ตอนที่13. ภาพร่างของความรู้สึก

1489 คำ
กังยูเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ เพิ่งยกน้ำดื่มได้ครึ่งแก้วยิหวาก็เดินลงบันไดมาพอดี      ใบหน้าที่เคยอมทุกข์เมื่อสองวันก่อนเปลี่ยนเป็นสดใสอย่างไม่น่าเชื่อ     หรืออาจเป็นลักษณะเด่นเฉพาะตัวของยิหวาก็ได้และมันช่างแสนจะดึงดูดสายตาของเขาจนไม่อาจมองใครได้อีก             “ขอบใจที่มารับนะกังยู”    ยิหวาลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลงมา   กังยูรีบเข้าไปช่วยทันทีแต่ยิหวาโบกมือไล่ก่อน                        “แน่ใจแล้วเหรอหวา”       คุณช่อแก้วมองกระเป๋าเดินทางของลูกสาวก็ทำได้แค่ถอนหายใจหนักๆ ‘จัดกระเป๋าเหมือนจะไปอยู่เป็นปีแต่จะอยู่ได้สักกี่วันเชียวหนอ ยิหวายิ่งมีนิสัยขี้เบื่อด้วยซิ’     “อ้าว...ก็แม่คุยกับลุงไพบูลย์แล้วไม่ใช่เหรอคะ”        ยิหวาลากกระเป๋าเดินทางไว้ใกล้ประตูทางเข้าออก    “เรื่องทางโน้นน่ะไม่มีปัญหาหรอก ลุงเขาดีใจจะตายที่หวาจะไปหา”  คุณช่อแก้วมองกระเป๋าเดินทางสลับไปมากับหน้าใสๆ ของลูกสาว “แต่แม่กลัวหวาทนอยู่แบบนั้นไม่ไหวนะซิ”   “แม่เห็นหวาเป็นคนแบบไหนเนี้ย”     ยิหวายกมือเท้าเอว “ก็หวาจะไปพักผ่อนชั้นเฟิร์สคราสราคาประหยัดไงคะ หรือแม่อยากให้หวาไปเที่ยวเมืองนอกหรือไปเข้าป่าเข้าดงไปเลย”    “เอาเถอะๆ แม่รู้แล้วว่าหวาโตแล้วตัดสินใจได้แล้ว”  คุณช่อแก้วหยิบถุงคุ้กกี้ส่งให้ยิหวา “ของฝากให้ลุงไพบูลย์จ๊ะ”    “แล้วหวาจะโทรมาบ่อยๆ นะคะ”  ยิหวายกมือไหว้ลามารดาแล้วหันไปพยักหน้ากับกังยูและปลายรุ้ง   ชายหนุ่มช่วยลากกระเป๋ามาใส่ท้ายรถแล้วเดินอ้อมมาหมายจะเปิดประตูรถให้ยิหวานั่งด้านหน้า     แต่ยิหวากลับดันหลังปลายรุ้งให้นั่งข้างหน้าแทนแล้วเธอก็เปิดประตูนั่งด้านหลัง     ปลายรุ้งยิ้มเขินๆ ให้กังยูนิดๆ ชายหนุ่มยิ้มตอบแล้วรีบทำหน้าที่เป็นพลขับพายิหวามาสนามบิน  ทั้งสามมาถึงก่อนเวลาเครื่องบินขึ้นเกือบชั่วโมงจึงนั่งเล่นในร้านกาแฟน่ารักๆ ร้านหนึ่ง “ขอบใจกังยูกับปลายมากๆ ที่มาส่งหวานะ”    ยิหวาเอ่ยออกมาแล้วเช็คตรวจเครื่องบินอีกครั้ง    เธอเป็นคนที่ตัดสินใจอะไรแล้วต้องลงมือทำเลย        นี่ถ้าไม่ถูกมารดาเบรกไว้ก่อนเธอคงมาตั้งแต่วินาทีที่คิดได้แล้วละ “ถ้าหวามีอะไรก็โทรมานะ ถ้าเหงาอยากให้ปลายไปอยู่เป็นเพื่อนก็ได้”  ปลายรุ้งเป็นห่วงเพื่อนมากจนกังยูยิ้มด้วยความประทับใจ          “ขอโทษทีนะกังยู นานๆ กังยูจะได้มาเมืองไทยทีแต่พวกเราไม่อยู่ร่วมแก็งค์กันครบทีม”    ยิหวาหันไปคุยกับชายหนุ่มคนเดียวในโต๊ะ “ไม่เป็นไรเอาความสบายใจของหวาเป็นหลักเถอะ”  เขาได้แต่เกาปลายจมูกตัวเองเล่น “ขอบใจที่เข้าใจหวานะ หวานี่โชคดีจังที่มีเพื่อนดีๆ อยู่ใกล้ๆ ตั้งสองคนแหนะ”    ยิหวาจับมือกังยูและปลายรุ้งข้างละมือ    เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องทำให้ยิหวาพอดี    ปลายรุ้งเรียกพนักงานเก็บเงินค่าเครื่องดื่ม   กังยูช่วยลากกระเป๋าเดินทางของยิหวาไปส่งตรงทางเข้า “พักผ่อนให้สนุกนะ”  ปลายรุ้งกับกังยูเอ่ยออกมาพร้อมกัน   ยิหวามองใบหน้าสองคนสลับไปมาแล้วหัวเราะร่า “จ้า! ทั้งสองก็เหมือนกันแหละ หวาไม่อยู่ก็เป็นกางขวางคอแล้วไปหละ”    เธอโบกมือลาเพื่อนทั้งสองแต่จังหวะที่หมุนตัวออกมาเกือบปะทะเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหุ่นนายแบบ     “ขอโทษค่ะ อุ๊ย! Sorry !” ชายหนุ่มร่างสูงผมรองทรงสีทองเป็นประกายสวมชุดสูทสีเข้มมาดเท่ห์ราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารแฟชั่นระดับโลก      ร่างกายที่สูงใหญ่ทำให้ยิหวาต้องแหงนหน้ามอง   ชายหนุ่มสวมแว่นกันแดดสีดำสนิทเอียงคอมองหญิงสาวชาวไทยเล็กน้อย ปลายจมูกขยับนิดๆ เหมือนได้กลิ่นคุ้นเคยแต่เบี่ยงตัวหลีกทางให้หญิงสาวเดินผ่าน       “หล่อมากๆ เลยยัยปลาย!!”     ยิหวาเอ่ยปากชมอย่างไม่เกรงใจหนุ่มกังยูเลยสักนิด “หวาชอบผู้ชายสไตล์นั้นเหรอครับ” “เปล่าแค่บอกว่าเขาหล่อมาก” ยิหวาส่ายหน้า “เอาล่ะ ไม่ต้องส่งแล้วกังยูดูแลปลายด้วยนะหวาไปล่ะแล้วจะโทรมาบ่อยๆ” ยิหวาลาเพื่อนอีกครั้งแต่เมื่อเห็นชายหนุ่มคนเดิมยืนมองเธออยู่    หญิงสาวก็ก้มศีรษะให้เล็กน้อยก่อนจะเดินไปทางขึ้นเครื่องบิน      โดยที่ไม่มีโอกาสได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นเผลอหลุดปากออกมาเลยสักนิด “ฌาน...แบบนี้มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ...แกชอบทิ้งกลิ่นให้ฉันตามหาจริงๆ” เพลง Because of you โดยเสียงร้องของ Kelly Clarkson เล่นซ้ำหลายครั้งในขณะที่คนฟังกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้ยาวในห้องทำงาน   สายฝนที่โปรยปรายด้านนอกทำให้เขาทำตัวเหมือนแมวเกียจคร้านกาแฟที่เคยส่งกลิ่นหอมตอนนี้เย็นชืดหมดแล้ว      ชายหนุ่มหายใจเบาๆ ปล่อยใจล่องลอยไปกับห้วงความคำนึงในความทรงจำ    มันผ่านมานานหลายปีจนเขาไม่จำไม่ได้แล้วนานเท่าไหร่ ทว่าทุกภาพในความความรู้สึกยังชัดเจนในใจเสมอ มันเป็น ‘ภาพร่างของความรู้สึก’ ที่เด่นชัดไม่เจือจางในกาลเวลา หญิงสาวนั่งหวีผมยาวสลวยอยู่ตรงนั้นที่หน้าโต๊ะกระจกในห้องนอนของชายหนุ่ม       เสียงพายุฝนที่เทกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตาทำให้หัวใจของหญิงสาวนั้นสับสนว้าวุ่นอยู่ภายในใบหน้าที่เรียบ     ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้อยู่กับหญิงสาวดวงตาโศกคนนี้  แต่ความรู้สึกแปลกและแตกต่างเช่นนี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นกับเธอและเขา     เธอไม่เคยขาดความมั่นใจอย่างนี้สักครั้งตั้งแต่รู้จักกับเขามาก็ร่วม 5 ปี  แต่มันเป็น 5 ปีที่แสนประหลาด     ในขณะที่เธอเปลี่ยนแปลงไปตามวัยแต่เขายังคงเดิมเหมือนที่เคยเป็น   หญิงสาวลอบถอนหายใจเบาๆ กลัวว่าเขาจะเห็นความสับสนในดวงตาของเธอ      ไม่กล้ามองแม้ในเงากระจกที่อยู่ตรงหน้าเธอ            แต่เธอเห็นเขานั่งมองเธออย่างสงบในบานกระจกนั้น...   “กาแฟมั้ย” ฌานถามแล้วลุกขึ้นยืน ไม่รอคำตอบแต่เดินตรงไปที่กระติกน้ำร้อนและเสียบปลั๊กไฟกลับมานั่งที่เดิมพร้อมฮาโมนิก้าสีเงินวาววับในมือ   เสียงเพลงหวานเศร้าบรรเลงขึ้นทันทีที่คนหนุ่มจรดริมฝีปากกับหีบเพลงสีเงิน  ชายหนุ่มปิดเปลือกตาพริ้มฝัน  ขณะที่เพลงแผ่วหวานนั่นบรรเลงคล้ายปลอบหัวใจคนเหงาเสียงฝนกระหน่ำฟังคล้ายเสียงเร้าย้ำความเป็นจริงของกาลเวลา         เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวเล็กหน้าโต๊ะกระจกมานั่งใกล้ๆ เขาบนเตียงตัวเก่าที่คุ้นเคยมาแสนนาน   หากแต่ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาในขณะนี้มันแตกต่างจากเมื่อก่อนมากนัก        เขาลืมตาขึ้นมองเธอแววตาอาลัยฉายเด่นเต็มดวงตาของเขาจนเธอต้องหลบวูบ ไม่ได้นะ!!! จะใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด!!! หญิงสาวพยายามเตือนสติตัวเอง    แต่เขากลับหยุดบรรเลงแล้วลูบไล้เรือนผมของเธอเบาๆ    “ผมยาวขึ้นนะ” เขาเอ่ยเหมือนชวนคุย     มือไล้ที่ต้นคอเปลือยเปล่าของเธออย่างระมัดระวัง    กลัวผิวขาวบอกบางนั้นจะช้ำเพราะมือหยาบกร้านของเขา    “ก็ไม่ได้ตัดตั้งแต่ไปจากกัน” เธอเน้นคำชัดเจน ย้ำสถานะภาพปัจจุบันของตัวเองและตัวเขาด้วย    “อยู่กับเขา...คงสบายดี”   เขาเอ่ยเบาๆ ย้ำกับตัวเองมากกว่าที่จะถามหาคำตอบ      “ก็เป็นอย่างที่เห็น”   เธอฝืนยิ้มกับคนรักใหม่ของเธอเข้ากันได้ดี แต่เธอก็ไม่ลืมคนรักแรกในหัวใจ “ดีแล้ว”   เขาสอดมือไปใต้ผมยาวเนียนนุ่มของเธอ ความรู้สึกเก่าๆ กลับมาทวงถามทั้งโหยหาและสุดแสนทรมาน     “ผอมลงไปมาก”   เธอตบท้องเขาเบาๆ แต่เสื้อกล้ามสีหม่นที่เขาใส่มันยิ่งเน้นชัดถึงร่างกายที่ผ่ายผอมลงไป  “พักผ่อนบ้างอย่าทานเหล้ากับบุหรี่ให้มากนัก วันๆ คงทำแต่งาน….”   เธอเสมองดูรอบๆ ห้องรกๆ เต็มไปด้วยภาพเขียนสีน้ำมัน ภาพร่างแรเงา ทั้งภูเขา ทะเลหมอก รุ้งพรายที่ปลายฟ้า แต่ส่วนมากเป็นรูปหญิงสาวผมยาวสยาย ร่างเปลือยเปล่าอยู่ในอิริยาบถที่ต่างๆ กันไป    “ฝนตกหนักมาก....คืนนี้”   ฌานมองตามสายตาเธอแต่คาดเดาความหมาย      เธอสะดุ้งและเพ่งมองภาพพายุที่พัดยอดสนไหวเอนราวกับจะล้มลง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม