เรื่องราวของ ‘ไวท์’ ในวัยสิบแปดที่แสนรวดร้าว ฉันสูญเสียพ่อแม่ไปพร้อมกันอย่างฉับพลันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ นับแต่นั้นโลกที่เคยสดใสก็ไม่มีสีสันใดๆอีกต่อไป
ฉันกำลังตรอมใจกับความสูญเสียจนต้องใช้ยาบำบัดรักษาโรคซึมเศร้าที่ทั้งชีวิตไม่เคยคิดเลยว่าจะได้กับสัมผัสกับคำๆนี้
แต่นั่นมันคงยังไม่พอ! พระเจ้าคงกำลังลงโทษฉันอยู่แน่ๆ
ฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยศรัทธาในความรัก คิดว่าความรักไม่มีอยู่จริง จนกระทั่งได้พบกับเขาคนนั้น คนที่เป็นรักแรกในช่วงวัยเพ้อฝันของฉัน
เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันบอกได้เต็มปากเลยว่า “รักเขา”
ความรักของเราสองคนค่อยๆผลิบานงอกงามเรื่อยมา กระทั่งวันหนึ่งที่เขาเอ่ยปากพูดคำว่า “เลิก” โดยไร้เหตุผล แล้วหายหน้าไปจากชีวิตฉันแบบไม่ทิ้งร่องรอยให้มีโอกาสได้ออกตามหา...
(เลิกกันเถอะ!! อย่ามาเจอกันอีก!!)
คำบอกเลิกที่เปรียบเสมือนคำสั่งนั่น “เขาคนนั้น” พูดมันกับฉัน ก่อนจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่แยแสกับหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากส่วนลึกในใจของฉันแม้แต่น้อย
หลังสร้างบาดแผลที่ลบล้างไม่ออก เขาก็อันตธานหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
จนถึงวันนี้คำพูดเหล่านั้นยังคงสะท้อนกึกก้องอยู่ในหัว ลบยังไงก็ลบไม่ออก!
‘ฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอ?’
‘ฉันทำพลาดตรงไหน?’
คำถามเหล่านี้ฉันเฝ้าย้อนถามตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้เลย
“ไวท์ เราเลิกกันเถอะ”
“เลิกกัน...ฮือ...” พวกเราจะเลิกกันได้ยังไงในเมื่อเราสองคนเคยรักกันมากขนาดนั้น เขาบอกว่ารักฉัน...รักแค่ฉันคนเดียวไม่ใช่เหรอ
แล้วเขาทิ้งฉันไปทำไม?
“ฮึก...”
เขาเป็นคนเดียวที่ฉันคิดว่าจะไม่มีวันทอดทิ้งฉันอย่างเด็ดขาด แต่เปล่าเลย
ฉันคิดผิด!
ได้แต่ทอดมองแสงไฟวิบวับท่ามกลางความมืดสลัว มองดูผู้คนมากมายเดินผ่านไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จับจ้องมองตึกสูงตะหง่านหลายสิบชั้นเรียงรายอยู่รอบๆตัวด้วยดวงตาที่พร่ามัวมีแต่หยดน้ำตาหลั่งไหลลงมาไม่หยุด เหม่อมองดูผู้คนหลายร้อยชีวิตเดินขวักไขว่ผ่านไปมาไม่หยุดหย่อน…
ท่ามกลางผู้คนเยอะแยะมากมายขนาดนี้ แต่ทำไมฉันถึงไม่มีใครเลยล่ะ?
ทำไมข้างตัวของฉันถึงได้เงียบเหงาข้างในมันว่างเปล่าจนไร้เรี่ยวแรงที่จะหายใจแบบนี้กันนะ
ทำได้เพียงยืนนิ่งเหม่อมองท้องฟ้าด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น กล้ำกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น น้ำตาหลั่งไหลลงมาไม่ขาดสาย สะอึกสะอื้นจนแทบจะหมดแรงทรุดลงไปกองกับพื้น
...หมดหวัง
...เหมือนความฝันทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายลงต่อหน้าต่อตา ชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรให้หวังอีกต่อไปแล้ว
“ฮึก...” ปาดน้ำตาตัวเองกลั้นสะอื้นจนร่างกายสั่นคลอน แต่หยาดน้ำที่ไหลผ่านแก้มกลับไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ฉันเดินโซซัดโซเซมุ่งหน้าไปตามถนนเรื่อยๆ พาสองเท้าไร้เรี่ยวแรงกระเสือกกระสนเดินมาไกลจนแข้งขาล้าเต็มที ทว่าจุดหมายล่ะ
จุดหมายที่จะมุ่งหน้าไปอยู่ที่ไหน?
ต้องทำยังไงกับความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกของความเจ็บปวดนี้ ทำไมฉันถึงอ่อนแอได้ขนาดนี้กันนะ?
เพียงเพราะ ‘เขาคนนั้น’
เพราะผู้ชายคนนั้นคนเดียวจริงๆ
“ฮึก...กลับมาเถอะนะ กลับมาหาไวท์เถอะ...ไวท์ขอร้อง”