ตอนที่14. เดี๋ยวก็เช้าแล้ว

1480 คำ
“หนาวหรือเปล่า” ไม่รอคำตอบจากปากได้รูปของเธอ  เขาล้อมวงแขนกระชับร่างบางไว้ในอกอุ่น   “ได้ยินว่าคุณไม่สบายมาก...ทานยาบ้างหรือเปล่า”   เธอถามทั้งๆ ที่แนบหน้าสูดดมกลิ่นอายของตัวเขา   “ก็...กินอยู่”    เขาพยายามปรับน้ำเสียงเป็นปรกติ แต่เธอเงยหน้าขึ้นมองอย่างรู้ทันคนโกหกไม่เก่ง     “จริง?”    “กินแล้ว”   เขายิ้มแต่หัวเราะร่วน  “เมื่อไหร่ เมื่อวานหรือเมื่อสองวันก่อน”   เธอยังจำมุกเด็กดื้อไม่ยอมทานยาของเขาได้ดี   “นานกว่านั้น”   เขาตอบก้มลงพรมจูบที่เรือนผมหอมกรุ่นของเธออย่างทะนุถนอมรู้สึกแปลกกับสร้อยทองคำขาวเส้นเล็กน่ารักที่เธอสวมคล้องอยู่    “’เขา’ให้มาหน่ะ...” เธอตอบก่อนเขาตั้งคำถามและให้ดูจี้รูปหัวใจที่ห้อยอยู่มันสลักชื่อของเธอกับชายคนหนึ่งที่ของเธอกำลังจะแต่งงานซึ่ง...ไม่ใช่เขา    “ของขวัญก่อนหมั้นจริง”     หญิงสบตากับเขาอยากเห็นแววตาอาวรณ์ปรารถนาจะเห็นเขาฉุดรั้ง    หวังใจให้เขามาลักพาตัวเจ้าสาวหนีในวันวิวาห์   แต่สิ่งที่เธอเห็นคือความว่างเปล่า    เช่นเดียวกับเมื่อเกือบ 5 ปีก่อน ที่เธอเดินทางมาเขาอย่างยากลำบากแต่เขากลับมีให้เพียงความเย็นชา  และมันกรีดลึกที่ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กันจนเป็นริ้วรอยแผลเป็น  เธอรักเขามาก...รักมากกว่าใครๆ ที่เคยมีมา        แต่เธอไปจากเขาเพราะรักเหลือเกิน    เธอไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง  ความคิดของเขาดูกว้างกว่าฝืนฟ้า-มหาสมุทร, ความรักของเขาช่างยิ่งใหญ่หรือเปล่าว่าง     เขาเหมือนมีความลับบางอย่างซุกซ่อนเธอและความลับนั้นเองที่ผลักไสให้เธอต้องออกจากชีวิตเขาไป             มันคงเวลาที่ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่    แต่เธอก็อยากเคลียร์บางสิ่งที่ค้างคาใจออกให้หมดเพื่ออย่างน้อย...เธอจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่    และเหมือนเขาจะรับรู้สิ่งที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเธอ   เขาส่งการ์ดวันเกิดให้เธอพร้อมที่อยู่ของเขา       นั้นมันจะมีความหมายอื่นใดนอกจากเขายินดีให้เธอก้าวเข้าในอพาท์เม้นท์เก่าๆ ห้องนี้      แม้ร่างกายเขาจะดูไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมแต่เขาก็เหมือนคนป่วย     เขาอาจจะป่วยหนักและไม่ต้องการให้เธอรับรู้จึงออกจากชีวิตเธอไปเงียบๆ    ‘ปล่อยให้เธอคิดอย่างนั้นแหละดีแล้ว’   ฌานพึมพำในใจไม่อยากกะพริบตาเลยสักครั้ง   อยากจะเก็บภาพหญิงสาวที่เขารักไว้ให้นานที่สุด ชีวิตอมตะที่ได้มาพร้อมอำนาจที่ล่วงรู้จิตใจของอีกฝ่ายมันเป็นทั้งข้อดีและข้อร้าย  เขารู้ว่าเธอปวดใจทั้งแต่เขาจากไปแต่การจากไปของเขาก็เพราะต้องการให้เธอได้ใช้ชีวิตปกติ     ทำไมหัวใจเขาไม่เย็นชาเหมือนเลือดที่ไหลเวียนในกายบ้างนะ      เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขารักเธอมากเพียงใด      รักมากจนไม่อาจทำให้เธอกลายเป็นแวมไพร์เหมือนเขา    แค่การที่เขาปล่อยใจให้อ่อนไหวเปิดรับความรักจากเธอก็ผิดมากมายแล้ว  “คุณจะไม่พูดอะไรกับฉันใช่ไหม” น้ำเสียงสั่นเครือจนคนฟังปวดร้าว    “มีประโยคเดียวที่ผมอยากพูดกับคุณ”     เขาดึงมือเธอมาแนบกับริมฝีปาก “เชื่อเถอะว่าผมปรารถนาจะเห็นคุณมีความสุข...”     “...นับจากนี้ฉันจะมีความสุข...”     เธอเอ่ยพยายามไม่ให้น้ำใสๆ ไหลออกมา   “ขอบคุณที่ทำให้ผมมีความสุข”     เขาจุมพิตฝ่ามือของเธอและที่นิ้วนางข้างซ้าย “จากนี้ไปคุณจะมีความสุข”   เธอยกฝ่ามือของเขามาแนบแก้มปล่อยให้น้ำใสๆ ไหลออกมาอย่างช้าๆ เหมือนฝนที่โปรยปรายนอกหน้าต่าง        เขารั้งเธอมากอดจรดปลายจมูกที่เรือนผมนุ่มสลวย       นี่คือสิ่งที่เธอต้องการก่อนจะเปิดประตูสู่รุ่งอรุณใหม่      เขาเองก็เช่นกันเพราะหลังจากนี้เขาจะเริ่มเข้าทดสอบการใช้ ‘ยา’ บางชนิดที่จะทำให้เขาสัมผัสแสงอาทิตย์ได้     และหากันไม่สำเร็จเขาก็ยินดีที่จะตายไปกับมัน   หรือไม่เขาก็กลายเป็นยิ่งกว่าปีศาจร้าย            “ไม่ง่วงเหรอ อีกนานกว่าจะเข้า”   ฌานเอ่ยขึ้นทำลายความคิดของเธอ       หญิงสาวสะดุ้งเมื่อเขาผลักให้เธอลงนอนบนเตียงให้หนุนนอนที่ท่อนแขนฟังเสียงหัวใจที่เต้นแผ่ว       หรือนี่เป็นวิธีอาลัยของเขา       ชายหนุ่มกระชับอ้อมกอดแนบเท่าที่หัวใจคิดถึง  เขารู้ว่ามันไม่ดีแต่ก็อดภาวนาในใจไม่ได้อยากให้พายุกระหน่ำอย่างนี้ไปจนรุ่งเช้าหรือติดต่อไปอีกสักคืน...สองคืน...สามคืน     เขายอมให้น้ำท่วมซะตรงนี้ถ้ามันจะขังเธอไว้ได้นากว่าอ้อมแขนของเขา     แต่มันจะมีประโยชน์อะไรแต่ด้วยสภาพร่างกายของครึ่งคนครึ่งศพอย่างเขามันไร้อนาคตเกินกว่าจะคาดหวังสิ่งใดได้อีก   แค่ความรักอย่างเดียว...ไม่พอหรอก “หนาวมั้ย”   เขาถามขึ้นอีกครั้ง เธอไม่ตอบแต่กอดเขาแน่นขึ้น     “เขาจะรู้มั้ย” “ใคร”    เธอกระซิบถามเหมือนคนใกล้จะหลับ “คนรัก-คู่หมั้นคู่หมาย” “ไม่มีอะไรที่เขาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับคนรักของเขาหรอก”    เธอหัวเราะเบาๆ นึกขำตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่  “มือนี่ซนจัง”   เธอแสร้งทำเสียงดุมือหยาบกระด้างที่ลูบไล้แผ่นหลังของเธอ   แม้จะฝืนหัวเราะน้ำตากลับไหลรินจนชื้นอกของเขา    “กาแฟล่ะ”   เขาถามอย่างเพิ่งจะนึกได้     “ช่างเถอะ...อยากหลับ เดี๋ยวก็เช้าแล้ว”   เธอพริ้มตาตอบ เสียงฝนบางเบาลงจนรู้สึกใจหาย    ฌานรู้...เหมือนกับที่หญิงสาวก็รู้ ‘ความรักอย่างเดียวไม่พอ’  มันเป็นเหตุผลที่เขาให้เธอและเธอต้องใช้เวลากว่า 5 ปีที่จะยอมรับมัน      แต่สิ่งที่เขาทำให้เธอได้คงมีแค่ภาพของเธอที่ติดแน่ที่กลางใจเขา         เขารู้ว่าเธอก็คงเป็นเช่นเดียวกับเขา             “เดี๋ยวก็เช้าแล้ว….”             กริ๊งงงงงงงงงงง   ชายหนุ่มสะดุ้งลืมตาตื่นจากความฝันที่ยังมีกลิ่นหวานเศร้าลอยอยู่ในอากาศ     เขาขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็เอื้อมถึงโทรศัพท์สีดำที่ตั้งอยู่มุมโต๊ะทำงาน  “แย่แล้วฌาน!! รีบมาเร็ว”             ราวกับเสียงแหลมเล็กนั้นทะลุทะลวงโสตประสาทอย่างรวดเร็ว    ความตื่นเต้นและความกังวลทำให้ชีพจรของอีกฝ่ายเต้นแรงจนชายหนุ่มรู้สึกได้    เขาไม่ถามรายละเอียดใดๆ อีกวางโทรศัพท์แล้วพุ่งตัวออกจากห้องทำงานแบบไม่เกรงใจฟ้าฝนที่พร่างพรมลงมา    ชายหนุ่มใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึงเรือนไม้หลังใหญ่เจ้าของ ‘ไร่ชงคา’ อยู่ในสภาพเนื้อตัวเปียกปอนมอมแมมแต่ก็ยังพยายามจะพาร่างของตนเองไปที่รถยนต์โดยมีลูกน้องหลายคนฉุดทั้งแขนและเกาะทั้งขาเอาไว้         “เกิดอะไรขึ้น” เขาหลิวตามองขมวดคิ้วอย่างงุนงง “ก็ลุงบูลย์นะซิ    เมื่อกี้หกล้มขาแพลงแล้วยังจะขับรถออกไปข้างนอกอีก”       “หกล้ม? เมื่อไหร่กัน”   เขาถามแล้วเดินเข้ามามองใบหน้าแสนดื้อรั้นของหนุ่มใหญ่วัยเฉียดห้าสิบ “เมื่อกี้คะคุณฌาน ไม่รู้ไปเดินอีกท่าไหนหกล้มจนข้อเท้าแพลงได้”  ฝ้าย-หญิงสาววัยยี่สิบห้าเป็นญาติห่างๆ กับภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วของคุณไพบูลย์      เธอรายงานทันทีและเธอก็เป็นคนโทรศัพท์หาฌานเอง          “เข้าไปพักด้านในก่อนเถอะครับ”   เขาล็อกแขนเหมือนบังคับทำให้ ไพบูลย์หรือที่เรียกกันว่า ‘ลุงบูลย์’ ไม่สามารถต้านทานแรงของฌานได้  “เดี๋ยวค่อยพักก็ได้ลุงต้องไปรับหลานก่อน   เขานั่งเครื่องมาคงจะมาถึงแล้วละ” “หลาน?” ฌานเลิกคิ้ว   “ผมอยู่กับลุงมาหลายปีไม่ยักรู้ว่ามีหลาน” “มีซิ ฉันมีหลานสวยด้วยนะจะบอกให้”      พูดด้วยความภูมิใจทั้งที่ไม่เจอกันมาเป็นสิบปีแต่เขาก็เชื่อว่าความน่ารักของเด็กสิบขวบที่เห็นตอนนั้นจะทำให้หลานเติบโตเป็นสาวสวยในวันนี้แน่ๆ “ให้ใครไปรับก็ได้”   เขาบ่นอาจเพราะความที่อยู่ด้วยกันมานจนสนิทสนมราวกับเพื่อนจึงพูดได้ไม่เกรงใจ “ไม่ได้ๆ หลานฉันทั้งคน” “ก็ได้ๆ ผมไปรับเอง ชื่ออะไรละครับ”        “ยิหวา...หลานสาวฉันชื่อยิหวา....” ชื่อของหญิงสาวที่หลุดออกมาจากคุณไพบูลย์ทำให้เขาตะลึงงุนงงไปชั่วครู่     มันอาจเป็นเพียงความบังเอิญที่ชื่อคนซ้ำกันก็ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม