bc

ทวงรักร้าย ผู้ชายเลือดร้อน

book_age18+
487
ติดตาม
1.2K
อ่าน
จบสุข
คำสาป
หวาน
วิทยาลัย
สตรีนิยม
like
intro-logo
คำนิยม

เรื่องราวของ ‘ไวท์’ ในวัยสิบแปดที่แสนรวดร้าว ฉันสูญเสียพ่อแม่ไปพร้อมกันอย่างฉับพลันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ นับแต่นั้นโลกที่เคยสดใสก็ไม่มีสีสันใดๆอีกต่อไป

ฉันกำลังตรอมใจกับความสูญเสียจนต้องใช้ยาบำบัดรักษาโรคซึมเศร้าที่ทั้งชีวิตไม่เคยคิดเลยว่าจะได้กับสัมผัสกับคำๆนี้

แต่นั่นมันคงยังไม่พอ! พระเจ้าคงกำลังลงโทษฉันอยู่แน่ๆ

ฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยศรัทธาในความรัก คิดว่าความรักไม่มีอยู่จริง จนกระทั่งได้พบกับเขาคนนั้น คนที่เป็นรักแรกในช่วงวัยเพ้อฝันของฉัน

เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันบอกได้เต็มปากเลยว่า “รักเขา”

ความรักของเราสองคนค่อยๆผลิบานงอกงามเรื่อยมา กระทั่งวันหนึ่งที่เขาเอ่ยปากพูดคำว่า “เลิก” โดยไร้เหตุผล แล้วหายหน้าไปจากชีวิตฉันแบบไม่ทิ้งร่องรอยให้มีโอกาสได้ออกตามหา...

(เลิกกันเถอะ!! อย่ามาเจอกันอีก!!)

คำบอกเลิกที่เปรียบเสมือนคำสั่งนั่น “เขาคนนั้น” พูดมันกับฉัน ก่อนจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่แยแสกับหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากส่วนลึกในใจของฉันแม้แต่น้อย

หลังสร้างบาดแผลที่ลบล้างไม่ออก เขาก็อันตธานหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน

จนถึงวันนี้คำพูดเหล่านั้นยังคงสะท้อนกึกก้องอยู่ในหัว ลบยังไงก็ลบไม่ออก!

‘ฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอ?’

‘ฉันทำพลาดตรงไหน?’

คำถามเหล่านี้ฉันเฝ้าย้อนถามตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้เลย

“ไวท์ เราเลิกกันเถอะ”

“เลิกกัน...ฮือ...” พวกเราจะเลิกกันได้ยังไงในเมื่อเราสองคนเคยรักกันมากขนาดนั้น เขาบอกว่ารักฉัน...รักแค่ฉันคนเดียวไม่ใช่เหรอ

แล้วเขาทิ้งฉันไปทำไม?

“ฮึก...”

เขาเป็นคนเดียวที่ฉันคิดว่าจะไม่มีวันทอดทิ้งฉันอย่างเด็ดขาด แต่เปล่าเลย

ฉันคิดผิด!

ได้แต่ทอดมองแสงไฟวิบวับท่ามกลางความมืดสลัว มองดูผู้คนมากมายเดินผ่านไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จับจ้องมองตึกสูงตะหง่านหลายสิบชั้นเรียงรายอยู่รอบๆตัวด้วยดวงตาที่พร่ามัวมีแต่หยดน้ำตาหลั่งไหลลงมาไม่หยุด เหม่อมองดูผู้คนหลายร้อยชีวิตเดินขวักไขว่ผ่านไปมาไม่หยุดหย่อน…

ท่ามกลางผู้คนเยอะแยะมากมายขนาดนี้ แต่ทำไมฉันถึงไม่มีใครเลยล่ะ?

ทำไมข้างตัวของฉันถึงได้เงียบเหงาข้างในมันว่างเปล่าจนไร้เรี่ยวแรงที่จะหายใจแบบนี้กันนะ

ทำได้เพียงยืนนิ่งเหม่อมองท้องฟ้าด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น กล้ำกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น น้ำตาหลั่งไหลลงมาไม่ขาดสาย สะอึกสะอื้นจนแทบจะหมดแรงทรุดลงไปกองกับพื้น

...หมดหวัง

...เหมือนความฝันทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายลงต่อหน้าต่อตา ชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรให้หวังอีกต่อไปแล้ว

“ฮึก...” ปาดน้ำตาตัวเองกลั้นสะอื้นจนร่างกายสั่นคลอน แต่หยาดน้ำที่ไหลผ่านแก้มกลับไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ฉันเดินโซซัดโซเซมุ่งหน้าไปตามถนนเรื่อยๆ พาสองเท้าไร้เรี่ยวแรงกระเสือกกระสนเดินมาไกลจนแข้งขาล้าเต็มที ทว่าจุดหมายล่ะ

จุดหมายที่จะมุ่งหน้าไปอยู่ที่ไหน?

ต้องทำยังไงกับความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกของความเจ็บปวดนี้ ทำไมฉันถึงอ่อนแอได้ขนาดนี้กันนะ?

เพียงเพราะ ‘เขาคนนั้น’

เพราะผู้ชายคนนั้นคนเดียวจริงๆ

“ฮึก...กลับมาเถอะนะ กลับมาหาไวท์เถอะ...ไวท์ขอร้อง”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
01 Chapter เราเลิกกัน
Chapter 01 เรื่องราวของ ‘ไวท์’ ในวัยสิบแปดที่แสนรวดร้าว ฉันสูญเสียพ่อแม่ไปพร้อมกันอย่างฉับพลันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ นับแต่นั้นโลกที่เคยสดใสก็ไม่มีสีสันใดๆอีกต่อไป ฉันกำลังตรอมใจกับความสูญเสียจนต้องใช้ยาบำบัดรักษาโรคซึมเศร้าที่ทั้งชีวิตไม่เคยคิดเลยว่าจะได้กับสัมผัสกับคำๆนี้ แต่นั่นมันคงยังไม่พอ! พระเจ้าคงกำลังลงโทษฉันอยู่แน่ๆ ฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยศรัทธาในความรัก คิดว่าความรักไม่มีอยู่จริง จนกระทั่งได้พบกับเขาคนนั้น คนที่เป็นรักแรกในช่วงวัยเพ้อฝันของฉัน เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันบอกได้เต็มปากเลยว่า “รักเขา” ความรักของเราสองคนค่อยๆผลิบานงอกงามเรื่อยมา กระทั่งวันหนึ่งที่เขาเอ่ยปากพูดคำว่า “เลิก” โดยไร้เหตุผล แล้วหายหน้าไปจากชีวิตฉันแบบไม่ทิ้งร่องรอยให้มีโอกาสได้ออกตามหา... (เลิกกันเถอะ!! อย่ามาเจอกันอีก!!) คำบอกเลิกที่เปรียบเสมือนคำสั่งนั่น “เขาคนนั้น” พูดมันกับฉัน ก่อนจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่แยแสกับหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากส่วนลึกในใจของฉันแม้แต่น้อย หลังสร้างบาดแผลที่ลบล้างไม่ออก เขาก็อันตธานหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน จนถึงวันนี้คำพูดเหล่านั้นยังคงสะท้อนกึกก้องอยู่ในหัว ลบยังไงก็ลบไม่ออก! ‘ฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอ?’ ‘ฉันทำพลาดตรงไหน?’ คำถามเหล่านี้ฉันเฝ้าย้อนถามตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้เลย “ไวท์ เราเลิกกันเถอะ” “เลิกกัน...ฮือ...” พวกเราจะเลิกกันได้ยังไงในเมื่อเราสองคนเคยรักกันมากขนาดนั้น เขาบอกว่ารักฉัน...รักแค่ฉันคนเดียวไม่ใช่เหรอ แล้วเขาทิ้งฉันไปทำไม? “ฮึก...” เขาเป็นคนเดียวที่ฉันคิดว่าจะไม่มีวันทอดทิ้งฉันอย่างเด็ดขาด แต่เปล่าเลย ฉันคิดผิด! ได้แต่ทอดมองแสงไฟวิบวับท่ามกลางความมืดสลัว มองดูผู้คนมากมายเดินผ่านไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จับจ้องมองตึกสูงตะหง่านหลายสิบชั้นเรียงรายอยู่รอบๆตัวด้วยดวงตาที่พร่ามัวมีแต่หยดน้ำตาหลั่งไหลลงมาไม่หยุด เหม่อมองดูผู้คนหลายร้อยชีวิตเดินขวักไขว่ผ่านไปมาไม่หยุดหย่อน… ท่ามกลางผู้คนเยอะแยะมากมายขนาดนี้ แต่ทำไมฉันถึงไม่มีใครเลยล่ะ? ทำไมข้างตัวของฉันถึงได้เงียบเหงาข้างในมันว่างเปล่าจนไร้เรี่ยวแรงที่จะหายใจแบบนี้กันนะ ทำได้เพียงยืนนิ่งเหม่อมองท้องฟ้าด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น กล้ำกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น น้ำตาหลั่งไหลลงมาไม่ขาดสาย สะอึกสะอื้นจนแทบจะหมดแรงทรุดลงไปกองกับพื้น ...หมดหวัง ...เหมือนความฝันทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายลงต่อหน้าต่อตา ชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรให้หวังอีกต่อไปแล้ว “ฮึก...” ปาดน้ำตาตัวเองกลั้นสะอื้นจนร่างกายสั่นคลอน แต่หยาดน้ำที่ไหลผ่านแก้มกลับไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ฉันเดินโซซัดโซเซมุ่งหน้าไปตามถนนเรื่อยๆ พาสองเท้าไร้เรี่ยวแรงกระเสือกกระสนเดินมาไกลจนแข้งขาล้าเต็มที ทว่าจุดหมายล่ะ จุดหมายที่จะมุ่งหน้าไปอยู่ที่ไหน? ต้องทำยังไงกับความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกของความเจ็บปวดนี้ ทำไมฉันถึงอ่อนแอได้ขนาดนี้กันนะ? เพียงเพราะ ‘เขาคนนั้น’ เพราะผู้ชายคนนั้นคนเดียวจริงๆ “ฮึก...กลับมาเถอะนะ กลับมาหาไวท์เถอะ...ไวท์ขอร้อง” @ สะพานแขวน ตัดสินใจเดินมาหยุดตรงสะพานสูง มือกำรูปถ่ายเอาไว้แน่น แหงนหน้าเปื้อนน้ำตาขึ้นมองท้องฟ้า ฝนกำลังจะตกแล้ว ท้องฟ้ามืดครึ้ม อากาศแปรปรวน คงเหมือนกับฉันในตอนนี้ ก้มหน้าลงมองรูปถ่ายในมือจิกเล็บกำแน่น เฝ้าพึมพำเสียงสั่นอย่างคนไร้สติ “ฮึก ตรัส ตรัสไม่รักไวท์แล้วเหรอ” สายลมที่พัดผ่านบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ายังมีชีวิตอยู่...ฉันยังหายใจ แต่มันคงรู้สึกอย่างนี้ได้ไม่นานหรอก เพราะโลกใบนี้โหดร้ายเกินไปสำหรับฉัน ความรู้สึกดำดิ่งจากก้นบึ้งของจิตวิญญาณร่ำร้องให้ฉันรีบหายไปจากโลกใบนี้ ตายไปซะก็ดีจะได้ไม่เจ็บปวด “อึก...พ่อคะ แม่คะ ไวท์กำลังจะตามไปอยู่กับพ่อแม่แล้วนะ” มือที่กำรูปถ่ายค้างไว้ค่อยๆคลายออก รอยยิ้มของเขาคนนั้นที่ฉันเหลือบมองมันเป็นครั้งสุดท้ายค่อยๆปลิวหายไปกับสายลม หลับตาลง สูดหายใจเข้าลึกเต็มปอด โน้มตัวลงเอื้อมมือจับราวสะพานไว้มั่น ตัดสินใจยื่นขาออกไปข้างหน้า สูดหายใจเฮือกสุดท้าย “ทำอะไรน่ะ?” ยังไม่ทันที่อีกข้างจะก้าวตามไปก็มีเสียงแหบแห้งขัดจังหวะ เท้าที่ก้าวไปเบื้องหน้าหยุดชะงักค้าง ฉันหันไปหาต้นเสียง ตาสองข้างสะดุดเข้ากับชายหนุ่มหน้าหวาน ผมสีเทาอ่อนใส่เสื้อกล้ามสีน้ำเงินกางเกงสีเดียวกัน ถือลูกบาสยืนมองตาใส “เธอจะทำอะไร” “...” “ทำไมทำแบบนี้ล่ะ” ประโยคราบเรียบแต่ดังสะท้านอยู่ในห้วงความคิดของฉัน “ทำไมถึงอยากตาย?” เขาโยนลูกบาสขึ้นสูงแล้วปล่อยให้มันล่วงหล่นลงแม่น้ำไป “ลงไปแล้วกลับขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้หรอกนะ” “นายไม่เข้าใจฉันหรอก ฉันเหนื่อย! เหนื่อยมาก มากจน...” ตัดสินใจยื่นขาออกไปอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันแน่นกับประโยคต่อมาของเขา “อกหักน่ะ! มันไม่ตายหรอกนะ” “...” “ไม่มีใครตายเพราะอกหักครั้งเดียวหรอก ชีวิตคนเรามีค่ามากเกินกว่านั้น” มือเย็นเฉียบยื่นมาจับบ่าสั่นเทา แรงแตะเบาๆจากปลายนิ้วของเขาทำให้ร่างกายของฉันสั่นระริก รับรู้ถึงความอุ่นร้อนจากฝ่ามือของเขา “ฮึก...มะ...มันไม่ตาย...ฉันรู้ แต่มันทรมานนายเข้าใจไหม ฉันเจ็บไปหมดทั้งตัว แม้กระทั่งเวลาหายใจเข้าก็ยังเจ็บ ตาสองข้างของฉัน มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความมืดมิด” “ที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้นายเข้าใจไหม?” “อยู่กับฉันสิ!” “...” “อยู่ต่อไป...ฉันจะรักษาหัวใจที่ทรมานของเธอเอง” เขาพูดพร้อมกระตุกมือฉันบอกด้วยความแน่วแน่ “ฉะ...ฉัน ฉันไม่...” ฉันส่ายหน้าอย่างยอมแพ้ ฉันไม่สามารถก้าวข้ามความรู้สึกย่ำแย่พวกนี้ไปได้อีกแล้ว “อยู่กับฉัน ฉันจะสอนเธอเองว่าโลกใบนี้มันสวยงามและน่าอยู่ขนาดไหน” นัยน์ตาสดใสคู่นั้นจับจ้องมองตรงมาที่ฉันอย่างมุ่งมั่น “ฉัน...” ฉันอึกอักเล็กน้อย เสี้ยววินาทีที่ความลังเลแวบเข้ามาในหัว “อยู่กับฉัน!” “...” “ลงมาเถอะ”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.9K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
7.1K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
40.1K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
15.0K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.2K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook