“เพ้อเจ้อ ผีที่สำนักงานมีที่ไหนกัน ห้องทำงานพี่ก็อยู่ข้างห้องทำงานนาย พี่ไม่เคยเจอผีสักครั้ง” มันเจ็บใจ เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คุณย่าทั้งสองฟัง พวกท่านหาว่าเขาเพ้อเจ้อ คิดมาก คิดไปเอง ผีมีที่ไหน เอาเรื่องนี้มาเล่าต่อให้พี่ชายฟัง กฤตพลก็ตอบกลับไปในทางเดียวกัน “ก็ผมเห็นจริงๆ หัวของมันลอยอยู่ในตู้เก็บของห้องทำงาน ไม่เชื่อ พี่กฤตกลับไปดูกับผม ผมจะชี้ให้ดู ว่าผมเห็นผีตรงไหน” “พี่ว่านายหลอนเรื่องศพยายจันทร์จนเก็บไปฝันมากกว่า” ตบบ่าน้องชาย ทิ้งมันให้ยืนขนหัวลุกอยู่คนเดียว ส่วนเขานั่งรถกอล์ฟเข้ารีสอร์ตไปทำงานดั่งเช่นทุกวัน กลวัชรหัวเสีย หมุนตัวกลับมาปะกับคนงานในไร่ พวกนั้นมองทรงผมเขาแล้วหัวเราะคิก กลวัชรลูบเส้นผมให้ลีบแบนก่อนรีบปีนขึ้นโฟล์วีลยกสูงขับออกจากไร่ชาอรุณรุ่งไปยังวัดในหมู่บ้าน เลยเวลาทำบุญช่วงเช้ามาแล้ว ลานวัดจึงค่อนข้างเงียบไม่ค่อยมีคน กลวัชรยกมือไหว้หลวงตาที่กวาดใบไม้ ย่องเบาไปทาง