาเอื่อยๆ เลยไม่ร้อนมากไม่งั้นไอ้สวยหน้าหักกว่านี้แน่ๆ ฉันเลยส่ายศีรษะเบาๆ ก่อนจะตอบมันไปด้วยน้ำเสียงแบบปกติ "เปล่าหรอกมึง ไม่ได้มีอะไรนั้นหรอก กูไปเจอคนกวนประสาทมาเฉยๆ แต่ช่างมันเถอะ แม่ไม่อยากจะเครซี่อะสาว” ฉันตอบไอ้สวยพร้อมยกไหล่พร้อมทำท่าไม่ใส่ใจ อ่อ บางคนอาจจะงงๆ บอกอีกทีแล้วกัน คือฉันเรียกไอ้เปิ้ลว่าไอ้สวย เข้าใจตรงกันนะวัยรุ่น อย่างงนะ แม่เตือนแล้วนะ "คิกๆ เขาต้องเก่งมากนะเนี่ย ที่ทำให้คนใจเย็นแบบมึงร้อนรุ่มแล้วก็เครซี่ได้อะ อยากเห็นหน้าเลยจ้ะแม่ ว่าแต่ใครวะ ผู้หญิงหรือผู้ชาย” สวยมันมองหน้าก่อนจะยิ้มแห้งๆ แล้วถ้าบอกไปมันล้อแน่ มันยิ่งอยากให้ฉันมีแฟนอยู่ เพื่อนฉันแต่ละคนอะไม่ค่อยจะมีใครเต็มเท่าไรหรอกรวมถึงฉันด้วยนี่แหละ ไม่งั้นจะครบกันได้ไงละเธอขา เพื่อนกันศีลต้องเสมอกันอันนี้สำคัญมากเด้อ ฉันเลยตอบไอ้สวยแบบปัดพร้อมหยิบยาในถุงมาทำแผลให้มัน "เปล่าหรอก แล้วอย่ามาเปลี่ยนเรื่องจ่ะสาว มาทายาเร็วๆ" "จ้าแม่ ญ่า" "ห๊ะ มีไรมึง" "ทำไมมึงซื้อขนมมาเยอะจังวะ" เวรเอ๊ย ลืมไปเลยว่าในถุงแม่งยังมีกล่องถุงยางที่ไอ้บ้านั่นซื้อมาด้วย ไอ้บ้า แล้วดีนะที่มันไม่ใช่ถุงพลาสติกสีขาวใส ร้านเขาใช้ถุงพลาสติกสีขาวแบบทึบ ไม่งั้นป่านนี้ไม่รู้จะมองหน้าใครยังไง ฉันเลยยิ้มแล้วก็ตอบไอ้สวยมันกลับไป "อ่อ กูซื้อไปไว้ที่คอนโดอะมึง ขนมมันหมดพอดี ซื้อทีเดียวมันเลยดูเยอะไปหน่อย” "อ่อๆ ขอกินหน่อยได้ปะ หิวข้าวอะ” พอพูดจบปุ๊บ ไอ้เปิ้ลมันก็กำลังเปิดถุงเพื่อหยิบขนมแทบจะทันที แล้วถังยางมันอยู่ไหนวะ ฉันเลยใช้ความเร็วเหมือนนินจารวบปากถุงหิ้วทุกถุงเอาไว้แล้ว ก่อนไอ้สวยมันจะเจอต้องหยุดทุกอย่างเอาไว้ #ให้ทุกอย่างจบที่เรา "เออ สวยแป๊บหนึ่งนะมึง” "ห๊ะ มีอะไรเหรอมึง” ฉันพูดพร้อมกับดูถุงพลาสติกพอเจอถุงที่มันมีกล่องถุงยางเลยและบอกไอ้เปิ้ลที่ยังนั่งทำหน้างงๆ แล้วมองมาที่ฉัน ฉันเลยหยิบถุงเจ้าปัญหามาวางไว้บนเก้าอี้แล้วก็ส่งถุงที่เหลือไปตรงหน้าไอ้สวย "อะ มึงเลือกเอานะจะกินอะไร แต่ในถุงนี้มึงอย่ากินเลยนะ” "เออๆ ว่าแต่ ทำไมวะ” "ก็ถุงนี้มันมีแต่ของที่กูช้อบชอบไง มึงกินในถุงพวกนั้นไปนะ” "อ่อ เครๆ กูก็ตกใจคิดว่ามีอะไร” "มาๆ หันมาเดี๋ยวกูทายาให้ จะได้เสร็จ” ฉันพูดพร้อมทายาตรงหัวเข่าตรงแขนให้ไอ้สวย ฉันดูแลมันเหมือนน้องสาวอะพูดเลย สนิทกันมาตั้งแต่เบบี๋จนถึงตอนนี้ รักกันสนิทกันของแทร่! พอทายาเสร็จปีกัสกับซัมเมอร์ก็เดินเข้ามาหาฉันกับไอ้สวยพอดี "ว่าไงจ๊ะ ชะนีน้อยๆ ทั้งสองของเจ้" "ทำไมรุ่นพี่ของพวกมึงปล่อยเร็วจังวะ” ฉันหันไปมองกัสกับซัมเมอร์ที่นั่งตรงข้ามก่อนไอ้เมอร์จะตอบมาจนต้องทำให้ฉันพยักหน้าเห็นด้วยกับคำตอบของมัน "ดีแล้วปะแม่ ช้ากว่านี้กูเป็นลมพอดี ตอนนี้หิวข้าวแล้วว่ะ” "จริงค่ะชะนี วันนี้รุ่นพี่แม่งก็ไม่ว๊าก ไม่มีใครผิดระเบียบด้วยมั้ง พี่เขาพูดคุยสบายๆ มากกว่าพี่ปริ้นซ์ก็พูดนิดเดียว ส่วนพี่อะไรนะอิเมอร์ พี่หล่อๆ ที่เดินตามมาที่หลังอะ ที่กหลัวูบอกว่าหลัวคนที่สองของกูอะ" "พี่วาโย" "แค่กๆ” ฉันกำลังกินน้ำอยู่พอได้ยินชื่อไอ้บ้านี่เลยรีบกินเข้าไปอีกจนสำลักหน้าดำหน้าแดง เพื่อนฉันเลยช่วยกันตบหลังให้เบาๆ "เอ้าๆ ชะนีทำไมรีบแดกจังล่ะคะ ไม่มีใครแย่งหรอดค่ะแม่ ค่อยๆ ดื่มเนาะ อิชะนีแดกแต่น้ำเปล่า" "เออนั่นดิญ่า เดี๋ยวก็แสบคอ ค่อยๆ" "พอแล้วๆ ดีขึ้นแล้วมึง" ฉันตอบก่อนจะมองพวกเพื่อนสามคนที่มองมาก่อนจะยิ้มให้พวกมันและพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ "มึงงง" "ว่า เรียกกูด้วยน้ำเสียงขนาดนี้กระเป๋าเงินกูเหมือนจะสั่นอีกแล้วนะ ไปจ่ะ ตี้ให้สุดแล้วหยุดที่คลาน วันนี้แม่เป็นเจ้ามือจ่ายให้ชะนีตัวน้อยๆ เอง” "เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนค่ะ ค่อยว่ากัน ตะวันยังไม่ตกกินไม่พูดเรื่องแอลกอฮอล์ค่ะสาว” “สาธุ เพื่อนหนูมันเหมือนจะถือศีลแต่มันคอแข็งสุดค่ะ ลูกขอให้เทวดาทั้งหลายรับทราบด้วยนะเจ้าคะ มันกินเท่าไหร่ก็ไม่เมาค่ะ กินจนตังค์ลูกช้างจะหมดมันก็ยังสู้ แต่ตอนนี้มันเหมือนคนละคนเลยเจ้าค่ะ ช่วยแจ้งเรื่องนี้แก่ทุกคนด้วยนะเจ้านะเจ้าคะ” “อิปี คือมึงโดนรุ่นพี่รับน้องจนเบลอเหรอคะสาว แล้วเรื่องนี้แม่สะสมมานาน หนูมือใหม่ หนูยังสู้แม่ไม่ได้หรอกลูก หนูยังต้องเรียนรู้อีกเยอะนะลูกนะ” “อร้าย ใครก็ได้ช่วยหนูด้วยค่ะ หนูสู้นางนี่ไม่ไหวของแทร่” “พรืด ฮ่าๆ” “คิกๆ เพื่อนบ้าเอ๊ย ไปกินข้าวกันปะ เออ กูว่ากูกินข้าวเสร็จแล้วจะกลับคอนโดเลยนะ เหนื่อยอะ พวกมึงจะไปไหนต่อปะ" ฉันกำลังเก็บของเคลียร์ขยะเลยหันไปถามสามคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะด้วยท่าทางที่เหนื่อยๆ เหมือนกัน ตอนนี้อยากไปอายน้ำนอนในห้องเปิดแอร์ฉ่ำๆ แล้วอะ "ไม่ค่ะชะนี กูก็กลับอยากกลับไปนอนเหมือนกัน ร่างกายต้องการที่นอนมากนะ” "เออ กูก็ว่างั้นแหละเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวชะมัดเลย" "งั้นไปกินข้าวกัน จะได้พากันแยกย้าย ส่วนมึงสวยกลับไปก็กินยานอนด้วย นี่ยาเอาไปไว้ทา" ฉันยื่นยาให้เปิ้ล ก่อนจะลุกขึ้นเอาขยะไปทิ้งถังขยะที่อยู่ไม่ไกลจากโต๊ะที่นั่งมากหนัก "จ้าแม่ ไปกินข้าวกัน" พวกฉันพากันเดินออกมาจากโซนนั่งเล่นของมหาวิทยา แล้วโลเคชั่นที่จะไปก็คือร้านอาหารหน้ามอนั่นเอง แต่ตอนนี้ฉันแยกกับพวกมันมาที่รถ เพราะฉันเอาถุงขนมมาเก็บ คือแบบนี้มันปลอดภัยที่สุดอะ ถ้าเพื่อนฉันมันค้นขนมในถุงเกิดเรื่องใหญ่แน่ งานใหญ่แน่เลยวิ พอเก็บของเสร็จฉันก็ล็อกรถแล้วก็เดินมาหาเพื่อนที่ร้านอาหารหน้ามอทันที เพื่อนฉันเลยถามขึ้นมาพร้อมยื่นแก้วน้ำมาให้ "ญ่า มึงจะกินอะไร พวกกูสั่งข้าวไป" "กูกินบะหมี่ดีกว่า อยากกินหมูแดงกินน้ำซุปร้อนๆ" "หื้ม ชะนีขา ชะนีน้อยของแม่ ร้อนขนาดนี้เสือกกินก๋วยเตี๋ยวอีก หนูลู๊ก แม่ขอร้อง” ฉันเท้าเอวมองไอ้ปีก่อนจะตอบเพื่อนกลับไปแบบกวนๆ แล้วกลุ่มฉันคุยกันไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ท่าทางน้ำเสียงคือมาเต็มมากนะเธอ มันได้อรรถรสอะ คุยเฉยๆ รู้สึกซึมๆ คิกๆ "บรรยากาศแบบนี้รับประแดกอะไรก็ร้อนปะวะกะเทย” "ฮ่าๆ อันนี้กูเห็นด้วยกับอิญ่าว่ะ” "เออกูด้วย” "แหม่ พวกชะนี เข้าอกเข้าใจกันเก่งมาก” "หึหึ เดี๋ยวกูมาเดินไปสั่งก่อน" ฉันเดินไปสั่งบะหมี่เกี๊ยวแล้วในจังหวะที่หมุนตัวก็เห็นว่าฝั่งตรงข้ามอีกฝั่งของถนน แม่งเสือกเห็นไอ้คนตัวสูงที่เดินออกมากับพี่องศา แล้วทาทางของเขาทำเอาฉันกำมือเลยนะ เพราะไอ้บ้านั่นเขากอดอกมองมาที่ฉันนิ่งๆ สายตาเหมือนจะไม่พอใจอะไรบางอย่าง แม่ง ถ้ามองขนาดนี้ก็เดินมาเปิดเวทีมวยกันเลยเถอะ สายตาที่มองมาเห็นแล้วอยากจะควักสายตา ฉันเลยเบะปากใส่เขาแล้วก็สะบัดหน้ากลับมาจากนั้นก็เดินเข้ามาหาเพื่อน คือในซอยของมอมันก็เป็นถนนเลนส์เดียวอะ มองฝั่งตรงข้ามถ้าใครไม่สายตาสั้นก็เห็นชัดเจน เดินข้ามไปมาก็ไม่กี่ก้าว อันนี้ขออนุญาตอธิบายให้ฟังนิดหนึ่งนะแม่ เผื่อใครกำลังงงว่าเห็นกันชัดขนาดนั้นเลยเหรอ “ขาแม่งก็ทั้งสั้นทั้งใหญ่ยังเสือกใส่กระโปรงสั้น เงินไม่มีจะซื้อกระโปรงตัวใหม่มั้ง ถ้าเป็นน้องในคณะกูจะสั่งวิ่งจนขาสั่นเลย เห็นแล้วหงุดหงิดฉิบหาย ยัยปอมๆ ขาใหญ่” ผมกอดอกแล้วพอเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอมือถือหลังอ่านไลน์กลุ่มสายตาก็เจอกับยัยตัวสั้น เลยมองยัยนั่นนิ่งๆ แล้วกระโปรงแม่งจะสั้นไปไหน คณะของยัยนี่รุ่นพี่ไม่เข้มเรื่องการแต่งตัวมั่งหรือไงวะ เห็นแล้วแม่งอยากจะกระชากแล้วยัดกระโปรงยาวๆ ให้ยัยนั่นใส่จริงๆ ดีนะที่ไม่เรียนคณะผม ไม่งั้นจะสั่งวิ่งให้ขาลีบเลย อ่อ ตอนนี้ผมออกมาถ่ายเอกสารกับไอ้ศา ไอ้ศามันอยู่ในร้าน รอเอกวาร ส่วนผมยืนอยู่ข้างนอก แล้วพอเห็นยัยนั่นเบะปากใส่ผมเลยยิ้มที่มุมปากเดี๋ยวจังหวะที่ได้เอาคืนจะเอาคืนให้จำไปเลย ในจังหวะที่กำลังมองยังตัวแสบอยู่นิ่งๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมา พอหันไปมองเลยเห็นว่าเป็นรุ่นน้องของคณะ พอได้ยินคำถามผมเลยสวนกลับไปแบบไม่ใส่ใจ เพราะผมไม่นิยมกินคนในคณะเดียวกัน ยิ่งเป็นรุ่นน้องด้วยแล้วยิ่งไม่สนใจเข้าไปใหญ่ “พี่โยคะ สวัสดีค่ะ ขอไลน์พี่โยหน่อยได้ไหมคะ หนูมีอะไรอยากปรึกษาอะคะ” “ไปปรึกษาพี่รหัส แล้วมีอะไรด่วน จะขาด จะลา จะสายให้บอกในกลุ่มใหญ่ ไม่ต้องติดต่อส่วนตัว แล้วไปจัดการกระโปรงซะ” “อ่อ เออ ค่ะ” ผมละสายตาไปมองยัยตัวแสบที่ตอนนี้นั่งหันหน้ามาทางผมพอดี ผมเลยจ้องยันนั่นนิ่งๆ เห็นกระโปรงแล้วขัดใจฉิบหาย ที่บ้านมันน้ำท่วมเหรอวะ มันจะใส่สั้นใส่รัดไปไหนหนักหนา “เฮ้อ น้องร้อนจนจะตุบแล้วค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับรวบผมก่อนจะใช้ยางมัดผมรูปแบบน่ารักๆ ที่อยู่ในแขนมัดไว้หลวมๆ แล้วไอ้เก้าอี้ก็อยู่ตรงข้ามถนนไง เห็นไอ้บ้านั่นอย่างชัดเจน มุมที่นั่งก็ไม่รู้จะเป๊ะเวอร์อะไรขนาดนั้น "ชะนี คอมึงเป็นแผลเหรอวะ ทำไมถึงแปะพลาสเตอร์อะ” งานเข้าละ เผลอรวบผมจนลืมว่ามีพลาสเตอร์ที่ปิดรอยที่ไอ้บ้านั่นทำไว้ ทำไงดีวะเนี่ย อย่างแรกต้องอย่าตกใจและห้ามมีพิรุธ เพราะไม่งั้นเพื่อนฉันถามไม่หยุดแน่ ฉันเลยยิ้มพร้อมกับตอบไอ้ปีออกไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติมากที่สุด "อ่อ เออ มดมันต่อยวะมึง แล้วพอกูเกาแม่งเลยแดง กูไม่รู้จะทำยังไงเลยติดพลาสเตอร์มา กลัวคนมองมาแล้วเข้าใจผิดอะดิ” "อ่อ กูก็ว่า เรื่องนี้ชั่งมันก่อนค่ะ สาว นั่นพี่วาโยนี่หว่า พี่เขามองมาทางพวกเราทำไมวะ หน้าพี่เขาโหดฉิบหาเลย เอาซะกูไม่กล้าขยับตัวเลยอะ" เพื่อนฉันทั้งหมดพากันหันไปมองคนตัวสูงที่ยืนกอดอกมองมาทางฉันพร้อมกับหน้าที่ดุดุนั่นแหละ เก็กสุดอะไรสุด นิ่งแม่งขนาดนั้นไม่รู้หุ่นการ์ตูนหน้าร้านกับไอ้บ้านั่นใครนิ่งกว่ากัน "เออ นั่นดิ แต่มันร้านถ่ายเอกสาร มีพี่องศาด้วย คงมาถ่ายเอกสารมั้งมึง" "อือหื้อ งานสายตาของพี่เขาที่มองมานั้น กูบอกเลยนะ อ่านจากสายตาเหมือนบังคับให้เมียเดินไปหาอะ ว่าแต่ ทำไมพี่เขามองมาที่กลุ่มเรากลุ่มเดียววะ ใครเป็นเมียเขารีบบอกกูมานะคะ กูจะได้ไม่อกหัก แต่ทำไมจุดที่พี่เขามองเหมือนจะเป็นไอ้ญ่าเลยวะ อย่าบอกนะ อิญ่า มึงกำลังทำให้กูอกหักเหรอสาว งื้ออ พี่เขาสเป็คกูเลยนะ สูง ขาว ตี๋ แต่ทั้งโหด ทั้งดิบ ทั้งเถื่อน หล่อเหมือนพระเจ้าตั้งใจปั้น บ้านรวย เหมือนพระเอกที่หลุดออกมาอยู่ในโลกของความเป็นจริงอะ อิญ่า ให้หนูเถอะนะแม่” "ไอ้บ้า จะเอาก็เอาไปสิ กูกับนายนั่นไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” “แต่กูเป็นเศร้าว่ะ พี่เขาไม่กินคนที่เรียนคณะวิศวะ เรื่องนี้เขาล่ำลือกันมากนะ” “พอๆ พวกมึงเลิกสนใจเขาได้แล้วค่ะ แดกข้าวเถอะเนาะ ข้าวมาแล้วค่ะสาว” "จร้าาแม่!” “พวกบ้าเอ๊ย” พวกเพื่อนฉันสามคนหันกลับมาพร้อมกับขานรับขึ้นมาโดยพร้อมเพียงกัน ฉันมองไปไอ้คนตัวสูงที่ตอนนี้ก็ยังมองไม่เลิกฉันอีก พอบะหมี่มาฉันเลยสนใจเขา จะมองก็มองไปเถอะ ก็ได้แต่มองนั่นแหละ จะทำอะไรฉันได้ ฉันสนใจบะหมี่ในถ๋วยตรงหน้ามากกว่า กลิ่นได้กลิ่นน้ำซุปท้องก็ร้องแล้วอะ ไม่ไหวแล้วแม่ ขออนุญาตทานข้าวก่อนนะคะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม