Talk ติ๋ม
Time 17 : 20
ตั้งแต่มะคืนยันตอนนี้ กูพึ่งฟื้นจากการนอนเต็มที่ เพราะเหมือนยาที่กินมันจะหมดฤทธิ์ละ เฮ้อออ... ค่อยยังชั่วขึ้นเยอะ อาการเบลอก็ไม่มี ฉันค่อย ๆ อ้าปากตัวเองขึ้น เพื่อทดสอบว่ากล่องเสียงของตัวเองยังอยู่หรือเปล่า
“อา อ่า อ้า อ๊า อ๋า เฮ้ย! เสียงกูกลับมาแล้ว อร้าย ๆ” ดีใจสิ โดนหุบปากตั้งนาน ดูเหมือนไม่ใช่ติ๋มคนเดิมเลย แต่ตอนนี้เสียงแหลม ๆ ของกูกลับมาแล้ว
“เป็นเชี่ยอะไรแต่เย็นเลยมึง ตื่นมาก็แหกปากเลยนะคะอีเพื่อน” อีครีมเอ่ย
“ทำไม กูดีใจที่เสียงตัวเองกลับมากูผิดเหรอ!!”
“ไม่ผิดที่เสียงมึงกลับมา แต่มันผิดที่มึงแหกปากจนเสียงดังลั่นตึกแบบนี้! เดี๋ยวข้างห้องก็ออกมาด่าเอา มันยิ่งนอนตอนเวลานี้กันอยู่”
“เหรอ กูไม่รู้นี้หว่า... กี่โมงแล้ววะ?”
“3 โมงครึ่ง”
“แล้วเจ้ออฟโทรมายัง เขาจะไล่กูออกปะ?”
“ไม่รู้ว่ะอีเจ้ยังไม่โทรมา แต่เดี๋ยวคืนนี้กูจะไปถามให้ มึงก็อยู่นี้แหละ”
“โอ๊ย ให้กูมานั่ง ๆ นอน ๆ อยู่เฉย ๆ กูอยู่ไม่ได้หรอก คนมันเคยทำงานเวลานี้นี่หว่า”
“แล้วมึงจะไปไหน”
“เฮ้ออออ... หรือว่ากูควรไปหาที่ทำงานใหม่รอดี เผื่อไอ้หมื่นมันไล่กูออก กูจะได้มีงานรองรับเลย มึงว่าดีม้ะ?”
“ก็ดี แล้วมึงจะไปยังไง ไปที่ไหน แถวไหน กับใคร?”
“กูว่าจะไปแถว ๆ นี้แหละ บาร์มีเยอะแยะ ไปยังไงกูคงนั่งวินไป ไปกับใคร กูก็ต้องไปคนเดียวดิ มึงจะให้กูไปกับใคร เพื่อนฝูงก็ใช่ว่าจะมีเยอะแยะ!”
“ไปคนเดียวอันตรายนะมึงอีกอย่างนั่งวินไปกูว่าไม่ปลอดภัยว่ะ เอางี้ กูไปกับมึงดีกว่า กูโทรลางานอีเจ้เเป๊บ”
“มึงน่ารักก็วันนี้แหละอีครีม กูพึ่งเห็นความดีของมึงนะเนี่ย”
“ชมกูอยู่ใช่ปะ?”
“เอ้า ชมสิเพื่อน โอ้วซึ้งเช็ดน้ำตาแป๊บ”
“อีดอก!” มันกัดฟันพูดพร้อมกลอกลูกตาแล้วเดินออกไปสงสัยไปโทรบอกเจ้ออฟนั้นแหละมั้ง
กริ้งงง กริ้งงง ( ไอ้ต้อม )
โทรมาหาหอกไรวะ!!
“ว่า”
(มึงอยู่ไหนอีติ๋ม)
“กูจะอยู่ไหนแล้วมันเรื่องอะไรของมึงไม่ทราบห้ะไอ้ต้อม”
(อีเชี่ย มึงอยู่ไหนมันไม่ใช่เรื่องของกูหรอก แต่ตอนนี้มึงกลับมาบ้านด่วนเลย)
(กูบอกว่าไม่ต้องโทรหามันไง ฮือ ๆ ๆ ไม่ต้องหวังพึ่งมันหรอก ฮือ ๆ ๆ มันไม่มาช่วยฉันหรอก ฮือ ๆ ๆ ๆ) เสียงป้าต้อยสะอึกสะอื้น
(ช่วยไม่ช่วยนั้นมันอีกเรื่องแม่ ยังไงก็โทรบอกให้มันรู้ อย่างน้อยมันก็อยู่บ้านเดียวกับฉัน)
“มีอะไรกันวะ!! แม่มึงเป็นอะไรอีกอ่ะ)
(มึงกลับมาดูเองเถอะอีติ๋ม ถึงมึงจะเกลียดแม่กูนะ แต่อย่างน้อยเขาก็เลี้ยงมึงมา ถ้ามึงยังนับถือแม่กูเป็นป้า มึงก็กลับมาที่บ้านก่อน ตอนนี้)
“เออ ๆ กูจะรีบไป”
มันมีอะไรวะ ปกติป้าต้อยแกไม่เคยร้องไห้นะ มีแต่ปากดีด่าเก่งไปวัน ๆ วันนี้มาร้องไห้ มันเกิดไรขึ้นที่บ้านเเหรอวะ ถึงกูจะเกลียดป้าแก แต่กูก็ไม่ได้ทรพีขนาดที่จะไม่ไปดูดำดูดีแกหรอกนะ
“ไปไหนมึง... รอกูก่อนดิ แต่งตัวก่อน” อีครีมว่าขณะที่กำลังหาชุด
“ไม่ต้องแต่งแล้ว ไปบ้านป้ากูก่อน มีเชี่ยไรกันไม่รู้ไอ้ต้อมมันโทรมามะกี้ ป้ากูร้องไห้ใหญ่เลย บอกให้กูกลับบ้านตอนนี้”
“ป้ามึงนี้นะร้องไห้?”
“เออ ไปเถอะ!”
ฉันรีบลากอีครีมออกจากคอนโดของมันแล้วนั่งแท็กซี่ไปที่หมู่บ้านสลำทันที หน้าตากูก็ยังไม่ได้ล้าง ผมเผ้าก็ยังไม่ได้หวี ใส่เเค่ชุดนอนกับรองเท้าแตะมัดผมรวบ ๆ เอา มีกระเป๋าสะพายข้างใบหนึ่ง นี้ถ้าไม่สวยคงไม่รอดนะสภาพแบบนี้ แต่กูสวยไง เลยมั่นหน้า
หมู่บ้านสลำ...
นี่ถ้ากูไม่มาเห็นกับตากูก็ไม่เชื่อนะเนี่ย อึ้งตาแตกมาก บ้านที่เคยอยู่ถูกไฟคลอกจนไหม้หมดทั้งหลัง บ้านหลายหลังเสียหายพอ ๆกับบ้านป้าเลย กูนี้ยืนอึ้งทึ่งเสียวอยู่หน้าบ้าน ป้าต้อยนั่งร้องไห้แล้วเอามือกุมขมับตัวเองอยู่ข้าง ๆทาง
“เชี่ย”
“อีติ๋ม” ไอ้ต้อมมันเรียกฉัน
“เกิดไรขึ้นวะ ทำไมมันไหม้หมดอย่างนี้อ่ะ!”
“ฮือ ๆ ๆ บ้านกู!! ฮือ ๆ ๆ ๆ หมดแล้ว ฮือ ๆ ๆ” ป้าต้อยร้องไห้อย่างน่าเวทนา
“ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่ะ แต่จู่ ๆ ไฟมันก็ไหม้ขึ้นมา บ้านฉันก็โดนไปด้วย ดีนะที่กูพาแม่ออกมาทันอ่ะ”
“แล้วลุงหมานอ่ะ”
“อยู่โรงพยาบาล แต่ไม่เป็นไรมากหรอกแค่ดมควันนานไปหน่อยเลยสำลักควันอะ”
“แล้ว...นี้จะเอาไงกันต่อวะ?”
“คงต้องไปอยู่วัดก่อนว่ะ เงินทองถูกไฟเผาไปหมด เหลืออยู่ในเอี๊ยมแม่แค่ไม่กี่พัน”
“ฮือ ๆ ๆ ๆ ฮึก ๆ ๆ ฮือ ๆ ๆ” ฉันสงสารเขานะ ถึงฉันกับเขาจะกัดกัน แต่ป้าต้อยแกก็เคยเลี้ยงฉันมา รู้อยู่หรอกว่าแกปากจัด แต่ถ้ามาเจอเรื่องแบบนี้ จิตใจของแกคงต่ำลงจริง ๆ
“ป้าต้อย เหลือตังอยู่เท่าไหร่อะ”
“ฮือ ๆ มึงไม่ต้องสมน้ำหน้ากูหรอกอีติ๋ม กูฉิบหายแล้ว ฮือ ๆ กูหมดเนื้อหมดตัวแล้ว ฮือ ๆ ๆ”
“นิ่ป้า ถึงฉันกับป้าจะไม่ถูกกัน แต่ฉันก็เป็นป้าหลานกัน ต่อให้ฉันจะทรพีป้ายังไง ฉันก็ไม่ได้ใจร้ายจะซ้ำเติมป้าตัวเองหรอกนะ บ้านหลังนี้มันก็เหมือนบ้านฉันอะ ฉันรู้นะว่าป้าเสียใจ แต่ตอนนี้มันเอาอะไรกลับมาไม่ได้แล้ว”
“ฮือ ๆ บ้านกู สร้างมาตั้งนาน ฮือ ๆ ๆ”
“นี้ก็มืดแล้วด้วย จะเอาไงต่ออะ หิวข้าวด้วยเนี่ย นั่งแดกข้าวอยู่ดี ๆ อะ ไฟไหม้สะงั้น” ไอ้ต้อมบ่นออกมา
“มึงแบกแม่มึงตามกูมา เดี๋ยวกูไปเช่าห้องให้อยู่ก่อน ระหว่างรอทำใหม่
“กูจะเอาเงินที่ไหนทำ ฮือ ๆ ๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวกูเหลือแค่ 3 พัน ฮือ ๆ ๆ ๆ”
“ก็เงินฉันไงป้า ถึงฉันจะเป็นหลานทรพี แต่ฉันก็ไม่ได้ทรพีขนาดทิ้งป้าที่เลี้ยงฉันมาหรอกนะ ไม่ต้องซึ้งน้ำใจหรอก ไปเถอะ เดี๋ยวพาไปกินข้าวต้มหน้าปากทาง”
“ไปแม่” ไอ้ต้อมพยายามจับป้าต้อยลุก
“ฮึก ๆ อีติ๋ม มึงไม่โกรธไม่เคืองกูเลยเหรอ?”
“โกรธ แต่หายละ ไปเถอะ อย่ามาพูดเข้าเรื่องดาม่า เดี๋ยวฉันปวดหัวของฉันเองแหละ ป้าอย่าคิดมากเลย ไปเถอะ”
“ถ้าหาห้องยังไม่ได้ ไปอยู่คอนโดกูก่อนก็ได้นะ ห้องมีตั้ง 2 ห้อง อีกอย่างเสี่ยก็ไม่ค่อยมาหรอก อยู่ชั่วคราวได้” อีครีมเอ่ย
“ให้หาไม่ได้ก่อนค่อยว่ากัน”
เฮ้อออ... ถึงติ๋มจะปากร้ายแต่ติ๋มก็ใจดีนะ ครอบครัวก็คือครอบครัวล่ะวะ ต่อให้เกลียดกันปานจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ถ้าคนในครอบครัวลำบาก ไอ้ฉันก็อดที่จะไม่ช่วยเหลือไม่ได้ อย่างน้อยป้าต้อยแกก็เลี้ยงฉันมา อย่างน้อยเขาก็ไม่ทิ้งฉันเอาไว้ข้างทาง
ต่อให้ฉันจะมีเงินไม่มากพอที่จะมาสร้างบ้านใหม่ แต่ยังไงก็ต้องหามาให้ได้ เพราะบ้านหลังนี้ฉันอยู่มาตั้งแต่เล็ก ถือว่าทดแทนบุญคุณป้าแกแล้วกัน
ห้องเช่ารายเดือน…
“ค่าห้องก็ 2,500 ต่อเดือน ค่าน้ำค่าไฟแยก มีเฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ ส่วนด้านหน้าพวกลื้อจะทำมาหากินอะไรก็ได้” ซ้อเจ้าของห้องเอ่ย
“ฉันขอเอาห้องสุดท้ายได้ไหม ห้องนั้น”
“ได้ แต่ห้องนั้นจะแพงขึ้นหน่อย ลื้อจะเอาไหมล่ะ”
“มึงไม่ต้องเอาแพงมากหรอกอีติ๋ม ห้องไหนกูก็อยู่ได้”
“เอาหน่าป้า ห้องนั้นซ้อคิดเดือนเท่าไหร่”
“ห้องนั้นมันมีเพลิงต่อด้านข้าง แถมยังใหญ่กว่าทุกห้อง อั๊วคิดเดือนละ 3,500 พอไหวไหม?”
“แพงแท้เจ้” ไอ้ต้อมเอ่ย
“เจ้บ้านป๊ะมึงสิไอ้ต้อม เดี๋ยวอั๊วตบหัวพุ่ง มึงไปดูห้องก่อนแล้วค่อยมาบอกว่าแพง จะเอาไหม”
“เอาห้องนั้นแหละ เข้าอยู่คืนนี้เลยนะ แล้วฉันก็จ่ายล่วงหน้าด้วย 3 เดือน” ฉันเอ่ย
“งั้นก็... 11,000 บาท
“กูคิดได้แค่ 10,500 มึงคิดยังไงของมึงห้ะอีหมวย 11,000” ป้าต้อยเอ่ยเสียงห้วน
“ค่ามัดจำ 500 มึงเข้ามาอยู่ปุบปับก็ต้องมีค่ามัดจำให้อั๊วหน่อยสิ”
“แก่แล้วยังงกอีกนะ” ไอ้ต้อมไม่วายค่อนขอด
“แล้วจะเอาไหม ห้ะ?”
“เอาสิ !! แล้วก็เอากุญเเจห้องมา ส่วนนี้เงิน” ฉันควักเงินสดของตัวเองที่พึ่งได้มาจากเสี่ยภพแล้วจ่าย ๆ ไป
หลังจากที่ทุกอย่างลงตัวเคลียร์เรื่องที่อยู่ชั่วคราวได้ ฉันก็กะจะบอกป้าให้ขายข้าวอยู่หน้าห้องไปก่อน จะได้หาเงินช่วยกันสร้างบ้านใหม่ ส่วนฉันคงต้องขายตัวอีกบานเบอะเลยละ กว่าจะได้เงินมาสร้างบ้าน เหมือนกำลังเริ่มต้นทุกอย่างใหม่
“เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะไปดูไอ้หมานมันหน่อย” ป้าต้อยเอ่ยจึ้น
“ป้าก็ไปซื้อข้าวของมาเริ่มต้นขายข้าวขายของป้าไปแล้วกัน ฉันจะโอนเงินเข้าบัญชีให้พรุ่งนี้เช้า”
“มึงจะไม่มาทวงบุญคุณกูทีหลังใช่ไหมอีติ๋ม มึงทำดีกับกูทั้ง ๆ ที่กูก็ด่ามึงทุกวัน มึงมีแผนอะไรหรือเปล่า”
“ถ้าอคติกับฉันมากนักก็เชิญไปอยู่วัดเลยจ้ะ”
“มันช่วยก็ดีแล้วแม่ อีติ๋มมันไม่ได้คิดไรหรอก แม่อย่าคิดมากเลย มองมันเป็นคนดีบ้างเถอะ!” ไอ้ต้อมรีบแทรก
“เออ กูก็แค่ไม่คิดว่ามึงจะช่วยกู ทั้ง ๆ ที่…”
“ฉันไม่ได้ทรพีทุกเรื่องหรอกนะ”
กริ้งงงง กริ้งงงง
“เจ้ออฟโทรมาอ่ะอีติ๋ม” อีครีมมันยื่นโทรศัพท์ให้ฉัน สงสัยโทรมาไล่กูออกแน่ ๆเลย
“ไม่ต้องไล่เดี๋ยวไปเอง”
(อะไรของมึงคะอีติ๋ม กลัวกูไล่ออกขนาดนั้นเลยรึไงอีนี้ รับสายไร้มารยาทมาก)
“ถ้าฉันอยู่ต่อหน้าเจ้ ฉันจะเบะปากมองบนแล้วกลอกลูกตา 380 องศาวนไป)
(แล้วหางานใหม่ได้ยัง?) เหมือนโดนซ้ำเติมเลยกู
“ยัง จะโทรมาถามแค่นี้ใช่ม้ะ? งั้นแค่นี้นะ รำคาญไม่อยากได้ยินเสียง”
(“มึงมั่นใจนะอีติ๋มที่จะวางสายกู)
“ก็มีอะไรก็พูดสิเจ้ ฉันไม่ได้ว่างขนาดมาต่อปากต่อคำกับเจ้อยู่หรอก วินาทีทำเงินทำทอง เปลืองตังค์โทรศัพท์”
(กูโทรค่ะอีดอก! คุณสงครามเขาไม่ไล่มึงออกนะ มึงสามารถกลับมาทำงานได้) อุ้ยตายว้ายกรี้ด กูไม่โดนไล่ออก
“จริงเหรอเจ้ออฟ”
(เออสิโว้ย มึงจะกลับมาทำไหมละ?)
“ทำสิเจ้ ฉันจะไปไหนรอดละ ฉันก็รู้อยู่แล้วละว่าเจ้ต้องช่วยฉัน ขอบคุณนะเจ้”
(งั้นดี! ถ้ามึงอยากกลับมาทำงานที่บาร์กู กูมีข้อเสนอที่ดีกว่าเป็นกระหรี่ขาย hee ไปวัน ๆให้มึง ถ้ามึงตกลงข้อเสนอกู เดือน ๆ หนึ่งมึงจะได้เงินจากกูหลักล้าน ถ้าสนใจมึงก็มาหากูตอนนี้ที่บาร์ แต่ถ้ามึงยังเล่นตัวหวง hee ไม่มาก็หางานใหม่ได้เลย เข้าใจปะอีตัวดี) น้ำเสียงกระด้างแทรกขึ้นมา
ตู้ดตู้ด ๆ
“เอ้า!! อะไรของมันวะ” เสียงแบบนี้คงไม่มีใครนอกจากไอ้หมื่นนั้น มันยื่นข้อเสนออะไรของมัน แล้วเงินเป็นล้านต่อเดือน
“หู้ย เงินล้าน หอยกูลุกวาวเลยสัด!!”
“อะไรวะอีติ๋ม?” อีครีมเอ่ยถาม
“อยากได้ hee กูขนาดนั้นเชียว”
“อะไรของมึงวะ”
“ไอ้หมื่นมันยื่นข้อเสนอให้กู มันบอกให้กูไปที่บาร์ตอนนี้เลย”
“ข้อเสนอไรวะ?”
“ไม่รู้ว่ะ แต่ถ้ากูไม่ไป มันคงไล่กูออก งั้นกูไปดีฟ่า”
“เอ้า ๆ ๆ ไรของมึงวะ จะไปก็ไปเลยอีห่า รอกูด้วย
“เร็วสิวะ เงินรอกูอยู่ คว…. ด้วย เร็ว ๆ”
เอาวะ ลองดูสักตั้งมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ถ้าข้อเสนอมันดี พร้อมกับเงินดีขนาดนั้น เอาเว้ย แค่เสียหอยให้กับไอ้หมื่นเอง มันอาจจะดีก็ได้อีติ๋ม
“หรือมันไม่ดีวะ หึ้ย มันต้องดีดิ มึงต้องคิดในแง่บวกก่อนแง่ลบ เข้าใจม้ะ”
“โอเค กูเข้าใจแล้ว
“ดี”
“มีงเป็นบ้าอ๋ออีเชี่ยคุยคนเดียว ขนลุก!!!
“พี่ ๆ ขับเร็ว ๆเลย Fast&Furious ไปเลยพี่!” ขึ้นรถแล้วตะโกนบอกโซเฟอร์
บรื้นนนนนน!
ไม่รีบไม่ได้ ต้องไปรับข้อเสนอของไอ้ท่านหมื่น!!