ตอนที่ 1
ครั้งหนึ่ง อีธาน คลินส์เบิร์ก มหาเศรษฐีหนุ่ม เคยฝากรอยรักไว้กับ ลีลาวดี พริตตี้สาวแสนสวยที่หนีความเจ็บช้ำจากเขา มาเป็นพนักงานเสิร์ฟในโรงแรมห้าดาว ที่นี่...เธอได้พบเขาอีกครั้ง เธออยากลืมเขา แต่เขากลับจุดประกายไฟในตัวเธอให้ลุกช่วงจนยากจะดับมันลงได้
ลีลาวดีรู้สึกว่าบรรยากาศภายในห้องอาหารสุดหรูภายใน คีลา รีสอร์ต ซึ่งเป็นโรงแรมห้าดาวที่ตั้งอยู่ริมชายหาดอันเงียบสงบด้านหนึ่งของเกาะฮาวายในค่ำวันนี้ดูวุ่นวายผิดปกติ
หญิงสาวชาวไทยเจ้าของความสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบเซ็นติเมตรแต่มีเรือนร่างโปร่งบาง ด้วยใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโต จมูกโด่งรั้นนิด ๆ และริมฝีปากอิ่มสีชมพูเป็นประกายภายใต้กรอบเรือนผมที่ถูกมัดเป็นหางม้าซึ่งถูกย้อมเป็นสีบลอนด์เงิน ลีลาวดีจึงนับว่าเป็นผู้หญิงที่ความงามของเธอมีเสน่ห์ดึงดูดผู้พบเห็นทั่วไป
รอยยิ้มแย้มใส ๆ ของเธอและแก้มสีเรื่อคือความงามตามธรรมชาติโดยที่เธอไม่ต้องพยายาม และครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นพริตตี้แสนสวยในงานมอเตอร์โชว์ระดับโลก
หากแต่นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมากว่าหนึ่งปีแล้ว เมื่อหญิงสาวแสนสวยที่เคยสวมชุดพริตตี้ยืนรับแสงแฟลตจากช่างภาพบนยนตรกรรมอันแข็งแกร่งและราคาสูงลิบหันหลังให้กับอาชีพที่ทำเงินให้เธออย่างงดงาม
นับจากเวลานั้นจวบจนวันนี้ก็ครบขวบปีพอดีที่เธอมายืนอยู่ที่นี่ ในฐานะพนักงานเสิร์ฟในห้องอาหารของรีสอร์ทหรูห้าดาวโดยไม่ปรารถนาจะรับรู้ความเป็นไปภายนอกแม้แต่การติดต่อกับเครือญาติหรือเพื่อนสนิท
“ลี...มาทางนี้หน่อยสิ”
เสียงเรียกที่ดังมาจากอีกฝั่งทำให้หญิงสาวต้องหันกลับไปที่บาร์เครื่องดื่มซึ่งที่นั่นชายชาวอเมริกันร่างสูงใหญ่อายุประมาณสี่สิบปีภายใต้ชุดสูทเนี๊ยบเรียบกริบยืนกวักมือไหว ๆ เรียกเธอให้เดินเข้าไปหา
“มีอะไรหรือคะ ผู้จัดการ?”
ลีลาวดีเอ่ยถามเรมี่ซึ่งเป็นผู้จัดการห้องอาหารด้วยความกระตือรือร้น แต่เขากลับทำสีหน้าเป็นกังวลก่อนพูดว่า
“ลี...วันนี้รีสอร์ทของเรามีบุคคลสำคัญมาเยือน เขาเป็นนักธุรกิจชื่อดังของอเมริกา ห้องอาหารของเราเลยอาจจะวุ่นวายนิดหนึ่งเพราะต้องเตรียมการต้อนรับเขา”
“ค่ะ...ดูวุ่นวายดีนะคะคืนนี้ แล้วไม่ทราบว่าแขกของเราจะลงมาที่ห้องอาหารตอนไหนคะ?”
“เขาไม่ลงมาทานอาหารมื้อค่ำที่นี่ แต่เราต้องให้การต้อนรับเขาอย่างดีในฐานะรีสอร์ทห้าดาวที่เหล่ามหาเศรษฐีไว้วางใจ”
ลีลาวดีเอียงคอพร้อมทั้งเลิกคิ้ว เธอเห็นสีหน้าของเรมี่เป็นกังวลอยู่มากกระทั่งเขากล่าวขึ้น
“แขกของเรารีเควสต์ให้ทางรีสอร์ทนำอาหารมื้อค่ำไปเสิร์ฟให้เขาที่ห้องน่ะ เขารีเควสต์มาเป็นพิเศษว่าขอให้เป็นอาหารไทย เอ้อ...ฉันเลยคิดว่าคนที่มีความคล่องตัวในการต้อนรับแขกและเหมาะสมกับงานนี้ที่สุดคือเธอนะ ลีลาวดี ฉันอยากให้เธอช่วยไปอำนวยความสะดวกอาหารมื้อค่ำให้แขกคนสำคัญของเราหน่อย เขาพักอยู่ที่ห้องสวีทบนเนินเขา หวังว่าเธอคงจะไม่มีอะไรขัดข้องสำหรับงานนี้นะ”
เรมีพูดดักเอาไว้ก่อนและดูเหมือนลีลาวดีจะปราศจากเงื่อนไขใด ๆ ในการปฏิเสธผู้จัดการห้องอาหารของเธอ หญิงสาวพยักหน้าอย่างเสียมิได้
“ก็ได้ค่ะ ผู้จัดการ...แล้วจะให้ฉันไปพบแขกคนสำคัญของโรงแรมตอนไหนคะ”
“เดี๋ยวนี้เลย ลี” เรมี่พูดอย่างกระตือรือร้น น้ำเสียงของเขาแสดงความยินดีออกมาเมื่อพนักงานสาวตอบรับคำสั่ง
“ฉันจะให้พนักงานผู้ชายนำอาหารไทยจานพิเศษไปที่ห้องพักของแขกพร้อมกับเธอ ขอบใจมากลี ถ้าเธอทำงานนี้สำเร็จรีสอร์ทของเราก็จะยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้น”
ลีลาวดีไม่กล่าวอะไร เธอได้แต่เก็บความรู้สึกบางอย่างไว้ลึก ๆ ข้างในซึ่งเรมี่ไม่มีวันรู้ พวกมหาเศรษฐีอย่างนั้นหรือ...เธอไม่ได้อยากเข้าใกล้คนพวกนี้แต่อย่างใดหากหน้าที่ไม่เป็นสิ่งบังคับให้ต้องไปเธอก็อยากจะทำหน้าที่เป็นพนักงานเสิร์ฟแค่ในห้องอาหารแห่งนี้
หลังจากรับปากผู้จัดการแล้วหญิงสาวก็เดินตามพนักงานเสิร์ฟที่นำสำรับไทยจัดใส่ในรถเข็นอย่างดีเพื่อนำไปเสิร์ฟให้แขกของรีสอร์ทซึ่งคงเป็นมหาเศรษฐีกระเป๋าหนักที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างมาก
ที่พักของแขกคนสำคัญอยู่ห่างจากห้องอาหารขึ้นไปยังเนินเขาที่ห้องพักนั้นอยู่ท่ามกลางบรรยากาศริมทะเลงดงามและเป็นส่วนตัวต่างไปจากห้องพักห้องอื่น ๆ
ลีลาวดีเดินตามพนักงานชายที่นำสำรับเข้าไปในห้องพักไสตล์โมเดิร์นผสมผสานระหว่างรูปแบบตะวันออกและตะวันตก ด้านในยังคงเงียบสงบเหมือนไม่มีใครอยู่เลยกระนั้น
“เชิญคุณลีครับ ผมคงต้องขอตัวก่อน”
พนักงานชายผู้นั้นเอ่ยปากแล้วถอยฉากออกไปโดยไม่ถามความเห็นจากหญิงสาวแม้แต่น้อย ลีลาวดีมองตามหลังคนที่มาด้วยอย่างขัดใจ ทำไมถึงไม่อยู่เป็นเพื่อนเธอก่อนสักห้านาทีก็ไม่รู้...หญิงสาวนึกในใจก่อนก้มลงมองสำรับอาหารแบบไทยซึ่งมีขนมหวานอย่างหนึ่งที่ทำให้เธอไม่อาจละสายตาไปได้
มันเป็นขนมลูกชุบสีสวยอยู่ในจานสีทองครอบฝาแก้ว ลีลาวดีอดไม่ได้ที่จะคิดถึงอดีตอันห่างไกล เธอกำลังคิดว่ามันเป็นขนมไทยที่ใครคนหนึ่งชอบกินมันนักหนา
“ลิซ...”
เสียงทุ้มห้าวที่ดังมาจากมุมหนึ่งของห้องพักที่มีหน้าต่างมองออกไปเห็นท้องทะเลในมุมกว้างแบบพาโนรามาทำให้ลีลาวดีหยุดชะงัก เธอคุ้นเคยกับเสียงเสียงนี้เป็นอย่างดี และไม่ว่าอีกสักกี่ปีเธอก็ไม่อาจลืมเลือนมันไปได้
“อีธาน! ”
หญิงสาวอุทานออกมาเบา ๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นก่อนที่ตาคมคู่สวยซึ่งเบิกกว้างจะเลื่อนไปหยุดที่ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่ง เขายังคงสง่างามแม้อยู่ในชุดลำลอง เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ไม่อาจปกปิดเรือนร่างที่แกร่งกำยำซึ่งเธอจดจำได้และยังฝันถึงอยู่ในทุกค่ำคืน