ตอนที่ 1

1031 คำ
กุ้ยเหลียน สะใภ้หัวใจเพชร นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น ผู้​เขียน เฉ่าฟ่าน ไม่​อนุญาต​ให้​สแกน​หนังสือ​ หรือ​คัด​ลอก​เนื้อหา​ส่วน​ใด​ส่วน​หนึ่ง​ของ​หนังสือ เว้น​แต่​ได้​รับ​อนุญาต​จาก​เจ้าของ​หนังสือ​เท่านั้น นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว กุ้ยเหลียน สะใภ้หัวใจเพชร ตอนเช้ามืด หมู่บ้านเจ้อจิ๋ง เมืองหางโจ่ว ขณะดวงตะวันสีแดงฉานเพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้า ‘กุ้ยเหลียน’ หญิงสาววัยยี่สิบปีผู้มีใบหน้าสวยหวาน ดวงตาคม ผิวพรรณเนียนขาวราวกับหยวกกล้วย ทรวดทรงองค์เอวของนางดูเย้ายวนตา ทรวงอกอวบใหญ่อะร้าอร่าม สะดุดตาชายทุกคนที่ได้พบเห็น กำลังสะพายกระบุงเก็บใบชา เดินกลับมาตามทางเดินเล็กๆ ทอดผ่านไร่ใบชาเขียวขจี โอบล้อมไว้ด้วยขุนเขาสลับสล้างเป็นฉากหลัง กุ้ยเหลียนเป็นสะใภ้ตระกูลจาง ด้วยความที่นางเป็นคนขยันขันแข็ง จึงมักจะออกไปรับจ้างเก็บใบชาตั้งแต่เช้ามืด เช่นเดียวกับทุกวันที่ผ่านมา กระทั่งแสงทองของดวงอาทิตย์สาดประกายจับขอบฟ้าเบื้องทิศตะวันออก นางจะรีบกลับมาบ้าน เพื่อหุงหาข้าวปลาอาหารไว้รอท่าสามีและพ่อสามีของนางที่กลับจากล่าสัตว์ เข้ามาถึงหมู่บ้านในตอนสาย และในขณะที่กุ้ยเหลียนกำลังเดินทอดอารมณ์อย่างสำราญอุรา จู่ๆ ในหูพลันได้ยินเสียงฝีเท้าม้า ควบเข้ามาใกล้ด้วยความเร็ว พร้อมกับบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำผู้นั่งอยู่บนหลังม้า นางจดจำใบหน้าเขาได้ดี ว่าชายผู้นี้คือสหายของสามีที่มักจะออกไปล่าสัตว์ด้วยกันเป็นประจำ “กุ้ยเหลียน… ตอนนี้จางหมิงสามีของเจ้าแย่แล้ว… ” ‘ต้าเหว่ย’ พรานหนุ่มผู้เป็นเพื่อนกับ ‘จางหมิง’ ร้องบอกหญิงสาวด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เมื่อม้าตัวใหญ่วิ่งเข้ามาเกือบถึงตัวนาง “อะไรนะต้าเหว่ย… สามีข้าเป็นอะไร… ” กุ้ยเหลียนยกมือขึ้นทาบอก… นางตกใจแทบช็อก ละล่ำละลักถามพรานหนุ่มผู้มาส่งข่าวร้าย ทำเอาใบหน้าของนางซีดเผือดราวกับกระดาษที่ปราศจากตัวอักษร “จางหมิงสามีของเจ้าพลัดตกหน้าผาขณะล่าสัตว์… ” ต้าเหว่ยรีบบอก “อะไรนะ… ขะ.. เขาเป็นยังไงบ้าง… ” กุ้ยเหลียนละล่ำละลักถามเป็นห่วงสามี ความกังวลปรากฏชัดบนใบหน้าของนาง “ตอนนี้เป็นตายเท่ากัน… หน้าผาลึกมาก ไม่มีใครกล้าลงไป… ข้ากำลังจะตามคนไปช่วย” ต้าเหว่ยบอกถึงสาเหตุที่เขาต้องควบม้ากลับเข้ามาในหมู่บ้าน “ตายจริง… แล้วพ่อสามีข้าล่ะ… ” กุ้ยเหลียนถามถึง ‘จางหยวน’ ซึ่งเป็นบิดาของจางหมิง ทุกๆ วันสองพ่อลูกคู่นี้จะออกไปล่าสัตว์ด้วยกัน “จางหยวนพยายามลงไปช่วยดึงมือลูกชาย… สุดท้ายพลัดตกไปด้วยกัน… ” ต้าเหว่ยกล่าวเสียงเครียด… “ขะ… ข้าขอตามไปด้วยได้ไหม ข้าเป็นห่วงพวกเขาเหลือเกิน… ” กุ้ยเหลียนกะโกนตามหลังม้าที่กำลังจะควบออกไป “เจ้าไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ข้าว่าเจ้ารีบกลับบ้านไปดูแลลูกของเจ้าเถอะ เดี๋ยวข้าจะพาคนไปช่วยเอง” ต้าเหว่ยเหลียวหลังกลับมาตะโกนบอก… ก่อนจะควบม้าวิ่งตรงเข้าไปยังหมู่บ้านเล็กๆ จุดหมายคือบ้านของ ‘เถิงชิว’ ชายผู้นี้เป็นทั้งพรานเฒ่าผู้ชำนาญการไต่ปีนหน้าผาและหมอยา เพื่อลงไปค้นหาร่างของสองพ่อลูกที่ตอนนี้เป็นหรือตายเท่ากัน กุ้ยเหลียนยืนมองผ่านม่านน้ำตา จนต้าเหว่ยกับม้าตัวใหญ่วิ่งลับไปจากสายตา เหลือแต่ฝุ่นสีแดงตลบอบอวลทิ้งไว้ข้างหลัง “ขอให้สามีข้าปลอดภัยด้วยเถอะ… ” กุ้ยเหลียนหลับตาลงช้าๆ… มือสองข้างยกขึ้นกุมแนบอก อธิษฐานในใจขอให้สองพ่อลูกปลอดภัยแล้วรีบเดินกลับบ้านเพื่อไปดูลูกชายวัยสามเดือนที่ยังนอนอยู่ในเปล ทุกครั้งที่นางต้องออกมารับจ้างเก็บใบชา กุ้ยเหลียนมักจะฝากลูกชายไว้กับ ‘เสียวจื่อ’ แม่ม่ายวัยสี่สิบปีที่กุ้ยเหลียนรู้จักดี กุ้ยเหลียนเรียกนางว่าท่านป้า หรือ ‘ป้าจื่อ’ จนติดปาก เสียวจื่อเป็นแม่ม่ายสามีตาย นางอาศัยอยู่เพียงลำพังในบ้านหลังเล็ก ปลูกผักขายเลี้ยงชีพ บ้านของนางอยู่ติดกับบ้านของกุ้ยเหลียน จึงไม่แปลกที่ทั้งสองรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี ในเวลาต่อมา ใช้เวลาชั่วโมงกว่า ต้าเหว่ยและเถิงชิวพรานชราผู้ชำนาญการปีนป่ายหน้าจึงค้นเจอร่างของสองพ่อลูกและหาหนทางพากลับขึ้นมาได้อย่างทุลักทะเล “ท่านพี่… ฮือออ… ท่านพ่อ… ” เมื่อเห็นภาพของคนเจ็บ กุ้ยเหลียนถึงกับร้องไห้โฮ ใบหน้าสวยชุ่มไปด้วยน้ำตา นางก้มลงมองร่างไร้สติทั้งสามีและพ่อสามีที่เถิงชิวและต้าเหว่ยช่วยพากลับมาบ้าน   “นี่เขาจะฟื้นไหม… ” กุ้ยเหลียนห่วงชายทั้งสองที่ยังหมดสติ   “ข้าคิดว่าน่าจะแค่สลบ โชคยังดีที่พ่อสามีของเจ้าร่างค้างอยู่กับคบไม้ แต่สามีเจ้าโชคร้ายกว่า ตกลงมาหัวฟาดโคนไม้เป็นเหตุให้แขนและขาข้างหนึ่งก็หัก” เถิงชิวยังไม่ลืมภาพตอนที่ใช้เชือกโรยตัวลงไปตามหน้าผาเพื่อช่วยเหลือ เมื่อเข้าไปใกล้… จึงได้เห็นว่าจางหมิงหัวแตก โลหิตสีแดงฉานเปรอะเปื้อนไปกับโคนไม้ที่เกาะอยู่กับโขดหิน สภาพจึงน่าเป็นห่วงกว่าจางหยวนผู้เป็นพ่อที่ร่างค้างอยู่กับคบไม้ ไม่ตกลงมากระแทกพื้นเหมือนลูกชาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม