INCENTIVE 02
****************************
พี่เซอร์คัสพาฉันมาที่เพนท์เฮ้าส์ที่เขาพักอยู่ เขาบอกว่าที่ไม่อยากพาไปที่บ้านเพราะมันอยู่ห่างจากมหาลัยฉันมาก ก็เลยพาฉันมาพักที่นี่ที่ใกล้กับมหาลัยมากกว่า
ฉันไม่ได้มีปัญหาเรื่องที่อยู่หรอก แต่การที่พี่เซอร์คัสพาฉันมาอยู่ที่นี่เหมือนว่าเขาเองก็พักอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน
ถึงแม้ว่ามันจะถูกแยกห้องใครห้องมันก็ตาม แต่มันก็ดูเหมือนว่าเราสองคนอยู่ห้องด้วยกันไง
“ระหว่างนี้เราก็พักที่เพนท์เฮ้าส์ไปก่อนแล้วกัน เพราะถ้าพี่พาไปที่บ้านมันอยู่ไกลจากมหาลัยเราน่ะ”
“ค่ะ”
“ส่วนห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวของเรา”
“ขอบคุณค่ะ”
ฉันเอาของของตัวเองเข้ามาเก็บในห้องที่พี่เซอร์คัสเตรียมเอาไว้ให้แล้ว และให้แม่บ้านของที่นี่เข้ามาทำความสะอาดให้
เขาบอกว่าที่นี่ไม่เคยมีใครเข้ามานอกจากเขา และเขาก็ไม่ได้ให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับสถานที่พักผ่อนของเขาด้วย
หลังจากที่จัดของเสร็จแล้วฉันก็เดินออกมาจากห้องนอนของตัวเองแล้วเห็นว่าพี่เซอร์คัสกำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น
เขาละสายตาจากหน้าจอทีวีมามองหน้าฉันที่ยืนมองหน้าเขาอยู่ ทำให้เขาเรียกให้ฉันไปหา ตอนนี้ฉันคงต้องเชื่อฟังเขาสินะ เพราะว่าเขาคือคนที่ต้องดูแลฉันต่อจากพี่มาร์ค
“มานี่สิ”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“นี่กุญแจรถและคีย์การ์ดของที่นี่ และนี่ก็บัตรเครดิตวงเงินไม่อั้น”
พี่เซอร์คัสยื่นของที่เขาพูดมาให้ฉัน และบอกว่าระหว่างที่อยู่กับเขาฉันจะสุขสบายที่สุด เพราะเขารับปากกับพี่มาร์คเอาไว้แล้วว่าเขาจะดูแลฉันให้ดีที่สุดไม่ให้ใครมาทำอะไรฉันได้
ฉันรับของมาจากมือเขา ความรู้สึกของฉันตอนนี้มันอธิบายไม่ถูกเลยว่ามันรู้สึกยังไง ก่อนหน้านี้ฉันเพิ่งต่อว่าเขาไปเองนะว่าเขาไม่คิดที่จะช่วยอะไรพี่ชายฉันเลย
แต่ตอนนี้เขากลับให้ฉันอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ที่เขาไม่เคยให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายมาก่อน และให้รถฉันใช้อีกไหนจะบัตรเครดิตที่วงเงินไม่อั้นด้วย
ฉันเองก็อยากจะรู้จริงๆ นะว่าเขารวยขนาดนี้ไม่คิดที่จะช่วยเหลือพี่ชายฉันบ้างเหรอ ทำไมต้องปล่อยให้เพื่อนรักของตัวเองหนีไปอยู่เมืองนอกด้วย
“ทำไมต้องช่วยหนูแบบนี้ด้วยล่ะคะ ในเมื่อพี่มาร์คไม่อยู่แล้วพี่เซอร์คัสไม่ต้องใจดีกับหนูก็ได้นะ”
“ชอบให้พี่ใจร้ายว่างั้น?”
“เปล่าค่ะ ก็แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใจดีกับหนูแบบนี้ทั้งๆ ที่หนูก็ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ ของพี่เลย”
ฉันอดที่จะถามคนตรงหน้าไม่ได้ เพราะสิ่งที่เขาทำมันทำให้ฉันคิดว่าเขาใจดีกับฉันมากเลยนะ และฉันก็คิดว่าคงไม่มีเพื่อนพี่ชายที่ไหนจะใจดีกับน้องสาวเพื่อนได้มากขนาดนี้หรอก
อีกอย่างฉันก็เพิ่งต่อว่าเขาไปไง ถ้าเขาไม่พอใจฉัน ฉันเองก็เข้าใจนะ พอฉันถามแบบนั้นเขาก็หัวเราะในลำคอแล้วบอกว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดของฉันหรอก
เพราะว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่เด็กอย่างฉันไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย พี่มาร์คเองก็พูดแบบนี้เหมือนกันว่าฉันไม่รู้เรื่องอะไรก็อย่าพูดดีกว่า
ถ้ารู้ว่าฉันไม่รู้เรื่องก็ช่วยบอกให้ฉันรู้เรื่องหน่อยไม่ได้หรือไง ไม่ใช่อะไรๆ ก็พูดแค่ว่าไม่รู้เรื่องแบบนี้ และไม่ยอมให้ฉันเข้าไปยุ่งด้วย สุดท้ายฉันก็ต้องมาเดือดร้อนด้วยตลอดเลย
“พี่ไม่ได้ใจดีแบบนั้นหรอกนะ เพราะมันก็ต้องมีอะไรมาตอบแทนด้วยเหมือนกัน”
“อะไรนะคะ?”
“ได้ยินไม่ผิดหรอก ระหว่างที่อยู่กับพี่เราเองก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนกันนะมายา”
ฉันมองหน้าพี่เซอร์คัสที่มองหน้าฉันกลับมา และสายตาที่เขามองฉันตอนนี้มันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่ได้คิดที่จะรับเลี้ยงฉันให้อยู่เฉยๆ แต่เขามีหน้าที่ให้ฉันทำ
ฉันก็คิดเอาไว้แล้วไงว่าเขาคงไม่ได้ใจดีขนาดนั้นหรอก
“เอาเป็นว่าตอนนี้เราก็อยู่ตามสบายไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะบอกว่าหน้าที่ของเราคืออะไร”
“คิดจะทำอะไรเหรอคะพี่เซอร์คัส?”
“ยังไม่ได้จะทำอะไรเลยนะ”
“แล้วเมื่อกี้ที่พี่บอกว่ามีหน้าที่ให้หนูทำ หมายถึงอะไรเหรอคะ?”
“มันยังไม่ถึงเวลาที่พี่จะบอก เดี๋ยวอยู่ไปสักพักเราก็จะรู้เองนั่นแหละ”
พูดจบพี่เซอร์คัสก็เดินเข้าห้องของตัวเองไปเลย ฉันได้แต่มองตามแผ่นหลังของเขาไปจนลับสายตา
ก่อนจะถอนหายใจออกมาที่จะต้องอยู่กับเขาแบบนี้ไปอีกนาน เพราะฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่ายังไงพี่มาร์คก็คงไม่กลับมาง่ายๆ หรอก
เอาเหอะ อย่างน้อยตัวเองที่ยังมีที่อยู่ มีเงินใช้ ไม่ว่าหน้าที่อะไรที่พี่เซอร์คัสบอกมาฉันก็คงต้องทำให้เขานั่นแหละ เพราะตอนนี้เขาก็คือผู้ปกครองของฉันแล้วไง
หลายวันต่อมา
“อยู่ที่นี่มานานแล้วเป็นยังไงบ้าง เริ่มชินหรือยัง?”
พี่เซอร์คัสเดินเข้ามาในห้องก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา ฉันหันไปมองหน้าเขาที่อยู่ในชุดสูทสีดำเหมือนว่าเขาเพิ่งกลับจากที่ทำงานมา
ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะบอกว่าตัวเองเริ่มชินแล้วล่ะ เพราะตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่ที่นี่เขาเองก็ไม่ได้ดุอะไรฉันเลย
จะมีก็แค่เตือนว่าไม่ชอบให้ฉันพาเพื่อนมาที่ห้องของเขา เพราะฉันเคยพาเพื่อนมาครั้งหนึ่งมันทำให้เขาไม่พอใจ และยังดุฉันเรื่องที่มีเพื่อนผู้ชายโทรหาฉันตอนกลางดึกด้วย
เรื่องนี้เขาก็ไม่ชอบเหมือนกัน มันก็เหมือนพี่ชายดุน้องสาวนั่นแหละ อีกอย่างตอนนี้ฉันก็เริ่มชินกลับการที่อยู่ที่นี่แล้ว เพราะมันก็ผ่านมาหลายวันแล้วไง
“หรือว่ายังไม่ชินกับที่นี่อยู่?”
“ก็เริ่มชินแล้วค่ะ”
“ดีแล้ว พี่คิดว่าเราจะยังไม่ชินซะอีก”
“หนูทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้แล้วนะคะเพราะคิดว่าพี่เซอร์คัสน่าจะกลับเข้ามาช่วงนี้”
“อืม เดี๋ยวพี่อาบน้ำเสร็จแล้วมีเรื่องอยากจะพูดกับเราหน่อยนะมายา”
“ได้ค่ะ”
พี่เซอร์คัสเดินเข้าไปที่ห้องนอนส่วนตัวของเขาเพื่อที่จะอาบน้ำ รู้อะไรมั้ยว่าฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนะ ไม่เคยต้องมาดูแลใครแบบนี้ด้วย
แต่พี่มาร์คบอกฉันว่าพี่เซอร์คัสเขาใจดีกับฉันเพราะงั้นอะไรที่ตอบแทนเขาได้ก็ให้ฉันทำให้เขา จากที่ไม่เคยต้องทำอะไรให้ใครก็ต้องทำให้สินะ
เพราะที่นี่มันไม่ใช่บ้านของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเงิน ที่อยู่อาศัย หรือแม้กระทั่งรถที่ตัวเองใช้ขับทุกวันยังไม่ใช่ของฉันเลย
เพราะงั้นแล้วฉันคงดื้อกับเขาไม่ได้สินะ และงอแงกับเขาไม่ได้ด้วยเพราะเขาไม่ใช่พี่ชายของฉันไงที่อยากได้อะไรก็งอแงขอได้เลยอ่ะ
ไม่นานพี่เซอร์คัสก็เดินออกมาจากห้องของเขา ตอนนี้เขาใส่แค่กางเกงบ็อกเซอร์เท่านั้น และยังใส่แว่นอีกด้วย
รู้มั้ยว่าเวลาที่พี่เซอร์คัสใส่แว่นแบบนี้มันทำให้เขาดูเป็นผู้ชายละมุนและอบอุ่นมากเลยนะ
ส่วนเรื่องที่เขาใส่แค่กางเกงบ็อกเซอร์ตอนอยู่ที่ห้องน่ะตอนแรกฉันเองก็ตกใจเหมือนกัน
แต่ตอนนี้ก็เริ่มชินแล้วล่ะ เพราะจะไปโวยวายใส่เขาก็ไม่ได้ เพราะนี่มันห้องของเขาไม่ใช่ห้องของฉันไง เขาเดินไปนั่งที่โซฟาทำให้ฉันถือแก้วน้ำไปวางไว้ให้เขาด้วย
“มีเรื่องอะไรอยากจะคุยกับหนูเหรอคะ?”
“จำที่พี่เคยบอกได้มั้ยว่าพี่มีหน้าที่ให้เราทำระหว่างที่อยู่กับพี่และให้พี่ดูแลเราแบบนี้”
“ค่ะ จำได้ค่ะ”
“เราทำอะไรได้บ้างล่ะ นอกจากต้มน้ำให้พี่อาบและเอาน้ำมาให้ดื่มแบบนี้?”
“ก็...ได้ทุกอย่างค่ะถ้าพี่เซอร์คัสต้องการ”
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าที่เขาถามแบบนี้เขาหมายถึงอะไร แต่ไม่ว่าเขาอยากได้อะไรฉันก็ต้องทำให้เขาได้ทุกอย่างหรือเปล่าล่ะ
ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าฉันอาศัยเขาไม่ว่าเขาต้องการอะไรหรืออยากได้อะไร ถ้าฉันสามารถทำให้เขาได้ฉันก็ควรที่จะทำ ไม่งั้นฉันก็ไม่มีที่ให้อยู่ไง
พอฉันพูดออกไปว่าตัวเองสามารถทำได้ทุกอย่างเขาก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างพอใจ
“ทำได้ทุกอย่างเลยงั้นเหรอ ไม่ว่าพี่ต้องการอะไรก็ทำได้ว่างั้น?”
“ค่ะ ตอนนี้พี่เซอร์คัสเป็นคนดูแลหนูนี่คะ อะไรก็ทำได้ทั้งนั้นนั่นแหละ”
“น่าสนใจดีนะน้องสาวเพื่อนคนนี้”
“แล้วพี่เซอร์คัสอยากให้หนูทำอะไรให้เหรอคะ?”
“อยากเป็นเด็กให้พี่เลี้ยงหรือเปล่า?”
“หมายถึงเด็กเลี้ยงที่อยู่ใต้ปกครองของพี่ใช่มั้ยคะ?” ฉันถามกลับไปทันที
เรื่องแบบนี้ฉันเองก็ไม่ได้โง่จนไม่รู้เรื่องหรอกนะ พอฉันถามพี่เซอร์คัสก็พยักหน้าทันที และหน้าที่ของเด็กเลี้ยงน่ะมันก็ต้องยอมแลกร่างกายตัวเองเพื่อความสุขสบายด้วย
และการที่เขามาถามฉันแบบนี้มันทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าเขาต้องการที่จะให้ฉันเสียตัวให้เขาแน่ๆ
“ใช่ เราอยากเป็นหรือเปล่าล่ะมายา?”
“ที่พี่เซอร์คัสมาถามหนูแบบนี้ก็คงอยากจะให้หนูตอบตกลงใช่มั้ยคะ?”
“มันก็ขึ้นอยู่ที่เราไง พี่ไม่ได้บังคับ”
“แล้วถ้าหนูยอมเป็น หนูจะได้อะไรบ้างล่ะคะ?”
“ทุกอย่างที่เราอยากได้”
“แล้วถ้าหนูไม่ยอมเป็นเด็กเลี้ยงของพี่เซอร์คัสล่ะ พี่จะทำอะไรหนูหรือเปล่าคะ?”
“มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่าเรามีความคิดที่อยากจะตอบแทนผู้มีพระคุณหรือเปล่าก็เท่านั้น”
“แล้วพี่เซอร์คัสอยากให้หนูทำอะไรคะ?”
“ขึ้นเตียงกับพี่ หน้าที่ง่ายๆ ทำได้หรือเปล่ามายา”