บทที่4.พระลอตามไก่!........

1474 คำ
แต่เป็นความจริงที่สุดในครั้งนี้... ค่ำคืนที่แสนหวามใจ...มีเขาและเธออยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน ดื่มด่ำกับความหวามรัญจวนจวบจนรุ่งสาง...และหลับสนิทแบบหมดเรี่ยวแรงในอ้อมกอดของกันและกัน มาสะดุ้งตื่นอีกครั้งช่วงหัวค่ำ...แล้วเขาก็เร่งงานสุดชีวิต เพราะอยากพาหล่อนไปฮันนีมูนสองต่อสอง...แต่หล่อนกลับหายไปเสียนี่…แค่คิดก็หงุดหงิด... นัชชาวีหยุดร่ายลีลา เธอขมวดคิ้วเมื่อกลางฟลอร์เหลือแค่เธอคนเดียว คนอื่นๆ ถูกกันออกไปห่างๆ เธอหมดสนุกเมื่อได้กลิ่นตุๆ ตามมา ‘หมอนั่นเอง!!’ หญิงสาวกันฟันจนฟันกรามแทบแหลกละเอียด สายตาคมดุกราดมองผู้ชายหน้าทน!! ‘สามีป้ายแดง’ ของเธอเอง สามีที่เธอไม่ได้เต็มใจ แต่เลี่ยงไม่ได้เพราะหลักฐานทุกอย่างมัดตัว ทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ ถูกแม่จับใส่พานทูนถวายให้เขา เธอเสียตัว!! ให้เขา ผู้ชายที่อ่อนกว่า แถมเขายังเป็นลูกหลาน คนมีอิทธิพล ที่เธอขยาดการเข้าไปอยู่ใกล้ๆ นัชชาวีไม่ต้องการถูกควบคุม เธอเบื่อการกักกัน พ้นจากบิดามานึกว่าตัวเองจะมีอิสระ กลับกลายเป็นว่าเธอถูกจับยัดใส่กรงเหมือนเดิม ‘อาเธอร์ มาริน’ มาเฟียตัวร้าย น่ารังเกียจ ข่าวฉาวๆ เกี่ยวกับ ‘มาริน’ เธอได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เด็ก มันฝังหัวถึงความป่าเถื่อนโหดร้ายของพวกที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ทำมาหากินไม่สุจริต สร้างความลำบากให้คนดีๆ ชอบพกปืนและทำตัวกร่าง ทำร้ายคนอ่อนแอ เธอไม่คิดว่าหัวหอกของ ‘มาริน’ จะคือผู้ชายหน้าหวาน ตาหวานคนนี้ “ไง...ดีม่า” เสียงแหบเซ็กซี่ของอาเธอร์ทำให้เธอชะงัก หญิงสาวสะบัดใบหน้า ขับไล่มนต์สะกดที่ชายหนุ่มจงใจหว่านใส่เธอ “ไม่ไง...มีอะไรเหรอ...ตามฉันมาทำไมล่ะ?” เธอแสร้งปั้นเสียงเคร่งใส่ ขยับก้าวเดินลงจากฟลอร์ช้าๆ เมื่อไม่มีประโยชน์ที่จะยืนอยู่ท่ามกลางความสนใจของคนรอบตัว อาเธอร์เดินตามมาติดๆ “เปล๊า!! ฉันไม่ได้ตามเธอมาเลยดีม่า ฉันแค่ออกมาระบายความกดดันที่ตัวเองได้รับ ไม่คิดว่าเราสองคนจะใจตรงกัน เลยเลือกที่นี่เหมือนกันเดะ” ชายหนุ่มตอบไม่ตรงใจ เขาบิดเบือนความจริง เพราะหากหล่อนรู้ นัชชาวีอาจจะหัวเราะเยาะเอาได้ “ชิ!” หญิงสาวสะบัดค้อนให้ เธอเดินสะเปะสะปะ เพราะดื่มแอลกอฮอล์ไปไม่ใช่น้อย เพิ่งรู้สึกว่าเธอเมาก็ตอนที่เห็นหน้าหวานของหมอนี่ อยู่ตรงหน้านี่เอง “จะไปไหน?...เดี๋ยวก็โดนสอยไปหรอก” ชายหนุ่มสบถ เขาถลาเขาไปประคองเมื่อนัชชาวีทำท่าเหมือนจะล้ม “อย่ามายุ่ง!! ฉันดูแลตัวเองได้ ที่สำคัญฉันเหม็นขี้หน้านาย” เธอตวาดกลับ มือเรียวพยายามผลักดัน แต่ทำไม่ได้เหมือนใจนึก “อย่าดิ้นเส้!! ใครในนี้เขาก็รู้ทั้งนั้นว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน...หากเธอทำงามหน้า โดนใครสอยไป ฉันนี่สิ!! จะได้เอาปีบคลุมหัว” ชายหนุ่มพูดไปบ่นไป กระบวนการรั้นไม่มีใครเกินสิ อย่างว่าแหละบิดาหล่อน ประคบประหงม เลี้ยงเหมือนหล่อนเป็นดั่งเจ้าหญิง เอาแต่ใจตัวเองไม่พอ ยังดื้อสุดๆ ไม่รู้ว่าคุณดิมิทรีมองนัชชาวีเป็นนางฟ้าได้ยังไง หล่อนเป็นแม่มดชัดๆ “แล้วไง!! ฉันจะไปกับใครก็ช่างฉันสิ นายเกี่ยวอะไรด้วย” หญิงสาวฉุนจัด นอกจากบิดา กับดานิลน้องชาย เธอต้องยอมลงให้หมอนี่อีกคนเหรอ?...ไม่มีทาง... อาเธอร์ส่ายศีรษะกับความเจ้าแง่ แสนงอนของนัชชาวี หล่อนพยศผิดคนแล้วล่ะ ถึงทิฆัมพรมารดาจะสั่งสอนให้เขาเป็นสุภาพบุรุษ ปฏิบัติตัวกับผู้หญิงที่อ่อนแอกว่าอย่างอ่อนโยน แต่...ต้องยกเว้น...นัชชาวีไว้คน หล่อนพยศเกินกว่าที่เขาจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษได้ “เกี่ยวสิ...เกี่ยวโดยตรง...เธอคงไม่ลืมนะว่า ฉันเป็นอะไรกับเธอ หรือว่าลืมล่ะจะช่วยย้ำความจำให้อีกสักครั้ง” ชายหนุ่มโน้มตัวเข้าไปใกล้ๆ เขากระซิบเสียงเย็นชา ดวงตาสีดำเปล่งประกายน่ากลัว “มันก็เรื่องของฉัน!! และฉันไม่มีวันลืมหรอกน่า... นายมันก็แค่คนชั่วคราว วันไหนที่ฉันสามารถหาเหตุตัดขาดกับนายได้ ฉันจะไปให้ไกลที่สุด จนเราสองคนไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก เพราะฉันเกลียดนาย...” หญิงสาวกัดฟันตอบ เสียงของเธอสั่นพร่า ไม่ใช่เพราะกลัว...แต่เพราะโกรดจัดต่างหาก ชายหนุ่มแสยะยิ้ม หล่อนจงใจเลี่ยงคำว่า ‘ผัว’ ดวงตาสีเขียวสดของเธอ มันวาววามเหมือนก้อนมรกต มันสวยเสียจนเขาไม่คิดว่าตัวเองจะยอมปล่อย นัชชาวีคือสมบัติของเขา แล้วคนหวงของอย่างเขานี่...จะยอมปล่อยสิ่งที่ตัวเอง ‘ชอบ’ หลุดมือไปอย่างนั้นเหรอ? “ก็ลองดู ดิ้นหนีได้ดิ้นไป...เธอเป็นคนผูกขึ้นมาเองนะอย่าลืมสิ” เพราะหล่อนเมา บวกกับข่าวที่หลุดออกไป ถึงจะไม่ใช่ความจริงแต่ชื่อเสียงของนัชชาวีก็ไม่เหลือ ชายหนุ่มกระชากเธอเข้าใกล้ เขากด ‘จูบ’ ปากเธอ ท่ามกลางสายตาทุกคู่ ประกาศเตือน!! ผู้ชายทุกคนแบบอ้อมๆ หล่อนเป็นของเขา หากใครกล้าแหยม มันไม่ได้ตายดีแน่ๆ เพี้ยะ! มือเรียวตวัดฉับบนซีกแก้มด้านซ้าย จนใบหน้าอาเธอร์สะบัดเพราะแรงตบ เขายกมือขึ้นจับกราม ขยับไปมา ก่อนจะหันมาแสยะยิ้มให้กับเธอ... “ชอบแบบตบแล้วก็จูบ งั้นสิ?” คำถามกวนๆ กับใบหน้าหล่อๆ ที่ดูกวนโทสะ “ฉันขยะแขยงนาย...อย่าพยายามหยามฉันด้วยการข่มขู่ เพราะมันจะทำให้ฉันเกลียดนายมาขึ้น” เธอเชิดหน้าขึ้น ปรายตามองชายหนุ่มหมิ่นๆ “มารินไม่จำเป็นต้องขู่ใครหรอก... ส่วนมากยอมสยบให้เพราะอำนาจที่ฉันครองต่างหากเล่า!!” ชายหนุ่มพูดเสียงเย็น เขากระชากมือหญิงสาวเข้ามาใกล้ๆ พร้อมทั้งโน้มตัวกระซิบเกือบติดริมฝีปากของเธอ “อย่าพยายามกำแหงใส่ฉันดีม่า!! เธอยังอ่อนหัดเกินไป อีกสิบปีค่อยมาผยองใส่ฉัน!” หญิงสาวโกรธจัด เธอเป็นลูกมีพ่อ มีแม่นะ เขาจะมาทำป่าเถื่อนแบบนี้กับเธอไม่ได้ หญิงสาวสะบัดตัวแรงๆ แต่ก็ไม่สามารถหลุดจากพันธนาการของเขาได้เลย คิดแล้วมันน่าเจ็บใจ มือแข็งดั่งปลอกเหล็ก กำเรียวแขนของเธอแน่น พร้อมทั้งออกแรงกระชาก จนเธอต้องสืบเท้าเดินตามแบบจำใจ โดยมีชายหนุ่มเดินนำหน้า หน้าของอาเธอร์หงิกงอและบึ้ง!! ปัง!! ประตูด้านข้างรถยนต์ถูกเปิดออก นัชชาวีถูกจับยัดเข้าไปด้านใน เธอฝืนจะดึงดันออกมา แต่อาเธอร์ยกนิ้วชี้ขึ้นชี้หน้าขู่ หน้าเขาตึงเปรี๊ยะ!! จนเธอขยาด และจำใจนั่งหน้าตูมอยู่ด้านใน “ดูอยู่ข้างนอกนี่แหละ กันคนห่างจากรถฉัน3 เมตร!!” เสียงทรงอำนาจสั่ง เขามุดเข้าไปในตอนหลังรถยนต์ ปิดประตูดังปัง!! จนนัชชาวีสะดุ้งโหยง!! “ดึงฉันออกมาทำไม? กำลังสนุก” เธอพูดเสียงสะบัด ถลึงตาใส่อาเธอร์ด้วย ไม่เห็นจะกลัวไม่ต้องมาทำหน้าบึ้งใส่ หน้าไม่เห็นเหมือนพ่อ? ทำไมต้องกลัว!! “ไม่ยักรู้ว่าเธอชอบเต้นจ้ำบ๊ะ!! นะดีม่า” ชายหนุ่มเหยียดยิ้ม ปรายตามองหญิงสาวข้างตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ชุดของนัชชาวีบางพลิ้ว!! แนบเนื้อ อวดสัดส่วนที่เธอมีให้ชาวประชาเห็นฟรีๆ โดยไม่ต้องจินตนาการ... อาเธอร์กัดฟันกรอดๆ มือกำแน่น รอก่อนเถอะให้กลับถึงบ้าน พ่อจะฉีกทิ้งไม่ให้เหลือซาก...หล่อนจะไม่มีโอกาสได้นำมาสวมทับบนร่างกายอีกครั้ง หวงโว้ย!! “บ้าสิ เต้นรำกับเต้นจ้ำบ๊ะ!! ที่นายพูดมันกับที่ฉันทำมันห่างกันเยอะแยะ!! ฉันไม่ได้ต้องการยั่วใคร... แค่อยากสนุก ฉันเจอเรื่องบีบหัวใจจนอยากระบายออก แค่นี้ทำเป็นเดือดร้อนไปได้... คนพากันมองทั้งร้าน!! นายไม่อายเหรอไงห่ะ? นายจะกร่างไปถึงไหนกันย่ะ?” เพราะคำว่า ‘มารินคือมาเฟีย’ นัชชาวีได้ยินมาตั้งแต่จำความได้ อคติกับนามสกุลนี้จึงฝังอยู่ในหัว เธอมองการกระทำของอาเธอร์ว่ามันคือการประกาศศักดา ประกาศอำนาจที่เขาถือครอง...ยิ่งเห็นก็ยิ่งเกลียด จนไม่อยากแม้แต่จะเข้าใกล้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม