“จะให้ฉันนอนตรงไหนล่ะ”
“บนเตียงนั่นไง”
“แล้วคุณล่ะ อย่าบอกนะว่าจะนอนพื้น Gentleman มาก” ธาราทิพย์รีบชมดักทางเขา แต่แล้วร็อกก็บอกกลับมาว่า “เตียงกว้างขนาดนั้น คุณก็เลือกเอาสิว่าจะนอนชิดซ้ายหรือขวา”
“แต่ฉันไม่เคยนอนร่วมเตียงกับใคร”
“ก็นี่ไง คุณได้ประสบการณ์นั้นแล้ว”
“ฉันขอถอนคำพูดที่บอกว่าคุณคือ gentleman” เธอบอกจบก็หันหลังเดินเข้าห้องน้ำไปในทันที
ธาราทิพย์นอนในห้องของร็อกมาร่วมสามวันแล้ว และตลอดเวลาเธอก็ไม่ได้ถูกขังแต่ในห้อง ลองเดินออกไปที่ด้านนอกแล้วเปิดประตูบ้านเลยออกไปมากกว่านั้น เสียงของร็อกก็จะเตือนตามหลังมาว่าห้ามเดินพ้นจากอาณาเขตที่เขาทำสัญลักษณ์เอาไว้ ไม่อย่างนั้น เขาทำท่าขู่เธอ แต่ธาราทิพย์น่ะหรือจะกลัว ทำทีเป็นเดินออกนอกบริเวณ เสียงผิวปากก็ดังขึ้น คนงานนับสิบเดินเรียงหน้าขวางเป็นกำแพงมนุษย์ทันที เธอตกใจไม่น้อย เบนทิศทางกลับแทบไม่ทันเอาเสียเลย
จนวันต่อมาเธอตื่นมาก็เจอฝนตกเสียแล้ว ไม่รู้ว่าตกตอนไหน ส่วนร็อกไม่ได้อยู่ในห้อง เธอเลยนอนกลิ้งไปมาบนเตียงกว้างที่มีกลิ่นของผู้ชายหน้าฝรั่งที่เธอรู้ชื่อของเขาเพียงแค่ว่าชื่อร็อก ติดอยู่ไปทั่วทั้งห้องไปหมด ไม่ว่าจะหมอน ผ้าปูที่นอน หรือแม้แต่ผ้าห่มก็อวลไปด้วยกลิ่นของเขา กลิ่นแบบผู้ชายแมน ๆ ไม่เห็นจะหอมเลย แต่ก็ไม่ได้เหม็น ว่าแล้วก็ดึงเอาผ้าห่มของเขาขึ้นมาจ่อจมูกสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ยาว ๆ ดมค้างอยู่แบบนั้นนานเป็นนาที พอรู้ตัวก็รีบผลักผ้านั้นทิ้งไป
จะบ้าหรืออย่างไร
เธอจะมาชอบกลิ่นแบบนี้แล้วเอาแต่ดมกลิ่นหมอนี่ไม่ได้นะ แล้วขยับตัวลุกออกจากที่นอน แต่ก็ไปไม่พ้นกลิ่นของเขา ธาราทิพย์รอเวลาจนสายค่อยออกไปที่ด้านนอก ไม่มีใครออกมา หรือพวกเขาอาจจะออกมาแล้วและหายกันไปไหนแล้วก็ไม่รู้ได้
สบโอกาสให้หนีแล้วนี่นา
หญิงสาวมองซ้ายขวาเมื่อไม่เห็นคนตรงนี้เลยสักคนเลยทำทีเป็นออกไปเดินเล่น เมื่อมองเข้าไปในบ้านอีกทีก็ยังไม่เห็นใคร เลยเดินให้ไกลจากตัวบ้านไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเจอคนงานต่างด้าวเป็นสิบคนเห็นจะได้ ก็เตลิดตกใจ วิ่งกลับมาที่บ้านอย่างเดิม
ร็อกจอดรถพอดี เขามองผ่านกระจกหน้ารถออกไปแล้วมุมปากก็ขยับยกขึ้นราวกับจะขำ แล้วหันไปคว้าข้าวของที่เบาะข้าง ๆ ลงจากรถเดินเข้าบ้านไป
“เพิ่งตื่นหรือคะ”
ธาราทิพย์ถามแก้เก้อเมื่อวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในบ้านแล้วเจอชายหน้าฝรั่งที่เป็นพรรคพวกของคนที่พาตัวเธอกักขังในบ้านหลังนี้ยืนหัวยุ่งที่ตรงกลางบ้าน
คนถูกเธอทักยิ้มเขิน ๆ ตอบรับเสียงเบา แล้วถามเธอกลับ
“คุณล่ะ”
ธาราทิพย์เอียงคอมองชายหนุ่มด้วยท่วงท่าน่ารักแล้วเข้าไปนั่งคุยด้วยเสียเลย อยากหนีก็น่าจะหาลู่ทาง หาพันธมิตรสักหน่อย ไม่ดีหรืออย่างไร ธาราทิพย์คิดพร้อมด้วยรอยยิ้มหมายมาดในตอนที่ชายคนนั้นลุกไปดริปกาแฟมาเผื่อเธอ
ร็อกเดินตามเข้ามาทีหลังแว่วเสียงหัวเราะดังคลอมากับเสียงคุยกัน ก็ค่อยยกถุงข้าวของที่ออกไปหาซื้อมาให้ธาราทิพย์แต่เช้าขึ้นมองแล้วโยนไปยังอีกทางทันที สีหน้าของร็อกกลับมาเรียบเฉยอีกครั้ง อีกทั้งไม่มีรอยยิ้มขันแบบเมื่อครู่นี้
“ทำอะไรกัน” เสียงถามห้วนจากร็อกดังแทรกตอนที่เธอถามประวัติของไมค์อยู่พอดี ธาราทิพย์ตีหน้าเรียบเฉยปานกันกับคนถาม บอกสวนไปว่า “จูบกันอยู่มั้ง ถามได้”
เธอย้อนเขาออกไปแบบไม่ทันได้คิด แล้วก็เห็นสายตาเป็นประกายของร็อกที่มองตอบมาก็ให้ร้อนที่ใบหน้าวูบวาบขึ้น นี่เขาคงไม่ได้คิดว่าเธออยากจูบกับเขาอีกใช่ไหม ถึงได้หยิบเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดใส่เขาน่ะ
ร็อกค่อยหายหงุดหงิดขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แล้วหันไปทางไมค์ พยักพเยิดหน้าให้เพื่อน รู้สึกไม่ชอบใจไมค์ขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ เอ่ยถามเสียงหาเรื่อง
“มึงไม่ออกไปหาปลาหรือไมค์”
“อุ๊ยตายแล้ว เป็น Fishman ด้วยหรือคะ” ธาราทิพย์ถามด้วยไทยคำภาษาอังกฤษอีกคำ พร้อมทำตาเบิกกว้างมองไมค์อย่างที่พยายามให้ดูสนใจเขาเป็นพิเศษ แบบที่เคยใช้กับลูกค้าแล้วได้ผลมาเสมอ
“มาดแมน แล่นเรือได้ หาปลาเป็น สเปกฉันเลยค่ะ ขอฉันตามไปด้วยได้ไหมคะไมค์”
ร็อกที่ยืนกอดอกมองด้วยตาขวาง อารมณ์คุกรุ่นเคืองขึ้นมาอีกครั้งแล้วตรงเข้ามาจับแขนของเธอไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะตามไมค์ออกไปหาปลาจริง ๆ เขาบอกด้วยเสียงมีโมโห
“คุณมานี่ ไม่ต้องตามใครไปไหนทั้งนั้น”
“จะบ้าหรือไง มาจับมือฉันแบบนี้ คนไทยถือนะยะ ไม่ได้เป็นไรกันสักหน่อย ปล่อยเลย”
ร็อกไม่ปล่อยอย่างที่เธอพยายามยื้อแขนตัวเองไว้แล้วหันไปไล่ไมค์ “นายไปได้แล้วไมค์”
ไมค์ผู้ไม่มีปากมีเสียงไว้เถียงสู้ใครลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีที่ถูกไล่ ธาราทิพย์เห็นท่าทางหงอ ๆ ของไมค์แล้วก็นึกสงสาร เธอหันไปต่อว่าร็อกบ้าง
“คุณนี่มารยาทแย่มากเลยนะ ทำไมจะต้องไล่ไมค์แบบนั้นด้วย”