INCENTIVE 01
*****************************
“อะไรนะคะ พี่มาร์คจะให้หนูไปอยู่กับเพื่อนของพี่อยากนั้นเหรอ?”
จู่ๆ พี่ชายตัวเองก็ดันเดินมาบอกว่าจะให้ฉันไปอยู่กับเพื่อนของเขา เพราะตอนนี้เราไม่มีเงินไปจ่ายเจ้าหนี้แล้ว
และเขาก็จะต้องหนีเจ้าหนี้ไปอยู่ที่ต่างประเทศก่อน ไม่อย่างนั้นพวกมันจะต้องฆ่าเขาแน่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน
คนที่สร้างหนี้มันคือเขาหรือเปล่าล่ะ ทำไมจะต้องให้ฉันเดือดร้อนกับเขาด้วย
“ใช่ เพื่อนพี่มันจะคอยคุ้มครองเรานะมายา”
“หนูไม่ไปค่ะ”
“ไม่ไปไม่ได้ พี่บอกเพื่อนเอาไว้แล้วว่าเราจะต้องไปอยู่กับมันก่อน ไม่อย่างนั้นเจ้าหนี้มันตามมาฆ่าเราแน่”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ พี่ไม่ได้จะทิ้งเรานะมายา แต่พี่แค่หนีไปหลบก่อนเท่านั้นเอง”
“ให้หนูไปด้วยไม่ได้เหรอคะ หนูไม่อยากอยู่กับเพื่อนพี่มาร์คอ่ะ”
“เราเรียนอยู่ไง จะตามพี่ไปได้ยังไง ตอนนี้พี่คุยกับเพื่อนเอาไว้แล้วเดี๋ยวมันก็คงจะมารับเราแล้วล่ะ”
อะไรกัน มาบอกฉันเมื่อกี้ว่าจะให้ฉันไปอยู่กับเพื่อนของเขา แล้วอีกไม่กี่นาทีก็จะให้เพื่อนของเขามารับฉันไปอย่างนั้นเหรอ
แล้วนี่ฉันทำอะไรได้บ้างล่ะนอกจากต้องทำตามที่พี่ชายตัวเองบอก เพราะถ้าไม่ไปตัวเองก็จะไม่มีที่อยู่ ดีไม่ดีเจ้าหนี้ของพี่มาร์คก็จะมาตามจับตัวฉันไปอีกไง
“ที่พี่ทำเพราะตัวเราด้วยนะมายา ถ้าเราอยู่กับเพื่อนพี่เราจะปลอดภัย”
“แต่หนูไม่ได้อยากไปหรือเปล่าล่ะคะ ทำไมจะต้องบังคับกันด้วย”
“พี่ไม่ได้บังคับ แต่มันเป็นเรื่องจำเป็นนะ เพื่อนพี่มันไว้ใจได้”
“มันไม่เกี่ยวหรือเปล่าคะว่าไว้ใจได้หรือไม่ได้ แต่หนูไม่ได้อยากไปอยู่กับเพื่อนของพี่มาร์คหรือเปล่าอ่ะ”
“แน่ใจเหรอว่าไม่อยากไปอยู่กับพี่?”
นี่ไม่ใช่เสียงพี่มาร์คหรอกนะ แต่เป็นเสียงของอีกคนที่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ทำให้ฉันหันไปมองทันทีและเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันก็คือพี่เซอร์คัสเพื่อนสนิทของพี่ชายฉันเอง
เขาเป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกไวน์ที่มีชื่อเสียง เรารู้จักกันมานานแล้วล่ะเพราะเขาก็มาที่บ้านฉันบ่อยๆ เหมือนกัน
พอเรามองสบตากันแบบนี้ภาพเหตุการณ์หนึ่งมันก็ผุดขึ้นมาในหัวฉันทันที
“พี่เซอร์คัส…”
“พะ...พี่เซอร์คัสเข้ามาในห้องหนูได้ยังไงคะ?”
“ประตูไม่ได้ล็อกพี่ก็เลยเดินเข้ามาไง”
“แต่ก็ควรจะเคาะประตูห้องคนอื่นก่อนหรือเปล่าล่ะคะ”
“ในเมื่อประตูไม่ได้ล็อกพี่จำเป็นต้องเคาะด้วยเหรอ?”
คนตรงหน้าตอบกลับมาอย่างหน้าตาเฉยเหมือนว่าเขาไม่ได้คิดอะไรเลย แต่นี่มันห้องนอนของฉันไม่ใช่ห้องของพี่มาร์คหรือเปล่า
เขาจะเข้านอกออกในทำเหมือนว่ามันเป็นบ้านของตัวเองไม่ได้หรอกนะ อีกอย่างฉันก็อยู่ในสภาพที่มันล่อแหลมมากด้วยที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนบางผืนเดียวที่พันรอบตัวเองไว้ เพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จไง
ร่างสูงมองสำรวจร่างกายของฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยกยิ้มมุมปากเหมือนเขาพอใจในเรือนร่างของฉันตอนนี้มาก
“น่าลัมผัสเหมือนกันนะเราอ่ะ”
“ออกไปจากห้องหนูเลยนะคะ ไม่งั้นหนูจะเรียกให้พี่มาร์คเข้ามานะ”
“มาร์คไม่อยู่ บ้านนี้มีแค่เราสองคนนะมายา”
“พี่เซอร์คัส...”
“กลัวอะไรพี่ล่ะ พี่ก็เพื่อนพี่ชายเราหรือเปล่า อีกอย่างเราก็เป็นน้องสาวเพื่อนพี่ด้วย คิดว่าพี่จะทำไม่ดีกับเราอย่างนั้นเหรอหืม?”
“แต่พี่ก็ไม่ควรเข้าห้องหนูแบบนี้นะคะ”
ฉันตอบกลับไปทันที ก่อนจะบอกว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้มันไม่ควรที่จะทำกับน้องสาวเพื่อนด้วยซ้ำ
พอฉันพูดแบบนั้นเขาก็พยักหน้าแล้วบอกว่าเขาก็แค่เป็นห่วงเห็นว่าฉันหายเข้าห้องมานานแล้วก็เลยเดินเข้ามาดูเท่านั้น
ถ้าเห็นว่าฉันสบายดีเขาก็จะลงไปแล้ว แต่ฉันคิดว่าไม่ใช่หรอกนะ เพราะสายตาของเขาที่มองฉันตอนนี้มันทำให้ฉันคิดดีไม่ได้เลยล่ะ
“เราเป็นน้องสาวเพื่อนพี่นะ พี่ไม่คิดจะทำอะไรเราหรอกก็แค่เป็นห่วงเลยขึ้นมาดูเท่านั้นเอง”
“หนูไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ออกไปจากห้องหนูได้แล้ว”
“โอเคค่ะ งั้นพี่ลงไปรอข้างล่างนะ”
จากวันนั้นมันก็ทำให้ฉันไว้กล้าที่จะไว้ใจพี่เซอร์คัสอีกเลย ตอนแรกก็ไม่รู้นะว่าตัวเองจะได้ไปอยู่กับเขาแบบนี้ เป็นเหมือนเด็กฝากเลี้ยงให้เขาเป็นผู้ปกครองอย่างนั้นแหละ
อีกอย่างพี่มาร์คยังบอกอีกว่าตอนนี้พี่เซอร์คัสกลายเป็นคนดูแลฉันแล้ว และฉันก็ต้องเชื่อฟังเขาห้ามดื้อกับเขาด้วย
หนี้ที่ฉันไม่ได้สร้างขึ้นแต่กลับต้องมาเดือดร้อนด้วยแบบนี้เหรอ มันใช่แล้วเหรอ
“มาแล้วเหรอเซอร์ตคัส กูบอกมายาแล้วล่ะว่าจะต้องไปอยู่กับมึง”
“อืม เมื่อกี้กูได้ยินที่มึงพูดกับน้องแล้วล่ะ”
“ยังไงกูฝากน้องสาวกูด้วยนะมึง กูคงต้องหนีไปก่อน”
“แล้วทำไมพี่เซอร์คัสไม่ช่วยพี่มาร์คล่ะคะ ไหนบอกว่าเป็นเพื่อนกันไง อีกอย่างพี่เซอร์คัสก็รวยมากด้วย ไม่น่ามาทิ้งเพื่อนแบบนี้นะ”
ฉันมองหน้าคนตรงหน้าแล้วถามขึ้นมาทันที สนิทกันมานานไม่ใช่เหรอ เพื่อนเดือดร้อนแบบนี้ไม่คิดจะช่วยบ้างเลยหรือไง
ตอนที่เขาเริ่มเปิดธุรกิจใหม่ๆ อ่ะเขาก็มายืมเงินพี่มาร์คไปลงทุนก่อนไม่ใช่เหรอ และเงินก็ไม่ใช่น้อยๆ ด้วย
พี่ชายฉันยังช่วยเขาเลย แล้วทำไมเรื่องแค่นี้เขาไม่คิดจะช่วยพี่ชายฉันบ้างล่ะ
พอฉันถามแบบนี้พี่เซอร์คัสก็เดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าฉันก่อนจะเอื้อมมือมาจับปอยผมฉันขึ้นทัดหูเพื่อที่จะได้มองหน้าฉันชัดมากขึ้นกว่าเดิม
แต่ฉันก็ถอยหลังให้ห่างจากเขาทันที เพราะไม่ได้อยากอยู่ใกล้เขาเท่าไหร่
“เงินสิบล้านนะไม่ใช่สิบบาทที่จะช่วยกันได้ง่ายๆ”
“แต่พี่มาร์คก็เคยให้พี่เซอร์คัสยืมเงินไม่ใช่เหรอคะ แค่นี้ช่วยเพื่อนไม่ได้เลยหรือไง”
“พอแล้วมายา เราไม่รู้เรื่องอะไรไม่ต้องพูดได้มั้ย?”
พี่มาร์คห้ามฉันเอาไว้ไม่ให้พูดอะไรที่มันไม่น่ารักออกไปแบบนี้ เพราะไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องไปอยู่กับพี่เซอร์คัสอยู่ดี
ฉันก็แค่อยากรู้เท่านั้นเองว่าแค่นี้ช่วยเพื่อนไม่ได้เลยหรือไงทั้งๆ ที่พี่มาร์คเองก็เคยช่วยเขาเอาไว้เหมือนกัน
ถ้าเกิดว่าไม่ได้เงินพี่ชายฉันคิดเหรอว่าเขาจะเปิดธุรกิจเป็นของตัวเองได้แบบนี้อ่ะ แล้วพอพี่มาร์คเดือดร้อนแบบนี้กลับไม่ช่วยอะไรเลย ใจร้ายเกินไปหรือเปล่า
“แล้วเรารู้ได้ยังไงว่าพี่ไม่ช่วยพี่ชายเราน่ะมายา?”
“ก็เห็นๆ อยู่ว่าไม่ได้ช่วย ถ้าช่วยพี่มาร์คก็คงไม่หนีไปเมืองนอกแล้วทิ้งหนูเอาไว้แบบนี้หรอกค่ะ”
“พี่บอกให้หยุดพูดไง เราไม่รู้เรื่องอะไรก็ไม่ต้องพูดได้มั้ย?”
“งั้นพี่มาร์คก็บอกหนูมาสิ หนูจะได้รู้ไง ไม่ใช่มาทิ้งหนูแบบนี้แล้วหนีไปเลย หนูเป็นน้องพี่นะ”
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องทิ้งฉันเอาไว้กับเพื่อนของเขาแบบนี้ด้วย เขาไว้ใจเพื่อนของเขามากขนาดนั้นเลยหรือไง
ฉันเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขาแต่กลับเลือกที่จะทิ้งกันแบบนี้ไปเลยน่ะเหรอ อย่างน้อยให้ฉันไปอยู่กับเขาด้วยฉันจะไม่ว่าอะไรเลยนะ
“มีเรื่องอะไรที่หนูยังไม่รู้แล้วจะต้องรู้คะ พี่มาร์คก็บอกหนูมาสิ”
“เราเป็นเด็กไม่ควรเข้ามายุ่ง”
“เด็กเหรอ พี่มาร์คสร้างหนี้เอาไว้แต่กลับให้หนูเดือดร้อนด้วยแล้วก็ไม่บอกอะไรหนูเลยอ่ะ”
“เอาเป็นว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะต้องรู้ พี่ไม่ทิ้งเราไปไหนหรอกพี่สัญญา พี่จะกลับมารับเราแน่มายา เชื่อใจพี่คนนี้หน่อยสิ”
“…”
“ส่วนเรื่องหนี้ที่พี่ก่อ พี่ขอโทษที้่ทำให้เราเดือดร้อนด้วย แต่พี่จำเป็นต้องทำแบบนี้เพื่อความปลอดภัยของเราเองนะมายา”
“…”
“พี่สัญญาว่าพี่จะกลับมาหาเราแน่นอน เชื่อใจพี่นะ”
“แต่ว่า...หนูไม่อยากให้พี่มาร์คไปนี่คะ”
พอรู้ว่าจะไม่ได้เจอพี่มาร์คอีกนานมันก็ทำให้ฉันร้องไห้ออกมา ฉันไม่ได้อยากดูเป็นเด็กงอแงหรอกนะ แต่ฉันไม่เคยอยู่ห่างจากพี่ชายตัวเองไปไหนเลย
ตั้งแต่ที่พ่อแม่ตายไปฉันก็มีแค่พี่ชายคนนี้คนเดียวเลยนะที่ดูแลฉันมาตลอด ถ้าเกิดว่าเขาไม่อยู่กับฉันแล้วฉันจะอยู่ยังไง เพื่อนพี่ชายก็ไม่เหมือนกับพี่ชายตัวเองหรอกนะ
อีกอย่างเขาจะดูแลฉันดีเหมือนที่พี่มาร์คดูแลฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าเกิดว่าฉันย้ายไปอยู่กับพี่เซอร์คัสฉันก็ไม่ต่างอะไรจากการเป็นเด็กฝากเลี้ยงเลยนะ
และเขาก็อยากจะทำอะไรกับฉันก็ได้ พี่มาร์คที่เห็นว่าฉันร้องไห้ก็ดึงตัวฉันเข้าไปกอดเอาไว้แน่นมาก
ก่อนจะบอกว่าเขาไม่ได้คิดที่จะทิ้งฉันไป เขาแค่ต้องไปหาคนมาช่วยเหลือเรื่องนี้เท่านั้น
อีกไม่นานเขาก็จะกลับมาแล้ว และถ้าฉันคิดถึงเขาเมื่อไหร่ก็ให้พี่เซอร์คัสติดต่อหาเขาก็ได้ เราก็จะได้คุยกันแล้ว
“พี่ไม่ได้หายไปไหนนะและยังไม่ได้ตายจากเราด้วยมายา พี่ต้องไปหาคนให้มาช่วยเรื่องนี้เท่านั้น อีกอย่างเซอร์คัสมันก็ช่วยพี่ดูแลเราไง ไม่ใช่ว่ามันไม่ช่วยอะไรเลยนะ”
“แต่หนูไม่อยากให้พี่มาร์คไปไงคะ...ฮึก”
“เด็กน้อยเอ้ย ถ้าคิดถึงพี่ก็ให้เซอร์คัสติดต่อพี่มาแล้วกันนะ ระหว่างที่อยู่กับเซอร์คัสเราต้องเป็นเด็กดีนะเข้าใจหรือเปล่า ห้ามดื้อ ห้ามงอแงเหมือนที่ทำกับพี่”
“พี่มาร์ค...ฮึก”
“กูฝากน้องสาวกูด้วยนะเว้ย ถ้าดื้อก็ทำโทษได้เลย”
“ไม่ต้องห่วงหรอก กูจะดูแลเด็กคนนี้อย่างดีเลย”