โดนเล่นงาน

1441 คำ
รุ่งเช้า สิรินทร์ยังคงนอนนิ่งใต้ผ้าห่ม ส่วนภากรณ์เขาลุกออกไปจากห้องเธอตั้งแต่เช้ามืด อย่างว่าวันนี้ชายหนุ่มมีนัดสำคัญ แต่ก่อนที่เขาจะออกจากบ้าน เขาสั่งลูกน้องไว้หมดแล้ว “ห้ามนายหญิงออกจากบ้าน ใครฝ่าฝืนกูจะลงโทษ” คำสั่งที่ทรงอิทธิพลไม่น้อย ทุกคนน้อมทำตามไม่ต่างจากกุมารทองทั้งสองที่ต้องจับตาดูแม่ของเขาไว้ สิรินทร์ตื่นขึ้นมาในช่วงสาย เพราะร่างกายอ่อนเพลียเอามากๆ เนื้อตัวของเธอเต็มไปด้วยรอยขบกัด รอยดูดของชายหนุ่มที่ประทับไว้ยังร่าง เธอค่อยๆยันตัวเองขึ้นนั่งแล้วมองผ่านหน้าต่างห้องนอน เห็นว่าตอนนี้แสงแดดสาดแสงมากพอ คงไม่ใช่ช่วงเช้าเป็นแน่ สิรินทร์กัดริมฝีปากล่างเมื่อเหยียดเท้าแตะลงไปที่พื้น ส่วนกึ่งกลางตัวมันปวดหนึบจากการร่วมรัก เธอรู้ดีว่ามันคงบวมไม่น้อย ยิ่งลุกเดินก็เหมือนบริเวณเชิงกลางระหว่างท้องน้อยของเธอมันจะเจ็บปนจุกอยู่บ้าง “ไอ้หมอผีหื่นกาม” รักยมทั้งสองยืนมองอาการของแม่ แล้วหันมามองกันพร้อมประโยคคำพูด รัก :แกว่าพ่อเรารุนแรงไปไหม ยม :ขนาดนี้ไม่ต้องเรียกว่ารุนแรง ต้องบอกว่าหนักหน่วง พ่อนะพ่อ สองกุมารส่ายหัวทันที ส่วนสิรินทร์เธอก็เดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนนี้สายมากแล้วมันก็ย่อมรู้สึกหิวขึ้นบ้าง เธอพยายามพยุงร่างเพื่อที่จะออกไปหาอะไรทานข้างนอก แต่เมื่อจะเปิดประตูเท่านั้น ประตูเหมือนจะล็อค สิรินทร์พยายามขยับลูกบิด รัก :แม่จ๋าแม่จะไปไหน แม่หิวเหรอ กุมารทองลืมคิดไปว่าเธอมองไม่เห็นแถมฟังไม่ได้ยิน จนกระทั่งนึกขึ้นได้เลยลงไปตามแม่บ้านให้ขึ้นมาที่ห้อง สักพักป้าแว่นก็มาเคาะประตูห้องของเธอ ก๊อก ก๊อก สิรินทร์รีบเปิดประตู ส่วนป้าแม่บ้านก็รีบถาม “นายหญิงหิวแล้วใช่ไหม อยากทานอะไรป้าจะเอาขึ้นมาให้” “ทำไมต้องเอาขึ้นมา หนูลงไปทานด้านล่างก็ได้” “ไม่ได้ค่ะ นายท่านสั่งไว้ห้ามคุณออกจากห้อง” สิรินทร์ยิ้มแห้งขึ้นมาทันที นี่มันกักขังหน่วงเหนี่ยวชัดๆ แค่จะลงไปทานข้าวเขายังไม่อนุญาต “แล้ว เขาไปไหนคะ” “นายท่านมีธุระข้างนอกค่ะ ป้ามีหน้าที่ดูแลนายหญิง” สิรินทร์ได้ยินแบบนั้นเธอก็เบาใจอย่างน้อยๆเขาก็ไม่ได้อยู่ที่บ้าน เธอเม้มปากพยักหน้ารับรู้ให้กับป้าแม่บ้านที่เป็นคนรายงาน หลังจากที่ป้าแม่บ้านลงไปแล้วเธอก็กลับไปนั่งที่เตียงนอนอย่างเดิม สักพัก ป้าแม่บ้านก็ยกอาหารมาเสิร์ฟให้ เธออยากจะบอกเต็มทนเรื่องผ้าปูที่มันเปื้อน แต่ก็รู้สึกอายไม่น้อย เธอมองดูป้าพร้อมมองไปที่เตียงนอนอยู่สักพัก จนกระทั่ง ป้าแว่นต้องเอ่ยปากพูด “เดี๋ยวกินเสร็จ ป้ามาปูผ้าผืนใหม่ให้นะคะ นายท่านสั่งไว้แล้ว” ถึงไม่ได้เป็นคนบอกแต่ก็รู้สึกว่าอายอยู่ดี เพราะภากรณ์แท้ๆที่ทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ เธอคิดในใจไว้ว่าหากวันใดหนีพ้นชายคาบ้านหลังนี้ไปได้เธอจะกรวดน้ำสาบส่งคนที่ชื่อภากรณ์ ฮัดฉิ้ว เสียงจามดังขึ้นขณะที่ภากรณ์นั่งอยู่ในรถตู้คันหรู เข้ม ลูกน้องคนสนิทที่นั่งด้านหน้าถึงกับหันมาถาม “นายไม่สบายหรือเปล่าครับ” “กูไม่เป็นไร แค่มีคนบ่นคิดถึงเท่านั้น” เขาเพียงหลับตาก็ล่วงรู้ได้ว่าสิรินทร์มีจิตที่กำลังไม่ประสงค์ดีกับเขาอยู่แต่อย่างนั้น เขากับยิ้มเมื่อคิดถึงหน้าของเด็กสาว ภากรณ์มาถึงที่นัดหมายตามเวลาที่กำหนด โรงแรมหรูระดับห้าดาวที่มีนายใหญ่นายโตรอเขาอยู่ด้านใน โสภณเป็นผู้มีอิทธิพลระดับหนึ่ง เรื่องการนัดหมายครั้งนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องดีนัก เพราะธุรกิจที่เขาทำร่วมกัน มันส่งผลให้กับเยาวชนมากพอควร “สวัสดีครับคุณภากรณ์” ผู้มีศรีท่านนั้นเอ่ยปากพร้อมยกมือไหว้ หากจะเทียบอายุแล้ว เขาแก่กว่าภากรณ์สองปี แต่ที่ต้องไหว้เพราะภากรณ์มีประโยชน์กับเขามากมายมหาศาล “ไม่ต้องมากพิธีหรอกครับ รีบคุยธุระของเราเลยดีกว่า” ทันที ที่เขานั่งลงโสภณที่ยืนต้อนรับก็นั่งตาม โสภณไม่รอช้ารีบเปิดประเด็นเรื่องที่จะให้ภากรณ์ช่วยทันที “ของล็อตใหม่ของผมกำลังจะมา แต่ด่าน หน้าจะเยอะเหมือนกัน ผมอยากให้คุณช่วยเปิดทางการค้าให้สะดวกมากขึ้น” พูดจบเขาก็เปิดกระเป๋าเงินออกมาโชว์ต่อหน้าชายหนุ่มนั้นหมายถึงรางวัล สินน้ำใจที่ภากรณ์จะได้รับ ส่วนภากรณ์เขาไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาทั้งนั้นปกติเขาก็เป็นคนหน้านิ่งอยู่แล้ว “ของมาวันไหน” เสียงทุ้มของเขาเอ่ยถามอีกครั้ง “อีกสองวัน ถ้าหากทุกอย่างราบรื่น เงินในกระเป๋านี้จะไปอยู่ในมือของคุณในวันรุ่งเช้าทันที” “ไม่มีปัญหา” เมื่อข้อตกลงเป็นเอกฉันท์ ทั้งสองลุกขึ้นสัมผัสมือกัน จากนั้นก็ได้เวลาแยกย้าย ส่วนภากรณ์วันนี้เขาไม่ได้มีนัดแค่โสภณเท่านั้น เขายังมีนัดกับลูกค้าคนอื่นอีก วงในเขารู้กันดีว่าเรื่องสิ่งที่มองไม่เห็นภากรณ์ถนัดแถมยังทำให้คนที่มียศมีศรีทำงานราบรื่นอีกต่างหาก แถมรายได้ที่เขาได้รับก็เป็นกอบเป็นกำ ดังนั้นพวกที่มาให้ช่วยจะเรียกว่าลูกศิษย์ก็ไม่เห็นแปลก หลังจากเสร็จภารกิจข้างนอก นับเวลาก็หลายชั่วโมงชายหนุ่มสั่งลูกน้องให้ขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางมานั้น เขาก็เอ่ยปากบอกลูกน้อง “จัดการโทรหายายระเมียด บอกแกไปว่าไม่ต้องให้ญาติมารับตัวสิรินทร์ ถ้าหากแกถามให้บอกว่าสิรินทร์ทำงานเป็นแม่บ้านที่นี่” “ครับนาย” เมื่อสั่งลูกน้องเสร็จตัวเขาก็นั่งเงียบ แต่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเบื้องหน้าทำเอาชายหนุ่มแทบตั้งรับไม่ทัน ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆก่อนหน้า ค่อยๆมืดลงราวกับว่ามีพายุใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ภากรณ์ที่นั่งหลับตาในรถเขารับรู้ได้ด้วยดวงจิตที่มี ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมา แล้วมองลอดกระจกไปเบื้องหน้า “นายครับรถบังคับไม่ได้” เสียงคนขับเหมือนจะตื่นตระหนกไม่น้อย ภากรณ์เห็นท่าว่าจะโดนเล่นงานเลยเอ่ยปากสั่งลูกน้องเสียงแข็ง “มึงตั้งสติจับพวงมาลัยแน่นๆ” ชายหนุ่มที่สวมชุดสูทสีดำทั้งตัวประนมมือขึ้นทั้งสองบริกรรมคาถาอยู่สักพัก นะโมพุทธายะ มะพะ ทะนะ ภะ กะ สะ จะสัพเพทวาปีสาเจวะ อาฬะวะกาทะโยปิยะขัคคัง ตาละปัตตัง ทิสวา สัพเพยักขาปะลายันติ สักกัสสะ วะชิราวุธังเวสสุวัณณัสสะ คะธาวุธังอะฬะวะกัสสะ ทุสาวุธังยะมะนัสสะ นะยะนาวุธังอิเมทิสวา สัพเพยักขา ปะลายันติ ทันที ที่ภากรณ์สวดจบเขาก็เป่ามนต์ไปเบื้องหน้าอยู่สามครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าท้องฟ้าที่มืดมัวจะกลับมาสว่างขึ้นอีกครั้ง ส่วนรถตู้คันหรูของเขาก็กลับมาเป็นปกติ “มึงจะเล่นกับกูไม่เลิกใช่ไหม ไอ้ทศ!!” ชื่อที่หลุดออกมาจากปากเขาทำเอาลูกน้องทั้งสองต้องมองหน้ากัน เพราะไม่เคยรับรู้กับชื่อปริศนานี้มาก่อน ไม่รู้ว่า ทศ เป็นใครกัน ภากรณ์เดินทางมาถึงที่บ้าน แต่แปลกเขาไม่ได้ถามหาสิรินทร์ กับหันไปสั่งลูกน้องเสียงเข้ม “ห้ามใครขึ้นไปกวนกูทั้งนั้น แล้วบอกป้าแว่น ทำกับข้าวให้แค่นายหญิงก็พอ” เมื่อสั่งแล้วก็เดินหน้านิ่งขึ้นห้องตัวเอง ส่วน เข้ม ลูกน้องคนสนิทพอรู้ได้ว่า นายของตนคงมีพิธีกรรมที่ต้องทำ สีหน้าของคนเป็นนายไม่สู้ดีนัก ทศที่พูดถึงคงไม่ธรรมดาเช่นกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม