ตอนที่ 3 ตัดสินใจ
ต้นกล้ามายืนหลบมุมอยู่ในห้องเรียนหลังจากที่ชัยรัมภามาส่งและกลับไปแล้วเพราะมีงานที่ต้องไปทำต่อ เพื่อนในห้องพากันเล่นของเล่นใหม่ๆ ที่พกมาจากที่บ้าน ใส่เสื้อผ้าใหม่ๆ รวมถึงอุปกรณ์การเรียนน่ารักๆ ทุกสิ่งล้วนเป็นสิ่งที่เด็กชายไม่เคยมีทั้งสิ้น หากแต่เขาก็ไม่เคยร้องขอหรืองอแงอยากจะได้ แม้ว่าในใจลึกๆ ของเด็กวัยหกขวบนี้จะอยากได้เหมือนเพื่อนก็ตาม
“ต้นกล้า มาเล่นกับเพื่อนสิลูก มา” คุณครูประจำชั้นเรียก
“ไม่เป็นไรครับ ต้นกล้าไม่อยากเล่น” ต้นกล้าปฏิเสธ
เขาเคยเข้าไปขอเล่นด้วยแล้ว แต่ก็ถูกไล่กลับมาเพราะไม่มีของเล่นไปแลกกันเล่น ทำให้ต้นกล้าไม่กล้าเข้าไปขอเล่นด้วยอีก
ต้นกล้านั่งลง แล้วหยิบหนังยางสองเส้นที่พกใส่กระเป๋ากางเกงไว้เสมอออกมาเล่นเป่ากบเองคนเดียว ทุกครั้งที่มีเวลาว่างหลังจากนอนกลางวัน เด็กชายจะเล่นเป่ากบคนเดียวเสมอ
“เฮลโหลล เด็กๆ ทุกคนนน”
เสียงดนตรีครื้นเครงพร้อมกับกลุ่มคนในชุดสีแดงคล้ายซานตาครอสมากมายกรูกันเข้ามา ครูใหญ่ของโรงเรียนที่เดินตามหลังมาด้วยกวักมือเรียกครูประจำชั้นที่ทำท่าจะเข้ามาไล่คนพวกนี้ออกไปจากห้องให้เข้าไปหา
“ครูใหญ่คะ คนพวกนี้คือใครกันคะ” หล่อนรีบถาม
“นี่…” ครูใหญ่ไม่ตอบ แต่ส่งนามบัตรของคงเดชที่ได้รับมาจากธงไชยให้คุณครูดู “เหมือนว่าพวกเขาจะมาเพื่อต้นกล้านะ”
“ต้นกล้าเหรอคะ?” คุณครูทวนคำแล้วรีบหันไปมองทางต้นกล้า
ต้นกล้าและเด็กในห้องพากันตื่นเต้นที่ได้เห็นซานต้าครอสตัวเป็นๆ ธงไชยคือคนที่ใส่มาสคอสเป็นซานตาครอส ขณะที่คนอื่นๆ ที่เขาจ้างมา เพียงแค่ใส่ชุดสีแดงแล้วติดหนวดปลอมเท่านั้น
“ซานตาครอสๆๆๆ” เด็กๆ พากันร้องเรียกเขาด้วยความดีใจ
“โฮ่ โฮ่ โฮ่ ข้าคือซานตาครอส โฮ โฮ โฮ” ธงไชยเลียนแบบเสียงหัวเราะของซานตาครอส
ถ้าไม่ใช่คำสั่งของท่านประธาน เขาไม่มีวันทำแบบนี้เด็ดขาด ร่างสูงในชุดมาสคอสอ้วนท้วนเดินตรงไปที่ต้นกล้า ที่ยืนมองซาตาครอสตาปริบๆ ไม่ได้ขยับกรูเข้าไปหาเหมือนเพื่อนในห้อง
“นายคือต้นกล้าใช่ไหม”
“ครับ ผมชื่อต้นกล้าครับ” เด็กชายตอบรับ
ทุกสายตาจับจ้องมาที่ซานตาครอสและต้นกล้า ธงไชยค่อยๆ ย่อตัวลง ก่อนจะส่งกล่องของขวัญที่เขาถือมามากมายให้กับเด็กชาย
“ของนาย”
“ของต้นกล้าเหรอครับ?” เด็กชายตาวาวด้วยความดี่ใจ
“ใช่แล้ว ซานตาครอสจะให้ของขวัญกับเด็กดีเท่านั้น นายคิดว่าตัวเองเป็นเด็กดีหรือเปล่าล่ะ?”
“ถ้าไม่นับที่ต้นกล้าลืมแปรงฟันก่อนนอนไปสามครั้ง กับตอนที่แอบแม่กินลูกเกินที่แม่กำหนด ก็…เป็นเด็กดีครับ” คำตอบของเด็กน้อยทำเอาธงไชยเกือบหลุดขำ
“งั้นวันหลังก็อย่าลืมแปรงฟันอีกล่ะ อ้อ ห้ามกินลูกอมเกินกว่าที่คุณแม่กำหนดด้วยนะ เพราะนายจะฟันผุเร็วขึ้น”
“ครับ ต้นกล้าจะไม่ลืมแปรงฟันและไม่แอบกินลูกอมแล้วครับ” ต้นกล้าตอบรับเสียงดังฟังชัด
“ถ้างั้นก็รับของขวัญของนายไปเลย”
“ให้ต้นกล้าจริงๆ เหรอครับ”
“ใช่ ซานตาครอสไม่พูดโกหกหรอกนะ” ธงไชยวางของขัวญลงบนพื้น ก่อนจะวางมือลงบนศีรษะของเด็กน้อย “แกะสิ”
“ขอบคุณครับ”
ถึงจะดีใจมากแค่ไหน แต่ต้นกล้าก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ขอบคุณคนที่ทำดีกับเขา บ่งบอกให้รู้ว่าได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี
เด็กคนอื่นๆ พากันมารุมล้อมต้นกล้าด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าของขัวญในกล่องมีอะไรบ้าง เพราพวกตนเองไม่ได้รับอะไรจากซานตาครอสเลยนอกจากลูกอมที่คนชุดแดงโยนแจกเด็กๆ พร้อมกับเต้นไปตามจังหวะเพลงเท่านั้น
ต้นกล้าลงมือแกะของขวัญช้าๆ ด้วยระวังไม่ให้กระดาษขาดจนธงไชยอดสงสัยไม่ได้
“ฉีกออกไปเลยก็ได้นี่ ทำไมต้องค่อยๆ แกะด้วย”
“แม่บอกผมว่าของพวกนี้จะเอากลับมาใช้ใหม่ได้ครับ ผมจะเก็บเอาไว้เผื่อวันหลังต้องใช้ แม่จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อให้ครับ” ต้นกล้าตอบ เด็กชายพับกระดาษห่อของขวัญที่แกะออกมาได้โดยไม่ขาดเลยอย่างดี ก่อนจะเปิดกล่องขึ้น
ข้างในคือชุดนักเรียนชุดใหม่จำนวนสามชุด ต้นกล้าตาวาวอย่างดีใจ
“ไชโย ชุดนักเรียนของผม” เอาชุดไปกอดไว้แนบอก “ขอบคุณครับคุณซานต้า”
รอยยิ้มอย่างดีใจของเด็กชายทำให้ธงไชยใจฟูไม่น้อย เขารู้สึกชื่นชมชัยรัมภาอยู่ลึกๆ ที่หญิงสาวสอนลูกชายได้ดีขนาดนี้
กล่องต่อไปที่ถูกแกะออกอย่างประณีตเช่นเคย คราวนี้เป็นชุดลำลองสำหรับใส่อยู่บ้านและไปข้างนอกอีกจำนวนห้าชุด ทุกชุดล้วนเป็นชุดราคาแพง บางชุดเป็นลายการ์ตูนที่เด็กๆ ชื่นชอบ ต้นกล้ายิ้มกว้างอย่างชอบใจ ขณะที่เด็กคนอื่นพากันอิจฉาและอยากได้ของขวัญจากซานตาครอสบ้าง
กล่องอื่นๆ ที่เหลือคือของเล่นที่ต้นกล้าอยากได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถบังคับ หุ่นยนต์ เลโก้ และอื่นๆ อีกมากมาย เด็กชายแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองและอดคิดไม่ได้ว่าตนอาจกำลังฝันกลางวันอยู่ จึงแอบหยิกแขนตัวเองไปหนึ่ง ทว่าไม่ลอดพ้นสายตาของธงไชย
“หึๆ นี่ไม่ใช่ความฝันหรอก ทั้งหมดเป็นของนายจริงๆ”
“ขอบคุณครับคุณซานต้า ขอบคุณมากครับ”
ราวกับความฝันในชีวิตของเด็กน้อย ของเล่นกองโตเท่าภูเขาตรงหน้าคือสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้รับ ธงไชยตรงเข้าไปอุ้มต้นกล้าขึ้นมา
“เด็กๆ ทุกคนอยากได้ของขวัญเหมือนที่ต้นกล้าได้กันไหม” เขาเอ่ยถามออกไป
“อยากได้” เด็กๆ ตอบรับ
“ถ้าอย่างนั้นก็จงจำไว้ สิ่งแรกที่ง่ายที่สุดของการเป๋นเด็กดีเลยก็คือ…การใจดีกับผู้อื่น”
เด็กทุกคนพากันเงียบและตั้งใจฟังในสิ่งที่ซานตาครอสพูด คุณครูประจำชั้นยืนปาดน้ำตาด้วยดีใจแทนต้นกล้า
“เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ยากเลยใช่ไหม ก็แค่ใจดี เริ่มจากการใจดีกับเพื่อนร่วมห้องก็ได้ พวกนายทุกคนยังเด็ก สิ่งที่ควรทำไม่ใช่การตั้งใจเรียนตามตาราง หรือถึงขั้นช่วยเหลือคนที่ลำบากทุกครั้งที่เจอ แค่ใจดีก็พอ เข้าใจใช่ไหม” ถึงตรงนี้เขาหันมามองต้นกล้าที่อยู่ในอ้อมแขน
“เข้าใจครับ” ตนกล้าตอบพร้อมรอยยิ้ม
ธงไชยปล่อยเขาลงกับพื้นตามเดิม เด็กชายรีบจัดการเอาเสื้อผ้าใส่กล่องของขวัญไว้ตามเดิม เหลือไว้แค่ของเล่นที่ยังไม่ได้เก็บ
“ต้นกล้า” เด็กชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้าไปหาเขา
ต้นกล้าชะงัก หันไปมองเด็กกลุ่มนั้น ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่ชอบล้อเลียนและกันต้นกล้าออกจากเพื่อนๆ ทุกครั้ง
“ขอพวกเราเล่นด้วยได้ไหม” เด็กกลุ่มนั้นเอ่ยถาม
ต้นกล้านิ่งไป ทุกสายตาจับจ้องมาที่เด็กน้อยเพื่อรอฟังคำตอบ
“ได้สิ มาเล่นด้วยกันนะ” ต้นกล้าตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง
เด็กทั้งกลุ่มพากันยิ้มอย่างดีใจ ก่อนที่พวกเขาจะกรูกันเข้ามาเล่นกับต้นกล้า เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ในห้อง ต้นกล้าแบ่งของเล่นให้เพื่อนคนอื่นๆ เล่นด้วย ธงไชยอมยิ้มอย่างปลาบปลื้ม ก่อนจะกวักมือส่งซิกให้กับคนอื่นๆ ที่เขาพามาด้วย คนเหล่านั้นพากันออกไปยกกล่องขนมและน้ำผลไม้เข้ามา
“เด็กๆ วันนี้มีขนมกับน้ำผลไม้ด้วยนะ ของตอบแทนความใจดีจากซานตาครอสเอง”
ธงไชยเอ่ย แน่นอนว่าเด็กๆ พากันดีใจและวิ่งเข้าไปรับขนมไปทานด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย ที่มีความสุขที่สุดเห็นทีจะไม่พ้นเด็กชายต้นกล้า เป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มเข้าโรงเรียนมาได้เทอมกว่าๆ ที่เขาได้ทานของร่วมกับเพื่อนๆ ได้เล่นและหัวเราะร่วมกันอย่างสนุกสนาน ครูใหญ่และครูประจำชั้นก็พากันดีใจไปด้วยที่ในที่สุดทุกคนก็เปิดรับต้นกล้า และต้นกล้าเปิดใจให้ทุกคน