บ้านพิริยะตันทเสถียร
ไอรดาลงจากรถเดินดิ่งเข้าไปภายในบ้านที่มีทั้งเจ้าสัวไชยาคุณหญิงลำไพที่มีศักดิ์เป็นคุณพ่อคุณแม่ของเธอรอคุยธุระสำคัญด้วย เมื่อร่างบางเดินเข้าไปถึงห้องโถงสายตาของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดจับจ้องมาที่ไอรดา แต่ไม่ได้เดินเข้ามาสวมกอดเหมือนที่ควรจะเป็นเหมือนเธอไม่ใช่สายเลือด
"สวัสดีดีค่ะคุณพ่อคุณแม่"ร่างบางยกมือไหว้อย่างมีมารยาทเธอถูกเลี้ยงด้วยเงินโดยปราศจากความรักและความอบอุ่น ไอรดาไม่เคยรู้จักคำนี้ไม่เคยได้รับจากคนทั้งสองที่ยืนตรงหน้า
"อีก 3 เดือนแกเตรียมตัวแต่งงานกับอันเตรียเพื่อนพ่อ"ท่านเจ้าสัวไชยาพูดขึ้นมาอย่างไม่แคร์ความรู้สึกหรือถามความสมัครใจของเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองสักนิด ทุกอย่างท่านเป็นคนกำหนดชี้ชะตาให้ไอรดาตีกรอบให้เธอทุกเรื่อง
เธอเปรียบดั่งนกน้อยในกรงทอง กรงทองที่ไร้ความสุข กรงทองที่ไร้ซึ่งความอบอุ่นเธอไม่อยากอยู่สักนิด
ไอรดาถึงกับตัวชา ใบหน้าของพระรามคนที่เธอรักฉายขึ้นมาเหมือนจอมอนิเตอร์ทันที หัวใจที่เคยพองฟูกลายเป็นสีชมพูในหลายเดือนที่ผ่านกลับเหี่ยวเฉา เหมือนต้นไม้ที่กำลังออกดอกออกผลที่ได้ปุ๋ยถูกสูตรแล้วถูกน้ำร้อนๆลวกจนตาย
" ฮึก หนูไม่แต่งค่ะ ฮึก หนูกับเค้าเราไม่ได้รักกัน เราไม่ได้รู้จักกันจะแต่งงานกันได้ยังไงคะ เราจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกันได้ยังไงในเมื่อหัวใจของเราไม่ได้ตรงกัน"ร่างบางอธิบายทั้งน้ำตาชี้แจงถึงเหตุผลแต่ทุกอย่างก็เปล่าประโยชน์ เธอคลานเข่าเข้าไปหา ก้มกราบเท้าคนตรงหน้าอย่างอ้อนวอนขอความเมตตา ยกมือไหว้อย่างไร้หนทางสู้ทุกอย่างที่ได้รับกลับมาคือความว่างเปล่า
"แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธทำตามที่ฉันสั่ง"ท่านเจ้าสัวไชยาเอ่ยเอ็ดด้วยเสียงที่หงุดหงิด ต่อให้เป็นลูกก็ไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งหรือปฏิเสธ ทุกอย่างท่านเป็นคนกำหนดและชี้ชะตาเอง แม้แต่คุณหญิงลำไพก็ไม่กล้ามีปากเสียงต่อให้เป็นภรรยาก็ตาม
"หนูเป็นคนนะคะมีชีวิตจิตใจ หนูทำตามที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการทุกอย่าง ทั้งโรงเรียนทั้งมหาลัยที่อยากให้หนูเข้าเรียน แม้แต่คณะที่อยากให้หนูเรียนหนูก็ยอมเรียนทั้งๆที่ไม่เคยรู้สึกชอบมัน อย่าบังคับหนูเลยนะคะคุณพ่อคุณแม่ หนูขอแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว"อีกครั้งที่เธออ้อนวอนขอและจะอีกกี่ครั้งท่านเจ้าสัวก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจ
"แกอย่าคิดว่าฉันไม่รู้อะไรนะ ถ้ายังอยากให้คนที่แกรักมีลมหายใจ มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้จนแก่ตายก็ไปบอกเลิกมันสะแล้วแต่งงานกับเพื่อนฉัน อย่าให้ฉันหมดความอดทนกับแกไปมากกว่านี้"ดวงตาคมขลับที่มืดลึกจ้องเขม็งมายังลูกสาว ประโยคที่ท่านเจ้าสัวเอ่ยออกมาเมื่อครู่ทำให้ไอรดาหวั่นใจและกลัวเป็นสุด
"ต่อให้หนูบอกเลิกพี่รามหนูก็ไม่ยอมแต่งงานกับเพื่อนคุณพ่อหรอก หนูจะไม่ยอมมีชีวิตมีครอบครัวที่เหมือนคุณพ่อคุณแม่ จะไม่มีวันเดินรอยตามคนที่แต่งงานกันเพราะธุรกิจไร้ซึ่งความรักแบบคุณพ่อคุณแม่แน่นอน"
เพี๊ยะ!!
"แกอย่ามาก้าวร้าวกับฉันกับคุณพ่อผู้ให้กำเนิดแกแบบนี้นะหนูด้า แกเป็นลูกแกคือสมบัติของฉัน ในเมื่อคุณพ่อและฉันสั่งอะไรแกก็ต้องทำ"คุณหญิงลำไพลงมือทำร้ายเด็กสาวอย่างไม่รู้สึกอะไร แรงตบจากผู้เป็นแม่ที่ไอรดาเคยรักเคยโหยหา แต่ในเวลานี้หัวใจของเธอเหมือนโดนบดขยี้ที่ถูกผู้เป็นแม่ทำร้าย
"แกไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วเตรียมตัวไปอเมริกา"คำประกาศิตของท่านเจ้าสัวไชยาไม่มีใครกล้าขัดสิ่งที่ทำได้คือต้องปฏิบัติตามเท่านั้น
ไอรดาทรุดตัวลงที่พื้นพรมอีกครั้งอย่างน่าสงสารน้ำตามากมายไหลอาบแก้มอย่างเจ็บปวด มือเล็กยกกุมหน้าอกด้านซ้ายเหมือนคนกำลังจะขาดใจตาย
สร้างเธอขึ้นมาเพื่อเป็นสมบัติชิ้นนึงเท่านั้นเองหรอ
"คุณหนูของนม"นมอิ่มกับธีรีบเดินเข้ามาหลังจากที่คุณท่านทั้งสองเดินขึ้นไปด้านบนโดยไม่สนใจว่าไอรดาจะรู้สึกยังไงกับการกระทำที่เผด็จการของตัวเองในครั้งนี้
"ฮึก นมอิ่มขาพี่ธีขาช่วยหนูด้าที หนูด้าไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก หนูด้าอยากแต่งงานกับพี่ราม หนูด้าไม่อยากบอกเลิกพี่ราม ถ้าไม่ทำตามที่คุณพ่อบอกพี่รามต้องตายแน่ๆ"ทุกคนในบ้านรู้ดีว่าท่านเจ้าสัวไชยาน่ากลัวแค่ไหน เรื่องฆ่าคนท่านทำมันอย่างไม่สะทกสะท้าน ยิ่งถ้าเรื่องผลประโยชน์ที่มันทำให้ท่านสูญเสียเม็ดเงินมหาศาล มันผู้นั้นเตรียมตัวเฝ้ายมบาลทันที ถึงไม่ตายวันนี้วันต่อๆไปก็ไม่รอดแน่ๆ
"โธ่คุณหนูของนม"ใบหน้าสวยที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาซบเข้าที่อกอุ่นอย่างแสนเศร้า เธอไม่มีทางเลือกเลยนอกจากทำตามเท่านั้น ที่สำคัญเธอห่วงพระราม ถึงเธอบอกเลิกพระรามเธอจะไม่มีวันยอมแต่งงานกับผู้ชายที่ชื่ออันเตรียเด็ดขาด ถ้าถึงขั้นที่ทำอะไรไม่ได้เธอยอมตายยังจะดีกว่า
ไอรดาเดินขึ้นไปบนห้องอย่างเหนื่อยล้าที่ทุกอย่างรอบตัวในเวลานี้มันดูอึดอัดไม่มีทางออกให้เธอได้เลือกเลย ยิ่งคิดเธอยิ่งเสียใจน้ำตามากมายไหลอย่างกลั้นไม่ไหว ดวงตาที่เคยหวานซึ้งกลับบวมจนหนังตาแทบปิด จมูกโด่งรั้นแดงขึ้นอย่างน่าสงสาร
ครืด~ครืด~ครืด
เสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ข้างๆทำให้ไอรดาเห็นชัดเจนว่าใครคือคนที่โทรมา หน้าจอโชว์หราคำว่า *ที่รัก*ที่เธอเมมเอาไว้
"ค่ะพี่ราม"น้ำเสียงที่พยายามกลั้นให้ปกติแต่ยังไงมันก็สั่นอยู่ดี
("ทำไมเสียงเป็นแบบนี้ครับร้องไห้ทำไมหรือว่าไม่สบาย")พระรามถึงกับคิ้วขมวดเมื่อได้ยินเสียงของน้อง เค้ารู้ดีว่าเสียงนี้ไม่ใช่เสียงปกติของไอรดาที่เคยพูดคุยกับเค้าทุกวัน
"หนูด้าไม่เป็นไรค่ะพี่รามแค่ปวดหัวนิดหน่อย"พระรามรีบเปลี่ยนจากคุยธรรมดาสลับโหมดเป็นการคุยแบบคอลเห็นหน้าทันที และสิ่งที่ทำให้เค้าได้เห็นในตอนนี้คือใบหน้าสวยๆที่เค้าทะนุถนอมเคยจูบเคยหอมมีแต่คราบน้ำตา แถมเปลือกตายังบวมช้ำเหมือนคนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วงจนใจพระรามอยู่ไม่เป็นสุข
"ทำไมเป็นแบบนี้ครับใครทำอะไร"เสียงหนาถามด้วยความห่วงใยแต่ภายในใจกลับลุกเป็นไฟอย่างเกรี้ยวกราด
"พี่รามเดี๋ยวหนูด้าออกไปหาเจอกันที่คอนโดพี่รามนะคะ หนูด้ามีเรื่องสำคัญจะบอก"ไอรดารีบกดวางสายแล้วให้พี่ธีพาไปยังจุดหมายที่นัดกับพี่รามไว้อย่างไม่ให้เสียเวลา
เธอห่วงพระรามยิ่งกว่าห่วงตัวเอง เธอจะไม่มีวันยอมให้คนที่ตัวเองรักเป็นอะไรไป ถึงจะไม่ได้อยู่เคียงข้างแต่จะขออยู่ดูเค้าห่างๆแค่นั้นก็พอ