bc

คือเธอ

book_age18+
1.7K
ติดตาม
3.5K
อ่าน
จบสุข
ดราม่า
ชายจีบหญิง
ฉลาด
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
บุคลิกหลากหลาย
love at the first sight
like
intro-logo
คำนิยม

ภาพลวงตาที่สร้างขึ้น เขาอบอุ่นราวกับแสงอาทิตย์ในยามเช้า

หากแต่ความจริง...เขาคือดวงอาทิตย์ที่พร้อมจะสาดแสงร้อนระอุ แผดเผาทุกสิ่งให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

มาดำดิ่งไปกับการหลงอยู่ใน กลรักของเธอ

และการแก้แค้นของเขา

โดยทั้งคู่มี หัวใจเป็นเดิมพัน

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
จาก...จุดเริ่มต้น
ความรัก...เมื่อมีได้ก็ย่อมหมดลงได้ หากเราได้รับความรักจากใครสักคนจงรักษามันไว้ให้ดี จงดูแลทนุถนอมให้เติบโตอย่างสวยงาม เพราะเมื่อไหร่ที่ความรักถูกความเจ็บปวดเสียใจเอาชนะ เมื่อนั้นเราก็อาจจะสูญเสียคนที่รักเราไปตลอดกาล ไนท์คลับหรูแห่งหนึ่งอบอวลไปด้วยแสงสี กลิ่นเหล้า บรรดานักท่องราตรีต่างก็ดื่มด่ำกับบรรยากาศของเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มโดยมีแอลกอฮอล์หลากหลายชนิดเป็นตัวขับเคลื่อนความสนุก ท่ามกลางผู้คนที่กำลังวาดลีลา ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นนายแบบกำลังเดินขึ้นไปยังชั้นสอง ซึ่งเป็นโซนที่จัดไว้สำหรับลูกค้าวีไอพีโดยเฉพาะ ก่อนจะเดินผ่านชายหญิงหลายคู่ที่กำลังนัวเนียแลกจูบกันโดยไม่สนสายตาคนอื่น พวกเขารู้ดีว่าทุกคนที่มาสถานที่แบบนี้ต่างก็มาเพื่อหาความสุขใส่ตัว เพราะถึงแม้ว่าสิ่งยั่วยุเหล่านี้จะหาความจริงใจได้ยากและเป็นเพียงความสุขชั่วข้ามคืน หากก็เป็นสิ่งที่ใครหลายคนต่างก็ต้องการ โดยเฉพาะกับคนที่จำเป็นต้องใช้ของมึนเมาพวกนี้เป็นเหมือนเครื่องลบความทรงจำ ให้ช่วงเวลาในทุกค่ำคืนที่มีภาพจำอันเลวร้ายหลอกหลอนผ่านพ้นไปได้ก็เท่านั้น เมื่อมาถึงยังโซฟาด้านในสุดซึ่งถูกจัดไว้สำหรับลูกค้าวีไอพี บริกรหนุ่มหน้าตาคุ้นเคยก็นำ Scotch Whisky มาเสิร์ฟให้ชายหนุ่มอย่างรู้หน้าที่ ดวงตาคมกริบจดจ่ออยู่กับแก้วเหล้าที่หมุนอยู่ในมืออย่างคนใช้ความคิดมาสักพักใหญ่ ภายในใจมืดบอดกำลังจมอยู่กับเรื่องราวในอดีต แม้ว่าจะมีสาวสวยหมุนเวียนกันเข้ามาทำความรู้จัก ต่างก็ต้องพากันหน้าหงิกหน้างอลุกออกไปจากโต๊ะเพราะนอกจากเขาจะไม่สนใจพวกเธอแล้วยังทำราวกับมองไม่เห็นพวกเธออีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่วิสัยของเขาสักนิด เพียงแต่ทุกครั้งที่ปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับความทรงจำเหล่านั้น รอบข้างของเขาก็มักจะว่างเปล่าแบบนี้เสมอ กระทั่งสติสัมปชัญญะที่เหมือนถูกปิดตายมาพักใหญ่รับรู้ว่าเจ้าของเสียงเอะอะที่ดังอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้เป็นใคร ชายหนุ่มถึงสามารถพาตัวเองออกมาจากวังวนนั้นได้ “ชิ่งเลยนะมึง อยู่ช่วยกูหน่อยก็ไม่ได้ ดูซิเนี่ยกว่ากูจะออกแบบให้ถูกใจคุณพินิจคิดช้านั่นได้ แก้แล้วแก้อีก” เจ้าของน้ำเสียงหงุดหงิดที่ชอบพ่วงฉายาลูกค้าคือ ภูวเนศ ศิระโยธิน สถาปนิกอีกคนของบริษัทออกแบบชื่อดังอย่าง ตะวันฉาย ดีไซน์ สาเหตุที่หนุ่มหน้าตี๋เดินเข้ามาเหมือนจะมาหาเรื่องใคร เป็นเพราะเขาถูกเพื่อนซึ่งควบตำแหน่งคนจ่ายเงินเดือนทิ้งให้อยู่รับหน้าลูกค้าเรื่องมากรายหนึ่ง แล้วหนีมานั่งดื่มสบายใจเฉิบคนเดียว “โธ่ ไอ้ทูดดดค้าบบ มึงก็พูดเหมือนไม่รู้ว่าคุณอาทิตย์เขากำลังจะแต่งงานอีกไม่กี่วันนี้อยู่แล้ว เขาก็ต้องรีบกินรีบเที่ยวรีบกลับบ้านซ้อมไว้ก่อนสิวะ เพราะอีกหน่อยแต่งงานแล้วเมียคงไม่ยอมให้ออกมาเที่ยวข้างนอก” น้ำเสียงติดสำเนียงพูดไม่ชัดสวนขึ้นกลางวงเหล้านี้เป็นหนุ่มร่างใหญ่เชื้อชาติอังกฤษชื่อ มาคัส คาร์เธอร์ เจ้าของธุรกิจอาบอบนวดชื่อดัง ซึ่งท้ายประโยคของหนุ่มผิวขาวยังมีเสียงหัวเราะห้อยท้ายมาด้วย เพราะจู่ๆ คนที่หวงแหนชีวิตอิสระอย่าง อาทิตย์ อัครราช ก็บอกกับทุกคนว่ากำลังจะแต่งงาน แถมยังเป็นวิวาห์สายฟ้าแลบอีกต่างหาก แล้วแบบนี้จะไม่ให้พวกเขาแซวแล้วแซวอีกได้ยังไงกัน ชายหนุ่มคนที่ตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกร่วมชั่วโมงคือ อาทิตย์ อัครราช เขาเป็นสถาปนิกหนุ่มอนาคตไกลที่ได้รับการยอมรับจากบรรดาลูกค้าที่เคยว่าจ้างรวมถึงเพื่อนร่วมอาชีพเดียวว่าเขาคือหนึ่งในสถาปนิกฝีมือเยี่ยม และเขาก็กำลังจะสละโสดตามที่เพื่อนแสนรู้ของเขาเพิ่งพูดมา “ทำไมกูจะไม่รู้ กูเนี่ยรู้จักมันดีกว่าใคร อีกอย่างกูบอกมาเป็นสิบปีแล้วว่ากูชื่อภู! ชื่อภูเว้ยย! เมื่อไหร่จะเรียกชื่อกูถูกครับ” หลังจากเจอลูกค้าเรื่องมากมาทั้งวันแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ภูวเนศก็เลยต้องหาที่ระบาย ประจวบกับที่มาคัสก็ไม่เคยเรียกชื่อเขาถูก แถมยังเปลี่ยนชื่ออันเป็นที่ภาคภูมิใจของเขาเสียจนน่าเกลียดอีกด้วย “ช่วยไม่ได้ก็ภาษาไทยกูไม่แข็งแรงนี่หว่า” หนุ่มผิวขาวหุ่นล่ำไหวไหล่สองข้างอย่างไม่ยี่หระต่อนิสัยขี้โวยวายของภูวเนศ “ถุยยย ไม่แข็งแรงอะไร เมื่อกี้ก่อนเข้ามามึงยังใช้ภาษาบ้านกูหลอกล่อสาวหุ่นบึ้มคนนั้นไปต่อที่อื่นอยู่เลย” ภูวเนศสวนกลับอย่างรู้ทันนิสัยรักสนุกของมาคัสพลางหันไปมองสาวสวยที่มาคัสเพิ่งจะเข้าไปหว่านเสน่ห์มา “กับผู้หญิงไทยกูพูดชัด แต่กับผู้ชายไทยกูพูดไม่ชัดเว้ยยย” ถ้าไม่ติดว่ามาคัสเป็นฝรั่งกล้ามโตแถมยังเพิ่งเรียนจบหลักสูตรแม่ไม้มวยไทยมาหมาดๆ ภูวเนศคงจะง้างหมัดปิดปากมาคัสไปแล้ว “ไอ้สาดดด กูขี้เกียจจะเถียงกับมึง ส่วนมึง คืนนี้เลี้ยงเหล้ากูแล้วก็โทรตามสาวสวยๆ มาให้กูเลย โทษฐานที่ทิ้งกูไว้จนกูเกือบจะเสียเอกราชให้คุณพินิจไปแล้ว” พอนึกถึงลูกค้ารายใหญ่ภูวเนศก็ทำท่าขยาดก่อนจะเอามือลูบแขนตัวเอง เพราะลูกค้าคนดังกล่าวมีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน และดูเหมือนว่าที่เจาะจงให้เขาเป็นคนออกแบบบ้านให้เพราะสนใจในตัวเขา ถ้าไม่ติดว่า ดนุนัย เพื่อนอีกคนของพวกเขาที่มีอาชีพเป็นทนายติดธุระด่วน เขาคงจะให้ตัดสินผิดถูกไปแล้ว “กูก็อยากอยู่ช่วยมึงนะ แต่บังเอิญว่ากูเป็นเจ้าของบริษัทและกูก็ต้องเอาความต้องการของลูกค้ามาก่อน” ท่าทางยียวนขณะกระดกวิสกี้ราคาแพงทำให้ภูวเนศแทบอยากจะง้างหมัดปิดปากอาทิตย์อีกคน ที่เอาหน้าตาอันหล่อเหลาของเขาไปหากินกับลูกค้าที่จ้องแต่จะลวนลามเขาให้ได้ แต่ภูวเนศก็ทำได้แค่ง้างหมัดไว้กลางอากาศเท่านั้นเพราะนอกจากอาทิตย์จะเป็นเพื่อนกินเพื่อนร่วมหัวจมท้าย อาทิตย์ยังเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้เขาดังที่เจ้าตัวกล่าว หากตัดนิสัยชอบใช้อำนาจไปในทางที่ผิด อาทิตย์ก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่คบหาได้คนหนึ่ง อีกอย่างในเวลางานอาทิตย์ก็เป็นเจ้านายที่ทุ่มเทให้กับการทำงานพอๆ กับพนักงานทุกคน แต่หากจะพูดให้ถูก อาทิตย์เป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงาน โดยไม่เคยโยนงานไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ไปให้ลูกน้องรับผิดชอบ ทั้งที่ถ้าเขาจะทำแบบนั้นก็สามารถทำได้ “ว่าแต่งานแต่งมึงเตรียมไปถึงไหนแล้ววะ เมื่อวานมึงเพิ่งไปลองชุดแต่งงานมาไม่ใช่เหรอ” พอคิดถึงปากท้องขึ้นมาภูวเนศก็ลืมทันทีว่าอาทิตย์ทำแสบอะไรกับเขาไว้บ้าง และพอพูดถึงเรื่องนี้ภูวเนศก็ทำท่าสนอกสนใจ เพราะเขาเชื่อว่าเจ้าสาวที่อาทิตย์ถึงขั้นแต่งเข้าบ้านจะต้องมีดีกว่าผู้หญิงที่ผ่านๆ มาอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นมีหรือที่คนไม่ชอบการผูกมัดจะยอมเอาโซ่เส้นใหญ่มาแขวนคอตัวเองแบบนี้ “อืม” คำตอบสั้นๆ มาพร้อมสายตาคมกริบที่จดจ่ออยู่กับแก้ววิสกี้เบื้องหน้าราวกับบนแก้วใบนั้นมีใบหน้าของเจ้าสาวปรากฏอยู่ “มีรูปไหมกูขอดูหน่อยดิ” คนขอไม่ได้รอฟังคำอนุญาต หยิบมือถือเฉียบบางที่วางอยู่ตรงหน้าเจ้าของมันขึ้นไปดูพร้อมกับกดรหัสปลดล็อกเองเสร็จสรรพ ก่อนที่สายตาแพรวพราวของภูวเนศจะให้ความสนใจกับรูปถ่ายในมือถืออย่างเห็นได้ชัด “พระเจ้าเว้ยยย พอใส่ชุดเจ้าสาวแล้วเมียในอนาคตมึงโคตรสวยเลยว่ะไอ้ทิต นี่ขนาดยังไม่แต่งหน้าทำผมนะ แล้วดูชุดเจ้าสาวสิ ใครเป็นคนเลือกวะ เย…เข้!” ระหว่างที่หนุ่มเจ้าสำราญกำลังพรรณนาถึงว่าที่เจ้าสาวของเพื่อนด้วยสายตาแทะโลมอย่างไม่เกรงใจเขาอยู่นั้น ภูวเนศก็ถูกเจ้าของมือถือแย่งคืนไปก่อนจะกระดกวิสกี้นุ่มลิ้นลงคอรวดเดียว ซึ่งอากัปกิริยาไม่คุ้นนี้มีหรือที่เพื่อนที่ร่วมหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมอย่างภูวเนศกับมาคัสจะดูไม่ออกว่าอาทิตย์จะต้องไม่พอใจแน่ๆ ที่เมื่อครู่ภูวเนศเสียมารยาทมองเนินเนื้อขาวๆ ที่โผล่พ้นออกมาจากชุดเจ้าสาวโชว์เนื้อหนังนั่น “ยังไม่ทันจะได้เขาเป็นเมียมึงก็ออกลายหวงของแล้วเหรอวะ อะแหน๊…ยังไง ยังไงวะไอ้ทีตตต” ภูวเนศชี้หน้าล้ออย่างนึกชอบใจที่ยังไม่ทันไรอาทิตย์ก็ทำท่าจะเป็นจงอางหวงไข่ซะแล้ว ซึ่งมาคัสก็ยังดูออก “ไร้สาระ” คนถูกล้อปฏิเสธทันควันพร้อมกับปัดนิ้วน่ารำคาญของภูวเนศออกจากใบหน้า ก่อนจะกระดกน้ำเมารสชาติดีลงคอรวดเดียวอีกครั้ง เขาไม่ใช่ประเภทจะไม่พอใจกับเรื่องแค่นี้หรอก “แปลว่ามึงไม่หวงคุณมุกเลยว่างั้น งั้นปาร์ตี้ตอนกลางคืนกูขอยืมตัวคุณมุกออกไปเต้นรำได้ไหมวะ ได้สินะ” “ก็ลองดูสิ” น้ำเสียงและสีหน้าเบื่อทุกคนบนโลกก่อนหน้านี้ฉายความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน ว่าเขาไม่อนุญาตให้ผู้ชายหน้าไหนมาแตะเนื้อต้องตัวว่าที่ภรรยาของเขา และถ้าขืนภูวเนศยังไม่เลิกสนใจเจ้าสาวของเขาล่ะก็… พรุ่งนี้เตรียมลาออกจากบริษัทได้เลย “ใจเย็นดิวะ กูก็พูดเล่นไปงั้นแหละ อย่างกูต้องมีสาวควงออกงานอยู่แล้ว ดีไม่ดีสาวๆ ทั้งงานมีแต่จะขอให้กูเต้นรำด้วย” ถึงทีที่ภูวเนศจะไหวไหล่บ้าง ซึ่งถึงแม้ว่ามาคัสจะเกลียดนิสัยหลงตัวเองของภูวเนศเขาก็ไม่ได้พูดอะไรแต่กลับหันไปคุยกับอาทิตย์แทน “แล้วตกลงมึงรักหรือไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นวะ” มาคัสติดนิสัยพูดจาตรงไปตรงมาจากเชื้อชาติและการเลี้ยงดู เขาเลยเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย ถึงแม้ว่าพวกเขาสองคนจะรู้จักกับอาทิตย์มานาน แต่บางครั้งก็ดูไม่ออกว่าในใจเพื่อนคิดอะไรอยู่ ทว่ากลับไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกจากปากของคนถูกตั้งคำถามนอกเสียจากสีหน้านิ่งขรึมที่ยากจะคาดเดาได้ “กูกลับก่อนนะ ลงบิลกูไว้แล้วกัน” “อ้าว เห้ย! ชิ่งกูสองคนง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอวะ กูสองคนเพิ่งมาเองนะเว้ย อยู่ดื่มด้วยกันก่อนสิไอ้ทิต ไอ้….!” ภูวเนศตะโกนไล่หลังคนที่เดินออกไปจากโต๊ะโดยไม่สนใจฟังเสียงของตนสักนิด เมื่อกลางวันอาทิตย์ก็เพิ่งจะทิ้งให้เขาอยู่รับมือลูกค้าโรคจิต ตอนนี้ยังจะหนีกลับก่อนอีก “เชิญมึงโวยวายไปคนเดียวเลย กูขอตัวล่ะ” ว่าแล้วเจ้าพ่อธุรกิจอาบอบนวดก็วางขาข้างที่ไขว่ห้างอยู่ลงพื้นก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะลุกออกไปจากโต๊ะแล้วเดินไปหาสาวสวยหุ่นบึ้มที่เชื่อมสัมพันธ์ไว้ก่อนหน้านี้ ทิ้งให้ภูวเนศนั่งอยู่คนเดียว ทว่าคนอย่างเขาก็ไม่ได้คิดจะโกรธเคืองเพื่อนเพราะเรื่องพวกนี้ เพราะตอนที่มาคัสก้าวออกไปจากโต๊ะเขาก็ให้บริกรของไนท์คลับจัดผู้หญิงมาปลอบใจถึงสองคน บนท้องถนนในยามวิกาลโล่งจนอาทิตย์สามารถใช้ความเร็วได้ดั่งใจ หลังจากทิ้งเพื่อนทั้งสองคนเอาไว้ที่ไนท์คลับอาทิตย์ก็ขับรถออกมาอย่างไร้จุดมุ่งหมาย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรตอนนี้เขาถึงได้ขับรถมาจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของผู้หญิงที่เขากำลังจะแต่งงานด้วยในอีกไม่กี่วันนี้ แสงไฟนีออนบนชั้นสองของตัวบ้านที่ยังเปิดสว่างอยู่นั้น ใบหน้าด้านหนึ่งที่มองเห็นไกล ๆ จากบานหน้าต่าง ทำให้เขาเกิดความสงสัยว ดึกป่านนี้แล้วทำไมเธอถึงยังนั่งทำงานอยู่ ปกติผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับการพักผ่อนหรือการดูแลตัวเองก่อนถึงวันแต่งงานไม่ใช่หรือไง ทว่าว่าที่เจ้าสาวของเขากลับไม่เป็นอย่างนั้น ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหนแล้วที่สายตาคมกริบยังคงจ้องมองไปยังชั้นสองของบ้าน ทุกอิริยาบถของเธอล้วนตราตรึงอยู่ในหัวใจโดยที่อาทิตย์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผู้หญิงธรรมดา ๆ เช่นเธอถึงดึงดูดสายตาเขาได้มากมายเพียงนี้ และเผลอไม่เท่าไหร่อาทิตย์ก็นั่งอยู่ในรถที่ไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์ร่วมชั่วโมง ซึ่งชัดเจนว่าจุดหมายปลายทางในค่ำคืนความสับสนหาใช่คลับบาร์ที่มีสิ่งยั่วยุหรือผู้หญิงสักคนนั่งเอาใจ หากแต่เป็นที่ที่เขาทำได้เพียงมองอยู่ไกล ๆ เท่านั้น เมื่อจอคอมพิวเตอร์ดับลงอาทิตย์ก็ขยับกายจากเบาะรถด้วยความรู้สึกเสียดาย สันนิษฐานว่ากว่ายี่สิบนาทีที่เธอไม่ได้อยู่ตรงหน้าต่างบานนั้นคงเพราะไปอาบน้ำ ทว่าอิริยาบถสุดแสนธรรมดาที่เจ้าของร่างบางแค่ยืนเช็ดผมที่ปียกนั้น กลับเป็นภาพที่ทำให้เขาไม่อาจละสายตาจากเธอแม้สักวินาที อีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น เสียงพึมพำดังขึ้นในความเงียบพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนมุมปากหยักหนา หลังจากที่ไฟในห้องนั้นมืดสนิทแล้ว สองเดือนก่อน “คุณผู้ชายรออยู่ในห้องทำงานค่ะ” เมื่อแขกคนสำคัญซึ่งคุณประภพแจ้งไว้เดินทางมาถึง ป้าจันทร์ซึ่งเป็นแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของบ้านอัครราชก็ออกมาต้อนรับขับสู้ทนายความประจำตระกูลที่ชื่อ ดนุนัย วงษ์วิวัตน์ ได้ยินดังนั้นทนายความหนุ่มก็เร่งฝีเท้าตรงไปยังห้องทำงานของเจ้าของบ้านตามที่ป้าจันทร์ได้แจ้งรายงาน “มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ” หลังได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง คุณประภพก็เอ่ยทักทนายความรุ่นลูกด้วยความเป็นกันเองเนื่องจากดนุนัยเป็นเพื่อนกับลูกชาย อีกทั้งครอบครัวของดนุนัยก็เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้ตระกูลอัครราชมาตั้งแต่รุ่นปู่ ความสัมพันธ์ของทนายความกับผู้ว่าจ้างจึงไม่ต่างจากญาติมิตร “คุณลุงเรียกผมมาวันนี้เพราะมีเรื่องสำคัญใช่ไหมครับ” หากไม่มีคดีความหรือเรื่องทรัพย์สินที่จะให้ดำเนินการ ทนายความเช่นเขาคงไม่ถูกเรียกตัวมาเป็นการด่วน ดนุนัยจึงเดาได้ทันทีว่าคุณประภพคงจะมีเรื่องสำคัญให้เขาทำอย่างแน่นอน “จำเรื่องที่ลุงเคยบอกเมื่อคราวที่แล้วได้ไหม” ทนายดนุนัยใช้เวลาตรึกตรองเพียงอึดใจเดียวก็ตอบกลับไปว่า” เรื่องลูกสาวของเพื่อนคุณลุงที่เสียไปแล้วใช่ไหมครับ” คุณประภพพยักหน้ารับก่อนจะส่งซองสีน้ำตาลไปให้อีกฝ่าย ข้อความในกระดาษได้ระบุเรื่องสำคัญอย่างที่ทนายความหนุ่มคาดการณ์เอาไว้ “แล้วคุณลุงเลือกได้หรือยังครับว่าจะเป็นพี่กรหรือไอ้ทิต” พอดนุนัยเข้าประเด็น สายตาของคุณประภพก็ฉายความกังวลอย่างเห็นได้ชัด เพราะที่วันนี้คุณประภพเรียกทนายความมาหาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก “ลุงว่าจะไปคุยกับกร เราคิดว่าไง” “บอกตามตรงนะครับระหว่างสองคนนี้ ผมว่าพี่กรน่าจะคุยง่ายกว่าถ้าเทียบกับไอ้ทิต” ด้วยความเป็นเพื่อนมาตั้งแต่เด็กดนุนัยจึงรู้จักนิสัยใจคอลูกชายคนนี้ของคุณประภพดี สถาปนิกหนุ่มผู้หวงความโสดราวกับสมบัติพันล้านแถมยังบ้างานอีกต่างหาก ดนุนัยจึงคิดว่าคนหัวรั้นอย่างนั้นไม่มีทางจะยอมฟังคำขอจากพ่อของเขาแน่ ๆ “ลุงก็คิดอย่างนี้” คุณประภพเห็นด้วยกับความคิดของทนายหนุ่ม ภาสกร บุตรชายคนโตเชื่อฟังคำพูดบิดามาแต่ไหนแต่ไร และยิ่งคุณประภพมีเหตุผลในการใช้โน้มน้าวลูกชายตัวเอง เชื่อว่าการคลุมถุงชนครั้งนี้น่าจะมีความเป็นไปได้ “แต่ยังไงลุงก็ไม่อยากใช้วิธีบังคับ” “ยังไงเหรอครับ” ทนายดนุนัยถามด้วยความสนอกสนใจ “มุกรินไม่ใช่ผู้หญิงขี้ริ้วขี้เหร่ที่จะไม่มีผู้ชายมาสนใจ ลุงเลยคิดว่าจะให้เขาสองคนได้ทำความรู้จักกันดูก่อน” “ก็ดีนะครับ เผลอๆ พี่กรอาจจะสนใจลูกสาวของเพื่อนคุณลุงจนมาพูดกับคุณลุงเองก็ได้” ดนุนัยเห็นด้วยกับความคิดนี้ เท่าที่เขาเคยเจอสองสามครั้งเธอคนนั้นเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งทำงานเก่ง แล้วเธอยังเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากคนหนึ่ง ดนุนัยจึงเห็นว่าการคลุมถุงชนคราวนี้อาจจะง่ายกว่าที่คิด “งั้นลุงฝากจัดการเอกสารพวกนี้ให้ด้วยนะ” “ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด ว่าแต่คุณลุงคิดดีแล้วเหรอครับ” พินัยกรรมที่คุณคุณประภพเขียนขึ้นมาใหม่เพื่อการคลุมถุงชนนี้โดยเฉพาะอาจทำให้ลูกชายอีกคนเกิดความไม่พอใจผู้เป็นพ่อได้ ดนุนัยในฐานะทนายความจึงต้องถามให้แน่ใจอีกครั้ง ซึ่งคุณประภพเองก็ได้ยืนยันคำตอบด้วยความหนักแน่น “อืม ลุงคิดดีแล้ว ไม่ว่ายังไง ลุงก็อยากทำตามที่เคยตั้งใจเอาไว้” ดนุนัยรับคำสั่งในทันที ทว่าทนายความหนุ่มที่สามารถเอาชนะคดีความมานักต่อนัก กลับเดาไม่ออกเลยว่าทำไมตอนนี้สายตาของชายวัยกลางคนจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดมากมายขนาดนั้น

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.7K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.4K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.3K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook