ตอนที่ : 2 ว่าที่เจ้าสาวถูกแย่ง 2

1411 คำ
“แม่คะ ใจเย็น ๆ ค่ะ” จารวีรีบแตะข้อศอกของมารดา ก่อนที่ท่านจะโมโหมากไปกว่านี้ “วีว่าพี่ดาวกลับมาอยู่บ้านเราก่อนไหมคะ” คนเป็นน้องสาวหันไปพูดกับพี่สาวตัวเองบ้าง “ไม่ยัยวีถ้าพี่ทำแบบนั้น ผู้หญิงคนอื่นที่จ้องจะจับคุณชยินก็ได้ใจสิวี พี่จะอยู่ที่บ้านหลังแหละทวงสิทธิ์ของพี่” จันทร์ดาวเอ่ยถึงสิทธิ์ที่เธอพลาดพลั้งพลีกายให้เชยชมอย่างยินยอม “ดาวลูกไม่สงสารคุณทัพพ์เขาเหรอลูก” นางสมรถามลูกสาวอีกรอบ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมายกเลิกกันได้ง่าย ๆ แบบนี้ “แม่คะ คุณทัพพ์ของแม่วัน ๆ อยู่แต่บนเกาะโน่น เขาไม่มาสนใจอะไรดาวหรอกค่ะ หน้าดาวจำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าแม่เขาไม่อยากให้เขามีเมียมีหรือเขาจะมาสู่ขอดาว” จันทร์ดาวไม่ได้เจอหน้าทัพพ์มาหลายปีแล้ว หญิงสาวจึงไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเรื่องนี้ แตกต่างจากชยินที่เทียวรับเทียวส่งเอาใจเธอสารพัด หากจะต้องเลือกสามีเธอก็ต้องเลือกชยิน ดีกว่าคนที่ชอบเกาะมากกว่าเมืองอย่างทัพพ์ “แล้วทำไมพี่ดาวไม่ปฏิเสธไปตั้งแต่แรกละคะ ทำแบบนี้คุณทัพพ์เขาเสียหายนะคะ” “จะเสียหายอะไร ผู้ชายคนนั้นเคยมีเมียมาก่อนแล้วก็เคยถูกเมียทิ้งด้วย เขาน่าจะชิน ๆ แล้วนะพี่ว่า” หลังจันทร์ดาวพูดจบเสียงถอนหายใจของสองแม่ลูกดังขึ้นพร้อมกัน จารวีหันไปมองหน้ามารดาก่อนจะยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่ม เธอคงไม่สามารถทำให้พี่สาวเปลี่ยนใจได้ หากเจ้าตัวต้องการอยู่ในบ้านของชยินก็คงไม่มีใครห้ามได้เหมือนกัน “ดาวกลับก่อนนะคะแม่” จันทร์ดาวทนความอึดอัดต่อไปไม่ไหวรีบขอตัวกลับในทันที “ยัยดาว” “คะแม่” “เอาสินสอดไปคืนคุณป้าพรเขาด้วยตัวเองล่ะ แม่ไม่ไป” “แม่ !” จันทร์ดาวตกใจกับเรื่องที่มารดาเอ่ยออกมา เธอไม่ทันได้ตั้งรับในเรื่องนี้ เรื่องที่ต้องเผชิญหน้ากับทัพพ์ “แม่ไม่ไปเด็ดขาดแม่อายเขา” นางสมรยื่นคำขาดแล้วลุกเดินขึ้นบันไดบ้านไป ส่วนตัวต้นเรื่องก็ยืนอึ้งมองซ้ายทีขวาที ก่อนจะหยุดตรงน้องสาวของตัวเอง “ยัยวีเรื่องสินสอด เราเอาไปคืนคุณป้าพรแทนพี่ก็แล้วกัน” “อะไรนะพี่ดาว ทำไมโยนมาให้วีแบบนี้ละ” “จัดการด้วยนะ พี่กลับก่อนล่ะ” พูดเสร็จจันทร์ดาวก็แทบจะเดินแกมวิ่งออกจากห้องรับแขกของบ้านไป “อ้าว ! พี่ดาวอย่าเพิ่งไปสิ แม่คะ แม่ !” จารวีเรียกทางไหนก็มีแต่คนเดินหนี ท้ายที่สุดเธอจำต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยตัวเองจนได้ จารวีเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ มาหมาด ๆ หญิงสาวยังไม่ได้เริ่มต้นหางานทำด้วยซ้ำ คนในบ้านกลับโยนปัญหาเรื่องการคืนสินสอดมาให้ ครอบครัวของฝ่ายชายเธอเองก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แทบไม่เคยได้พูดคุยกันด้วยซ้ำ เพราะไปเรียนอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่จบมัธยมปลาย “แม่คะ ไปคืนสินสอดกับวีนะคะ” หญิงสาวเดินไปคะยั้นคะยอมารดาอีก หลังจากรบเร้าไปหลายรอบก่อนหน้านี้แล้ว “ไม่ยัยวี แม่ไม่ไปแม่ไม่กล้าเอาหน้าไปสู้เขาหรอก วียังเด็กน่าจะไม่ต้องอายอะไรมากนัก” “แม่คะมีแต่เขาจะให้ผู้ใหญ่ไปคุยกันนะคะ ให้วีไปแบบนี้เดี๋ยวเขาหาว่าเราไม่ให้เกียรติเขาหรอก” “พี่สาวเราหักหน้าเขาขนาดนั้น คิดว่าเขากับเรายังจะมีเกียรติต่อกันอยู่เหรอยัยวี แค่เอาสินสอดไปคืนเขาเฉย ๆ บอกว่าแม่ไม่สบายเข้าโรงพยาบาลอะไรก็ว่าไปสิ” คนเป็นแม่ยืนกรานเรื่องไม่ไปท่าเดียว “แม่คะ” “เห็นแก่แม่หน่อยนะวี แม่เองก็ไม่อยากคืนเหมือนกัน เงินเป็นล้านทองหยอดอีกเป็นกอง ตอนเขามาขอแม่ก็ตาโตรีบตกลง พี่สาวเราก็ไม่ปฏิเสธเหมือนกัน แล้วดูมาตอนนี้สิ แจ้นไปอยู่คุณชยินเขาเสียอย่างนั้น “แต่แม่ใช้เงินของเขาไปแล้วนะคะ” “ก็นั่นแหละ ก็เอามาโปะบ้านหลังนี้ให้มันจบ ๆ ยังไง” “แล้วยังไงคะ แม่บอกจะคืนเขาหมดนี่คะ” “ขาดไปสามแสน” “แม่ ! ไหนว่าคุณชยินเอาส่วนต่างมาใช้คืนแล้วไงคะ” “ก็แม่เอาไปใช้ทำอย่างอื่นหมดน่ะสิ” “แม่เอาไปทำอะไรหมดคะเนี่ย” จารวีแผดเสียงใส่มารดาอย่างคาดไม่ถึงในเรื่องนี้ “แม่เอ่อ” อาการลังเลของคนเป็นแม่ทำให้ลูกสาวเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมา หัวคิ้วเริ่มขมวดหากัน หรี่ตามองมารดาอย่างไม่ไว้วางใจ “แม่บอกวีมาเดี๋ยวนี้นะคะ ถ้าอยากให้วีเอาสินสอดไปคืนต้องบอกความวีมาให้หมดค่ะ” หญิงสาวต่อรองมารดาบ้าง “แม่เอาไปลงทุนแต่มันเจ๊ง ถูกเพื่อนหลอกมันหอบเงินหนีไปต่างประเทศแล้ว” “โอ๊ย แม่คะ” จารวีแทบจะทึ้งเส้นผมของตัวเองทิ้ง เหตุผลนี้เองที่ทำให้มารดาของเธอ ไม่ยอมนำสินสอดไปคืนอีกฝ่ายด้วยตัวเอง “ช่วยแม่หน่อยนะวี” “ทำไมไม่บอกพี่ดาวไปคุยกับพี่ชยินให้ช่วยก่อนละคะ จะได้เอาไปคืนเขาทุกบาททุกสตางค์” “แม่บอกแล้วแต่ยัยดาวบอกว่าคุณชยินไม่ให้ บอกว่าให้มาแล้วแค่นั้นพอ ยัยดาวมันโง่” ยิ่งคิดนางสมรก็ยิ่งขัดใจในเรื่องนี้ “อ้อ แบบนี้นี่เอง” “นะวีนะ ช่วยแม่หน่อยเอาไปคืนคุณป้าพรเขา แล้วขอเวลาให้แม่หาส่วนที่เหลือมาคืนทีหลังด้วย ป้าพรเขาใจดีไม่ว่าอะไรหรอก” ขณะบอกลูกสาวสีหน้าของนางสมรยังไม่มีความมั่นใจเลย คนเป็นลูกสาวถึงกับหลับตาแน่นเหมือนกำลังทำใจในเรื่องนี้อยู่ “วีไม่ได้รู้จักกับคุณป้าพรเหมือนพี่ดาวนะคะแม่” จารวีเคยได้ยินแค่ชื่อเสียงเรียงนามของคนบ้านโน้น ว่ามีรีสอร์ตบนเกาะส่วนตัวแห่งหนึ่งแค่นั้นเอง “ไม่ยากหรอกนี่เบอร์โทรของคุณป้าพร โทรไปบอกก่อนว่าวีจะเอาสินสอดของหมั้นไปคืน ยังไงทางนั้นเขาก็ต้องรับคืนอยู่แล้วล่ะ ไม่มีใครอยากเอาเงินเอาทองมาทิ้งเฉย ๆ หรอก” คนเป็นแม่ดูจะมั่นใจในข้อนี้ “เฮ้อ” จารวีรับนามบัตรมาจากมือของมารดา กวาดสายตาอ่านข้อความบนนามบัตรก็ต้องแปลกใจ “นี่ชื่อคุณทัพพ์นี่คะ” “ใช่นามบัตรของคุณทัพพ์ ส่วนเบอร์คุณป้าพรเดี๋ยวแม่ส่งให้ในมือถือนะ” ว่าแล้วนางสมรก็ส่งข้อความหมายเลขโทรศัพท์ของนางนวพรให้ลูกสาวคนเล็ก “จะโทรหาคุณป้าพรหรือลูกชายก็เลือกเอาเลยนะวี พรุ่งนี้แม่จะป่วยไปคืนสินสอดไม่ได้” นางสมรวางแผนให้ตัวเองเสร็จสรรพ “อ้าว นี่แม่ตกลงวันจะไปคืนแล้วเหรอคะ” “ใช่ แม่บอกคุณป้าพรไปแล้วว่าพรุ่งนี้จะเอาไปคืน แต่พรุ่งนี้แม่จะไม่สบายนะ” “แม่ ทำไมไม่สบายง่ายแบบนี้ละคะ” จารวีกลอกตาใส่มารดาอย่างเหนื่อยหน่ายในใจ แต่ด้วยความเป็นลูกเลยจำต้องช่วย “เอาน่า ทำให้มันจบ ๆ ไปนะวี แม่ก็เครียดเหมือนกันนะเรื่องนี้ คุณทัพพ์น่ะเหมือนนักเลงน้ำ ส่วนคุณชยินเหมือนนักเลงบก ทางไหนก็ร้ายพอกันทั้งนั้น ยัยดาวนะยัยดาวทำกันได้ลง” “ค่า” จารวีส่ายหน้าให้มารดาอีกรอบ ถ้าท่านไม่อยากได้เงินมาเคลียร์เรื่องบ้านให้หมดเร็ว ๆ ถ้าอดทนรอเธอหางานทำก่อน ทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้ คิดแล้วยิ่งเครียดหนักขึ้นกว่าเดิม ‘แค่เอาสินสอดไปคืนน่ายัยวีอย่าคิดมาก’ จารวีได้แต่คิดปลอบใจตนเอง เพราะตกปากรับคำมารดาไปแล้ว ไม่มีทางให้ถอยหลังกลับได้อีก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม