“คุณนี่มารยาทแย่มากเลยนะ ทำไมจะต้องไล่ไมค์แบบนั้นด้วย”
ร็อกไม่สนใจจะคุยเรื่องไมค์อีกแล้ว และตอนนี้เขาก็มีหน้าที่กันไม่ให้หญิงสาวตรงหน้ากลับไปได้ภายในกำหนดที่เขาได้รับมา จึงส่งเสียงกำชับไปว่า
“ถ้าคราวหน้าหนี ผมจะให้คนงานผลัดกันขึ้นมาเฝ้าคุณในห้องทีละคน พวกนั้นไม่เคยเจอผู้หญิง ยิ่งแบบคุณด้วยแล้วนะ” ร็อกทำเป็นมองขึ้น ๆ ลง ๆ ด้วยสายตาประเมินก่อนขู่สำทับอีกที “พวกนั้นไม่เคยเจอมาเป็นปีไม่ก็ครึ่งปีได้แล้วมั้ง รู้ใช่ไหม ว่าถ้าได้อยู่ในห้องสองคนกับผู้หญิงแบบคุณ พวกนั้นคงไม่แค่เฝ้าคุณแน่ ๆ”
“คุณมัน... มัน... ไอ้... ไอ้ก้อนหิน ไอ้คนเลว” ธาราทิพย์โกรธจัดจนด่าไม่ออก ร็อกเองก็ไม่ได้อยู่รอฟัง เขาดึงแขนเธอเอากลับเข้าไปในห้องก่อนจะเลี่ยงไปยังทางอื่นที่ไม่มีไมค์ ตามองเห็นข้าวของที่หามาให้เชลยสาว ปากก็บ่นพึมพำอย่างหงุดหงิดไปด้วย
“ไม่ต้องใช้สบู่ ครีมของเชี่ยพวกนี้ โยนทิ้งแม่งให้หมดนี่เลย”
ธีรัชเริ่มมีสีหน้าไม่ดีเมื่อติดต่อหาธาราทิพย์ไม่ได้เลย จนตัดสินใจโทรศัพท์ไปยังเพื่อนคนสนิทของหญิงสาว เฌอก็อ้ำอึ้งไม่กล้าบอกว่าตนเองนั้นก็ตามหาธาราทิพย์อยู่เช่นกัน อาภาศรียืนฟังเงียบ ๆ สายตามีแววครุ่นคิดปนสะใจอยู่ลึก ๆ ก็ค่อยเข้ามาลูบแขนหนุ่มใหญ่เจ้าของทรัพย์สินมากมายอย่างเอาใจพร้อมเอียงศีรษะซบไหล่ของธีรัช
“มีอะไรอีกหรือคะ”
“ธาราขาดการติดต่อไปเลย” ธีรัชส่งเสียงบอกอย่างไม่สบายใจ อาภาศรีชักสีหน้าไม่พอใจที่ได้ยินน้ำเสียงอาทร ห่วงใยของสามี
“เรื่องแม่นี่อีกแล้วหรือคะ ศรีชักไม่สบายใจแล้วนะคะ ไหนคุณว่าคุณกับแม่นั่นไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งต่อกันยังไงละคะ ทำไมจะต้องห่วงใยอะไรแม่นั่นนัก”
“ลูกน้องคนสำคัญหายไปทั้งคนนะคุณ ผมก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา” ธีรัชมองตอบมาอย่างอ่อนใจ “ผมอยากให้คุณกับธาราเข้ากันได้นะ เพราะต่อไปจะได้ทำงานราบรื่น ธาราน่ะเป็นพวกหัวก้าวหน้า ฉลาด ไหวพริบดี คุณอย่าไปตั้งแง่กับธาราเลย ระหว่างผมกับธาราก็ไม่ได้มีอะไรน่าหวั่นใจหรอก”
“แน่นะคะที่คุณไม่มีอะไรกับแม่นั่น”
“แน่นอนที่สุดเลยครับ”
ได้คำตอบรับมั่นคงตอบกลับมาแล้วก็ค่อยยิ้มออก อาภาศรีอ่อนลงในทันที “ฉันน่ะไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ ขอแค่คุณรักฉันมั่นคงแค่คนเดียวก็พอแล้วล่ะค่ะ”
“อิ่มหรือยัง”
ร็อกถามแทรกตอนที่เธอยังขำเรื่องเล่าของสตีฟอยู่เลย และก็ทำเหมือนเขาเป็นอากาศธาตุ ไม่มองหน้า ไม่สบตา ถามอะไรเธอก็จะไม่ตอบ โกรธที่เขาจะพาคนงานเข้ามาเฝ้าเธอในห้อง แม้จะเป็นคำขู่ก็ตามที เธอไม่ชอบ ไม่พอใจ
แล้วในวินาทีต่อมาถึงได้พบว่าเก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่มันหมุนได้ จากที่หันหน้าไปคุยกับสตีฟ คนบ้าพลังที่บ้าอำนาจด้วยจับเก้าอี้ของเธอหมุนไปหาเขาพร้อมถามย้ำอีกครั้ง “ผมถามว่าคุณอิ่มหรือยัง”
“คุณกับฉันปากเดียวกันหรือไง ถึงได้จู้จี้กับฉันนักน่ะ และฉันก็ยังไม่อิ่ม ได้ยินหรือยัง”
“ไม่เห็นตักอะไรกินเลย”
“แปลกคนนะคะเพื่อนคุณ ตอนเด็กไม่ได้โตมากับพ่อกับแม่แน่ ๆ เลย ถึงได้ไม่มีใครสอนเรื่องมารยาทน่ะ” ธาราทิพย์เหน็บเขาด้วยการหันไปคุยกับบรรดาเพื่อน ๆ ของเขาและมันก็ทำให้ใบหน้าชายชาตรีหน้าซีดเผือดตาม ๆ กันไป เมื่อเธอขุดเอาปมที่ดันเป็นจริงของร็อกขึ้นมาพูด
ร็อกมองก่อนเอียงคอไปมาย้อนเธอกลับ
“ใช่ผมโตมาในบ้านเด็กกำพร้าก็เลยไม่มีมารยาท”
“ไม่ต้องบอกหรอก ฉันว่าพฤติกรรมของคุณก็คล้ายจะเป็นแบบนั้นนั่นแหละ ไร้มารยาท กักขฬะ”
“ไม่เอาน่า” สตีฟจำต้องเข้ามาช่วยขวางไว้เมื่อเห็นว่าธาราทิพย์ทำคะแนนนำไปหลายแต้มแล้ว และสีหน้าของร็อกก็ดำคล้ำลงมาก แววตาดูเหมือนจะอยากฆาตกรรมใครในบ้านสักคนเพื่อรองรับอารมณ์ที่คุกรุ่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ไมค์กับเดเนียลก็เข้ามาขวางไว้อีกด้วย ส่วนฮอลล์ยืนมองยิ้ม ๆ ตรงเคาน์เตอร์เพราะแยกตัวไปหยิบขวดน้ำพอดี
“ฉันน่ะไม่เอาอยู่แล้วคนแบบนี้ และก็ช่วยบอกเพื่อนคุณด้วยว่าอย่าได้มาหาเศษหาเลยกับฉันนัก ฉันรู้นะว่าเมื่อคืนคุณแอบดูฉันเข้าห้องน้ำน่ะ โถ ทำมาเป็นอ้างว่ากลัวฉันหนี ที่จริงคิดอะไรกับฉันล่ะซี้ ฝันไปเถอะนะ นายนี่นอกจากจะไร้มารยาท กักขฬะแล้วยังโรคจิต วิตถารด้วยนะ รู้ตัวไหมนายก้อนหิน”
เส้นความอดทนของร็อก ศิงขริน โรเจอร์ขาดผึงลงทันที เหมือนเขาเอาตัวเองพุ่งเข้าหาเชลยสาวที่ต่อว่าเขาฉอด ๆ แต่ถูกเพื่อนกันเอาไว้
“ก็มาดิ คิดว่ากลัวหรือไง”
เธอร้องท้าทาย สตีฟกับเจมี่สองคนนั่นก็ร้องเสียงหลงแทบจะพร้อมกัน โวยวายว่าเธอราดน้ำมันลงกองเพลิงโทสะของร็อกอีกทำไม
แล้วทั้งหมดก็เข้ามากันตัวเธอให้ห่างจากร็อก ชุลมุนกันไม่น้อย นาทีนั้นธาราทิพย์เลยเหมือนถูกรุมล้อมอยู่ด้วยผู้ชายทั้งหมดในบ้าน และแล้วประตูด้านหน้าก็เปิดอ้าออกพร้อมด้วยเสียงแหลมหวีดร้องโวยวายขึ้น
“ตายแล้ว ตาย ๆ ๆ หลานฉัน”
สตีฟหันมองประตูแล้วก็ดึงร็อกออกให้ห่างจากเธอไปพลางบ่นไปพลาง “ป้าหวีครับ มาทำไมเนี่ย ยิ่งยุ่ง ๆ วุ่นวายอยู่ด้วย”