TALK หมื่นสงคราม
ทำไมชีวิตของกูตอนนี้มันบัดซบแท้วะ อีการอยากได้ผู้หญิงแค่คนเดียวทำไมมันยากเย็นแบบนี้ อีตัวดี มึงทำลายประวัติเสือผู้หญิงอย่างกู
“โอ้ะ แบกกูเบา ๆ สิวะ” สภาพของผมตอนนี้มันเหมือนคนพึ่งออกศึกรบราฆ่าฟันมาหมาด ๆ เรี่ยวแรงของผมแทบจะลุกเดินเองไม่ได้ มันชาและไร้เรี่ยวแรงไปทั้งตัว
“ค่อย ๆ เดินครับนาย” ไอ้หลินมันพยุงตัวของผมมานั่งที่โซฟาใหญ่ในบ้าน
“...”
”เป็นยังไงบ้างครับนาย หายชาลงบ้างรึยัง” แค่จะอ้าปากพูดผมยังแทบไม่มีเรี่ยวมีแรง คอแห้งปากแห้งไปหมด มีเพียงกลิ่นไหม้เท่านั้นที่ยังคาปากผมอยู่
“ไปเอาน้ำมาให้กูก่อน คอกูแห้งไปหมดแล้ว”
“ครับนาย” มันลุกออกไปทางในครัว ผมเอนหลังนอนลงบนโซฟา ปวดหัวปวดตัวไปหมด ร่างกายของผมยังคงหลอนกับการโดนช็อตด้วยกระแสไฟอยู่เลย
“อีตัวดี มึงนะมึง ทำกูแสบนัก”
คับแค้นใจกับอีตัวดีนั้น มันกล้าดียังไงเอาที่ช็อตไฟฟ้ามาช็อตผม เล่นสะผมแทบลุกไม่ขึ้น มันแสบจริง ๆ ผู้หญิงห่าเหวอะไรวะฤทธิ์เยอะแท้
“น้ำครับนาย” แค่เห็นน้ำก็ชื่นใจ เหมือนคนอดยากน้ำมาหลายวัน ผมกระดกน้ำกินอย่างรวดเร็ว มันค่อยยังชั่วขึ้นหน่อย
”แล้วอีตัวดีมันเป็นยังไง” แต่ถึงฤทธิ์มันจะเยอะมันก็แสดงความโง่ของตัวเองออกมา เพราะมันก็โดนช็อตพร้อม ๆ กับผม
“เจ้ออฟพาไปโรงพยาบาลแล้วครับ ป่านนี้คงกลับแล้ว นายไม่เป็นอะไร เธอก็คงไม่เป็นอะไรมาก”
”เออ มึงโทรบอกไอ้นัยให้มันเอาที่ช็อตบ้านั้นไปทิ้งด้วย ทิ้งไกล ๆนะมึง”
“ได้ครับนาย”
“ดูดิ ถ้ามันไม่มีเครื่องช็อต มันจะหนีกูยังไง”
“นี้นายยังไม่ล้มเลิกความคิดอีกเหรอครับ”
“เออ กูบอกแล้วไง ยังไงกูก็ต้องได้ ได้ยากเย็นแบบนี้ก็ดี ตื่นเต้นเร้าใจกูดี ถึงทีกูเมื่อไหร่ กูเอามันตายแน่”
“เอาใครตายเเหรอคะพี่คราม โอ๊ะ พี่ครามไปโดนอะไรมาคะ ทำไมหัวฟูอย่างนี้ล่ะ”
ใบพลูเธอเดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ ผมแล้วจับเส้นผมของผมดู ผมอายน้องสาวตัวเองจังที่ต้องมาเห็นผมในสภาพแบบนี้ หากเธอรู้ว่าผมไปเจอกับอะไรมา คงหัวเราะเยาะผมเเน่ ใบพลูเธอเป็นลูกเลี้ยงของพ่อผม พ่อผมเป็นคนเอาเธอมาจากบ้านสงเคราะห์เพราะความสงสาร
“มีปัญหานิดหน่อยนะ เธอไม่ต้องรู้หรอก แล้วนี้ไปไหนมา ทำไมกลับบ้านดึกดื่นแบบนี้”
ผมขมวดคิ้วถามใบพลูด้วยความเป็นห่วง ดวงตากลมโตสาดส่องประกายมองหน้าของผมแล้วยิ้มหวาน ๆ ให้ รอยยิ้มของเธอทำให้ผมติดอยู่ในภวงค์จริง ๆ ยอมรับตรง ๆ เลยก็ได้ว่า ผมหลงรักน้องสาวตัวเอง น้องสาวที่ไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆ มันไม่ผิดถ้าผมจะรักและอยากครอบครองเธอ เพียงแต่ว่า ใบพลูจะคิดอย่างเดียวกับผมรึเปล่า
“พลูไปงานวันเกิดเพื่อนมาค่ะ เห็นพี่ครามไม่อยู่บ้านตั้งแต่เย็น พลูเลยไม่ได้บอก แต่ฝากป้าเอี่ยมบอกแล้วนะ”
“ช่างมันเถอะ พี่ก็พึ่งกลับมาพอดี”
“ไปไหนมาเหรอ แล้วทำไมถึงมีสภาพแบบนี้ละ มานี้เดี๋ยวพลูทำผมใหม่ให้”
“อย่าเลย พี่อยากอาบน้ำก่อน เหนี่ยวตัวจะแย่”
“อ๋อ... งั้นพลูกลับห้องก่อนนะ อยากอาบน้ำเหมือนกัน ง่วงด้วย”
”อือ ไอ้หลินไป”
ผมกับใบพลูแยกย้ายกันเดินขึ้นบ้าน เธอเดินนำหน้าผมไปก่อน ส่วนร่างกายผมมันก็มีแรงขึ้นมานิดหน่อย พอเดินเองได้
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เหมือนร่างกายที่โดนช็อตมันจะดีขึ้น ผมเดินมาที่หน้ากระจกแล้วเอาผ้าผืนเล็กเช็ดหัวตัวเองเบา ๆ พร้อมกับหยิบรีโมทมาเปิดเพลงนิดหน่อยเผื่ออารมณ์จะดีขึ้น
แอ๊ดดด
ประตูห้องของผมมันเปิดออกเบา ๆ ร่างบาง ๆ ของคนตัวเล็กเบียดเสียดประตูเข้ามา แล้วส่งยิ้มให้ เธอเดินมาพร้อมกับนมร้อนแก้วหนึ่ง เป็นเด็กดีจัง ไม่เคยลืมเลยว่าผมชอบทานนมเวลาอารมณ์ไม่ดี
“เผื่อพี่ชายจะอารมณ์ดีขึ้นแค่เห็นหน้าเธอ พี่ก็อารมณ์ดีแล้วใบพลู รอยยิ้มและหน้าหวาน ๆ ของเธอมันทำให้ผมหลงใหลจริง ๆ
”เธอรู้ได้ไง ว่าพี่อารมณ์ไม่ดี” ผมเอาผ้าเช็ดหัววางลงแล้วเดินมาหยิบนมทาน จำได้เลยว่านี้มันคือฝีมือของใบพลู
“ปกติพี่ครามจะยิ้มให้พลู แต่วันนี้หน้าพี่นิ่งยิ่งกว่ามมัจจุราชอีก ทำไมพลูจะไม่รู้ว่าพี่อารมณ์ไม่ดี”
“ถึงพี่จะไม่ยิ้ม มันก็ไม่ได้แปลว่าพี่อารมณ์ไม่ดีนะ”
“งั้นพลูคงเดาผิดสินะวันนี้”
”พลูไม่ได้เดาผิดหรอก พลูเดาถูก ตอนกลับมาบ้านพี่ก็อารมณ์ไม่ดีนั้นแหละ แต่พอเห็นพลู ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปหมด”
“อะไรนะคะ” ดวงตาของเธอโตประกายขึ้น ผมชอบใบพลูเวลาที่เธอทำหน้าตกใจแบบนี้
”ไม่มีไรหรอก พี่แค่จะบอกว่าพลูคือคนที่ทำให้พี่มีความสุขนะ”
“ก็... พลูรักพี่ครามนิ่ อะไรที่พลูทำให้พี่มีความสุข พลูก็จะทำ พลูเต็มใจ” นี้ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม ใบพลูเธอกำลังกอดผมแล้วคำพูดของเธอมันสื่อออกมาได้ชัดเจนว่าเธอคิดแบบเดียวกับผม
“พลูรักพี่มากไหม”
“มากค่ะ แล้วพี่ครามล่ะ รักพลูไหม พี่คิดแบบที่พลูคิดหรือเปล่า?” เธอผละหน้าออกจากอ้อมกอดแล้วแหงนมองหน้าผม ดวงตาที่ประกายกำลังต้องการคำตอบ นี้คือสิ่งที่ผมรอมาเนิ่นนาน
“พี่รักพลู” มือของผมลูบที่แก้มของเธอเบา ๆ ก่อนจะผลักเธอลงเตียง เธอยั่วยวนมาขนาดนี้ ผมจะรีรออะไร ในเมื่อผมก็อยากได้เธอ
ฟุบ
ปากของฉันสองคนประกบจูบดูดดื่ม ผมไม่รอช้าที่จะปลดชุดนอนเบาบางของเธอออก ร่างกายที่ผมต้องการมาโดยตลอด ตอนนี้ผมได้มาครอบครองในกายแล้ว
อย่างน้อยวันนี้มันก็ไม่ได้แย่ไปซะทุกอย่าง มันก็ยังมีเรื่องดี ๆ สำหรับตัวผมบ้าง และเรื่องต่อไปที่ผมต้องคิด คงเป็นเรื่องปกปิดความลับของผมกับใบพลู ปกปิดไม่ให้พ่อและแม่ของผมรู้ หากพ่อรู้ พ่อผมคงไม่พอใจ เพราะเขาให้ผมกับใบพลูเป็นพี่น้องรักไคร่ ไม่ใช่พี่น้องท้องชนกัน
TALK ติ๋ม
Time 02:50
”แล้วทีนี้กูจะแก้ตัวให้มึงยังไงเนี่ย อีติ๋ม มึงทำอะไรมึงไม่นึกถึงหน้ากูหน่อยวะ ตายห่ากันหมดบาร์แน่ทีนี้”
“กูให้มึงไปต้อนรับเขา ไม่ใช่ไปทำร้ายเขาอีบ้า” อีครีมเอ่ย
“ดีนะที่เสี่ยเขาไม่ตายอะ ไม่งั้นนะมึง” เจ้ออฟว่า
“กูไม่อยากจะพูด” อีเพลงบ่นอีกคน
“นิ่อีติ๋ม ได้ฟังที่เจ้เขาด่าบ้างเปล่าเนี่ย”
ไม่ฟังหอกหักอะไร หูกูชาไปหมดแล้วอีปอบ แค่กูโต้ตอบไม่ได้ ปากกูไม่ขยับ เรี่ยวแรงกูหมด มันชาไปทั้งตัว แค่ลูกตากูขยับได้นี้ก็บุญแล้ว
“มึงไหวเปล่าวะอีติ๋ม”
“มึงพามันกลับบ้านก่อนไปอีครีม ทางนี้กูจัดการเอง แล้วถ้าคืนนี้มึงมาไม่ไหว มึงก็ไม่ต้องมานะอีติ๋ม พักผ่อนก่อน แล้วกูจะโทรไปบอกว่าเขาไล่มึงออกหรือเปล่า” เจ้ออฟว่า
ฉันกะพริบตาตอบก็ได้วะ ปากไม่มีแรง
“เออ อย่างน้อยกูก็ฟังภาษากะพริบตามึงออก”
“ไปอยู่กับกูก่อนไหมอีติ๋ม ขืนกลับบ้านมึงไป คงไม่มีใครดูแลมึงหรอก ป้ามึงโวยวายเอาอีกด้วยมั้ง” ฉันกะพริบตาให้อีครีมรัว ๆ เลยค่ะ
“มันไป”
“ตบกะโหลกสักทีมั้งมึง หาเรื่องให้ได้ทุกวี่ทุกวัน” ไม่รู้จะฟังคำด่าใครเลยตอนนี้
“เอ้า ๆ ๆ ช่วยกันพยุงมันหน่อย” อีเพลงว่า
“คืนนี้กูจะด่ามึงทั้งคืนเลยอีห่าหอก ดูสิว่าลำบากกันหมดร้านเพราะมึงเนี่ย อีกหน่อยคงตายหมดบาร์เพราะมึงนั่นแหละ”
“...”
“อีเชี้ยพวกนี้ มึงค่อย ๆ แบกมันสิวะ ตัวมันจะปลิวไปตามลมอยู่แล้ว สงสารร่างแห้ง ๆ ของมันบ้าง”
บ่นต่อไปอีครีม ตอนนี้กูโต้ตอบมึงไม่ได้ เชิญมึงบ่นให้เต็มที่เลยเพื่อน ทุกคนช่วยพยุงร่างฉันออกมาจากบาร์แล้วขึ้นแท็กซี่ วันนี้คือวันซวยของกู
ติ๋มปากดีตอนนี้มันตายไปแล้ว...