ตอนที่ 5 / 1

1859 คำ
เสร็จสิ้นการประชุมแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาของการบันทึกภาพถ่ายร่วมกัน แต่ละคนก็ล้วงมือถือจากกระเป๋าขึ้นมาถ่ายภาพเตรียมจะอัปลงในอินสตาแกรม หรือเฟซบุ๊กเพื่อบอกเล่าเรื่องราวว่าวันนี้ได้มาทำอะไร ที่ไหน กับใครบ้าง                         และสลิลทิพย์ ก็ไม่พลาดโอกาสที่จะเก็บรูปถ่ายคู่กับพระเอกคนใหม่ให้แฟนคลับช่วยจิ้นช่วยส่งแรงเชียร์ให้เธอและเขาทั้งในจอและนอกจออีกด้วย แน่นอน นางเอกสาวคิดว่าหากมีรูปถ่ายแนบชิดกับพระเอกคนนี้ลงอินสตาแกรมแล้ว จะต้องมีเสียงกรี๊ดกร๊าด ตื่นเต้นของแฟนคลับเกิดขึ้นเป็นแน่ แม้ก่อนหน้าจะมีข่าวให้เหล่าแฟนคลับเธอทราบอยู่แล้วว่า เธอและอรุษกำลังจะมีผลงานละครร่วมกันอยู่ แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปร่วมเฟรมกันเพื่อยืนยันให้แฟนคลับได้ฟินกันเลย                         แรงอะไรก็ไม่เท่ากับแรงเชียร์แรงส่งจากเหล่าแฟนคลับหรอกน่า หากเป็นไปได้ดี เธอและอรุษก็อาจจะเป็นคู่จิ้นของช่องอีกคู่ก็เป็นได้ แถมยังส่งผลถึงความสัมพันธ์นอกบทนอกจอที่สลิลทิพย์ก็คาดหวังที่จะให้เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เสียด้วย                 อรุษกำลังเดินปลีกตัวจากคนอื่น ๆ ที่กำลังเซลฟี่กันอยู่ เขาตั้งใจจะไปหยิบกาแฟเจ้าดังที่ขนิษฐ์ได้สั่งมาเลี้ยงคนในห้องนี้ สลิลทิพย์ที่กำลังถ่ายรูปอยู่กับชาร์มดาราหนุ่มอีกคน เธอหันไปขอตัวจากชาร์ม แล้วรีบเดินตรงไปหาอรุษ ก่อนจะเรียกเขาไว้ทันที      "พี่รุษ..."                                                          ชายหนุ่มหันหลังกลับ พลางขานรับ "ครับ น้องน้ำฝน" "เซลฟี่ด้วยกันหน่อยมั้ยคะ"                                      "อ้อ ได้" อรุษเลยเปลี่ยนใจจากที่จะเดินไปยังโต๊ะที่จัดวางแก้วกาแฟหลากหลายรสชาติ แล้วเดินกลับมาหานางเอกแสนสวยแทน พลางยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยื่นหน้าลงไปใกล้หน้าหมวย ๆ ของเธอ แล้วสลิลทิพย์ก็ชูมือถือตัวเองขึ้นมา เพื่อจัดเก็บภาพร่วมกันกับเขา จนเป็นที่พอใจจึงหันมาบอกเขาว่า "เดี๋ยว น้ำฝนจะแท็กไปหานะคะ"                                                              "ครับ" เขารับคำสั้น ๆ จากนั้นดาราสาวสวยก็ก้มหน้าก้มตาโพสต์ภาพที่เพิ่งถ่ายร่วมเขาลงอินสตาแกรม ส่วนอรุษเองก็เดินไปหยิบแก้วกาแฟที่มีชื่อของเขาติดเอาไว้ ก่อนจะใช้มืออีกข้างล้วงมือถือจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเปิดไปที่แอปพลิเคชันชื่อดัง ไม่นาน...เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น                                                 เป็นสลิลทิพย์นั่นเองที่ได้แท็กมาหาเขา ชายหนุ่มกดเข้าไปดูรูปที่เขาเพิ่งถ่ายร่วมกับเธอทันที ไม่มีแคปชั่นใต้รูป ภาพมีเพียงหัวใจสองดวงวางคู่กัน ซึ่งอรุษก็ไม่ใส่ใจ เข้าใจแค่ว่า นางเอกสาว จงใจทำให้แฟนคลับกรี๊ดกร๊าดเล่นกันเท่านั้นเอง จากนั้นจึงกวาดสายตาอ่านความคิดเห็น ที่แฟนคลับของอีกฝ่ายกรูเข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วยความตื่นเต้นกันว่า                          'กรี๊ด! เรื่องใหม่ใช่มั้ยคะ น้องน้ำฝน'                                   'พี่นี่...ตั้งตารอดูเบย'                                                            'กรี๊ดดดด! ในที่สุดก็มีวันนี้ วันที่น้องน้ำฝนมีละครคู่กับน้องรุษ'   'โอ๊ย ดีใจยิ่งกว่าถูกหวย ต้องเป็นคู่จิ้นฟินเวอร์อีกคู่แน่ ๆ เตรียมจิกหมอนจิ้น ๆ ๆ ๆ สินะ'                                        'เหมาะสมกันเลย อยากให้นอกจอก็เป็นแฟนกันด้วย'            'แค่รูป ยังรู้เลยว่าเคมีดีงาม ตั้งตารอเลยจ้าาาาา' จากนั้นก็มีอีกเป็นร้อย ๆ ความคิดเห็นที่หลั่งไหลเข้ามา จนชายหนุ่มทนอ่านไม่หวาดไม่ไหว เขาเพียงแค่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีกับความดีใจจากเหล่าแฟนคลับของเธอและของเขาเท่านั้น         แล้วชายหนุ่มจึงกดออกจากแอปพลิเคชันนี้ แต่นิ้วมือมือดันเลื่อนไปกดรูปที่ดาราสาวได้โพสต์เอาไว้ก่อนหน้าแทน               อรุษขมวดคิ้วเข้มเข้าด้วยเล็กน้อย ด้วยชุดเสื้อผ้าของสลิลทิพย์ที่ใส่ในรูปก็เป็นชุดเดียวกันกับที่เธอใส่มาในวันนี้ แสดงว่านี่เป็นเหตุการณ์นี้ที่เพิ่งเกิดขึ้น เอ๊ะ! สถานที่ก็เหมือนกับจะเป็นที่หน้าบริษัทของพี่ขนิษฐ์ด้วยซ้ำไป                                                ชายหนุ่มเลื่อนอ่านแคปชั่นนั้นด้วยความสนใจต่อ                 'ขณะที่น้ำฝนกำลังจะเข้ามาที่บริษัทพี่นิด เห็นรถเฉี่ยวชนกันก็รีบลงไปช่วย โชคดีที่ป้าคนนี้ไม่เจ็บมากมาย เฮ้อ ดีใจที่ได้ลงมาช่วย แม้ไม่มากแต่น้ำฝนก็มีความสุขคะ'                                 อรุษเงยหน้าขึ้น มองคนที่เพิ่งทำความดีและกำลังตระเวนถ่ายรูปคู่กับนักแสดงคนอื่นและผู้กำกับอยู่ ไม่เห็นเจ้าตัวจะเล่าให้คนในห้องนี้ฟังเลยว่า ก่อนหน้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่หน้าบริษัทนี้ และพอชายหนุ่มก้มหน้าเลื่อนดูอีกรูปที่เห็นหน้าคนเจ็บได้ชัดเจนกว่า เขาถึงกับสำลักน้ำกาแฟที่อยู่ในปากออกมาทีเดียว    ก็ 'ป้า' ที่น้องน้ำฝนได้ช่วยไว้ นี่ก็คือผู้หญิงคนเดียวกันกับที่เขาเจอไปเมื่อคืนและเมื่อเช้านี้อีกแล้ว นี่นา!                                  เช้านี้ที่บริษัทมัน(ส์)ดีก็จะวุ่นวายอยู่สักหน่อย เพราะวันนี้มีพิธีบวงสรวงเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ สถานที่บวงสรวงก็อยู่ที่หน้าบริษัท โดยฤกษ์ที่เริ่มทำพิธีก็คือเวลาเก้านาฬิกาเก้านาที หลังจากเสร็จสิ้นการบวงสรวงแล้ว ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนถ่ายรูปและสัมภาษณ์ผู้จัด ผู้กำกับและเหล่านักแสดงของเรื่องต่อ ส่วนในตอนบ่าย จะเป็นการฟิตติ้งชุดนักแสดงหลักของเรื่องเพิ่มที่สตูดิโอภายในบริษัทนี้นั่นเอง                            ปวริศาและเอมี่มาถึงบริษัทแห่งนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะต้องมาเตรียมงานในส่วนของฝ่ายเสื้อผ้าสำหรับงานในวันนี้ทั้งหมด          แม้จะผ่านงานคอสตูมจากละครหลาย ๆ เรื่องมาแล้ว แต่เธอก็อดที่จะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ ยามที่ต้องมาเห็นกองทัพนักข่าวสายบันเทิงที่ได้ทยอยมารอทำข่าว และรอสัมภาษณ์นักแสดงของเรื่อง และนอกจากกองทัพนักข่าวแล้ว ก็ยังมีแฟนคลับของพระเอก นางเอกบางส่วนที่ได้มาปักหลักรอเพื่อให้กำลังใจนักแสดงที่ตัวเองชื่นชอบอีกเช่นกัน แต่เหล่าแฟนคลับพวกนี้ก็ไม่ได้มาปะปนหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับทางทีมงานเลย ก็แค่มายืนให้กำลังใจพร้อมกับชูป้ายไฟเชียร์อยู่ห่าง ๆ เท่านั้น                      และถ้าจะบอกว่าจำนวนแฟนคลับที่มาในวันนี้ ระหว่างพระเอกและนางเอกของใครมีมากกว่ากัน หากกะด้วยสายตาอย่างคร่าว ๆ แล้ว ปวริศาว่า ก็คงจะมีจำนวนพอ ๆ กัน แถม...เธอยังเห็นป้ายไฟที่อ่านออกว่า...                                                        'รุษ?น้ำฝน' อีกหลายอันด้วย                                         ปวริศาเห็นแล้วก็นึกอยากจะส่งเสียงคำว่า 'แหม...' ยาวไปสักหนึ่งรอบโลกเลยทีเดียว เพราะไม่ทันไร ก็มีงานป้ายไฟคู่จิ้นเกิดขึ้นมาแล้ว                                                                         หญิงสาวยังชำเลืองดูป้ายไฟเหล่านั้น ที่แฟนคลับถือต่ออีกเล็กน้อย ไม่ใช่ดูด้วยความรู้สึกขวาง หรืออิจฉาอะไรหรอกนะ เธอก็แค่คิดว่า งานคู่จิ้นจะไวเว่อร์เกินไปแล้ว ชนิดที่ว่าละครยังไม่ทันได้ถ่ายทำสักฉากด้วยซ้ำไป!                                                และครั้น หญิงสาวเข้ามาที่ห้องแต่งหน้า แต่งตัวของทีมนักแสดงแล้ว ปวริศาก็ยุ่งวุ่นวายอยู่เก็บเสื้อผ้าที่ช่วยกันขนมาตั้งแต่เช้า เสื้อผ้าบางชุดแม้จะผ่านการรีดแล้ว หากเห็นรอยยับย่นแม้เพียงน้อยนิดก็ต้องนำมารีดใหม่ เพราะดาราบางคนจะเนี๊ยบมาก เห็นรอยยับย่นแม้เพียงนิดก็ไม่ได้ จะไม่ยอมหยิบมาสวมใส่เลยทีเดียว                                                                         และแม้เสื้อผ้าบางชุดบางตัว ถึงจะผ่านการตรวจตราความเรียบร้อยเป็นอย่างดีมาแล้ว หากวันจริงก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นมีรอยเกี่ยวขาด ตะเข็บแตก ซิปเสีย ตะขอหลุด นั่นก็ต้องอยู่ในการแก้ไขอย่างเร่งด่วนของทีมเสื้อผ้าอีก ดังนั้น ทักษะบางอย่างเช่น เย็บ ปัก สอยตะเข็บ พวกนี้ทีมเสื้อผ้าจึงต้องมีติดตัวกันแทบทุกคน               ขณะที่มัวแต่ก้มหน้าทำงานตามหน้าที่ คือจัดเรียงลำดับชุดไว้รอให้นักแสดงใส่ฟิตติ้งในตอนบ่าย นักแสดงบางคนที่มาถึงแล้วก็เริ่มแต่งหน้าทำผม พร้อมที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่มีการจัดเตรียมให้ตรงกับคาแรคเตอร์ของตัวละครนั้น ๆ ต่อไป สำหรับพระเอก ชุดที่ใส่สำหรับวันบวงสรวงและให้สัมภาษณ์นักข่าว ก็เป็นชุดสูทอย่างดีตามแบบฉบับหนุ่มนักธุรกิจมาดเพลย์บอยนิด  ๆ ส่วนนางเอกที่อยู่ในวัยใส ๆ ก็เป็นเอี๊ยมยีนส์กับเสื้อยืดสีขาว พร้อมกับทำผมถักเปียเอาไว้ทั้งสองข้าง เพื่อช่วยกระชากวัยนางเอกลงมาให้เท่ากับอายุของตัวละคร ที่อยู่ในช่วงอายุสิบแปดสิบเก้าปีประมาณนั้น                                        พูดถึงเรื่องอายุ ปวริศายังแอบเคืองสลิลทิพย์อยู่ไม่หาย วันนั้น... ตั้งแต่บ่ายที่เธอเดินเลือกซื้อผ้าอยู่ที่พาหุรัดกับเอมี่ จนกลับมาถึงที่ห้องพัก ก็มีแต่คนรู้จักทักแช็ตมา ไลน์มาหา แน่นอนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของข้อความที่ทักมา ไม่ได้เป็นข้อความเชิงแสดงความห่วงใยจากอุบัติเหตุเล็กน้อยนั่นเลย มีแต่จะมาทับถมเรียกเธอว่า 'ป้า' ตามคุณน้องน้ำฝนกันทั้งนั้น...                             หึ ช่างเป็นเรื่องที่บ้าบอสิ้นดี!      กำลังคิดถึงเรื่องราวที่จู่ ๆ ก็ต้องตกไปเป็นข่าวตามสื่อโซเซียลอยู่เพลิน ๆ เกิดเสียงกรี๊ดกร๊าดภายนอกอาคารขึ้นมาอีกระลอก หญิงสาวมองผ่านกระจกออกไป ก็เห็นพระเอกหนุ่มของเรื่องที่เพิ่งมาถึง เขาลงจากรถส่วนตัวแล้วหมุนตัวไปโบกมือทักทายแฟนคลับที่อยู่ในที่ทางที่ทีมงานจัดให้                               ปวริศารีบวางเตารีดที่กำลังรีดเสื้อตัวหนึ่งอยู่ ใช้มือข้างนั้นทาบกับหน้าอกข้างซ้ายเบา ๆ พลางนิ่วหน้าตามเล็กน้อย การที่หัวใจของเธอเริ่มเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ขึ้นมานี่ เพราะมันกำลังตื่นเต้นกับงานตรงหน้า หรือเพราะ ร่างสูงที่กำลังส่งยิ้มอย่างกว้างขวางให้กับเหล่าแฟนคลับเขาอยู่นั่น...                           "ศา เสื้อของน้องชาร์มได้หรือยัง?"                                     "ดะ... ได้แล้วค่ะพี่มี่" ปวริศารับคำลนลานเล็กน้อย ก่อนจะหยิบเสื้อที่เพิ่งรีดใหม่ให้อีกฝ่ายดู                                               เอมี่จึงทำหน้าโล่งอก เพราะแม้ภายนอกจะดูเฟรนด์ลี่มาก แต่ดาราหนุ่มที่มีนามว่าชาร์มนี่ก็คือที่สุดของที่สุดในเรื่องความเนี๊ยบเลยทีเดียว                                                    
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม