ตอนที่ : 6 ติดเกาะ

1180 คำ
3 ติดเกาะ จารวีค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลงอย่างเหนื่อยล้า สายลมเอื่อย ๆ กับคลื่นทะเลเบา ๆ ทำให้เธอหลับสนิทลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีเม็ดฝนก็ตกใส่หน้าจนเจ็บ หญิงสาวลืมตาขึ้นมาก็พบว่าท้องฟ้ามืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว ลมพายุฝนรุนแรงจนน่ากลัว ต้องรีบวิ่งกลับไปหาทัพพ์ที่บ้านอย่างร้อนใจ “คุณทัพพ์อยู่ไหมคะ ! คุณทัพพ์ ! คุณทัพพ์ !” จารวียืนอยู่หน้าบ้านพักแล้วตะโกนเรียก แต่เหมือนเขาจะไม่ได้ยินเพราะเสียงลมค่อนข้างแรง จึงตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไปเคาะประตูห้องของเขาแทน ก๊อก ก๊อก ก๊อก “คุณทัพพ์นี่ฉันเองนะคะ” เจ้าของบ้านเปิดประตูออกมาเขายังอยู่ในชุดเดิม มองเธอด้วยสายตากึ่งเยาะหยันเล็กน้อย เหมือนรู้ว่าอย่างไรเสียเธอก็ไปไหนไม่พ้น “เข้ามาสิ” เขาเปิดประตูออกกว้างเพื่อเชื้อเชิญคนตรงหน้า จารวีมองเขาเหมือนคนไม่น่าไว้วางใจ แต่ก็ยอมก้าวขาตามเข้าไปในบ้านแต่โดยดี “ไม่มีเรือเลย ฉันกลับบ้านไม่ได้” เดินเข้ามาภายในบ้านพักของเขาแล้ว จารวีก็บอกเขาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไรนัก “ก็ผมบอกแล้วไม่เชื่อเอง นั่งก่อนสิ” ภายในบ้านพักแบ่งเป็นห้องนั่งเล่นห้องนอนและห้องครัว จารวีมองไม่เห็นห้องน้ำ คงจะอยู่ข้างในห้องนอนอีกที “บ่ายสองเองทำไมมันมืด ๆ แบบนี้ล่ะ” หญิงสาวเปรยเบา ๆ ระหว่างยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นดู “พายุเข้าท้องฟ้าปิดก็แบบนี้แหละ” อีกคนพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติของที่นี่ “คุณทัพพ์ฉันอยากกลับฝั่ง” “ตลกแล้วคุณ ฟ้ามืดมัวฝนแบบนี้ใครเอาเรือออกก็โง่แล้ว อีกอย่างเรือที่เกาะก็ไม่มี ช่วงนี้เอาเรือไปเข้าอู่ตรวจสอบสภาพกันยกทีม จะมาอีกทีสองสามวันโน่น” “สองสามวัน นี่คุณบ้าหรือเปล่า ไม่มีเรือแล้วยังจะให้ฉันเอาสินสอดมาคืนที่นี่อีก” หญิงสาวกัดฟันกรอดอย่างโมโห นี่มันจงใจกลั่นแกล้งกันชัด ๆ เปรี้ยง ! “ว้าย !” เสียงฟ้าผ่าอยู่ใกล้ ๆ ทำจารวีสะดุ้งสุดตัว ส่วนเจ้าของบ้านพักนั้นได้แค่ปรายตามองนิ่ง ๆ “ยังไงวันนี้คุณก็ต้องนอนนี่” “นอนนี่ ! คุณจะบ้าเหรอ ให้ฉันมานอนกับคุณได้ยังไง เอ่อ อย่างน้อยถ้ากลับไม่ได้จริง ๆ คุณก็เปิดห้องพักให้ฉันสักหลังสิ” จารวีพยายามนึกหาทางออกให้ตนเองอยู่ “บ้านพักลูกค้าถูกตัดไฟฟ้าหมดแล้ว เพราะอยู่ในช่วงซ่อมแซม เลยตัดกระแสไฟหมดทุกหลัง อยากไปนอนก็ได้นะเดี๋ยวผมหาตะเกียงให้อันหนึ่ง” “ตะเกียงหมายความว่าไง” “ก็หมายความว่าทั้งเกาะนี่มีแค่บ้านพักหลังน้อยของผมนี่แหละที่มีไฟฟ้าใช้แค่หลังเดียว เข้าใจอะไรยากเหลือเกินนะแม่คุณ” “ก็เพราะคุณนั่นแหละ ที่ทำให้ฉันต้องมาติดอยู่บนเกาะนี่” “ช่วยไม่ได้” ทัพพ์แบมือยักไหล่ให้หญิงสาว “แล้วฝนมันจะตกแบบนี้นานไหม” จารวีเอ่ยเบา ๆ เหมือนถามตัวเองมากกว่า เพราะรู้สภาพอากาศบนฝั่งอยู่แล้ว “มันก็ตกแบบนี้ทั้งวันไม่ต่างจากฝั่งหรอก ยิ่งช่วงสองสามวันนี้ด้วยท่าจะยาวถึงเย็น” จารวีได้ยินแล้วก็ถอนหายใจยาว ๆ ออกมา หญิงสาวมองคนตรงหน้าพร้อมขมวดคิ้ว เหมือนใช้ความคิดอะไรบางอย่างอยู่ “คุณทัพพ์เรามาคุยกันด้วยเหตุผลดี ๆ กันเถอะ” เมื่อเห็นว่าทั้งเกาะมีแค่เธอกับเขา และพายุฝนที่ไม่มีทีท่าจะหยุดตกง่าย ๆ จารวีเริ่มตระหนักว่าเธอกับเขาไม่ควรหาเรื่องทะเลาะกันจะดีกว่า “ผมก็คุยดี ๆ อยู่นี่ไงไม่เห็นรึ” เขาพูดพร้อมเอียงหน้าใส่เธอ “มือถือฉันไม่มีสัญญาณเลยตั้งแต่มาถึงที่เกาะ” “ไม่มีสัญญาณเลย ?” ทัพพ์ทำหน้าแปลกใจอีกรอบ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย “ใช่ค่ะ ฉันติดต่อกับแม่ไม่ได้ บอกใครก็ไม่ได้ว่าตัวเองอยู่นี่ แล้วคุณล่ะ คุณติดต่อกับคนบนฝั่งยังไง” คนถามมองไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน เหมือนต้องการหาเครื่องมือสื่อสารของเขา “ก็มือถือนี่แหละ แต่คุณบอกไม่มีสัญญาณก็คงไม่มีมั้ง ฝนฟ้าแบบนี้สัญญาณมันอาจหาย” เขาพูดแล้วเสไปมองทางอื่น “แต่ตอนฉันมาถึงที่นี่ฝนมันยังไม่ตกเลยนะ” “แล้วผมจะไปรู้ไหมล่ะ มือถือก็มือถือคุณใช่ของผมที่ไหน” “นี่คุณ ! เอ่อ ทางบ้านฉันต้องเป็นห่วงฉันแน่ที่หายตัวมาแบบนี้ แม่ฉันอาจจะแจ้งความก็ได้” โกรธก็โกรธแต่จารวีต้องพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ “แล้วไง” ดูเขาไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เลย “ก็แม่ฉันรู้ไงว่าฉันเอาสินสอดมาคืนคุณ” จารวีอยากให้เขารับรู้ว่ามีคนรู้ว่าเธอเดินทางไปไหนมาไหน “แม่ฉันอาจโทรศัทพ์ไปถามแม่คุณก็ได้” หญิงสาวยกเหตุความเป็นได้มาอ้าง “อืม” “นี่คุณทัพพ์คุณช่วยพูดอะไรมากกว่านี้ได้ไหม สรุปว่าวันนี้ฉันกลับฝั่งไม่ได้ คุณจะให้ฉันทำยังไง” “คุณนี่ก็แปลก กลับไม่ได้ก็นอนนี่สิ จะมาโวยวายใส่ผมทำไม” “ก็คุณบอกไฟฟ้าที่บ้านพักลูกค้าไม่มีใช้ แล้วคุณจะให้ฉันนอนที่ไหน” หญิงสาวเริ่มจะทนไม่ไหวกับความเฉยชาของเขา “ก็นอนบ้านของผมนี่ไง” ชายหนุ่มบอกพร้อมผายมือออกทั้งสองข้าง “นอนนี่ ! คุณจะบ้าเหรอ จะให้ฉันมานอนกับคุณได้ยังไง” “งั้นก็บ้านพักลูกค้าโน่น ไปสิ ไปเลย เดี๋ยวไปหยิบกุญแจให้เดี๋ยวนี้เลย” เขาชี้นิ้วไปทางบ้านพักลูกค้าเป็นเชิงไล่ จารวีมองเขาตาปริบ ๆ ฝนตกหนัก ไฟฟ้าไม่มีใช้ ท้องฟ้าก็มืดครึ้มแบบนี้ จะให้เธอไปอยู่บ้านพักที่ไม่มีแสงสว่าง ไร้ซึ่งผู้คนเพียงลำพังอย่างนั้นเหรอ อยู่กับเขาหรืออยู่คนเดียวอันไหนน่ากลัวกว่ากัน เปรี้ยง ! “อ๊าย !” หญิงสาวกรีดเสียงร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อพายุฝนกระหน่ำหนักกว่าเดิม ตามด้วยเสียงฟ้าผ่าลงมาเป็นระยะ เปรี้ยง ! เปรี้ยง ! “โอ๊ย ! เอาเป็นว่าฉันนอนนี่ก็ได้ แต่ว่า คุณห้ามไปบอกใครนะว่าฉันนอนนี่กับคุณ” จารวีตั้งข้อแม้กับเขา “เฮ้อ เรื่องมากจริงแม่คุณ” ทัพพ์มองอีกคนแล้วส่ายหน้าไปมา เขามีหลายเรื่องอยู่ในหัวตอนนี้ โดยเฉพาะเรื่องแม่สาวน้อยคนสวยตรงหน้า ทำไมมารดาของเขาถึงไม่มีคนนี้อยู่ในตัวเลือกตั้งแต่แรก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม