“หึ ๆๆ ทำไมต้องทำหน้างง นี่เราคิดว่าพี่ชวนเราไปกินข้าวสองต่อสองเพราะเหตุผลอะไร อย่าบอกนะครับว่าไม่รู้ว่าพี่เพราะอยากอยากเดทกับเรา”
“...” ฉัน ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ
“ว่าไงครับปีใหม่” พี่เซนส์ถามแล้วก็ขยับมาใกล้พร้อมกับรอยยิ้มที่ละมุนมาก ๆ
อยากเดทกับฉันงั้นเหรอ แล้ว...บาร์เทนเดอร์คนสวยคนนั้นล่ะ หรือว่าที่จริงแล้วพี่เขาแค่บังเอิญหันสายตาไปมองทางนั้นตอนที่พูดโดยที่ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่แกเคยเดาจริง ๆ
“คือ...”
“ถ้าอึดอัดบอกพี่ได้นะ”
“ปะ เปล่าค่ะ ไปชุดนี้ได้ใช่ไหมคะ” เปลี่ยนเรื่องดีกว่าปีใหม่
“ได้สิทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ”
“เห็นพี่เซนส์ถามนึกว่าไม่โอเคนี่คะ”
“เปล่าพี่แค่รู้สึกว่ามัน...”
“คะ?” สายตาที่เขามองตอนที่หยุดพูดไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกแย่แต่กลับทำให้เขินมากกว่า ไม่เคยรู้สึกเขินเวลาผู้ชายมองเสื้อผ้าการแต่งตัวของตัวเองมาก่อน แล้วนี่ยิ่งเป็นชุดนักศึกษามันยิ่งไม่ควรเขินแต่ก็เขินได้ไงคะ สายตาพี่เซนส์ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ นะ
“ไม่มีอะไรหรอก” พูดแล้วยิ้มบาง ๆ ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่มีอะไรอย่างที่เขาพูดเลยสักนิด
“ไม่มีได้ไงคะก็เมื่อกี้พี่เซนส์พูดเองว่าพี่เซนส์รู้สึกว่ามันอะไรก็ไม่รู้”
“พี่ไม่พูดดีกว่า”
“ได้ไงคะ พูดเลยนะ” เขินกับสายตาแต่ก็อยากรู้อยู่ดีนั่นแหละ
“หึ ๆๆ เอาไว้เดี๋ยวบอกแต่ไม่ใช่ตอนนี้”
“อ้าว” ฉันก็เขินนะแต่การได้คุยกันมากขึ้นก็ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายมากกว่าไม่พูดอะไรกันเลย
“ไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่าไหม คุยบนรถก็ได้พี่อยากพาเราไปกินข้าวแล้ว”
“ก็ได้ค่ะ” ฉันตกลงพี่เซนส์ก็ยิ้มแล้วขยับมาใกล้
“...คะ?” ฉันมองพี่เขาที่มาหยุดตรงหน้าด้วยความงง
หมับ!
“พี่จะพาไปขึ้นรถ”
“...” -///- เสือมือไวชัด ๆ ไม่แปลกหรอกได้ยินเรื่องผู้หญิงมาพอสมควร แต่ทำไงได้ใจมันชอบไปแล้ว คนเราก็แบบนี้ล่ะค่ะถ้าลองได้รู้สึกไปแล้วต่อให้รู้ว่ากำลังเอื้อมมือไปคว้าไฟก็ยอมที่จะเอาของร้อนมาไว้ในมือ
แต่ก็ไม่แน่หรอกบางคนเจ้าชู้มากแต่พอได้เจอคนที่ใช่แล้วก็ยอมหยุดชนิดที่เรียกว่าทั้งชีวิตนี้เพื่อเธอมีเยอะแยะ และฉันอาจจะเป็นคนที่ทำให้พี่เซนส์กลายเป็นแบบนั้นก็ได้ใครจะไปรู้
ลองดู ใช้ใจก็พอปีใหม่ ถ้าได้ก็ดีมาก ๆ แต่ถ้าไม่ได้ก็...เจ็บและทำใจ
พี่เซนส์จูงมือฉันเดินอ้อมมาขึ้นรถ เปิดประตูให้แล้วก็รอปิดเล่นเอาฉันใจเต้นขาสั่นเกิดอาการขึ้นรถด้วยอาการงกเงิ่นเหมือนคนไม่เคยขึ้นรถซะงั้น
“อยากกินไรครับ”
“...อะไรก็ได้ค่ะ” อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เมนูเส้นหรืออะไรที่กินแล้วดูไม่สวย ปีกลัวไม่สวยในสายตาพี่เซนส์ แหะ ๆ
“พี่ขอกลัวคำว่าอะไรก็ได้ของผู้หญิงเหมือนผู้ชายคนอื่นได้ไหม” พี่เซนส์พูดติดตลกทำเอาฉันหลุดขำ
“ฮ่า ๆๆ ไม่หรอกค่ะสำหรับปีถ้าพูดว่าอะไรก็ได้ก็คือตามนั้นค่ะไม่ต้องกังวลนะคะ
“หึ ๆๆ ครับ ความจริงพี่เลือกไว้แล้วล่ะแต่อยากให้เราเลือกก่อน”
“ถ้างั้นเอาร้านที่พี่เซนส์เลือกได้เลยค่ะ” ฉันหันไปยิ้มให้ ก็คิดไว้แล้วล่ะว่าผู้ชายแบบพี่เซนส์ถ้าถึงขั้นบอกว่านี่คือการเดทคงไม่มีทางที่จะไม่เลือกร้านอาหารเอาไว้หรอก
พี่เขาชวนคุยตลอดทาง คุยเก่ง มีเสน่ห์ ที่สำคัญ...หล่อ ตรงสเปคทุกอย่าง
ใช้เวลาไม่นานพี่เซนส์ก็พามาถึงร้านอาหาร ร้านดังบรรยากาศดีเลยนะคะแต่การใส่ชุดนักศึกษามาก็ไม่ได้ถือว่าแย่เท่าไหร่ ฉันว่าฉันดูน่ารักน่าทะนุถนอมดี อิอิ
“ทานไรดีปีใหม่”
“อืม...อันนี้ก็ได้ค่ะ” ฉันชี้เมนูตรงหน้าแล้วพี่เซนส์ก็จัดการสั่งอาหารให้
“พิงค์กับไอ้ฟลุ๊ครู้รึเปล่าว่ามาเดทกับพี่”
“คะ? ไม่รู้หรอกค่ะ ปีไม่ได้บอก” อย่าว่าแต่เดทเลยค่ะพี่เซนส์แค่เห็นปีกับพี่เซนส์เดินขึ้นไปชั้นบนของผับด้วยกับเฮียกับเจ้ก็เครียดแล้วค่ะ -_-!
“หึ ๆๆ ถ้ารู้สองคนนั้นเครียดแย่”
“ทำไมล่ะคะ” ฉันแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วถามออกไป
“เฮียกับเจ้เราไม่ได้บอกรึไงว่าพี่เป็นตัวอันตราย พี่ว่าน่าจะบอกแล้วนะ”
“ก็...นิดหน่อยค่ะ” คำพูดกับสายตารู้ทันเล่นเอาคนสวยอย่างฉันไปไม่เป็นต้องยอมรับแต่โดยดี
“หึ ๆๆ พี่นึกแล้ว เราว่าไงล่ะ”
“คะ?”
“เราว่าไง รู้สึกว่าพี่เป็นตัวอันตรายไหม”
“แล้วพี่เซนส์ชวนเดทเพราะอะไรล่ะคะ ปีเดาใจใครไม่ได้หรอกค่ะ ได้แต่คิดว่าพี่เซนส์คงไม่ใจร้ายกับปีที่เป็นน้องของ เฮียฟลุ๊คกับเจ้พิงค์ด้วยการเข้ามาหลอกปีจริงไหมคะ” สติเท่านั้นที่จะทำให้ฉันคุยกับเขารู้เรื่องและดูไม่เป็นผู้หญิงหัวอ่อน
“หึ ๆๆ เล่นเอาพี่ไปไม่เป็นเลย”
“ยังไงคะพูดแบบนี้ตกลงตั้งใจจะเข้ามาหลอกปีรึไง ถ้าจะหลอกขอร้องให้จบแค่อาหารมื้อนี้นะคะ ไม่มีใครอยากเสียใจเพราะความสนุกของคนแค่คนเดียวหรอก” ฉันพูดไปยิ้มไปไม่ให้ดูเครียดเท่าไหร่แต่ที่จริงก็เครียดนั่นแหละ
ไม่เคยมีใครอยากโดนหลอก ไม่มีใครอยากเจ็บ ไม่มีใครอยากเป็นของเล่นหรือตัวตลกของใครอยู่แล้ว
“เปล่า พี่ล้อเล่นครับ”
“โล่งอกไปทีนะคะ แต่ของแบบนี้คงต้องดูกันยาวหน่อย”
“ต้องดูยาว ๆ เลยเหรอ” พี่เซนส์ทำหน้าฉงนใส่แต่ดูรู้ว่าแค่ทำเพื่อล้อเล่น
“ฮ่า ๆๆ จะดูสั้น ๆ ก็ได้ค่ะ ปีไม่บังคับใครอยู่แล้ว” พี่เซนส์ต้องเข้าใจสิว่าฉันต้องการสื่ออะไร แค่กำลังจะสื่อว่าฉันไม่ได้แคร์ไม่ชอบก็ไม่เป็นไรก็เลิกเดทกันแค่นั้น
ความจริงไม่อยากดูสั้น ๆ หรอกนะอยากดูยาว ๆ แต่ไม่อยากเป็นลูกไก่ในกำมือใครโดยเฉพาะผู้ชายที่ได้ชื่อว่าโคตรร้ายกาจเรื่องผู้หญิงอย่างคนตรงหน้า
“อ่าส์~ ท่าทางพี่จะเจอแม่เสือมากกว่าลูกแมวแล้วสิ”
“ฮ่า ๆๆ ไม่ใช่แม่เสือหรอกค่ะอย่าทำร้ายปีก็พอถ้าไม่มีใครมาร้ายใส่ปีก็แค่ลูกแมวตัวเล็ก ๆ นี่แหละ”
“หึ ๆๆ โอเคครับ พี่อยากเห็นปีใหม่เวอร์ชั่นลูกแมวมากกว่า แต่ต้องเป็นลูกแมวของพี่คนเดียวนะ”
“...” บ้าจริง! ทั้งที่พยายามจะให้เขารู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกไก่หรือลูกแมวแต่พอโดนหยอดด้วยคำนี้เข้าไปปีใหม่คนนี้ก็อยากกลายร่างเป็นลูกแมวกระโดดไปอ้อนบนตักพี่เซนส์ทันทีเลย >///-เวลาต่อมา-
“ขอบคุณนะที่ไปเดทกับพี่”
“ขอบคุณที่พาไปกินอะไรอร่อย ๆ เหมือนกันค่ะ” พี่เขามาส่งถึงหน้าหอแล้วค่ะ ใช้เวลาทั้งเดินทาง กินข้าวจนถึงตอนนี้ก็เกือบ 4 ชั่วโมง แต่ช่วงเวลาของความสุขมันมักสั้นเสมอเลยรู้สึกเหมือนฉันได้เดทกับพี่เซนส์แค่ครึ่งชั่วโมง
“ครับผม เอาไว้เดี๋ยวพี่พาไปกินอะไรอร่อย ๆ อีกดีไหม”
“อืม~ ถ้าพี่เซนส์เลี้ยงนะคะ”
“หึ ๆๆ เลี้ยงสิทำไมจะไม่เลี้ยงล่ะ”
“โอเคค่ะ ถ้างั้นปีไปดีกว่า พี่เซนส์ขับรถดี ๆ นะคะ” จะจากกันแล้วก็เริ่มใจหายไม่รู้ว่าพี่เซนส์ประทับใจอะไรในตัวฉันบ้างรึเปล่าแต่ฉันประทับใจทุกอย่างที่เป็นเขาเลยล่ะ
“ครับผม” รอยยิ้มหล่อละมุนทำฉันไม่อยยากลงจากรถ แต่ต้องลงใช่ไหมเดี๋ยวดูหิวเขาเกินไป แหะ ๆ
ฉันหันไปเปิดประตูรถช้า ๆ แต่ก่อนที่จะลงรถก็มีเสียงที่ฉันรอคอยดังขึ้น
“ปีใหม่”
“คะ”
“วันนี้...พี่มีความสุขมาก” เสียงก็ละมุนหน้าตาก็หล่อเกินความจำเป็น ยิ่งคำพูดอย่าให้พูดถึงเลย คำพูดแค่นิดเดียวแต่อิทธิพลโคตรยิ่งใหญ่
“...ค่ะ ปีก็มีความสุขเหมือนกันค่ะ” ฉันตอบด้วยใจที่เต้นแรงมากแล้วเราก็ยิ้มให้กินก่อนที่ฉันจะลงจากรถ พี่เซนส์เปิดกระจกมองหน้าฉันแล้วก็เอาแต่ยิ้มบาง ๆ
“ไม่ไปเหรอคะ” ถามออกไปก็เขินไป แต่ถ้าไม่ไปจะพาขึ้นห้องแล้วนะ >/////////<
#PEEMAI END
#SENSE TALK
ผมมองปีใหม่ที่เดินเข้าไปในหอด้วยรอยยิ้มจนเธอเดินเข้าไปในประตูของหอพักแล้วหันมามองผมนิดหน่อยก่อนจะเดินเข้าไปข้างในจนผมมองไม่เห็นเธอแล้วถึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ติ๊ด!
Sense : วันนี้ไม่ได้ไปเข้าไปดื่มแต่พี่จะเข้าไปรับ รอก่อนนะ