เจสสิก้าผับ
ไบรอัน ฟอนทาน่า มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าของธุรกิจเดินเรือใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นชาวอเมริกัน เจ้าของนัยน์ตาคมจัดสีฟ้า ผมสีน้ำตาล ผู้ซึ่งถูกจัดอันดับจากนิตยสารชั้นนำระดับโลกว่าเป็นหนึ่งในสิบที่ผู้หญิงทั่วโลกอยากที่จะใกล้ชิดด้วยมากที่สุด
หากแต่ในเวลนี้กำลังนั่งหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับด้วยความเบื่อหน่ายเป็นที่สุด สายตาคมมองตรงไปที่ร่างบอบบางที่อยู่ในชุดสุดแสนเซ็กซี่ที่กำลังเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกยั่วยวนอยู่กลางเวที หากเป็นเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านี้เค้าคงจะมีอารมณ์ร่วมกับเจ้าหล่อนมากกว่านี้
แต่ทว่าในตอนนี้นั้นช่างต่างกันลิบลับ เขาหามีอารมณ์ร่วมไม่ และมันก็คงจะแตกต่างกับเพื่อนสนิทของเขาอีกคนที่นั่งมองเจ้าหล่อนโยกย้ายส่ายสะโพกอยู่ในเวลานั้นจนอ้าปากค้าง
“เป็นอะไรของแกวะไบรอัน ทำไมถึงนั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่อย่างนั้นล่ะ”
รามิล ชายหนุ่มลูกครึ่งไทยอิตาลี หนุ่มรูปงามเจ้าของธุรกิจค้าเพชรระหว่างประเทศที่กำลังมาแรงจนติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศ
และยังเป็นเพื่อนสนิทของไบรอันถามออกมาด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนรักแสดงท่าทางสุดแสนเบื่อหน่ายทั้งที่พวกเขามาหาความสำราญกันอยู่
“เบื่อว่ะ แกดูปากฉันนะ ฉันเบื่อ เบื่อโว้ย”
ไบรอันทำหน้าสุดแสนจะเซ็งสุดๆ การมาเที่ยวที่เมืองไทยในครั้งนี้ไม่ใช่การมาเที่ยวเป็นครั้งแรก แต่เขามาเที่ยวที่เมืองไทยนี้หลายครั้งแล้วต่างหาก
“แกก็ทนเอาหน่อยไม่ได้หรือยังไงล่ะ ไอ้ครั้นจะพาไปเที่ยวยิงนกตกปลาแกก็ไม่เอาบอกว่าเบื่อ พอจะพาไปล่องแก่ง แกก็บอกว่าเพิ่งไปเที่ยวมา พอจะพาไปทะเลแกก็บอกว่าเที่ยวมาบ่อยแล้ว แล้วแกจะเอายังไงกับฉันอีกห๊ะไอ้ไบรอัน เที่ยวที่นี่แหละดีที่สุดแล้ว มีของสวยๆ งามๆ ให้ได้ดู เผื่อมีของแถมได้เอาไปนอนกอดแนบกายด้วยยังไงล่ะ แล้วแกเองก็ชอบด้วยไม่ใช่เหรอ”
รามิลพูดเหน็บแนมอีกฝ่าย และสิ่งที่เขาพูดนั้นมันก็คือความจริง ในเมื่อทุกๆ สถานที่ที่เพื่อนซี้เสนอเพื่อที่จะพาเพื่อนรักเที่ยวในการมาเยือนเมืองไทยครั้งนี้ชายหนุ่มไม่คิดที่จะไปไหนด้วยอีกเลย เขาสนุกสนานไปกับสถานที่ต่างๆ เพียงแค่หนึ่งอาทิตย์แรกที่มาถึงเท่านั้น และหลังจากนั้นมาในหัวของไบรอันก็มีแต่คำว่าเบื่อมาโดยตลอด
“ฉันพาแกมาเที่ยวที่นี่น่ะเหมาะสมที่สุดแล้ว อีกอย่างที่นี่ก็มีผู้หญิงสวยๆ และปลอดภัยมากที่สุดอีกด้วย รับรองว่าเที่ยวที่นี่จะทำให้แกรู้สึกสดชื่นกระชุ่มกระชวยขึ้นมาได้อีกครั้งอย่างแน่นอนแกเชื่อฉันสิไบรอัน” รามิลยังคงพูดเสริมให้เพื่อนรักฟังอยู่อย่างต่อเนื่อง
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันจะเที่ยวที่นี่อีกวันเดียวเท่านั้น พรุ่งนี้แกช่วยพาฉันไปสนามซ้อมยิงปืนหน่อยดีกว่า ฉันอยากคลายเครียดว่ะ”
“โอ้...เพื่อนรักอยากซ้อมยิงปืน ได้เลยครับเพื่อนเลิฟ เดี๋ยวพรุ่งนี้รามิลจัดให้”
รามิลตอบรับคำอีกฝ่ายด้วยใบหน้าทะเล้นกวนบาทาเป็นที่สุด ก่อนที่เสียงของไบรอันจะดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“รามิล...ไหนนายบอกว่าที่นี่มีอะไรเด็ดๆ ให้ดูยังไงล่ะ ฉันนั่งดูอยู่ตั้งนานแล้วมันไม่เห็นมีอะไรเลยนอกจากเจ้าหล่อนคนนั้นที่มาเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกอยู่กลางเวทีสลับเปลี่ยนหน้ากันขึ้นมาเท่านั้นแหละ ถ้าเป็นแค่แบบนี้ละก็ฉันดูมามากต่อมากแล้วล่ะนะ”
ไบรอันอดที่จะพูดต่อว่าเพื่อนรักอย่างเสียมิได้ ไม่เห็นมีอะไรที่มันจะพิเศษไปมากกว่านี้เลย
“เอาน่า ทีเด็ดมันก็ต้องมาช้าหน่อยสิวะ แต่ที่แน่ๆ พอนายได้เห็นแล้วละก็รับรองว่าจะต้องถูกใจนายอย่างแน่นอนไบรอัน”
“แล้วนี่จะต้องรออีกนานหรือเปล่าล่ะเนี่ย” ไบรอันไม่วายถามอีก
“ก็คงอีกไม่นานเท่าไหร่ คงไม่เกินชั่วโมงหรอกว่ะ”
“โห...อีกเกือบชั่วโมงเชียวเหรอ เฮ้อ! ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปเดินเล่นข้างนอกหน่อยดีกว่า นั่งรออยู่แบบนี้ฉันเบื่อว่ะ”
พูดจบไบรอันก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินออกไปด้านนอกของผับสุดหรูในทันที โดยมีบอดี้การ์ดคอยตามอารักขาความปลอดภัยให้กับเขาอีกสองคนเดินตามเจ้านายไปไม่ยอมห่างกาย
เกวลินก้าวเดินเคียงคู่มากับนภดลก่อนที่ชายหนุ่มจะขอแยกตัวไปอีกทางเมื่อได้มาส่งหญิงสาวถึงยังสถานที่ทำงานแล้ว เธอเงยหน้ามองป้ายชื่อของผับที่มีขนาดใหญ่แถมยังมีแสงไฟหลากสีสันที่แข่งกันส่งแสงกะพริบระยิบระยับอย่างไม่ยอมแพ้กัน ตาก็มัวมองแสงไฟ เท้าเรียวก็ก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ และเพราะมัวแต่มองแสงไฟแท้ๆ เชียวทำให้หญิงสาวหลงลืมไปว่าวันนี้เป็นวันสิ้นเดือน พนักงานทุกคนจะต้องเข้าทางประตูหลังเท่านั้น ห้ามเข้าด้านหน้าอย่างเด็ดขาด ทำให้เกวลินเดินชนเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่เดินสวนออกมาจากผับเข้าอย่างจัง
โอ๊ย!! ร่างงามระหงของเกวลินล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นทันที สะโพกสวยกระแทกลงที่พื้นหินอ่อนของผับอย่างแรงจนเจ็บร้าวไปทั่วบริเวณก้นงามงอน
แต่ทว่าชายหนุ่มที่หญิงสาวเดินชนนั้นมิได้สะดุ้งสะเทือนหรือแม้แต่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย แต่ชายหนุ่มกลับยืนมองร่างของเกวลินนิ่งดั่งคนที่กำลังต้องมนต์สะกดก็ไม่ปาน
“ขอโทษค่ะ” เกวลินรีบกล่าวคำขอโทษอีกฝ่ายทันที พร้อมๆ กับยกมือไหว้ เพราะหญิงสาวรู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นการผิดระเบียบจริงๆ ที่วันนี้เธอมาใช้ประตูหน้าของผับเป็นทางเข้า ทั้งๆ ที่จริงแล้ววันนี้จะต้องใช้ประตูหลังเท่านั้น
และเพราะคำขอโทษของเธอไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมา ทำให้หญิงสาวจำต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย และนึกในใจว่าผู้ชายคนนี้ช่างมีรูปร่างที่สูงใหญ่เสียนี่กระไร ระดับความสูงของเธอนั้นอยู่เพียงแค่ระดับอกของอีกฝ่ายเท่านั้นเอง
และเพราะความที่อยากจะเห็นใบหน้าของคนที่เธอเดินชน ทำให้เกวลินค่อยๆ เงยหน้ามองอีกฝ่ายขึ้นอย่างช้าๆ และทันทีที่ดวงตากลมโตของเกวลินมองสบตากับดวงตาสีฟ้าของชายหนุ่มตรงหน้าเข้าเท่านั้น กระแสไฟฟ้านับหมื่นโวตท์ก็วิ่งเข้ามาช็อตที่หัวใจของหญิงสาวเข้าอย่างจัง
ดวงตากลมโตดุจตากวางของเกวลินเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากอวบอิ่มน่าจูบเผลออ้าปากค้างขึ้นมาอย่างลืมตัว นั่นเพราะชายหนุ่มที่หญิงสาวได้เห็นอยู่ตรงหน้านั้นหล่อเหลาปานเทพบุตร ใช่! เขาเป็นผู้ชายที่หล่อเหลามากๆ เลยก็ว่าได้
ดวงตาสีฟ้าของไบรอันและความหล่อเหลาของเขาดั่งมีมนต์สะกดทำให้สายตาของเกวลินหยุดนิ่งและมองค้างมาที่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ก่อนที่เสียงบีบแตรรถที่อยู่บริเวณลานจอดจะดังขึ้นทำให้สติของเกวลินนั้นถูกเรียกกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง
“อะ...เอ่อ...ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะที่เดินชนคุณไปเมื่อครู่นี้น่ะค่ะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ”
และครั้งนี้คำขอโทษที่ออกจากปากของเกวลินนั้นหาได้เป็นภาษาไทยไม่ แต่มันเป็นภาษาสากลที่ใช้ได้ดีไม่แพ้เจ้าของภาษาเลยทีเดียว และยังไม่ทันที่ไบรอันจะได้ตอบอะไรกลับไป เกวลินก็ชิงตัดหน้าเดินเข้าไปภายในผับเสียก่อน ทำให้ไบรอันได้แต่ยืนมองร่างบางระหงหายเข้าไปด้านในจนลับตา
“ไปซะแล้ว ยังไม่ทันจะได้ทำความรู้จักกันเลย”
“คุณไบรอันต้องการรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นหรือครับ”
หนึ่งในสองบอดี้การ์ดที่คอยตามอารักขาชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นทันทีหลังจากที่ได้ยินเจ้านายของตนปรารภเช่นนั้น
ออกมา คงเพราะเจ้าหล่อนเป็นผู้หญิงที่สวยมากอยู่มิใช่น้อย ไม่เช่นนั้นคนอย่างไบรอัน ฟอนทาน่ามีหรือจะสนใจ
“อือ ผู้หญิงคนนั้นสวยสะดุดตาฉันมากเลยทีเดียว อยากรู้จริงๆ ว่าเธอมาเที่ยวหรือว่าเป็นพนักงานของที่นี่กันแน่”
“ถ้าคุณไบรอันอยากรู้เดี๋ยวผมจะไปสืบมาให้เองครับ และถ้าหากว่าเธอเป็นพนักงานของที่นี่คุณไบรอันจะได้รู้ทุกเรื่องของเธออย่างแน่นอนครับ”
นิค หนึ่งในสองบอดี้การ์ดของไบรอันเสนอตัวอาสาจัดการเรื่องนี้ให้กับเจ้านายของตนเองในทันที
“ขอบใจ” พูดจบไบรอันก็เดินทอดน่องอยู่ด้านนอกของผับหรูอยู่ครู่ใหญ่
ก่อนที่จะหมุนตัวกลับเดินเข้าไปด้านในของผับในเวลาต่อมา เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าหญิงสาวที่เจอเมื่อครู่ใหญ่นั้นเป็นนักเที่ยวหรือว่าเป็นพนักงานของที่นี่กันแน่เช่นกัน
เกวลินเมื่อเดินเข้ามาด้านในของผับได้หญิงสาวก็เดินตรงดิ่งไปที่ห้องบัญชีของผับทันที ก่อนที่จะเคาะประตูเป็นการขออนุญาตแล้วเปิดเข้าไปภายในซึ่งมีผู้จัดการของผับนามว่าจัสมินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
“อ้าวมาแล้วเหรอเกว พี่นึกว่าเราจะมาประมาณสักสองทุ่มซะอีก” สาวประเภทสองแต่สวยยิ่งกว่าผู้หญิงแท้ๆ เอ่ยทักทายเพื่อนรุ่นน้องคนสนิทด้วยรอยยิ้มที่เห็นกี่ครั้งก็ให้อดชื่นชมในความสวยของเธอไม่ได้
“พอดีที่บ้านมีเรื่องยุ่งๆ นิดหน่อยน่ะค่ะพี่ เกวก็เลยออกมาก่อนเวลานิดหน่อย วันนี้คนเยอะน่าดูเลยนะคะ”
“ก็ธรรมดาแหละวันเงินเดือนออกแถมยังสุดสัปดาห์อีกต่างหาก อ้อ วันนี้ที่ผับมีการประมูลนางฟ้านะเกว เธออาจจะต้องกลับบ้านดึกหน่อย”
จัสมินพูดบอกสาวน้อยหน้าแฉล้มออกไปทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีรายการพิเศษ และนั่นก็หมายถึงเกวลินก็จะได้เงินพิเศษเพิ่มมากขึ้นเป็นค่าล่วงเวลาด้วยเช่นกัน
“อ้อค่ะ ไม่มีปัญหา เกวจะได้โทรบอกเพื่อนว่าไม่ต้องมารับ”
“แล้วที่บอกว่าที่บ้านมีเรื่องยุ่งมันเรื่องอะไรกันล่ะ”
ด้วยเพราะความที่คุ้นเคยกันมาตั้งแต่สมัยที่เป็นรุ่นพี่รหัสน้องรหัสกัน ทำให้จัสมินหรือในอีกชื่อหนึ่งคือ คมสัน จึงกล้าที่จะถามถึงเรื่องส่วนตัวของรุ่นน้องสาวคนนี้
“จะเรื่องอะไรเสียอีกละคะถ้าไม่ใช่เรื่องของน้าพุดกรองน่ะค่ะ พอดีแกถูกทำร้ายจากพวกเจ้าหนี้ที่มาตามทวงเงินแล้วไม่ได้น่ะค่ะ”
“ตายจริง กะเทยใจหาบแว๊บ นี่ถึงขนาดลงมือทำร้ายร่างกายกันเลยเชียวเหรอเนี่ย แล้วเกวจะเอายังไง จะแจ้งความจับเลยไหม”
จัสมินถามต่อด้วยเพราะความอยากรู้ ทำให้หลงลืมไปว่าตัวเองนั้นถามมากจนเกินไป
“อะ...เอ่อ...โทษที พี่ลืมตัวไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันไม่ใช่ความลับอะไรเลย พ่อกับแม่แล้วก็เกวอยากให้น้าพุดกรองไปแจ้งความค่ะ แต่น้าเค้าไม่ยอมไป บอกแต่ว่าถ้าไปแจ้งความก็เท่ากับเป็นการหาเรื่องตาย แกไม่ยอมท่าเดียว เกวเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันค่ะพี่”
“แล้วนี่น้าพุดกรองของเกวเค้าไปเป็นหนี้มาอีกเท่าไหร่กันล่ะเนี่ยทีนี้น่ะ” จัสมินไม่วายเอ่ยถามอีก
“เกวเองก็ไม่ได้ถามค่ะ แล้วอีกอย่างเกวก็ไม่อยากที่จะรับรู้เรื่องหนี้สินของน้าพุดกรองอีกแล้วด้วย สงสารก็แต่แม่น่ะค่ะ แม่ใจอ่อนมากเกินไป ถ้าเป็นเกวหน่อยไม่ได้ เกวไม่ยอมให้อยู่ที่บ้านด้วยหรอกค่ะพี่จัสมิน”
เกวลินพูดบอกออกไปตามที่ตัวเองคิด ก่อนที่เสียงของรุ่นพี่จะพูดประโยคหนึ่งออกมาให้หญิงสาวได้คิดเช่นกัน
“ก็เพราะว่าเกวเป็นลูกคนเดียวน่ะสิถึงพูดแบบนี้ได้ ลองเกวมีพี่หรือมีน้องพ่อแม่เดียวกันสิคำพูดนี้คงไม่หลุดออกมาจากปากของผู้หญิงที่ชื่อเกวลินได้อย่างแน่นอน อีกอย่างพี่ว่าเรื่องนี้เกวลองกลับไปถามกับแม่ดูสิ บางทีเกวอาจจะได้คำตอบก็ได้นะว่าเพราะอะไรแม่เกวถึงยอมที่จะใช้หนี้พวกนั้นแทนให้กับน้าพุดกรองน่ะ” จัสมินไม่วายแนะนำสาวรุ่นน้อง
“ค่ะ แล้วยังไงเกวจะลองกลับไปถามแม่ดู”หญิงสาวกล่าวพร้อมเหลือบสายตาไปยังสมุดบัญชีบนโต๊ะ
“ มาค่ะ เดี๋ยวเกวจัดการบัญชีให้กับพี่จัสมินก่อนเผื่อจะได้ออกไปดูการประมูลนางฟ้ากับเค้ามั้ง”
เกวลินพูดบอกด้วยใบหน้ายิ้มระรื้น แต่ภายในใจนั้นกลับครุ่นคิดถึงแต่คำพูดที่จัสมินพูดบอกกับหญิงสาวเอาไว้ไม่หาย ก่อนที่จะสลัดความคิดนั้นทิ้งไปแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำบัญชีของร้านให้เสร็จโดยไวเพื่อเวลาที่เหลือจะได้ออกไปชมการประมูลนางฟ้าที่ทางผับจัดขึ้นมาซึ่งไม่บ่อยนักที่จะทำการเปิดประมูล ถ้านางฟ้าคนนั้นไม่สวยหรือเป็นที่ต้องการมากจริงๆ
“มาแล้วเหรอไบรอัน ฉันนึกว่าแกจะหนีกลับที่พักไปแล้วซะอีก เป็นไงล่ะบรรยากาศด้านนอกสงสัยคงจะสดชื่นน่าดูล่ะสิ หน้าตาถึงได้ไม่บูดบึ้งเหมือนอย่างตอนเดินออกไปน่ะ” รามิลไม่วายพูดจาประชดประชันเพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้
“อือ!!! ข้างนอกบรรยากาศดีกว่าในนี้ตั้งมากเลยเชียวล่ะ”
ไบรอันพูดยิ้มๆ อย่างคนที่ไปเจอของถูกใจอะไรมา ทำให้รามิลยิ่งอยากรู้เรื่องของเพื่อนรักมากขึ้นไปอีก
“แกไปเจอของถูกใจมาใช่ไหมไบรอัน ไม่อย่างนั้นแกคงไม่ยิ้มหน้าระรื้นเข้ามาแบบนี้หรอก บอกมาเลยนะว่าแกไปเจออะไรมา แต่ฉันว่าหน้าอย่างแกนี่ไม่พ้นต้องเป็นผู้หญิงแน่ๆ ผู้หญิงใช่ไหมไบรอัน”
รามิลฟันธงทันที ชายหนุ่มรู้จักนิสัยของเพื่อนรักดีเสียยิ่งกว่าใคร
“ใช่ ฉันไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งมา เธอสวยมาก สวยมากจริงๆ”
ไบรอันพูดพร้อมกับยกแก้วบรั่นดีขึ้นจิบทีละน้อยๆ ก่อนที่บนเวทีจะประกาศว่าอีกภายในสิบนาทีการประมูลนางฟ้าจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
“เฮ้ยไบรอัน อีกสิบนาทีการประมูลจะเริ่มต้นขึ้นแล้วนะโว้ย สาวสวยที่ประมูลน่ะสวยเด็ดราวกับนางฟ้าเชียวนะแก ว่ายังไงแกสนใจหรือเปล่าเพื่อน”
รามิลพูดกระตุ้นความอยากของเพื่อนรักว่าตอนนี้ได้เริ่มทำงานแล้วหรือยัง
“ถ้าหากสวยถูกใจฉัน ต่อให้แพงแค่ไหนคนอยากไบรอันก็สู้ไม่ถอย แกก็รู้ไม่ใช่เหรอรามิล”
“แต่มันก็ไม่แน่นะ แกไม่มองไปรอบๆ ตัวแกหน่อยเหรอไบรอันว่ามีคนสนใจอยากเข้าร่วมประมูลนางฟ้าด้วยไม่ใช่น้อยเลยนะ แกดูสิ”
รามิลพูดจบไบรอันก็เหลียวมองไปรอบบริเวณผับ เค้ายอมรับว่าคืนนี้มีแขกเข้ามาเที่ยวที่นี่เต็มเกือบทุกโต๊ะ อาจเพราะเป็นวันสุดสัปดาห์และแถมเงินเดือนก็ออกด้วยคนจึงมากเป็นพิเศษ
และมันก็ยิ่งทำให้เขาอยากรู้ว่าแม่นางฟ้าที่จะทำการประมูลกันนั้นจะสวยมากขนาดไหนกันเชียว คนที่มาเที่ยวถึงได้อยากที่จะเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้กันจัง หวังว่าคงจะไม่ใช่ผู้หญิงที่เพิ่งเจอที่หน้าผับนั่นหรอกนะ เพราะถ้าหากเป็นเธอจริงๆ ยังไงคืนนี้เค้าก็จะต้องได้ตัวเธออย่างแน่นอน
“มาลองกันดูหน่อยเป็นไงว่าใครจะเป็นคนที่ชนะการประมูลนางฟ้าในคืนนี้ เอาเป็นว่าฉันจะร่วมประมูลด้วยก็แล้วกัน”
“โอ้โห ลองนายไบรอัน ฟอนทาน่าพูดออกมาแบบนี้แล้วประมูลไม่ชนะก็ให้มันรู้ไปสิ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ฉันจะขอหลีกทางให้กับแกก็แล้วกัน”
พูดจบรามิลก็ยกมือขึ้นจุดไฟแช๊กเพื่อเป็นสัญญาณเรียกบริกรให้เข้ามาหา ก่อนที่บริกรที่ประจำตามจุดวีไอพีในแต่ละจุดจะรีบเดินเข้าไปให้บริการในสิ่งที่ลูกค้าต้องการทันที ก่อนที่รามิลจะชี้ลงไปยังแค็ตตาล็อกรูปภาพที่ภายในบรรจุรูปของสาวสวยเอาไว้มากมายหลายสิบชีวิต ซึ่งหญิงสาวเหล่านั้นล้วนแล้วแต่สะอาดและไร้โรคภัย ที่สำคัญค่าตัวของพวกหล่อนนั้นแพงแสนแพง
“ทำไมอยู่ๆ แกถึงจะมาหลีกทางให้ฉันล่ะ” ไบรอันไม่วายสงสัย
“ก็เพราะว่าฉันเลือกน้องๆ จากในแค็ตตาล็อกนี่ดีกว่าที่จะต้องมาแข่งกับแกน่ะสิ อีกอย่างฉันขี้เกียจไปแย่งกับแก แข่งกี่ครั้งก็แพ้ทุกที สู้แบบนี้ดีกว่ายังไงก็ได้สาวสวยไปนอนกอดด้วยเห็นๆ จริงหรือเปล่าล่ะ”
พูดจบรามิลก็หันไปให้ความสนใจบนเวทีการประมูลแทนซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงไม่นานการประมูลนางฟ้าก็จะเริ่มต้นขึ้น
ต่างจากไบรอัน ชายหนุ่มเหลียวมองหันซ้ายหันขวาใช้สายตาคมเข้มมองฝ่าความมืดภายในผับเพื่อมองหาหญิงสาวที่ทำให้หัวใจของเค้าต้องกระตุก ทั้งๆ ที่นิค บอดี้การ์ดของเค้าก็รับอาสาไปหาข่าวเกี่ยวกับหญิงสาวคนนั้นมาให้แล้ว เพียงไม่นานนิคก็กลับมาพร้อมกับประวัติของหญิงสาวที่เจ้านายของเค้าต้องการ
“ผมได้ข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นแล้วครับคุณไบรอัน”
“เธอเป็นใคร” ไบรอันถามออกไปทันทีที่นิคบอกเค้าจบ
“เธอเป็นพนักงานของร้านครับ มีหน้าที่ทำบัญชีของที่นี่ แต่ถ้าลูกค้าเยอะมากและหากเป็นชาวต่างชาติเธอก็จะออกมาช่วยที่ผับเป็นบางครั้งบางคราวแต่ก็ไม่บ่อยนัก เธอชื่อเกวลินครับคุณไบรอัน”
นิครายงานในทุกเรื่องที่เค้าไปสืบหาข้อมูลของผู้หญิงที่เจ้านายของเค้าอยากจะรู้มาให้ได้อย่างรวดเร็ว และที่ทำได้เร็วขนาดนี้ก็เป็นเพราะอำนาจเงินตัวเดียวแท้ๆ
“คุณไบรอันรู้แบบนี้แล้วจะจัดการยังไงต่อไปครับ”
นิคถามต่อด้วยความอยากรู้ แต่ก็ถูกโจนาธานซึ่งเป็นบอดี้การ์ดอีกคนกระแอมไอขัดขึ้นมาเสียก่อน เพื่อเป็นการเตือนว่าเค้าได้ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของผู้เป็นนายมากเกินไปแล้ว
อะแอ้ม อะแอ้ม!!!! นิคเหลือบตามองหน้าโจนาธานเพียงนิดแล้วพูดขึ้นว่า
“ขออภัยครับคุณไบรอัน ผมขอโทษที่เสียมารยาท”
พูดจบนิคก็โค้งคำนับแล้วถอยกลับมายืนอยู่ด้านหลังของไบรอันเพื่อยืนคู่กับโจนาธานตามเดิม
ไบรอันไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย มีเพียงรอยยิ้มนิดๆ ที่เผยออกมาที่มุมปากบางเฉียบของชายหนุ่มเท่านั้น นั่นสิ! ในเมื่อเค้ารู้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นพนักงานของที่นี่แล้วเค้าจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ
และก่อนที่ความคิดของไบรอันจะล่องลอยไปมากกว่านี้ เสียงของรามิลจะพูดออกมาเสียงดังพร้อมกับเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องไปทั่วผับหรูเมื่อได้เวลาเปิดการประมูลนางฟ้าแล้วนั่นเอง